ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
Buddha
บัวบาน
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
23 มิ.ย.2008, 1:25 pm |
|
ศาสนา ทุก ศาสนา ล้วนมีส่วนร่วม หรือเป็นแม่แบบ แห่งการปกครองในระบอบต่างๆ มาช้านานแล้ว เมื่อเริ่มมีศาสนา การปกครองบ้านเมือง การปกครองประเทศ ประชาชน ก็ล้วนอาศัย หลักการทางศาสนา มาเป็นแบบอย่างในการบริหาร ในการปกครองประเทศ ซึ่งไม่ว่า การปกครองในรูปแบบใดใด หรือมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ก็ล้วนอาศัยหลักการทางศาสนา เป็นปัจจัยเป็นเครื่องมือ ในการสร้างรูปแบบการปกครองเหล่านั้นขึ้นมา เพราะศาสนาทุกศาสนา ล้วนมีจุดมุ่งหมายให้มีความเสมอภาค ไม่เบียดเบียนกันและกัน สร้างความสงบสุขให้แก่ทุกคน ในทุกด้าน ตั้งแต่ด้านจิตใจ และด้านร่างกาย อันจะเห็นได้จากการปกครองในรูปแบบต่างๆ ซึ่งก็ล้วนเป็นการปกครองเพื่อความสงบสุข มีความเป็นอยู่อย่างพอดี พอเพียง ในทุกด้าน ดังท่านทั้งหลายได้เรียน ได้รู้ ได้ทราบข่าวอยู่เป็นนิจอยู่แล้ว
ในบทความนี้ จะกล่าวถึงพุทธศาสนากับการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฯ อันเป็นการปกครองที่ประเทศไทยใช้อยู่ เพื่อเป็นบรรทัดฐาน เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ตามหลักการหรือแนวทางศาสนา ซึ่ง หลักการหรือแนวทางศาสนาที่จะกล่าวถึงก็เป็นศาสนาพุทธ เพียงแต่เป็นหลักการหรือหลักธรรมทางพุทธศาสนา ซึ่งเป็นองค์ความรู้ใหม่ อาจมีข้อแตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่เดิม ก็ขอให้ท่านทั้งหลายเมื่ออ่านแล้วก็ให้คิดพิจารณา เพื่อความเข้าใจ อย่างถ่องแท้
ในประเทศไทย มีการปกครองระบอบ ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุข
การปกครองระบอบประชาธิปไตย แบ่งอำนาจการปกครองประเทศ เป็น 3 อย่าง และเป็นการปกครองประเทศโดยประชาชน เพื่อประชาชน(ขอยืมคำกล่าวของประธานาธิบดี สหรัฐ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะชื่อ อับบราฮัม ลินคอร์น)
อำนาจทั้ง 3 อำนาจ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย คือ
1. อำนาจบริหาร ก็คือ การจัดการ หรือดำเนินการ ในการจัดสรรหรือแบ่งบันทรัพยากรที่มีอยู่ให้กับประชาชนโดยทัดเทียมและทั่วถึง ซึ่งในการบริหารประเทศนี้ประชาชนมีอำนาจในการบริหารประเทศหรือมีส่วนร่วมในการบริหาร ผ่านทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. นั่นแหละ
