| ผู้ตั้ง | ข้อความ | 
| superhappy บัวผลิหน่อ
 
  
 
 เข้าร่วม: 05 เม.ย. 2008
 ตอบ: 3
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
08 เม.ย.2008, 1:17 pm |   |  
| อยากทราบว่า บุคคลธรรมดา ฆราวาสอย่างเราๆ สามารถเข้าถึงพระนิพพานได้ไหมครับ
 และจำเป็นต้องฝึกสมาธิ เข้าณานได้ด้วยหรือเปล่า ถ้าจะบรรลุนิพพานจริงๆ
  และเราจะรู้ตัวเองได้อย่างไรว่าเราถึงนิพพานได้แล้วครับ วานผู้รู้ช่วยตอบให้กระจ่างหน่อยจ้า |  
          |  |  
|  |  | 
|   | 
|  | 
| RARM บัวบาน
 
  
 
 เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
 ตอบ: 417
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
08 เม.ย.2008, 7:43 pm |   |  
| ได้แน่นอนครับ  ผมเห็นมากะตาตัวเอง  แถมเค้ายังมาเล่าอารมณ์ตอนที่เข้าถึงให้ฟังด้วยครับ
 
 หายากที่จะได้รับฟังอารมณ์แบบนี้   ไม่มีใครเปิดเผยหรอกครับ
 
 จำเป็นต้องฝึกสมาธิอย่างยิ่งยวดครับ  แต่ไม่จำเป็นต้องได้ฌานเสมอไปครับ  เอาแค่  อุปจารสมาธิก็เพียงพอครับ  เพราะ อุปจารสมาธิ นั้น  สามารถ พิจารณาธรรมได้คือ พิจารณาพระไตรลักษณะญานนั้นเองครับ
 
 ผมเอง ก็กำลังฝึกอยู่ครับ  พระอาจารย์ที่ผมฝึกด้วยบอกว่า  ให้ทรง ขณิกกะสมาธิทั้งวันก็เก่งแล้ว
 
 ผมยังทรงไม่ได้เลยครับ
 
 ถ้าเราจะบรรลุนิพพานจริง ๆ นั้น ต้องมีครูบาอาจารย์รับรองครับ  เพราะครูบาอาจารย์ท่านรู้ครับว่าเราปฏิบัติไปถึงไหนแล้ว ติดขัดอย่างไร  ต้องแก้อย่างไร
 
 อันนี้ ก็แล้วแต่วาสนาเหมือนกันครับ ว่าจะพบครูบาอาจารย์  ท่านนั้นๆหรือเปล่า
 
 อย่างผมค่อนข้างโชคดีครับ
 
 ได้พบกับท่านพระอาจารย์ชัยรัตน์  สุธมฺโม  วัดท่าแก้ว  ชัยนาท  ท่านช่วยอนุเคราะห์ผมและครอบครัวผมเป็นอย่างมากเลยเลยครับ
 
 
  |  
          |  |  
|  |  | 
|   | 
|  | 
| มรรคคา บัวพ้นดิน
 
  
 
 เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
 ตอบ: 77
 ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
08 เม.ย.2008, 11:58 pm |   |  
| ตามพระพุทธพจน์ที่ได้อ่านมามีบอกว่าฆราวาสสามารถบรรลุธรรมได้ถึงระดับ พระอรหันต์ครับ แต่ว่าต้องบวชภายในเจ็ดวัน ถ้าไม่บวชก็ต้องนิพพานภายในเจ็ดวันเช่นกัน เพราะว่าอัตภาพ ฆราวาสรองรับสภาพพระอรหันต์ไม่ได้ครับ
 
 ส่วนการบรรลุธรรมนั้นเป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตนครับ แต่ว่าผู้ที่สูงกว่าท่านจะรู้ครับ อันนี้น่าจะยกไว้ก่อนนะครับ อย่าพึ่งสนใจเลยครับ เพราะยังอีกไกล
 
 เคยอ่านหนังสือที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ท่านว่าผู้ที่เป็นพระโสดาบันต้องทรงฌาน ๑ เป็นอารมณ์
 
 นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะครับ ถ้าสนใจก็ค้นหาได้นะครับ
 โดยหาจากหัวข้อ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ครับ มีเยอะมากๆ
 
