Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ใช้หนี้กรรมสุนัข แมว...หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 06 ก.พ.2006, 4:49 pm
หลักพระอภิธรรม ๗ พระคัมภีร์ บอกไว้ว่า
เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ เจตนาเป็นตัวกรรม ถ้าไม่เจตนาเป็นกิริยา
ยกตัวอย่างโยมมารักษาศีลกัน จะรู้อย่างไรว่าศีลขาด ตอบได้อย่างเดียวคือ เจตนา ถ้าไม่เจตนา ศีลไม่ขาดหรอก
ยกตัวอย่าง โยมเดินออกไป มีผ้าคลุมแมวอยู่ ก็ไม่ทราบนึกว่าผ้าเช็ดเท้า ก็ไปเหยียบผ้าเข้า ถูกลูกแมว พอเปิดผ้าออกมา ตาย เหยียบเสียเละแล้ว ศีลขาดไหม ไม่ขาด แต่ใจเศร้าหมอง พิโธ่เอ๋ย ไม่น่าจะมาขวางพระบาทเลย ตายแล้วศีลไม่ขาด แต่ด่างพร้อย ใจเศร้าหมอง เป็นกิริยา โดยกิริยาต้องใช้
หมายความว่าอย่างไร ยกตัวอย่างอาตมาไปร้านโยมขายแก้ว อาตมาก็ไปเลือกแก้ว โดยไม่เจตนา แก้วลื่นหลุดมือแตกเพล้ง! แตกแล้ว อาตมาต้องถามโยมแม่ค้าว่า
"แก้วใบละเท่าไรจ๊ะ"
"ใบละ ๒ บาทค่ะ"
"เอาไปเลย ๒ บาท"
"อ๋อไม่เป็นไร ท่านมีบุญคุณกับดิฉัน หลวงพ่อเจ้าคะ แค่ ๒ บาทเท่านั้น"
เรียกว่าอโหสิกรรม ไม่ต้องใช้ เข้าใจไหมนี่
แต่ถ้าโยมกับอาตมาไม่รู้จักกันเลย ไม่เคยสร้างความดีต่อกันเลย ก็ต้องใช้ตามระเบียบ ๒ บาท นี่เป็นกิริยาต้องใช้นะ บางทีพระอาจารย์อธิบายไม่ถูก โอ๊ยไม่ต้องใช้ ยกตัวอย่าง อาตมาสร้างความดีกระทุ้งพื้นหอประชุม ตอนนั้นยังไม่มีหลังคาไม่มีฝา อยู่ริมตรงข้างทาง จะเลิกกระทุ้ง มองดูแล้วไม่มีอะไรขวางก็เหวี่ยงขอนไม้ออกไป เพื่อกองรวมกันไว้ พอดีมีสุนัขบ้านวิ่งมาจากไหนไม่ทราบ ขอนไม้ชนจมูกอย่างแรง เลือดพุ่งฉูดเลย อย่างนี้เป็นกิริยา เพราะไม่ได้เจตนา สุนัขตัวนี้วิ่งมาโดยบังเอิญ เราไม่ได้เลี้ยงมันนะ
ถ้าเลี้ยงมันอาจจะอโหสิกรรมให้เราก็ได้ อาตมาเลยไปเอารางจืดอยู่ที่หลังกุฏิอาตมา มาโขลกกับน้ำซาวข้าว กรอกเข้าไปในปากสุนัข ปรากฏว่า สุนัขฟื้น ลุกวิ่งได้เลย อยู่ต่อมาได้เดือนเดียว อาตมาไปพูดที่ศาลาประชาคม ลพบุรี ตอนเพลไปฉันที่บ้านนายอำเภอฉันเสร็จแล้วก็ไปดูวัดสร้างใหม่ ที่เมืองใหม่ มีเต้นท์อยู่ คนฟังประมาณ ๑๐๐ คน อาตมาก็ไปนั่งที่กุฏิสมภาร มีสมภารนั่งอยู่ก่อนแล้ว พอดีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สมภารก็ลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์ในกุฏิ
พออาตมาไปถึง สมภารลุกไปเท่านั้นแหละ ลมเกย์มาเลย แปลเป็นภาษาไทยว่า ลมแดง ภาษาชาวบ้านเรียกว่าลมบ้าหมู หมุนจนเต็นท์พังหมด คนทั้ง ๑๐๐ คน ไม่เป็นอะไร แต่ลมพัดไม้แป ซึ่งแหลมพอดีเลย มาทิ่มที่จมูกอาตมาคนเดียว ถ้าสมภารนั่งอยู่ด้วยกัน ต้องตายก่อน เพราะอยู่ข้างหน้า พอโดนจมูกอาตมาเลือดพุ่งแล้ว ลมบ้าหมูหายไปเลย ไม่มีอีกเลย เห็นไหมนี่ กฎแห่งกรรม โดยกิริยาต้องใช้อย่างนี้
