Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
...เขียนเรซูเม่ให้ได้งาน...
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นานาสาระ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 10 เม.ย.2008, 2:23 pm
Post Today
- การเขียนประวัติย่อเพื่อการสมัครงาน (เรซูเม) คือด่านแรกที่จะทำให้ผู้สมัครงานได้รับการเรียกสัมภาษณ์
หรือนัยหนึ่งคือใบเบิกทางที่สำคัญ
นิสิต/นักศึกษาที่กำลังจะสำเร็จการศึกษาในเดือน มี.ค. นี้
รู้หรือไม่ว่า พวกคุณทุกคนกำลังจะต้องเริ่มนับหนึ่งอีกครั้งกับสิ่งที่เรียกว่า “เรซูเม” ...
ตั้งต้นจากเรซูเม
“สาธินี โมกขะเวส”
กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางานจ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย)
เว็บไซต์สมัครงานออนไลน์ กล่าวว่า
เรซูเมที่ดีคือเรซูเมที่เตะตาต้องใจ ดูดี และเป็นความจริง
เรซูเมบางฉบับไม่เป็นธรรมชาติ
ซึ่งผู้มีหน้าที่สัมภาษณ์งาน หรือคนที่อ่านเรซูเมเก่งๆ
จะรู้ทันทีว่า นี่เป็นอีกอันที่เป็น “ฟอร์แมต” เขียนตามๆ กันมา ทุกสิ่งทุกอย่างเขียนเรียงลำดับเหมือนกันหมด
พลอยทำให้ผู้สมัครรายนั้นๆ หมดความน่าสนใจไปด้วย
“คนที่จะได้งานคือคนที่ทำความเข้าใจกับการเขียน เขียนได้สั้นกระชับ และไปให้ถึงจุดสุดท้ายให้เร็วที่สุด”
สาธินี กล่าวอีกว่า การเขียนเรซูเมเป็นเรื่องของจิตวิทยา
จุดมุ่งหมายของเรซูเมคือ การเรียกร้องความสนใจจากผู้อ่าน
คนเขียนต้องรู้ว่าคนอ่านอยากรู้อะไร
อ่านแล้วอยากเรียกมาสัมภาษณ์ ถือว่าบรรลุเป้า
ส่วนใหญ่มักเขียนกันมาแบบยืดยาว น่าเบื่อ
วิธีเขียนประวัติเพื่อการสมัครงานยุคนี้ อันดับแรกคือ อย่ายาว (ไม่ควรเกิน 12 หน้า)
ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากชื่อ นามสกุล ประมาณว่าโสด สูง หน้าตาดี
ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์อยากรู้เป็นอันดับท้ายๆ
เรซูเมควรเริ่มต้นจากโพรไฟล์ที่บรรยายความเป็นตัวเอง
1.ประสบการณ์ 2.การศึกษา และ 3.ความสามารถ
สิ่งที่เรียกว่าสไตล์
หน้าที่ของเรซูเม คือการเป็นชอร์ตลิสต์หรือข้อความย่อ
เพื่อบ่งบอกตัวผู้เขียนให้ได้มากที่สุด
การเชื่อมระหว่างเอกสารกับการเป็นตัวตนของคนคนนั้น
เรซูเมจึงต้องมีสิ่งที่เรียกว่า “สไตล์” เพื่อบ่งบอกสไตล์ของผู้เป็นเจ้าของ
สไตล์นี้เองที่จะทำให้ใบสมัครแต่ละใบมีความแตกต่าง
ยิ่งโดดเด่นก็ยิ่งได้เปรียบ
คำว่า “โดดเด่น” ในที่นี้ หมายถึงสิ่งที่เรียกว่า “Unique Selling Point”
ซึ่งแต่ละคนก็แตกต่างกันไป บางคนไม่ได้เรียนเก่งที่สุด
หากแต่เรียนรู้เร็ว มีความกระตือรือร้น มีทักษะ และทัศนคติที่ดี
ก็ถือเป็นจุดดีที่ “ขาย” ได้ โดยเฉพาะกับองค์กรสมัยใหม่
องค์กรสมัยใหม่ในปัจจุบันต้องการคนที่มีสไตล์
มีบุคลิก มีทัศนคติเชิงบวก
ต้องการคนที่สามารถเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรของเขาได้
และเติบโตไปพร้อมกับองค์กรของเขาได
นั่นหมายถึงว่าผู้สมัครต้องทำการบ้าน
เรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรที่ต้องการสมัครให้มาก
องค์กรบางแห่งให้น้ำหนักกับปัจจัยเหล่านี้
ขณะที่คนเก่งแบบวันแมนโชว์กลายเป็นเรื่องน่ากลัว เพราะเก่งเกินไปแต่ไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
เรซูเมสมัยใหม่
การเรียกสัมภาษณ์จะพิจารณาจากเกณฑ์อะไรบ้าง
ขึ้นอยู่กับว่าเป็นงานอะไรด้วย เช่น งานเซลส์
แม้จะเขียนแบบเรียงความไม่ได้ดี
แต่โดยสายงานอาจมุ่งไปที่การพูดมากกว่าการเขียน อย่างนี้ก็พอไหว ตรงกันข้ามถ้าเป็นงานประเภทเลขานุการ
ที่ต้องการความถูกต้อง ละเอียดรัดกุม แต่เรซูเมเขียนมาไม่สวย
จัดวางพื้นที่หรือสเปซไม่ดี สะกดผิดๆ ถูกๆ
แบบนี้ก็ตกม้าตายตั้งแต่ต้น เช่นเดียวกัน
สมัครงานประเภทไอที แต่เรซูเมฟอร์แมตมาแบบเอ็กเซล ก็ตกม้าตายแต่แรกเหมือนกัน
เรซูเมสมัยใหม่ ควรบอกไลฟ์สไตล์ได้นิดหน่อย
ได้แก่ งานอดิเรก เช่น ชอบอ่านหนังสือ ชอบท่องเที่ยว
ชอบเสิร์ชอินเทอร์เน็ต ฯลฯ ทั้งนี้ก็เพื่อบอกความเป็นตัวเรา
แต่ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎ “ห้ามพล่าม”
อย่าใช้ถ้อยคำฟุ่มเฟือย ขอให้สั้น ตรง กระชับ รัดกุมดีที่สุด
กรณีเป็นเท็มเพลตสำเร็จรูป หรือการสมัครงานตามจ๊อบออนไลน์ก็ใช้ได้เหมือนกัน
เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดการเขียนแบบความเรียง
“องค์กรส่วนมากจะชอบเรซูเมที่เขียนขึ้นเอง
มากกว่าเรซูเมสำเร็จรูปตามออนไลน์
คำแนะนำคือ ให้เขียนทั้ง 2 แบบ” สาธินี กล่าว
ถัดจากขั้นตอนเรซูเมไปก็คือการสัมภาษณ์
แต่ที่ไม่ควรละเลยคือตอนรับโทรศัพท์เรียกสัมภาษณ์ หลายคนถูกปฏิเสธเพราะตอบรับโทรศัพท์ไม่ดี
ตัวอย่างแย่ๆ มีตั้งแต่น้ำเสียงที่ไม่ประทับใจ เคี้ยวขนมไปพูดไป ถือว่าไม่สุภาพ
พูดช้าไป พูดเร็วไป พูดอ่า...ฮะๆ ตลอดเวลา หรือบางคนก็มารยาทไม่ดีมากๆ
เมื่อได้รับแจ้งว่าส่งใบสมัครงานมาใช่ไหม ตอบว่า “ใช่ แล้วไงคะ”
หรือบางคนก็แสดงความไม่ใส่ใจ “ดูก่อนนะคะ”
ถือเป็นวิธีการต่อรองเรื่องวันเวลาที่ทำให้ตัวเองเสียคะแนนมากๆ
“เมื่อได้รับโทรศัพท์เรียกสัมภาษณ์งาน
ให้ตอบรับด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเอาใจใส่ กระตือรือร้น
พูดจาชัดเจน แอ็กทีฟ” สาธินี กล่าว
ผ่านด่านนี้ไปก็ถึงขั้นสัมภาษณ์งาน สูตรมาตรฐานคือ ไปให้ตรงเวลา แต่งกายสุภาพ
โดยเฉพาะผู้หญิงต้องเรียบร้อย นั่งแล้วชายกระโปรงต้องคลุมเข่า
รองเท้าหุ้มส้นและปลายเท้า พูดจาด้วยภาษาและบุคลิกเสียงที่ดี กิริยามารยาทดี มองหน้าคนสัมภาษณ์
และสำคัญมากคือต้องไม่ลืมปิดโทรศัพท์มือถือเด็ดขาด!
ฤดูกาลหางานของนิสิต/นักศึกษาจบใหม่กำลังจะเริ่มต้น
ขอเอาใจช่วยให้ทุกคนโชคดี
คัดลอกจาก...
http://jobmsn.jobjob.co.th/th/Career_Development/488/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%8B%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นานาสาระ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th