Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
รบกวนถามเรื่องวิวัฒนาการครับ
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ชัยพร พอกพูล
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2006
ตอบ: 73
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
ตอบเมื่อ: 07 มิ.ย.2007, 8:24 pm
ออกจะเป็นคำถามที่อาจินไตย์ไปสักหน่อย (สงสัยคนถามคงใกล้จะบ้าแล้วกระมัง
)
ผมเคยอ่านในกระทู้ของเวปนี้ มีนักธรรมท่านหนึ่งมาตอบกระทู้ เนื้อหากล่าวถึงว่า โลกเรานี้มีการเกิดแล้วดับมาแล้วหลายกัป (ขออภัยล่วงหน้าครับ คำนี้พิมพ์ผิดแน่นอน รบกวนช่วยแก้ไขด้วยครับ) ซึ่งการเกิดดับนี้หมายรวมถึง ดวงดาวและจักรวาลด้วยใช่ไหมครับ แล้วมนุษย์เรานี้มีวิวัฒนาการจากสัตว์เซลล์เดียวจนเป็นคนในปัจจุบันนี้ทุกกัปเลยรึเปล่าครับ กระทู้นี้ออกจะล่อเป้าและล่อเวปมาสเตอร์พอสมควร (ล่อให้มาลบ อิอิ) เพราะผมเคยถกกับเพื่อนที่เป็นคริสต์ของผมคนหนึ่งเขาบอกว่ามนุษย์เป็นสิ่งสร้างของพระเจ้า ไม่มีการวิวัฒนาการใดๆ ทั้งนั้น คนไม่มีทางเป็นญาติกับลิงเด็ดขาด หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบนั้นก็ไม่หนักพอจะเชื่อว่ามีการวิวัฒนาการ (หลักฐานพวกฟอสซิลที่พบๆ กันนี้ยังไม่พออีกเหรอเนี่ย
) รบกวนผู้รู้ช่วยชี้ทางทีนะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ชัยพร พอกพูล
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2006
ตอบ: 73
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
ตอบเมื่อ: 07 มิ.ย.2007, 8:29 pm
เป็นอจินไตย์จริงๆน่ะแหล่ะครับ แต่ผมกับเพื่อนมักจะถกกันเรื่องพวกนี้แหละครับ ไอ้อันที่จะตอบว่ารู้ไปรังจะทำให้บ้าเปล่า ๆ ทุกครั้งนี่มันเหมือนกับเราจนแต้ม ตอบไม่ได้เลยเลี่ยงที่จะตอบน่ะครับ เลยขอรบกวนผู้รู้ช่วยทีนะครับ ขอบคุณครับ
_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ลอยดส์ เคบีซี
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 08 มิ.ย.2007, 11:14 am
วิวัฒนาการของคน ตามอัคคัญสูตร ในพระไตรปิฏก หลังโลกระเบิดไปแล้วเกิดโลกไหม่ คนมาจาก พวกชั้นพรหมละเอียดที่ไม่ได้รับแรงทำลายจาก ไฟน้ำลมบรรลัยกัลป์ระดับจักรวาล พวกพรหมละเอียดที่ฌานเริ่มเสื่อมมาโลกที่เกิดไหม่แล้วติดใจก็อพยพมาอยู่โลก ร่างกายพรหม ก็ค่อยค่อยหายจากกายละเอียดมาหยาบลงเรื่อยเรื่อยเป็นร่างกายที่มีเนื้อหนังแบบคนมีดีเอ็นเอ แล้วก็เกิดเพศและเซ็กซ์ตามมาแล้วก็เกิดคนกลายเชื้อชาติตามมามาฆ่ากันตามกิเลสและจิตที่หยาบลง นี่โลกวิวัฒนนาการด้านสสารอยู่ใต้วงจรปฏติจจสมุปบาทและกฏแห่งกรรมด้านสสารเพื่อรองรับสัตว์มีกิเลสอวิชชาวนเวียนสืบไปนั่นเอง//////// พรหมที่หยาบลงนั้นไม่ได้หยาบลงเป้นแค่พวกร่างกายคน พรหมที่มีละเอียดหยาบลง บางพวก กิเลสหนามากชอบไปอยู่ในน้ำทะเล ก็หยาบไปเป็นสัตว์เซ็ลล์เดียว แล้วสัตว์เซ้ลเดียวหรือพวกสัตว์นรกอื่นในจักรวาลอื่นที่ยังไม่ทำลายตัวเองบาปจางแล้วมีบุญพอมาอยู่ในโลกเกิดไหม่ ก็กลายมาเป็นสัตว์เซ็ลล์เดียวด้วย แล้วสัตว์เซ็ลล์เดียวบางพวกที่มีกรรมดีไห้ผลบ้างก็ค่อยค่อยเกิดตายสืบพันธ์ปรับตัวเป็นสัตว์หลายเซ็ลล์แบบต่างต่างจนมาไกล้เคียงกับคนนั่นเอง ตรงนี่เป็นความเห้นส่วนตัวของผมครับไม่เกี่ยวกับสำนักใด//////
ในตำราทางวิชชาธรรมกายของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ผู้เป็นภูมิปัญญาของสงฆ์และชาวพุทธไทยระดับชาติและโลก ได้บรรยายเรื่องการเกิดจักรวาลด้วยและภพภูมิด้วย ที่เป็นเรื่องเกิดก่อนเรื่องตามอัคคัญสูตรไปอีกช่วงเวลาหนึ่ง.....แต่ต้องอ่านด้วยความเคารพนะครับ เพราะมันเหนือปัญยาคนที่จะพิสูจน์ได้ด้วยเหตุผลจริงจริงเป็นอจินไตย
kanawat_ny
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 04 มิ.ย. 2007
ตอบ: 47
ตอบเมื่อ: 08 มิ.ย.2007, 3:24 pm
ตามหลักวิวัฒนาการทางวิทยาศาสตร์บอกว่า ลิงวิวัฒนาการมาเป็นคน
ลิงมาจากปลา
ปลามาจากสัตว์เซลล์เดียว
...
