ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
สิรเมธินท์
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 17 พ.ค. 2008
ตอบ: 6
ที่อยู่ (จังหวัด): สุราษฎร์ธานี
|
ตอบเมื่อ:
22 พ.ค.2008, 10:59 pm |
|
นั่งแล้วภาวนาจนคำภาวนาหายไป รู้แต่ว่า ว่างเปล่า และสบาย แขนขาไม่ขยับ ไม่ชา ไม่อยากออกจากสมาธิ จนกระทั่งออกแล้ว กลับนั่งต่ออีก และหลังจากออกจากสมาธิ แล้วรู้สึกว่าร่างกายสงบ ระงับมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก และเป็นอย่างนี้อยู่ถึง 2 วัน แม้นตอนกลางวันจะไม่ได้นั่งสมาธิ
อยากถามผูรู้ว่าผมฝึกถึงขั้นไหนแล้วขั้นต่อไปจะต้องฝึกอย่างไร |
|
|
|
|
|
กรัชกาย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
24 พ.ค.2008, 9:52 am |
|
ความสุขกับสมาธิมาด้วยกันเป็นเหตุปัจจัยกันเกื้อหนุนกัน
คุณคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
นั่นแหละครับความสุขที่เกิดจากจิตใจที่สงบจากกิเลสนิวรณ์ เป็นสุขโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องดูหนัง
ดูละครหรือฟังเสียงเพลงโปรดแต่อย่างใด สุขเพราะจิตสงบเป็นความรู้สึกสุขที่ซึ้งกว่านั้น
คุณสัมผัสด้วยตนเอง โดยไม่ต้องมีใครบอกแล้ว
ที่คุณสิรเมธินท์ ประสบดังกล่าวนั่นเป็นธรรมดาของผู้เจริญภาวนา
คุณปฏิบัติอย่างนั้นต่อไป เมื่อคำภาวนาหายไป ก็รู้ว่าหายธรรมดาของมันอย่างนั้น
แต่ขณะนั้นจิตจะเคว้งไม่มีที่เกาะ ก็ให้ยึดรูปส่วนที่ปรากฏชัดภาวนาไปได้
ตามดูรู้ทันอาการนั้นความรู้สึกนั้นได้ เอาสิ่งนั้นๆเป็นที่ทำงานของจิตได้
ผมฝึกถึงขั้นไหนแล้ว
จะไม่บอกขั้นด้วยวิธีอื่น แต่จะบอกให้สังเกตตนเองดูว่า วันนี้กับวันเก่าก่อน เช่น ขณะที่ตา
หู จมูก ลิ้น กาย กระทบกับอารมณ์ (สิ่งเร้า) แล้ว จิตใจรู้สึกอย่างไร ยังหวั่นไหว
ต่ออิฏฐารมณ์และอนิฏฐารมณ์หรือไม่ คือยังยินดี ยินร้ายต่อสิ่งเร้าหรือไม่
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน คือการประกอบสัมมาชีพ จิตใจเป็นสุขอยู่กับงานที่ทำกว่าเดิม
หรือไม่หรือยัง
ความฟุ้งซ่านลดลงหรือไม่ เอาการดำเนินชีวิตประจำวันนี่แหละทดสอบอารมณ์
ทดสอบขั้นตนเอง วัดกันที่นี่ครับ
และให้สังเกตขณะกำลังปฏิบัติแต่ละขณะๆด้วยว่า สภาวะสุขเกิดเรายินดีหรือไม่ มันหายไป
ดับไป รู้สึกเสียดายหรือไม่
สภาวะทุกข์ที่ไม่น่าปรารถนาเกิดขึ้น รู้สึกขัดเคืองหรือไม่ มันดับไปดีใจหรือไม่
ความทุกข์ลดลงหรือไม่ นี่ก็เป็นตัววัดขั้นได้เช่นกันครับ |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
|
|
กรัชกาย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
24 พ.ค.2008, 10:24 am |
|
เมื่อคุณสิรเมธินท์ได้ที่วัดจากประสบการณ์ตรงอย่างนั้นแล้ว ต่อไปก็ปฏิบัติอย่างไม่ต้อง
หวั่นไหวเกี่ยวกับขั้น เกี่ยวกับชื่อข้อธรรมบรรยายซึ่งท่านแยกกล่าวว่าสมถะว่าวิปัสสนา
อย่างที่ใครต่อใครเขาแยกๆกัน
ปฏิบัติเพื่อดับทุกข์พ้นทุกข์ครับ มิใช่ปฏิบัติเอาชื่อ
เราปฏิบัติแล้วก็ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แหละครับ ไม่ได้ปฏิบัติเพื่อคิดหนีโลกไปไหนต่อไหน
อย่างที่เห็นๆกันอยู่ครับ
ขอให้เจริญในธรรมปฏิบัติขององค์พระศาสดาต่อไปเถิดครับ
|
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
|
|
สิรเมธินท์
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 17 พ.ค. 2008
ตอบ: 6