 ส่วน ฌาน นั้น ถ้าได้ก็ดีนะครับ แต่ว่าระวังจะติดในฌานนะครับ
 
 ผมว่า ถ้าเราใช้ฌาน หรือ อุปจารสมาธิ หรือขนิกสมาธิ เป็นบาทฐานแห่งวิปัสสนาได้ก็จะดีนะครับ เพราะเป็นการเพิ่มกำลังให้ตัวเอง
 
 ที่ผมใช้อยู่เป็นแบบ พองหนอ ยุบหนอครับ แต่ว่า ๒๐-๓๐ นาทีแรกจะใช้
 พุท โธ เพื่อเข้าฌาน ๑ แล้วก็ออกมาดูพอง ยุบ ตามเดิม ครับ
 ที่เข้าฌานเพื่อระงับกามฉันทะ และความฟุ้งซ่านครับ
 
 หลักๆก็ดูยุบ พอง เพื่อฝึกสติครับ เพราะว่าธรรมทั้งหมด รวมลงที่
 สติ สัมปชัญญะ เท่านั่นเองครับ
 |  
          |  |  
| _________________
 มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
 |  | 
|   | 
|  | 
| มรรคคา บัวพ้นดิน
 
  
 
 เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
 ตอบ: 77
 ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
09 เม.ย.2008, 12:07 am |   |  
| การเจริญสติ สัมปชัญญะ นั้นไม่ใช่ทำแค่ช่วงที่เดินจงกรม นั่งสมาธินะครับ
 ส่วนที่สำคัญคือ การมีสติ สัมปชัญญะ ในช่วงระหว่างวัน
 เพราะเปรียบเสมือนการที่เรามีทุนสำรองให้ตัวเอง
 แล้วพอเวลาที่เราเดินจงกรม นั่งสมาธิจะช่วยได้เยอะครับ
 เพราะเรามีทุนแล้ว ในระหว่างวัน ช่วงที่ทำจริงๆก็เป็นกำไรครับ
 |  
          |  |  
| _________________
 มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
 |  | 
|   | 
|  | 
| sittidet บัวพ้นดิน
 
  
 
 เข้าร่วม: 26 ธ.ค. 2007
 ตอบ: 53
 ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
09 เม.ย.2008, 7:01 pm |   |  
| เข้าได้ทุกคนแน่นอนครับ แต่ต้องไม่ทำผิดประมาณ5อย่างครับ เช่นฆ่าบิดามารดร ทำให้สงฆ์แตกคอกัน ฯ   ขอยกพระพุทธพจน์มาตอบนะครับ ตอนต้นของสติปัฏฐานสี่มากล่าวนะครับ
 ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดก็ตามเจริญสติปัฐานสี่ตลอด 7  ปี เขาพึงหวังผล 2 ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือพระอรหันตผลในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ ก็จะเป็นพระอนาคามี ยกเอาผู้เป็นต้นตำรับบรมครูผู้ยิ่งใหญ่มาตอบแล้วแล้วคงเข้าใจแล้วนะครับ ว่าควรทำอย่างไร
 |  
          |  |  
| _________________
 ผู้ใดมีตนเป็นที่พึ่งนับว่าหาที่พึ่งอันหาได้ยาก
 |  | 
|   | 
|  | 
| มรรคคา บัวพ้นดิน
 
  
 
 เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
 ตอบ: 77
 ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
09 เม.ย.2008, 11:51 pm |   |  
| กรรมหนัก ๕ อย่างที่ปิดกั้นมรรคผล
 
 ๑.ฆ่าบิดา
 ๒.ฆ่ามารดา
 ๓.ฆ่าพระอรหันต์
 ๔.ทำร้ายพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต
 ๕.การทำสงฆ์ให้แตกแยก
 
 กรรมหนัก ๕ ประการนี้ถ้าใครได้ทำแล้วมีทางเดียวคือ อเวจีมหานรก ครับ
 
 ดังเช่น พระเทวทัต หรือ พระเจ้าอชาติศัตรู
 |  
          |  |  
| _________________
 มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
 |  | 
|   | 
|  | 
| manio บัวใต้ดิน
 
  
  
 เข้าร่วม: 10 เม.ย. 2008
 ตอบ: 16
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
10 เม.ย.2008, 11:59 pm |   |  
| เเต่การบวชจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า?  น่าจะใช่นะ
  |  
          |  |  
| _________________
 วันนี้  วันไหน ก็เหมือนเดิม...^_^
 |  | 
|   | 
|  | 
| RARM บัวบาน
 
