โลกเดือดร้อนวุ่นวายเพราะเหตุเหล่านี้ใช่ไหม?

ผู้เยี่ยมชม

แย่งกันทำมาหากิน

แย่งถิ่นกันอาศัย

แย่งคู่กันพิศวาส

แย่งอำนาจกันเป็นใหญ่

ลองคิดวิเคราะห์วิจารณ์กันนะครับว่าโลก คือหมู่สัตว์ทั้งหลายเดือดร้อนวุ่นวายเบียดเบียนกันอยู่ทุกวันนี้เพราะเหตุเหล่านี้หรือไม่

หนุ่มฮวงซุ๊ย....

ผู้เยี่ยมชม

เหตุเหล่านั้น แม้จะเป็นความจริงก็เป็นเพียงปลายเหตุ เหตุที่โลกวุ่นวาย เพราะคนเหล่านั้นมิได้เอาใจใส่ในตน ไม่ได้ดูแลตน ไม่ได้ปฏิบัติตนให้ถึงซึ่งความเจริญมีสติสัมปชัญยะ และศีล ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ จาคะ เมตตา เป็นต้น

ตอบเมื่อ: 16 ธ.ค.2004, 11:36 am

โลกนี้วุ่นวายหนอ โลกนี้ขัดข้องหนอ

ผู้เยี่ยมชม

ที่แสดงความคิดเห็นกันมา ผมเห็นว่า ล้วนเป็นเหตุทำให้โลกเดือดร้อนวุ่นวายทั้งนั้นเลยครับ น่าเสียดาย พอไปปฏิบัติจริง จะด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่ทราบ ที่ผ่านมาบุคคลที่มีอำนาจพอจะแก้ไขความวุ่นวายของโลกได้ (ผู้นำประเทศ) กลับไปมองว่าที่โลกเดือดร้อน เพราะเศรษฐกิจไม่ดี โดยคิดไปว่าถ้าทุกคนมีรายได้เพียงพอ ปัญหาความเดือดร้อนจะหมดไปเอง จึงได้ตั้งคณะกรรมการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติขึ้นมาหลายฉบับมากมาย แต่ก็ยังไม่อาจแก้ไขความเดือดร้อนของแม้แต่ในเมืองไทยเองได้เลย นี่ยังไม่ต้องมองไปถึงระดับโลกเลยนะครับ

นั่นก็เป็นเพราะว่า ปัญหาที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่เศรษฐกิจ เช่น คนจน ถ้าจะแบ่งกันจริงๆ แล้ว จะแบ่งเป็น จนเพราะไม่มี กับ จนเพราะไม่พอ ซึ่ง ถ้าคนที่จน เพราะมีสาเหตุจาก ไม่พอ ไม่ว่าจะแก้อย่างไรก็ไม่ได้เลย ถ้าไม่คิดแก้ที่ใจเขาก่อน ก็ต้องรอลุ้นดูว่ารัฐบาลชุดนี้ จะมีการนำหลักของคุณธรรมทางพุทธศาสนาเข้ามาร่วมแก้ปัญหาในประเทศบ้างหรือไม่

ตอบเมื่อ: 17 ธ.ค.2004, 3:00 pm

ผมคิดว่าที่โลกเราวุ่นวายอยู่ในปัจจุบันนี้เพราะคนเราไม่มองไม่ทบทวนในธรรมที่พระศาสนามอบไว้ให้ อย่างโลกธรรม 8 ไม่มีใครนำมาพิจารณาเลย ผมเคยนั่งคุยกับผู้ใหญ่หลาย ๆ คนไม่มีใครรู้จัก หากเราเข้าใจโลก ว่าเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่มีอะไรยั่งยืน คงไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นขนาดนี้

ผู้เยี่ยมชม

ใจเรานั่นแหละวุ่นวาย โลกมันก็เป็นไปของมัน

การทำให้คนทั้งโลกเป็นคนดีน่ะยากครับ ตัวเราต้องพร้อมก่อนดีก่อนเข้าใจก่อนจึงช่วยผู้อื่นได้โดยไม่มีผลข้างเคียง

ถ้าเราเข้าใจในธรรมชาติ ผมคิดว่าสนใจตัวเอง พัฒนาตัวเอง ไม่ใส่ค่าให้สิ่งอื่น เข้าใจในกฏไตรลักษณ์ , ทุกข์=อนิจจจัง=อนัตตา, มรรค8 และ อุปทานขันธ์5 (รู้+เข้าใจธรรมชาติ=ธรรมดา)

ก่อนจะดีกว่าตีค่าสิ่งอื่นว่าถูก ผิด

นี่เป็นความเห็นผมนะครับ ไม่ได้ว่าๆใครผิด ถูกอะไรนะครับ....ด้วยความเคารพ