ถ้าหากว่าเราไม่สร้างความดีเลยนะ ยังไม่รับใช้ ไปใช้ชาติหน้าเลย ขอฝากไว้ด้วย ความดีจะมีอุปสรรคถ้าเราสร้างความดี ต้องมีคนด่า คนว่า ต้องทนต่อไป พระเอกในเรื่องหนังละครต้องลำบากอย่างนี้แหละ ถ้าใครชอบสบาย ไม่ใช่พระเอกนางเอก ใช้ไม่ได้เป็นตัวเบ็ดเตล็ด เป็นตัวหางเครื่อง อันนี้เข้าใจนะ อาตมาก็เลือดไหลไปเลย พวกโยมรีบลุกจะมาพยุง อาตมาบอก "ไม่ต้อง เรื่องเล็ก"
เลยเล่าให้สมภารฟัง คนที่นั่นนั่งฟังไปด้วย บรรยายธรรมะเรื่องกฎแห่งกรรมให้ฟัง ที่ศาลาประชาคม เขาให้พูดเรื่องความสามัคคี เลือดยังอยู่เต็มที่จมูกอาตมา หมอเข้ามาจะเช็ดให้ อาตมาบอกไม่ต้อง เดี๋ยวจะเอาไว้เป็นพยาน แว่นกระเด็นไป แต่ไม่มีกฎแห่งกรรมเรื่องแว่น แว่นเลยไม่แตก เพราะเราเหวี่ยงขอนไม้ไป สุนัขไม่มีแว่น ถ้าสุนัขมีแว่น แว่นเราก็ต้องแตก เห็นชัดไหมนี่ อาตมาไปพูด นายกเทศมนตรีถามว่า หลวงพ่อที่จมูกมีเลือดเป็นอะไรน่ะ อาตมาบอก เฉยๆ เดี๋ยวรู้ เลยพูด ๑ ชั่วโมง จบรายการ ว่าเป็นกฎแห่งกรรมของเราอยู่มาไม่ช้าเป็นกิริยาอีก เมื่อปีนี้เอง ปี ๒๕๓๒
อาตมาพูดจากหอประชุมเสร็จแล้วก็ไปที่กุฏิชั้นบน ตี ๒ แล้ว ไม่มีใครเดินแล้ว อาตมาเทน้ำร้อนจากกระติกใส่ขัน สาดลงทางหน้าต่าง แมววิ่งมาพอดีเลย โดนแมวร้องแป๊ว ตายหรือเปล่าก็ไม่ทราบอยู่ต่อมาไม่พอเดือนนะ กระติกที่มีเกลียว มันระเบิด น้ำลวกตรงหน้าขาอาตมาเลย กำลังห่มผ้าอย่างนี้ ไม่รู้จักร้อน พอเลิกผ้าออกมาหน่อยเท่านั้น หนังลอกออกลึกพอสมควร แต่หายแล้ว ไม่ต้องดูนะอยู่ในผ้า ถ้าไม่เชื่อจะเปิดให้ดูลึกเลย จริงๆ นะนี่แหละ เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ เจตนาเป็นตัวกรรม ไม่ได้เจตนาเป็นตัวกิริยาแต่สร้างความดี ต้องใช้ไปเลย ชาติหน้าไม่ต้องไปใช้หนี้
ถ้าคนสร้างความดีมาก ต้องรีบใช้ในชาตินี้ ถ้าคนสร้างความดีแต่ยังไม่ละความชั่ว ยังใช้หนี้ชาตินี้ไม่ได้ รวมทั้งดอกทั้งต้นไปใช้ในนรกโน่น ใช้ชาตินี้ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องมีกรรม จะไม่ดีกว่าหรือ ขอฝากไว้ด้วย
คัดลอกจาก:
หนังสือกฎแห่งกรรม เล่ม ๔
http://www.jarun.org/v5/th/lrule04r1101.html
สายลม
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
ตอบเมื่อ: 08 ก.พ.2006, 1:29 pm
สาธุๆๆ คุณลูกโป่ง
บ.ต้นไทร
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 02 มิ.ย.2007, 8:53 pm
เรื่องกฎแห่งกรรมนี้เป็นของช่างลึกชื้งจริงๆ นะครับ ใครทำกรรมใดไว้ ก็จะต้องเสวยกรรมนั้นไป เมื่อได้อ่านข้อความเรื่องกฎแห่งกรรมแล้ว ถ้าผมได้วิบากทุกข์อะไรๆ ผมก็จะคิดเสียว่า มันเป็นผลของบาปกรรมที่ผมเคยกระทำไว้ จะได้ไม่เป็นทุกข์
katib
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2007
ตอบ: 52
ที่อยู่ (จังหวัด): Bangkok
ตอบเมื่อ: 23 ก.ค.2007, 11:00 pm
สาธุๆ เจ้าค่ะ
suvitjak
บัวบาน
เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
ตอบเมื่อ: 30 พ.ค.2008, 9:08 am
อนุโมธนาครับ
_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th