  
 
 เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
 ตอบ: 417
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
11 เม.ย.2008, 9:47 am |   |  
| 
 
| manio พิมพ์ว่า: |  
| เเต่การบวชจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า?  น่าจะใช่นะ  |  
 ก็ไม่เสมอไป ถ้าไม่ปฏิบัติ ก็ไม่ถึงหรอกครับ
 
 แต่โใอกาสจะดีกว่า เวลาว่างมากกว่า   มีเวลาทำเยอะกว่า  ศีล ก็ตั้ง 227 แต่ละตัว กำจัดกิเลสที่ละเอียดได้ ถ้าปฏิบัติอย่างถูกวิธีครับ
  |  
          |  |  
|  |  | 
|   | 
|  | 
| superhappy บัวผลิหน่อ
 
  
 
 เข้าร่วม: 05 เม.ย. 2008
 ตอบ: 3
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2008, 5:49 pm |   |  
| และเราต้องฝึกอย่างไรบ้างครับในทุกๆวัน ผมก็นั่งสมาธิได้ไม่กี่นาทีเองต่อวันน่ะคับ บางทีนั่งมากๆแล้วเมื่อยขา หรือกลัวว่าจิตจะหลุดออกไปนอกกายเหมือนกันน่ะคับ  วิตกไปไกลเลย
 |  
          |  |  
|  |  | 
|   | 
|  | 
| ตามรอย บัวใต้น้ำ
 
  
 
 เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
 ตอบ: 109
 ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2008, 6:09 pm |   |  
| 
 
| RARM พิมพ์ว่า: |  
| ได้แน่นอนครับ  ผมเห็นมากะตาตัวเอง  แถมเค้ายังมาเล่าอารมณ์ตอนที่เข้าถึงให้ฟังด้วยครับ 
  |  
 เจริญธรรมครับ  ข้าพเจ้ามิได้มีเจตน่ไม่ดี เพียงแต่ว่าเคยอ่านหนังสือ
 มิลินทปัญหา(แจกในงานพระราชทานเพลิงพระบรมศพ สมเด็จฯย่า
 ..ตอนที่พระเจ้ามิลินท์ถามพระนาคเสนว่า จะมาเกิดอีกหรือไม่
 ท่านก็ตอบว่าถ้าท่านไร้ซึ่งอุปทานแล้วก็จะไม่เกิดอีก(นิพพาน)
 ทั้งที่ท่านได้พระนิพพานแล้ว  มิได้กล่าวอ้างว่าท่านได้นิพพานแล้วแต่อย่างใด เพราะเป็นสิ่งที่
 ไม่ควรพูดเป็นสิ่งที่ชวนให้มาเห็นเองอย่างนี้ๆ..
 
 ครับก็เลยสงสัยว่า เป็นเพียงการกล่าวอ้างหรือไม่
 
 เจริญๆครับ
 |  
          |  |  
| _________________
 อย่าประมาทลืมตน
 |  | 
|    | 
|  | 
| sittidet บัวพ้นดิน
 
  
 
 เข้าร่วม: 26 ธ.ค. 2007
 ตอบ: 53
 ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2008, 10:39 pm |   |  
| ตอบคุณ superhappy ครับ ลองอ่านหนังสือที่เวปนี้ครับ http://www.dungtrin.com/เรื่องเจ็ดเดือนบรรลุธรรม หรือไม่ก็สติปัฏฐานสี่ครับ ลองทำความเข้าใจดูนะครับ เพราะเป็นทางที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นทางเอก ครอบคลุมทุกจริตครับ อย่างไรก็เมล์มาคุยกันได้ครับ ple_gto_id17@hotmail.com
      ทุกคนมีสิทธิ์บรรลุธรรมครับ |  
          |  |  
| _________________
 ผู้ใดมีตนเป็นที่พึ่งนับว่าหาที่พึ่งอันหาได้ยาก
 |  | 
|   | 
|  | 
| มรรคคา บัวพ้นดิน
 
  
 
 เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
 ตอบ: 77
 ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2008, 11:00 pm |   |  
| จะลองเอาไปทำบ้างก็ได้นะครับ
 
