การกำจัดราคะ

ตอบเมื่อ: 08 ก.ค.2008, 2:52 pm

คือผมค่อนข้างมีอารมณ์ทางเพศบ่อย และฝันเปียกบ่อยๆ ครับ
จะเกิดเมื่อได้เห็นหญิงสาว สวยๆ ขาขาวๆ กระโปรงสั้นๆ แล้วชอบแอบเก็บไปฝัน ยกตัวอย่างเช่น เห็นรูปดาราชื่อ พอลล่า
ผมก็เก็บไปฝันตลอด แต่เมื่อไหร่ที่ผมปลดปล่อยแล้วผมก็ไม่คิดเรื่องแบบนี้อีกต่อไป

ผมจึงใช้สมาธิเข้าข่มจิตใจตัวเอง นั่งสมาธิทุกเช้าค่ำ แต่ก็ยังไม่แค้ลวจะคิดถึงเรื่องนี้ นำภาพอสุภ(ภาพสยอง เน่าเปื่อย )ติดกระเป๋าตังไว้เอามาดูก็ช่วยบรรเทาได้บ้าง ผมพยายามคิดว่า ซักวันพอลล่าที่เคยหลงชอบหลงในรูปร่างๆ ก็ต้องเหี่ยวยาน ไม่สวยงามเหมือนดั่งเคย แต่ผ่านไปซักพัก ก็หวนไปคิดถึงอีก จริงอยู่ที่ว่าฝันเปียกเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่บ่อยไปก็ไม่ดี สุขภาพแย่ เคยคิดในใจนะว่า ถ้าโลกนี้ไม่มีผุ้หญิงก็ดีซิ เราจะได้ไม่ต้องมีราคะ ตัณหา แต่มันเป็นไม่ได้ จะออกบวชไปอยู่ป่า ถ้าเกิดเจอผู้หญิงกำลังเล่นน้ำอยู่ หรือโดนพญามารมารมาทดสอบเรื่องกามราคะ เปลื้องผ้าต่อหน้า ก็คงจะติดกับแน่นอน เพราะอดใจไม่ไหว

จึงมาสอบถามผู้รู้ เพื่อหาทางแก้ไข และวิธีกำจัดราคะในใจ ให้ดับมอด
ไม่ให้มีเชื้อไฟอีกต่อไป ไม่ทราบพอจะมีทางแก้ไขมั้ยครับ

ตอบเมื่อ: 08 ก.ค.2008, 4:57 pm

ลองฝึกดูจิตของพระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชโช
เข้าไปฟังในเวปวิมุตติ ครับ น่าจะได้ผลไม่มากก็น้อย

ตอบเมื่อ: 08 ก.ค.2008, 7:59 pm

ผมเองก็แก้ด้วยวิธี บริกรรม กระดูก ๆๆๆๆๆ

ได้ผลดี

เศร้า

ตอบเมื่อ: 09 ก.ค.2008, 11:38 am

กามราคะ เครื่องร้อยรัดจิตใจ ถ้าจะฝึกแบบข่มไว้ เจ้ากิเลสมันมีอำนาจเหนือกว่า ก็คงไม่พ้นเจ้ากิเลสเอาไปกิน...

ถ้าแก้ไม่ได้ ก็อย่าให้ล่วงละเมิดศีล 5
เอาสติสัมปัชชัญญะ เป็นที่ตั้งไว้... กุศล - อกุศล ตัวใดเกิดก็ให้รู้
เลือกที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง อาการของกามราคะที่ฟู่ ๆ ก็น่าจะฟ่อลงได้

รู้ว่ามันเกิดขึ้นแล้ว เดี๋ยวมันก็ดับ แต่ตอนที่มันเกิดมันฟู่ขึ้นอย่างแรง ก็ใช้สติรู้ว่ามันแรงแค่ไหน? อาการที่ไปรู้มัน เจ้ากิเลสมันเริ่มหดตัวแล้ว...

**พระพุทธเจ้าตรัสในกามสุตตนิทเทสที่ 1 ว่า
รากฐานของกามย่อมเกิดจากความดำริ เมื่อได้กามตามปรารถนาย่อมอิ่มใจ แต่เมื่อกามเสื่อมไปย่อมกระสับกระส่ายเหมือนสัตว์ที่ถูกศรเสียบแทง ตราบใดยังตรึกนึกทางกาม ตราบนั้นคนเราจะอยากเสพกามไปจนตาย ไม่ว่าร่างกายจะพร้อมหรือไม่พร้อม...

ซึ้ง

ตอบเมื่อ: 09 ก.ค.2008, 1:05 pm

ขอบพระคุณทุกท่านที่ชี้แนะครับ จะนำไปปฏิบัติและใส่ใจไว้

ตอนนี้ผมกำลังต่อสู้กับเจ้ากิเลสตัวนี้อย่างมีสติ
กองไฟที่ลุกโชติช่วง ก็ใช่ว่าจะคงอยู่อย่างนั้นตลอดไป
ก็ต้องมีดับและมอดไป ผมเข้าใจแล้วว่า ทุกสรรพสิ่งมีเกิดมีดับ
จะให้กิเลสดับอย่างแท้จริงต้องดับที่ต้นเชื้อ ผมต้องค้นหาต้นตอแห่งเชื้อเพลิงนั้นเสียก่อน