ที่อยู่ (จังหวัด): สุราษฎร์ธานี
|
ตอบเมื่อ:
24 พ.ค.2008, 12:33 pm |
|
ขอขอบคุณพี่กรัชกาย มากๆ เลยครับ ที่พี่ช่วยตอบคำถามที่ผมสงสัยมานาน ทำให้ผมมีความทราบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง คำตอบของพี่ และทราบซึ้งใจอย่างยิ่งกับธรรมที่ผมประสบพบเจอด้วยตนเอง และทำให้ผมยิ่งมีกำลังใจในการที่จะปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระศาสดาต่อไป
ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่ามีความสุขในการทำงานมากขึ้น ไม่ค่อยหวั่นไหวต่อสิ่งเร้าต่างๆง่ายเหมือนเมื่อก่อน ความฟุ้งซ่านใจก็ลดน้อยลง อารมณ์เย็น ไม่ร้อนรนเหมือนเมื่อก่อน
นี่แหละธรรมะที่ต้องประสบพบเจอกับตนเองจึงรู้ได้เฉพาะตน ใครปฏิบัติก็ได้คนนั้นจริงๆเป็น ปัจจตัง จริงๆ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านและขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปทุกผู้ทุกนาม |
|
|
|
|
|
suvitjak
บัวบาน
เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
|
ตอบเมื่อ:
13 มิ.ย.2008, 2:12 pm |
|
ปฏิบัติต่อไปครับ |
|
_________________ ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน |
|
|
|
บัวหิมะ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
|
ตอบเมื่อ:
10 ส.ค. 2008, 12:15 am |
|
สิรเมธินท์ พิมพ์ว่า: |
ขอขอบคุณพี่กรัชกาย มากๆ เลยครับ ที่พี่ช่วยตอบคำถามที่ผมสงสัยมานาน ทำให้ผมมีความทราบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง คำตอบของพี่ และทราบซึ้งใจอย่างยิ่งกับธรรมที่ผมประสบพบเจอด้วยตนเอง และทำให้ผมยิ่งมีกำลังใจในการที่จะปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระศาสดาต่อไป
ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่ามีความสุขในการทำงานมากขึ้น ไม่ค่อยหวั่นไหวต่อสิ่งเร้าต่างๆง่ายเหมือนเมื่อก่อน ความฟุ้งซ่านใจก็ลดน้อยลง อารมณ์เย็น ไม่ร้อนรนเหมือนเมื่อก่อน
นี่แหละธรรมะที่ต้องประสบพบเจอกับตนเองจึงรู้ได้เฉพาะตน ใครปฏิบัติก็ได้คนนั้นจริงๆเป็น ปัจจตัง จริงๆ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านและขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปทุกผู้ทุกนาม |
อนุโทนาบุญกับท่านด้วย ข้าพเจ้าเองฝึกแล้ว ก็รู้สึกอย่างที่ท่านกล่าวมา ถูกต้องแล้ว เจริญในธรรม สาธุ สาธุ |
|
_________________ ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ |
|
|
|
RARM
บัวบาน
เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417
|
ตอบเมื่อ:
10 ส.ค. 2008, 7:26 am |
|
|
|
|
กรัชกาย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
10 ส.ค. 2008, 9:54 am |
|
RARM พิมพ์ว่า: |
ก็แค่ ขณิกสมาธิ |
รูปอนุมานถวายแหวน (ขวามือล่างสุด)
เป็นสมาธิขั้นไหนครับ คุณ RARM
ลิงค์นี้
http://www.plarnkhoi.com/jitjai_pictures.php
เป็นขณิกสมาธิ หรืออุปจารสมาธิ หรือว่าเป็นอัปปนาสมาธิ
พอบอกได้ไหมครับ
แล้วรู้ได้อย่าง่ไรครับว่า ผู้นั้นผู้นี้ได้สมาธิขั้นนั้นขั้นนี้แล้ว
เช่นรู้ว่า ผู้นี้ได้ขณิกสมาธิเป็นต้นแล้ว |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
|
|
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 4:54 pm |
|
เข้าสู่ฌาน3 ละครับ อาการ ภาวนาหาย
สุข สบาย |
|
_________________ ทำดีทุกทุกวัน |
|
|
|
|