แต่ทีนี้ ส.ส.ในประเทศไทย ที่ได้รับเลือกมา ไม่มีธรรมะ ตามหลักธรรมศรีอาริย์ คือไม่รู้หลักธรรมอันเป็นองค์ความรู้ใหม่ คือ ไม่รู้จักการครองเรือนของตัวเอง ไม่รู้จักวิธีการให้ทาน ตามการครองเรือนของตัวเอง หรือไม่ค่อยเข้าใจในคำว่า การให้ท่าน ตามการครองเรือนของตัว ไม่มีธรรมะ ตามหลักธรรมศรีอาริย์ คือ ไม่รู้หลักธรรมอันเป็นองค์ความรู้ใหม่ ในข้อ สรรพอาชีพ ประพฤติ คือ ไม่รู้ว่า อาชีพของตัวเอง ควรประพฤติ ปฏิบัติ อย่างไร ไม่รู้หลักธรรมอันเป็นองค์ความรู้ใหม่ ในข้อ กตัญญู คือ รู้คุณ และ เจรจา คือการติดต่อสื่อสาร ไม่รู้หลักธรรมอันเป็นองค์ความรู้ใหม่ ในข้อ ระลึก ,ดำริ คือ ไม่รู้จักคิด และระลึกถึง ความรู้ตามจรรยาแห่งอาชีพ และการครองเรือนของตนเพื่อประพฤติปฏิบัติ ในอันที่จะเป็นปากเป็นเสียง หรือทำหน้าที่บริหารประเทศเพื่อประชาชน โดยประชาชน เมื่อเขาเหล่านั้นไม่รู้จักหลักธรรมอันเป็นองค์ความรู้ใหม่ สภาพสภาวะจิตใจของเขา จึงขาดหรือมีการประพฤติปฏิบัติ ตามหลักธรรมในข้อ พรหมวิหารสี่ ,อิทธิบาทสี่ , ฯ น้อยตามไปด้วย
ที่ข้าพเจ้ากล่าวว่า พวกเขาไม่มีธรรมะ ตามหลักธรรมศรีอาริย์อันเป็นองค์ความรู้ใหม่ พวกเขา ก็บริหารประเทศ โดยประชาชนเพื่อประชาชนไม่ค่อยเป็น แต่กลับไปบริหารประเทศ เพื่อคนกลุ่มน้อย ยกตัวอย่างเช่น ลดราคาน้ำมันให้กับ ผู้ประกอบการ บางประเภท อย่างนี้เป็นต้น ฯลฯ
อีกทั้งเวลาบริหารประเทศโดยประชาชน พวกเขาผู้เป็นผู้แทนของประชาชน ก็ไม่ได้ให้ความสนใจประชาชนเท่าที่ควร ฯลฯ ต่อจากนี้ไม่กล่าวถึงเพราะเดี๋ยวจะโดนข้อหา หมิ่นประมาท
และที่กล่าวไป หมายรวมถึง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายรัฐบาล ก็ตามแต่ ยิ่งฝ่ายค้านแล้ว บอกคำเดียวว่า ทำงานไม่เป็น เพราะมัวแต่คิดว่า ประชาชนจังหวัดนั้น ไม่เลือกพรรคของตัว ก็ไม่ค่อยสนใจ โดยไม่ได้คิดหรือนึกระลึกนึกถึงว่า เมื่อมีรัฐบาลแล้ว พรรคของตัวเป็นฝ่ายค้าน นั่นก็หมายความว่า เป็นฝ่ายค้านเพื่อประชาชนคนทั้งประเทศ แค่เรื่องเงินเดือน หรือค่าแรง ของประชาชนไม่เพียงพอ ฝ่ายค้านยังไม่มีปัญญา ไปสืบเสาะหาข้อมูล เพื่อเสนอหรืออภิปราย หรือยื่นญัตติ เพื่อให้รัฐบาลจัดการ แต่ประชาชนต้องทำเอง คือ ชุมนุมประท้วง (เผด็จการ คนหมู่มาก) อย่างนี้เป็นต้น
2. อำนาจนิติบัญญัติ คือ อำนาจในการตรากฎหมาย ตราพระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา พระราชกำหนด ฯ เพื่อความสงบสุข และความปลอดภัยของประชาชน ฯลฯ และต้องโดยประชาชน อันนี้ไม่อธิบายนะ เห็น ความไม่รู้ของนักการเมืองหลายกลุ่มหลายบุคคลกันอยู่แล้วนี่ หรือพวกเขาอาจจะรู้ แต่แกล้งไม่รู้เอาดื้อๆ ก็เป็นได้
3. อำนาจตุลาการ ก็คือ อำนาจในการพิพากษา พิจารณาอรรถคดี ทั้งปวง เพื่อความเสมอภาค เพื่อความสงบสามัคคี เพื่อความถูกต้องในการสังคมเป็นอยู่ร่วมกันของประชาชน และอื่นๆ(อันนี้จำไม่ค่อยได้ แต่ก็ทำนองนี้แหละ)
