ได้ดีเพราะมีเพื่อน(ดี)

ผู้เยี่ยมชม

ในสมัยพุทธกาล ขณะที่พระอานนท์ (พุทธอุปฐาก) พระพุทธเจ้ากำลังนั่งคิดอยู่ว่า "กัลยาณมิตร เป็นกึ่งหนึ่งของพรหมจรรย์" คิอ ตัวเราที่ได้ดี เจริญรุ่งเรืองอยู่นั้น เป็นเพราะตัวเองครึ่งหนึ่ง และเพื่อนอีกครึ่งหนึ่งใช่หรือไม่

พระพุทธเจ้าเสด็จมาหา ซักถามแล้วจึงบอกว่า "มิใช่หรอกอานนท์ กัลยาณมิตรเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์" ว่าแล้วท่านก็เล่าย้อนหลังไปในอดีตชาติ ซึ่งเป็นตอนหลังจากที่ท่านสร้างบารมีเป็นสุเมธดาบส มาครบ 16 อสงไขยแล้ว ก็ได้รับพุทธพยากรณ์จากพระทีปังกรพุทธเจ้าว่า ในอนาคตอีก 4 อสงไขย กับเศษอีก แสนมหากัป (กัปหนึ่งเป็นเวลาที่ยากจะจินตนาการ) ท่านจะได้เป็นพระพุทธเจ้านามว่าโคดม และจะมีอายุ 100 ปี

ท่านได้เล่าให้พระอานนท์ฟังว่า ในตอนนั้นเป็นสมัยของพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง (ขออภัยจำชื่อท่านไม่ได้แล้วครับ) ท่านได้เกิดเป็นหนุ่มผู้หนึ่งชื่อว่าโชติปาละ มีเพื่อนชื่อว่า ฆฏิการะ ต่อมาฆฏิการะ ได้มีโอกาสไปฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า จนบรรลุเป็นพระอนาคามี จึงมาชวนให้โชติปาละ ไปฟังธรรมด้วย แต่โชติปาละ ทะนงในความรู้ของตนเอง ไม่เห็นว่า สมณะนี้สำคัญตรงไหน (ขนาดได้รับพยากรณ์แล้ว กิเลสยังขวางไว้ได้เลย) จึงปฏิเสธไม่ไป ฆฏิการะชวนหลายๆ ครั้งก็ไม่ไป สุดท้ายฆฏิการะจึงดึงมวยผมให้ไป โชติปาละโกรธ จึงพูดว่า "เราไม่อยากไปฟังธรรมจากสมณะโล้นนั่นหรอก ไม่เห็นมีดีอะไร" แต่เป็นเพราะสู้แรงเพื่อนไม่ได้ หรืออะไรก็ไม่ทราบ (เรื่องไม่ได้บอกไว้) ในที่สุดก็ไป เมื่อไปฟังธรรมแล้วก็เลื่อมใส จึงได้บวช

หากไม่ได้ ฆฏิการะในครั้งนั้น ก็คงไม่มีพระพุทธองค์ในวันนี้ แต่ถึงแม้พระองค์จะตรัสรู้ได้ ด้วยกรรมที่พูดไปอย่างนั้น จึงทำให้ชาตินี้พระองค์ต้องมาทรมาณตัวเอง 6 ปี ก่อนบรรลุธรรม (ในขณะที่พระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ แค่ไม่กี่วัน หรือไม่กี่เดือน) และทำให้พระองค์ต้องอายุสั้นเหลือแค่ 80 ปี (จากที่ได้รับพยากรณ์ว่าจะอยู่ถึง 100 ปี เพราะทรมารร่างกายมาก)

ดังนั้น "กัลยาณมิตร เป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์" ครับ

ผู้เยี่ยมชม

ผมเข้าใจว่าพระโพธิสัตว์ไปปรามาสพระกัสปพุทธเจ้าองค์ก่อนจากนี้

ผู้เยี่ยมชม

ใช่แล้วครับ ขอบคุณคุณโอ่มากครับ เพิ่งไปค้นมา คือพระกัสสัปสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงๆ ครับ

ผู้เยี่ยมชม