ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
natdanai
บัวบาน

เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
|
ตอบเมื่อ:
20 พ.ค.2008, 10:40 am |
  |
เรื่องมีอยู่ว่า...เพื่อนมาปรึกษาปัญหาบางอย่างแต่เราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราคิดจะบอกกับเพื่อนจะเป็นเรื่องดีรึเปล่าก็เลยอยากทราบความเห็นต่างๆของผู้ศึกษาธรรมเพื่อเป็นแนวทางหน่อยครับ
ผมมีเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็กครับเขามาปรึกษาเกี่ยวกับความยุ่งยากใจบางอย่าง...เพื่อนผมคนนี้แต่งงานแล้วและจดทะเบียนสมรส มีลูกแล้วด้วยครับ แต่เกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างสามี-ภรรยาเลยทำให้ทั้ง 2 คนแยกกันอยู่ ผ่านมาเป็นเวลาหลายปีแล้วประมาณ 5 - 6 ปีได้แล้ว โดยที่ไม่สามารถจะกลับมาใช้ชีวิตอยู่กันอย่างสามี - ภรรยาได้อีก แต่ว่าก็ยังไม่ได้จดทะเบียนอย่ากัน โดยทั้งคู่เห็นว่าควรจะคงไว้เพื่อประโยชน์ในทางนิติกรรมของลูก ( ตอนนี้ทั้ง 2 คน คงความเป็นเพื่อนกันอยู่ และก็ดูว่าลูกของเขาก็จะเข้าใจในสัมพันธ์ของพ่อกับแม่อยู่ ) แต่ปัญหามันเกิดขึ้นเมื่อเพื่อนผมเกิดไปคบหาสนิดกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และพัฒนามาจนเกิดความรักในผู้หญิงคนนี้ ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็รู้ในสถานะของเพื่อนผมดี แต่ก็ยินดีที่จะมาอยู่ด้วยกันแบบ สามี-ภรรยา ทีนี้เลยเกิดความยุ่งยากใจขึ้นมากับเพื่อนผมครับ เขาเลยมาปรึกษาเราโดยให้เหตุผลว่าเราเป็นคนที่ศึกษาธรรมคนนึง.....และเราก็รู้จักคนทั้ง 3 คนในเรื่องนี้ครับ คำถามมีอยู่ว่า
หากเขาจะอยู่กินกับแฟนคนใหม่นี้.........จะเป็นบาป หรือผิดศีลข้อกาเมรึเปล่า?
ที่เกิดคำถามเช่นนี้เพราะพื่อนผมยังคงมีความกังวลถึงทะเบียนสมรสอยู่ครับ แต่ในทางพฤตินัยแล้วผมก็เห็นว่าเพื่อนผมคนนี้เป็นม่ายมานานแล้วครับส่วนภรรยาผมเองก้ไม่เห็นว่าจะมีใครใหม่ครับและแฟนที่คบหากันอยู่ก็ไม่ได้คบอยู่กับใคร ผมเลยไม่รู้จะแนะนำยังไงครับ
รบกวนขอความเห็นของสหายธรรมสักหน่อยครับ..... |
|
_________________ ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง |
|
    |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
20 พ.ค.2008, 4:07 pm |
  |
ศีลข้อสามป้องกันการชิงรักหักสวาทกันระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์ เหตุล่วงละเมิดคู่ครองกันและกัน แล้วจับอาวุธเข้าประหัตประหารกัน
เพื่อนคุณแยกกันอยู่กับภรรยามา 5-6 ปีแล้วด้วย มีเจตนาละทิ้งกันดังกล่าวด้วย
จึงไม่ผิดศีลข้อสามแต่อย่างใด หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมีใหม่
ติดเพียงข้อกฎหมาย (ทะเบียน) ที่ยังคงไว้เพื่อทำนิติกรรมของลูก
ฉะนั้น ณ ปัจจุบันนี้ ไม่น่ามีปัญหา อีกทั้งหญิงคนใหม่ก็พอรู้เรื่องนี้ด้วย
ทะเบียนสมรสที่เพื่อนคุณกังวล ก็ไม่น่ามีปัญหา อยู่ด้วยกันโดยไม่จดทะเบียนก็ได้
แต่ภายหน้าเพื่อนคุณเกิดเป็นอภิมหาเศรษฐีขึ้นมา ภรรยาคนใหม่ก็เสียเปรียบคนมีทะเบียน
ตอนแบ่งสมบัติครับ
หากไปจดทะเบียนใหม่โดยไม่หย่ากับภรรยาคนเก่าก่อนจดทะเบียนสมรสซ้อนผิดฐานแจ้ง
ความเท็จ
(แต่เมื่อปี 50 มีข่าวว่า หัวหน้าคณะที่นำรถถังออกมาฉีกรัฐธรรมนูญปี 40 ก็จดทะเบียนสมรสซ้อน แต่วันนี้เงียบไปแล้ว นี่ คือ มาตรฐานการบังคับใช้กฏหมายแห่งสยามประเทศ )
|
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
น้ำใส
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 31 พ.ค. 2004
ตอบ: 53
|
ตอบเมื่อ:
23 พ.ค.2008, 9:32 pm |
  |
แยกกันอยู่มา 5-6 ปีแล้ว แบบนี้ในทางพฤตินัย ก็ถือเสมือนอย่ากันแล้ว
ตามความเห็นผมว่า แบบนี้คงไม่ผิดศีลข้อสามแล้ว
แต่อยากให้เพื่อนคุณคิดถึงลูกของตนเอง เพราะจะสร้างปัญหาเพิ่มให้ลูกเข้าไปอีก
กรณีนี้ ถึงคุณไม่ผิดต่อภรรยา แต่คุณก็ต้องผิดต่อลูก ในฐานะเป็นพ่อที่ไม่มีความสามารถที่จะรักษาครอบครัวเอาไว้ให้ลูกได้
และอีกอย่าง เพื่อนคุณแน่ใจได้หรือว่า คนที่จะมาอยู่นี้จะดีเช่นนี้ได้ตลอดไป ภายหน้าไม่รู้ว่าใครจะเปลื่ยนไป ไม่เขาก็เรา
เราอาจเบื่อเขา หรือเขาเบื่อเรา แล้วถ้ามีลูกด้วยกันอีก ก็เลิกกันไม่ได้แบบนี้อีก ผมว่าประตูนรกชัดๆ
ทีนี้ต้องอยู่ไปแบบคนตกนรกทั้งเป็น คุณบอกเพื่อนคุณให้คิดดีๆก่อนเถิดครับ อย่าให้ความหลงความรักมาปิดตา
ด้วยความปรารถนาดี  |
|
|
|
  |
 |
|