ซึ่ง ยุคนี้ อำนาจนี้มีค่า มีความสำคัญมากขึ้น กว่าในสมัยก่อนมาก เพราะ อะไร อะไร ก็ร้องต่อศาลได้ มีหลายศาล แม้รัฐบาลทำไม่ดี ก็มีสิทธิ์ ถูกฟ้องศาลด้วย
อำนาจทั้ง 3 อำนาจ ในระบอบประชาธิปไตย ที่ได้กล่าวไป หากทั้งตัว ส.ส. (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร) และประชาชนทั้งหลายได้รู้ ได้เข้าใจ และรู้หลักการแห่งประชาธิปไตย ตามสมควร ก็ย่อมทำให้ประเทศชาติ บริหาร หรือดำเนิน กิจกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น ปราศจากความขัดแย้ง ยกเว้น อาจเกิดมีการคอร์รัปชั่น หรืออื่นใด อันอาจทำความเสียหายให้กับรัฐ และประชาชน ก็อาจจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้น
แต่ถ้าไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายใดก็ตาม เพียง แค่ ระลึก นึกถึง และคิด เตือนตนอยู่เสมอ ในการครองเรือน และการให้ทาน อีกทั้ง ยังรู้จัก กตัญญู รู้คุณ รู้เจรจา ติดต่อสื่อสาร รู้จักสรรพอาชีพ และการประพฤติ ปฏิบัติ ตาม จรรยาแห่งอาชีพนั้นๆ ตามการครองเรือน การให้ทาน การกตัญญู การเจรจา และประพฤติปฏิบัติ ตามความคิด และการระลึกนึกถึง กตัญญูรู้คุณ ในวิชาความรู้ ประสบการณ์ที่สั่งสมในแต่ละบุคคลมา ย่อมเป็นปัจจัยอันจักก่อให้เกิดความเจริญต่อประเทศชาติ ศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ ตลอดนานเท่านาน |
|
|
|
|
|
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
24 มิ.ย.2008, 10:08 am |
|
แวะมาเจิมกระทู้ กลัวจะเหงา
|
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
|
|
RARM
บัวบาน
เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417
|
ตอบเมื่อ:
25 มิ.ย.2008, 6:32 am |
|
ตกลง จะมาบริหารประเทศ หรือจะมาสนทนาธรรม
ชักไม่แน่ใจครับ
|
|
|
|
|
|
dd
บัวเริ่มพ้นน้ำ
เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2008
ตอบ: 179
ที่อยู่ (จังหวัด): overseas
|
ตอบเมื่อ:
25 มิ.ย.2008, 2:12 pm |
|
สงสัยร้อนวิชา อิอิ
|
|
|
|
|
|
Buddha
บัวบาน
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
27 มิ.ย.2008, 8:49 pm |
|
ไม่ใช่ร้อนวิชาดอกนะคุณ กลับไปอ่านให้ดี เพราะที่เขียน เป็นหลักศาสนา ชื่อกระทู้ก็บอกอยู่แล้วว่า "ศาสนากับการปกครองระบอบต่างๆ"
พวกคุณก็เป็นคนไทย นับถือศาสนาพุทธ แล้วพวกคุณไม่รู้วิธีการที่จะใช้หลักการทางศาสนาเป็นเครื่องมือใหนการบริหาร ปกครอง หรือดำเนินกิจการใดใดหรืออย่างไร
หลักศาสนา เป็นสิ่งที่ทุกคน ทุกอาชีพ ไม่สามารถหลีกพ้นจากหลักศาสนาอยู่แล้ว
อนึ่งถ้าคุณหรือท่านทั้งหลายได้รู้จักการปกครองระบอบประชาธิปไตย คือรู้หน้าที่ของแต่ละบุคคลบ้าง ก็ย่อมเป็นการพัฒนาคน พัฒนาชาติ ในด้านต่างๆอีกด้วย