 ๑ การยืน
 
 วิธีการปฏิบัติ ให้ยีนตรง ยกมือไขว้หลัง มือขวาจับมือซ้ายไว้ตรงกระเบนเหน็บ หน้าตรง หลับตา สติจับอยู่ที่ศีรษะ กำหนดว่า "ยืนหนอ" ๕ ครั้ง แต่ละครั้งแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกคำว่า "ยืน" จิตวาดมโนภาพร่างกายจากศีรษะลงมาหยุดที่สะดือ คำว่า" หนอ" จากสะดือลงไปปลายเท้า แล้วกำหนดขึ้นเมื่อว่า" ยืน" จิตวาดมโนร่างกายจากปลายเท้าขั้นมาที่สะดือ เมื่อกำหนดว่า "หนอ" จากสะดือขึ้นไปบนศีรษะ กลับไปกลับมาจนครบ ๕ ครั้ง ขณะนั้นให้สติอยู่ในกาย อย่าให้ออกไปนอกกาย เสร็จแล้วลืมตา ทอดสายตาไปข้างหน้าประมาณ ๑ วา สติจับอยู่ที่เท้าเตรียมพร้อมที่จะเดิน
 |  
          |  |  
| _________________
 มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
 |  | 
|   | 
|  | 
| มรรคคา บัวพ้นดิน
 
  
 
 เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
 ตอบ: 77
 ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2008, 11:54 pm |   |  
| การเดินจงกรม
 
 เมื่อกำหนด "ยืนหนอ" ๕ ครั้งแล้วจึงตั้งต้นเดินจงกรม
 
 ๑)ระยะที่๑
 
 กำหนดว่า "ขวา-ย่าง-หนอ" "ซ้าง-ย่าง-หนอ" โดยปฏิบัติดังนี้ ยกส้นเท้าขวาขึ้นพร้อมกับกำหนดว่า "ขวา" เลื่อนเท้าไปข้างหน้าประมาณ ๑ คืบเป็นอย่างมากพร้อมกับกำหนดว่า "ย่าง" แล้วเหยียบพื้นโดยใช้ปลายเท้าลงก่อน แล้วค่อย ๆ วางส้นเท้าลง กำหนดว่า "หนอ" เท้าซ้ายทำแบบเดียวกันกับเท้าขวา กำหนดว่า "ซ้าย-ย่าง-หนอ"
 เมื่อเดินสุดทางแล้วกำหนด "ยืนหนอ" ๕ ครั้ง ดังที่ได้อธิบายมาแล้ว จากนั้นกำหนดกลับโดยกำหนด "กลับ-หนอ" ๔ ครั้ง เมื่อกำหนดครั้งที่ ๑ ให้ยกปลายเท้าขวา ส้นเท้าติดพื้น หมุนส้นเท้าไปทางขวา ๙๐ องศา พร้อมกำหนดว่า "กลับ" แล้ววางปลายเท้าลงกับพื้นพร้อมกำหนดว่า" หนอ" ครั้งที่ ๒ ลากเท้าซ้ายมาชิดเท้าขวา ครั้งที่๓ ทำเหมือนครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๔ ทำเหมือนครั้งที่ ๒ แล้วหลับตากำหนด "ยืน-หนอ" ๕ ครั้ง แล้วจึงเดินต่อไปจนหมดเวลาที่กำหนด
 |  
          |  |  
| _________________
 มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
 |  | 
|   | 
|  | 
| มรรคคา บัวพ้นดิน
 
  
 
 เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
 ตอบ: 77
 ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
18 เม.ย.2008, 12:03 am |   |  
| ส่วนการนั่งสมาธิ
 
 ก็ง่ายๆโดยกำหนด พองหนอ ยุบหนอ
 หลังจากนั้นก็ตามดูพองยุบไปเรื่อยๆ ถ้ามีเวทนาก็ให้หยุดจากการกำหนด พองยุบ แล้วไปกำหนดเวทนาแทน ไม่ว่าจะเป็น ปวดหนอ เจ็บหนอ หรืออื่น ๆ
 เมื่อกำหนดเวทนาหายแล้ว ค่อยกลับไปกำหนด พองยุบต่อ
 ถ้ากำลังจะเผลอ ก็ให้กำหนด เผลอหนอ
 ถ้าเพลิน ก็กำหนด เพลินหนอ
 รู้หนอ ตามดูไปเรื่อยๆไม่ต้องปรุงแต่งใดๆทั้งนั้น
 แค่ตามดู ตามรู้ เท่านั้น
 น่าจะเริ่มที่ ครึ่งชั่วโมงก่อน
 
