ปีใหม่กับการเปลี่ยนแปลง ( 2 )

ผู้เยี่ยมชม

ดังที่ความเป็นจริงปรากฏอยู่ในเนื้อหาของข้อความกระทู้ที่แล้วผู้คนต่างคิดว่า เมื่อสังคมเปลี่ยนเราก็จะเปลี่ยนไปเอง เหมือนความคิดที่ว่าเมื่อโรงงานสิ่งเสพติดเลิกผลิตมนุษย์ก็จะเลิกจากสิ่งเสพติดเหล่านั้นเอง แต่ถ้าโรงงานไม่เลิกเราก็จะเสพแต่ที่เราเสพมันไม่ใช่ความผิดของเรามันเป็นความผิดของโรงงานที่ผลิตมันขึ้นมา เมื่อสังคมเปลี่ยนตัวคุณจะเปลี่ยนได้จริงหรือ หรือว่าคุณจะเปลี่ยนสังคมให้เป็นไปตามที่คุณต้องการ คุณจะตัดสิ่งที่คุณไม่ชอบและเพิ่มสิ่งที่คุณชอบเข้าไปในสังคมไม่ใช่หรือ คุณชอบการพนันคุณก็จะทำให้การพนันเป็นสิ่งถูกต้องในสังคมไม่ใช่หรือ คุณชอบกามารมณ์ คุณก็จะทำให้การบริการทางเพศเป็นสิ่งถูกต้องในสังคมไม่ใช่หรือ คุณชอบสิ่งเสพติดที่ให้ผลเคลิบเคลิ้มกับจิตคุณก็จะทำให้สิ่งเสพติดเป็นสิ่งที่ถูกต้องในสังคมไม่ใช่หรือ คุณชอบความรุนแรง คุณก็จะสร้างความรุนแรงที่ถูกต้องขึ้นมาเช่นสงครามในนามของความรักชาติโดยบอกว่าเพราะความรักผมจึงต้องฆ่า เพราะความรักผมจึงต้องทำลาย หรือสงครามศาสนาแย่งชิงพระเจ้าโดยบอกว่าเป็นพระประสงค์ของพระองค์เราผู้เป็นสาวกถ้าเรานับถือท่านจงทำสงคราม หรือสงครามแย่งชิงผลประโยชน์ โดยบอกว่ามันสมควรเป็นเช่นนั้นถูกต้องแล้ว ดังนั้นสังคมจะเปลี่ยนได้ด้วยหรือถ้าคุณไม่ต้องการจะเปลี่ยนแปลง เพราะคุณคือสังคม คุณชอบอย่างไรคุณก็จะสร้างสังคมเช่นตัวคุณ คุณเป็นอย่างไรสังคมก็เป็นเช่นนั้น ถ้าคุณมองสังคมเป็นสิ่งนอกตัวคุณและคุณรอให้สังคมเปลี่ยนก่อนคุณจึงจะเปลี่ยนคุณอาจจะต้องรอไปอีก 100.000.000 ล้านปีโดยประมาณ มันคือความเป็นจริงว่าคุณคือสังคม คุณคือโลก หากคุณไม่เปลี่ยนทุกอย่างก็จะเป็นมรดกไปสู่สายพันธุ์ของคุณ เมื่อเราเห็นแล้วว่าคุณคือสังคมคุณจะรับผิดชอบอย่างไร คุณจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง ? คุณสามารถทำอะไรได้บ้าง ? แน่นอนคุณทำได้ถ้าคุณรู้ว่าคุณจะทำได้อย่างไร ?

ผู้เยี่ยมชม

การกระตุ้นให้คนเปลี่ยนแปลงโลกภายนอกของตนอย่างเดียว ย่อมแสวงหาความพอใจไม่จบสิ้น การมองให้เห็นความจริงภายในจึงเป็นหลักการสำคัญกว่า ดังนั้นเราไม่ได้กระตุ้นความคิดในทำนองดังกล่าว เพียงแต่จัดการให้เหมาะสมในสภาพพอทนอยู่ได้ ในโลกที่เรารับกันว่ามีความทุกข์นั้น การจัดการให้เกิดความสุขจากสิ่งภายนอก ใช่จะเป็นสิ่งพึงจะเกิดขึ้นได้ การอยู่กับความเป็นจริง จึงไม่ควรก้าวล่งไปในคามพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งภายนอกมากเกินกว่าการได้อาศัยอยู่ เพราะว่าเรามีชีวิตเพื่อการได้พิจารณาความจริง

ตอบเมื่อ: 03 ม.ค. 2005, 11:48 am

เมื่อเราเห็นแล้วว่า คุณคือสังคม คุณก็ควรจะรับผิดชอบตัวเองก่อน คุณก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวคุณเองได้ เมื่อถึงจุดนั้นคุณจะรู้ได้ด้วยตนเองว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง และรู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ว่า คุณสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ในระดับไหน

มณี ปัทมะ ตารา

ผู้เยี่ยมชม

ถ้าหากปฏิบัติตามธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าจะปฏิบัติต่อทิศทั้ง 6 อย่างไร ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ครับ

ทิศเบื้องหน้า คึอ พ่อแม่ ลูกที่ดีควรปฏิบัติต่อพ่อแม่อย่างไร

ทิศเบื้องขวา คือ ครูอาจารย์ ศิษย์ที่ดีควรปฏิบัติต่อครูอาจารย์อย่างไร

ทิศเบื้องบน คือ สมณะ ชาวพุทธที่ดีควรปฏิบัติต่อสมณะอย่างไร

ทิศเบื้องซ้าย คือ ญาติมิตร ญาติมิตรที่ดีควรปฏิบัติต่อกันอย่างไร

ทิศเบื้องหลัง คือ สามีภรรยา ควรปฏิบัติต่อกันอย่างไร

ทิศเบื้องล่าง คือ บริวาร (รวมถึงผู้บังคับบัญชาด้วย) ควรปฏิบัติต่อเขาอย่างไร

หากทุกคนดูแลทิศทั้ง 6 ของตนเองอย่างดี ก็สามารถเปลี่ยนสังคมได้ครับ

ผู้เยี่ยมชม

เป็นแต่ว่าเขาพยายามจะตั้งคำถามเท่านั้น แต่เขาอาจมาผิดเวที เพราะคำถามของเขาเป้นสิ่งที่ใครๆต่างรู้และเห็นมานานแล้ว และคนอื่นๆผ่านไปยังจุดอื่นแล้ว แต่เขาเพิ่งมาถึงและคิดว่าเป็นสิ่งใหม่น่าสนใจ จึงได้หยิบยกราวกับเป็นปัญหาใหญ่ เขาคิดว่าเขาคือผู้มองเห็นประเด็นนี้โดยคิดว่าไม่มีใครมองเห็นมาก่อน แล้วก็นำเสนอขึ้นมา