อ่านแล้วหัดใช้สมองคิดพิจารณาซะบ้าง นะ ไม่ใช่สักแต่ว่าอ่าน
ถ้าคนที่มีความคิดอย่างคุณ หรือมีวิธีการอย่างคุณ อ่านแต่ไม่คิด จะนับถือศาสนาอะไร ศาสนาเขาก็เสื่อมหมด เพราะไม่รู้ไม่เข้าใจ ย่อมไปบิดเบือนคำสอน จนศาสนาเสื่อมโทรมในที่สุดนั่นแหละคุณ dd |
|
|
|
|
|
natdanai
บัวบาน
เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
|
ตอบเมื่อ:
14 ก.ค.2008, 3:53 pm |
|
เห็นด้วยครับ |
|
_________________ ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง |
|
|
|
mes
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
15 ก.ค.2008, 10:00 pm |
|
อ่านแล้วหัดใช้สมองคิดพิจารณาซะบ้าง นะ ไม่ใช่สักแต่ว่าอ่าน
เวลาเขียนหัดใช้สมองเสียบ้างไม่ใช่สักแต่ว่าเขียน
เกรงใจคนอ่านบ้าง |
|
|
|
|
|
Buddha
บัวบาน
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
16 ก.ค.2008, 8:27 pm |
|
Buddha พิมพ์ว่า: |
ไม่ใช่ร้อนวิชาดอกนะคุณ กลับไปอ่านให้ดี เพราะที่เขียน เป็นหลักศาสนา ชื่อกระทู้ก็บอกอยู่แล้วว่า "ศาสนากับการปกครองระบอบต่างๆ"
พวกคุณก็เป็นคนไทย นับถือศาสนาพุทธ แล้วพวกคุณไม่รู้วิธีการที่จะใช้หลักการทางศาสนาเป็นเครื่องมือใหนการบริหาร ปกครอง หรือดำเนินกิจการใดใดหรืออย่างไร
หลักศาสนา เป็นสิ่งที่ทุกคน ทุกอาชีพ ไม่สามารถหลีกพ้นจากหลักศาสนาอยู่แล้ว
อนึ่งถ้าคุณหรือท่านทั้งหลายได้รู้จักการปกครองระบอบประชาธิปไตย คือรู้หน้าที่ของแต่ละบุคคลบ้าง ก็ย่อมเป็นการพัฒนาคน พัฒนาชาติ ในด้านต่างๆอีกด้วย
อ่านแล้วหัดใช้สมองคิดพิจารณาซะบ้าง นะ ไม่ใช่สักแต่ว่าอ่าน
ถ้าคนที่มีความคิดอย่างคุณ หรือมีวิธีการอย่างคุณ อ่านแต่ไม่คิด จะนับถือศาสนาอะไร ศาสนาเขาก็เสื่อมหมด เพราะไม่รู้ไม่เข้าใจ ย่อมไปบิดเบือนคำสอน จนศาสนาเสื่อมโทรมในที่สุดนั่นแหละคุณ dd |
"คำว่า อ่านแล้วหัดใช้สมองคิดพิจารณาซะบ้าง นะ ไม่ใช่สักแต่ว่าอ่าน"
ถ้าเป็นบุคคลผู้มีไอคิวสูง สภาพจิตใจสูง เขาจะชอบใจยินดีรับฟัง ยินดีแก้ไข เพราะ มันเป็นคำเตือนที่มีคำแวดล้อม อยู่ด้านล่าง
แต่ถ้าเป็นพวกสมองสติปัญญาต่ำ จิตใจต่ำ มันก็จะไม่ค่อยพอใจ แสดงให้เห็นความต่ำทรามของสภาพความคิด และจิตใจอย่างเห็นได้ชัด ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า |
|
|
|
|
|
mes
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
16 ก.ค.2008, 8:48 pm |
|
แต่ถ้าเป็นพวกสมองสติปัญญาต่ำ จิตใจต่ำ มันก็จะไม่ค่อยพอใจ แสดงให้เห็นความต่ำทรามของสภาพความคิด และจิตใจอย่างเห็นได้ชัด ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ที่คุณกล่าวม่ข้างต้นน่ะมันเป็นพฤติกรรมของตัวคุณ |
|
|
|
|
|
|