 อย่าลืมให้พิจารณาธรรมเฉพาะหน้าเท่านั้น
 
 ลองทำดูก่อนนะครับ ได้ผลอย่างไรก็ค่อยว่ากัน
 |  
          |  |  
| _________________
 มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
 |  | 
|   | 
|  | 
| RARM บัวบาน
 
  
 
 เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
 ตอบ: 417
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
18 เม.ย.2008, 12:03 pm |   |  
| 
 
| ตามรอย พิมพ์ว่า: |  
| 
| RARM พิมพ์ว่า: |  
| ได้แน่นอนครับ  ผมเห็นมากะตาตัวเอง  แถมเค้ายังมาเล่าอารมณ์ตอนที่เข้าถึงให้ฟังด้วยครับ 
  |  
 เจริญธรรมครับ  ข้าพเจ้ามิได้มีเจตน่ไม่ดี เพียงแต่ว่าเคยอ่านหนังสือ
 มิลินทปัญหา(แจกในงานพระราชทานเพลิงพระบรมศพ สมเด็จฯย่า
 ..ตอนที่พระเจ้ามิลินท์ถามพระนาคเสนว่า จะมาเกิดอีกหรือไม่
 ท่านก็ตอบว่าถ้าท่านไร้ซึ่งอุปทานแล้วก็จะไม่เกิดอีก(นิพพาน)
 ทั้งที่ท่านได้พระนิพพานแล้ว  มิได้กล่าวอ้างว่าท่านได้นิพพานแล้วแต่อย่างใด เพราะเป็นสิ่งที่
 ไม่ควรพูดเป็นสิ่งที่ชวนให้มาเห็นเองอย่างนี้ๆ..
 
 ครับก็เลยสงสัยว่า เป็นเพียงการกล่าวอ้างหรือไม่
 
 เจริญๆครับ
 |  
 เรื่องนี้ จะมีใครกล้าเปิดเผยละครับ
 
 แล้วแต่ความเชื่อนะครับ  พละ 5 ใครเต็มเมื่อไหร่ ตนเองก็รู้เอง
 
 แค่ผมมาเล่าผมก้ผิดข้อวัตรของผมแล้ว
 
 เพียงแต่  ต้องการให้รู้ว่า  การบรรลุธรรมนั้นยังมีอยู่จริง  แต่ใครจะถึง หรือทำปฏิบัติอย่างไรนั้น  ขึ้นอยู่กับความเพียร  และ สร้างสมบารมีมาเต็มหรือยัง  คุณพ่อผมท่านเต็มแล้วท่านก็เล่าอนุเคราะห์ให้ฟัง
 
 เรื่องอย่างนี้  เค้าจะเล่ากันในวงหรือเฉพาะคนใกล้ชิด
 
 อันนี้ก็พิจารณากันเอาเอง  ตามกำลังปัญญา  ปกติ  พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนให้เชื่อ  เลยนี่ครับ
 
 ต้องพิสูจน์ปฏิบัติด้วยตัวเองเสียก่อน  แล้วจึงบอกเล่า  สิ่งต่างๆ ที่ประสบมาได้
 
 อย่างถูกต้อง
 
 
  |  
          |  |  
|  |  | 
|   | 
|  | 
| natdanai บัวบาน
 
  
 
 เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
 ตอบ: 387
 ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
18 เม.ย.2008, 1:27 pm |   |  
| อาจารย์ท่านว่า ถ้าถึงเวลาก็จะอยู่เป็นฆารวาสไม่ได้หรอก มันทนได้ยาก
 |  
          |  |  
| _________________
 ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
 |  | 
|     | 
|  | 
| ชินภพ พิมพะกร บัวพ้นดิน
 
  
 
 เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
 ตอบ: 67
 
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
25 เม.ย.2008, 7:52 pm |   |  
| บรรลุได้ หากแต่ต้องบวชครับ เหตุเพราะภาวะที่บริสุทธิ์เกินกว่าเพศฆราวาส จะว่าไปก็ตอบซ้ำกับคุณมรรคาน่ะครับ ท่านพุทธทาสกล่าวว่า นิพพานเป็นภาวะที่มนุษย์สัมผัสได้เป็นเนือง ๆ หากแต่รักษาไว้ไม่ได้ พระอรหันต์ท่านรักษาไว้ได้ตลอดเวลา นั่นจึงบริสุทธิ์กว่าครับ
 |  
          |  |  
|  |  | 
|     | 
|  | 
| ทศพล บัวเริ่มพ้นน้ำ
 