ตอบเมื่อ: 09 ก.ค.2008, 2:10 pm

ขออนุญาตร่วมสนทนาครับ

คุณติดชอบในใจในรูปของผู้ใดลองทำอย่างนี้ดูสิครับเผื่อถูกจริตนิสัย คุณเคยบริกรรมภาวนาบทใดก็บริกรรมบทนั้นไปซักระยะครับ จนรู้สึกว่าจิตสงบระดับใดก็ได้ครับสงบซักนิดก็ได้ครับ หลังจากนั้นก็นำรูปของผู้นั้นมาพิจารณาถลกหนังออกเหลือแต่เนื้อแดง ๆ หลังจากนั้นก็ลอกเนื้อ เอ็น ออกจากกระดูก ให้แยกเนื้อหนังเอ็น ออกจากกระดูกแยกไว้คนละกอง แล้วกำหนดไฟเผาทั้งเนื้อหนังเอ็นทั้งกองกระดูกนั้นจนเป็นเถ้าถ่านจนกระทั่งหายไปไม่เหลืออะไร หรืออาจจะใช้วิธีใดก็ได้ครับที่ทำลายรูปของบุคคลนั้นให้ได้ครับ หรือคุณอาจคิดวิธีของตนเองก็ได้ครับ แล้วเจริญบ่อย ๆ ครับ ลองดูครับ

การปฏิบัติเช่นนี้ในเบื้องแรกจะเป็นอุบายสอนจิตให้ไปสู่"สมถะ"ครับ เป็นไปเพื่อความสงบใจก่อนในเบื้องแรกครับ

ตอบเมื่อ: 10 ก.ค.2008, 5:11 pm

กิเลส พิมพ์ว่า:

คือผมค่อนข้างมีอารมณ์ทางเพศบ่อย และฝันเปียกบ่อยๆ ครับ
จะเกิดเมื่อได้เห็นหญิงสาว สวยๆ ขาขาวๆ กระโปรงสั้นๆ แล้วชอบแอบเก็บไปฝัน ยกตัวอย่างเช่น เห็นรูปดาราชื่อ พอลล่า
ผมก็เก็บไปฝันตลอด แต่เมื่อไหร่ที่ผมปลดปล่อยแล้วผมก็ไม่คิดเรื่องแบบนี้อีกต่อไป

ผมจึงใช้สมาธิเข้าข่มจิตใจตัวเอง นั่งสมาธิทุกเช้าค่ำ แต่ก็ยังไม่แค้ลวจะคิดถึงเรื่องนี้ นำภาพอสุภ(ภาพสยอง เน่าเปื่อย )ติดกระเป๋าตังไว้เอามาดูก็ช่วยบรรเทาได้บ้าง ผมพยายามคิดว่า ซักวันพอลล่าที่เคยหลงชอบหลงในรูปร่างๆ ก็ต้องเหี่ยวยาน ไม่สวยงามเหมือนดั่งเคย แต่ผ่านไปซักพัก ก็หวนไปคิดถึงอีก จริงอยู่ที่ว่าฝันเปียกเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่บ่อยไปก็ไม่ดี สุขภาพแย่ เคยคิดในใจนะว่า ถ้าโลกนี้ไม่มีผุ้หญิงก็ดีซิ เราจะได้ไม่ต้องมีราคะ ตัณหา แต่มันเป็นไม่ได้ จะออกบวชไปอยู่ป่า ถ้าเกิดเจอผู้หญิงกำลังเล่นน้ำอยู่ หรือโดนพญามารมารมาทดสอบเรื่องกามราคะ เปลื้องผ้าต่อหน้า ก็คงจะติดกับแน่นอน เพราะอดใจไม่ไหว

จึงมาสอบถามผู้รู้ เพื่อหาทางแก้ไข และวิธีกำจัดราคะในใจ ให้ดับมอด
ไม่ให้มีเชื้อไฟอีกต่อไป ไม่ทราบพอจะมีทางแก้ไขมั้ยครับ

ยากอยู่ครับ ส่วนตัวกระผมเองเอาพระไตรลักษณ์มาประกบครับ แต่เราต้องรู้เท่าทันจิตสังขารก่อนครับ ที่ว่ายาก ก็ยากตรงนี้ล่ะครับ

ตอบเมื่อ: 10 ก.ค.2008, 8:55 pm

guest พิมพ์ว่า:

ขออนุญาตร่วมสนทนาครับ

คุณติดชอบในใจในรูปของผู้ใดลองทำอย่างนี้ดูสิครับเผื่อถูกจริตนิสัย คุณเคยบริกรรมภาวนาบทใดก็บริกรรมบทนั้นไปซักระยะครับ จนรู้สึกว่าจิตสงบระดับใดก็ได้ครับสงบซักนิดก็ได้ครับ หลังจากนั้นก็นำรูปของผู้นั้นมาพิจารณาถลกหนังออกเหลือแต่เนื้อแดง ๆ หลังจากนั้นก็ลอกเนื้อ เอ็น ออกจากกระดูก ให้แยกเนื้อหนังเอ็น ออกจากกระดูกแยกไว้คนละกอง แล้วกำหนดไฟเผาทั้งเนื้อหนังเอ็นทั้งกองกระดูกนั้นจนเป็นเถ้าถ่านจนกระทั่งหายไปไม่เหลืออะไร หรืออาจจะใช้วิธีใดก็ได้ครับที่ทำลายรูปของบุคคลนั้นให้ได้ครับ หรือคุณอาจคิดวิธีของตนเองก็ได้ครับ แล้วเจริญบ่อย ๆ ครับ ลองดูครับ

การปฏิบัติเช่นนี้ในเบื้องแรกจะเป็นอุบายสอนจิตให้ไปสู่"สมถะ"ครับ เป็นไปเพื่อความสงบใจก่อนในเบื้องแรกครับ

เห็นด้วยครับ

อันนี้เป็นแนวทาง จากสมถะสู่วิปัสสนา และวิปัสสนาญาณตามลำดับครับ

เศร้า