  
  
 เข้าร่วม: 10 ก.พ. 2008
 ตอบ: 153
 ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
02 พ.ค.2008, 10:41 am |   |  
| ฆราวาสก้อเป็นพระอรหันต์ได้ครับ
 
 แต่ยากกว่าผู้ที่บวช
 
 ดูอย่างพระเจ้าสุทโธทนะไง
 
 สุดท้ายท่านก้อเป็นพระอรหันต์โดยไม่ได้บวช
 
 ขอให้เจริญในธรรมยิ่งขึ้นครับ
  |  
          |  |  
| _________________
 "ธรรมทาน คือ ทานอันสูงสุด"
 "ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
 http://www.wimutti.net
 |  | 
|      | 
|  | 
| เรือนไม้งาม บัวผลิหน่อ
 
  
  
 เข้าร่วม: 02 พ.ค. 2008
 ตอบ: 6
 ที่อยู่ (จังหวัด): สุขุมวิท กรุงเทพฯ
 
   | 
|  ตอบเมื่อ:
02 พ.ค.2008, 5:28 pm |   |  
| ผมลองอ่าน หนังสือเล่มดังกล่าว (หนังสือ นิพพานสำหรับทุกคน) โดย ท่านพุทธทาส สวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี  ท่านธรรมบรรยายได้ดี มาก ๆ เข้าใจง่าย และเป็นรูปธรรมเห็นผลเดี๋ยวนั้น แถมยังเป็นปิติเลย ครับ  ลองดู (เป็นอีกทางเลือกในการมองต่างมุม) สุดท้ายแล้วนั้น อยู่ที่ตัวเราต่างหาก จริง ๆ ครับ
   
 ดังนั้น ธรรมะ ก็คือ ธรรมชาติ นั้นเองครับ  ลองอ่านข้อความข้างล่างดู นะครับ คัดลอกเพื่อบางส่วนเท่านั้น
 
 ....นิพพาน เป็นสิ่งที่มีสำหรับทุกคน ไม่ใช่มีสำหรับสองสามคนหรือไม่กี่คน ถ้ามีได้เฉพาะแก่พระอรหันต์แล้ว พุทธศาสนาก็ไม่มีประโยชน์แก่คนทั่วไป อย่างนี้มันไม่คุ้มค่า เหมือนกับว่าสระน้ำใหญ่ มันก็มีประโยชน์แก่สัตว์ทุกชนิดและทุกขนาด ดังนี้ มันก็คุ้มค่า พระนิพพานก็เหมือนกัน เหมือนกับเป็นสระที่พระพุทธเจ้าท่านขุดไว้ ก็เป็นประโยชน์ได้แก่ทุกคน ตามมากตามน้อย โดยสมบูรณ์เต็มที่หรือโดยบางส่วน ก็ตาม ....
 
 ก็เพราะว่า พระนิพพานเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ในที่ทั่วไป เมื่อบุคคลไม่มีความร้อนใด ๆ ก็หมายความว่ากำลังดื่มกิน...พระนิพพาน
 ท่านพุทธทาส (ธรรมบรรยาย วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2531 ณ ลานหินโค้ง  สวนโมกขพลาราม จ.สุราษฏร์ธานี)
 
 และผมสะดุดตาอยู่ประโยคหนึ่งของท่าน
  คือ คือ "สติปัญญา จะพาไปสู่จุดหมายปลายทาง คือ ความสิ้นสุดแห่งกิเลส ไปรับปริญญาของพระพุทธเจ้า คือ หมดราคะ หมดโทสะ หมดโมหะ ลุถึงนิพพาน สิ้นสุดแห่งการว่ายเวียน" 
 ถ้าเป็นประโยชน์ก็ลองศึกษาดูนะครับ ดีมากๆ เลย สาธุ สาธุ สาธุ
      |  
          |  |  
| _________________
 การเริ่มต้น....เป็นสิ่งที่ยากที่สุด
 |  | 
|   | 
|  | 
|  |