เมื่อก่อน บนโลกมีชายกะหญิง
แต่ปัจจุบัน มีเพศที่2 เพศ3 เพศ4
มีทอม ดี้ เกย์ ตุ๊ด กะเทย ไบร์
หรือว่าบรรดาที่กล่าวมาทีหลังนี้เป็นเพศที่วิวัฒนาการมาแล้ว
...
ปัจจุบัน ก็ไม่เคยเห็นลิงวัฒนาการเป็นคนเลยยยยยย
ขออภัยที่เขียน(สอดแทรกคลื่นสมอง)มาให้อ่านเล่น
_________________
กมฺมุนา วตฺตตี โลโก
ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์
(อิสระ ชีวา)
ใจสมถ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 10 มิ.ย.2007, 3:01 pm
พุทธสอนให้พิจารณาแต่เรื่องในปัจจุบัน กาลในภายหน้ายังมาไม่ถึงไม่ควรไปพิจารณามัน เรื่องที่มีผู้ชอบถามและมีผู้ชอบตอบเช่น โลกหลังความตาย ตายแล้วไปไหน การเกิด-ดับของโลก แล้วก็มีคำถาม-คำตอบถึงเรื่องนิพาน บรรยาถึงนิพาน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทั้งผู้ถาม-ผู้ตอบ(หมายถึงเราๆท่านๆ มิกล่าวถึงผู้ปฏิบัติชอบถึงสูงสุดแล้ว) ต่างก็ไม่เคยพบประสบมาแล้วเอามาคุยมาถามมาตอบกัน ก็คือจำเอามาจากตำรา หนังสือมาแสดงกัน ท่านอาจกล่าวว่าเป็นการศึกษาหาความรู้กัน ผู้ที่เข้าใจถึงคำสอนในพุทธศาสนาอย่างถึงแก่นแล้ว(เอาแค่เข้าใจ ไม่ต้องถึงขั้นรู้แจ้ง)จะไม่ถามถึงปัญหาเหล่านี้เลย ขอให้ท่านตั้งใจศึกษา พิจารณา นำไปปฏิบัติในคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างดีแล้ว ใจของท่านจะมีคำตอบขึ้นมาเอง
ศักดิ์
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 10 มิ.ย.2007, 3:47 pm
ขอร้องครับ พระพุทธเจ้าสอนหลายอย่าง ไม่ใช่แต่ปัจจุบันเท่านั้น ทรงสอนปัจจุบันสำคัญสุดเพราะเป็นผลมาจากอดีต และปัจจุบันเป็นเหตุแห่งอนาคต.......ผู้มีสติต้องเข้าใจว่าปัจจุบันจะมีผลต่ออนาคตอย่างไรในชาตินี้ของตน......ผู้เป็นอรหันต์นิพพานเท่านั้นตัดภพชาติหน้าได้หมดแท้ จึงมีสติว่า กาลปัจจุบันเป็นอนัตตาและกาลอนาคตเป็นอนัตตาสำหรับตัวเองเท่านั้น..
NongBua
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 10 ก.ค. 2007
ตอบ: 21
ตอบเมื่อ: 27 ก.ค.2007, 11:12 am
วิวัฒนาการไกลขนาดนั้นเราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่าวิทยาศาสตร์จะถูกต้องเสมอไปหรือเปล่า
เพราะเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานใดมาอ้างอิงได้ว่าเป็นเรื่องจริง 100%
โดยส่วนตัวเราเองคิดว่า (อาจจะเบาปัญญาไปหน่อย ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ)
ถ้ามนุษย์วิวัฒนาการมาจากลิงจริงๆ แล้วละก็ ลิงน่าสูญพันธุ์จากโลกนี้ไปได้แล้ว เพราะกลายมาเป็นมนุษย์ไปหมด
สำหรับเพศที่ 3 เพศที่ 4 นี่ไม่เกี่ยวกับการวิวัฒนาการแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องของจิตใจ
ถึงแปลงเพศแล้ว ก็ไม่ใช่วิวัฒนาการอยู่ดี เพราะเป็นการกระทำโดยมนุษย์ ไม่ใช่โดยธรรมชาติ
วิวัฒนาการของมนุษย์ที่เห็นได้ชัดในตอนนี้ ก็มีอยู่ 2 อย่าง ซึ่งล้วนแต่เป็นการวิวัฒนาการที่ไม่สมบูรณ์ทั้งสิ้น
อย่างแรกก็คือ ไส้ติ่ง เป็นผลมาจากการวิวัฒนการของมนุษย์ จากการบริโภคพืช มาเป็นการบริโภคเนื้อสัตว์
เดิมลำไส้ของมนุษย์จะมีขนาดยาวกว่าปัจจุบัน เพราะมนุษย์บริโภคพืชเป็นอาหาร ไม่เน่าเสียง่ายอย่างเช่นเนื้อสัตว์
พอมนุษย์หันมาบริโภคเนื้อสัตว์ ร่างกายจึงพัฒนาให้ลำไส้มีขนาดสั้นลง เพื่อที่จะได้ถ่ายเทของเสียออกไปได้เร็วขึ้น
ไม่สะสมอยู่ภายในร่างการนานเกินไป จนเกิดการเน่าเสีย
ซึ่งการวิวัฒนาการที่ยังไม่สมบูรณ์นี้ทำให้ส่วนปลายของลำไส้ กลายเป็นไส้ติ่ง
อย่างที่สองก็คือ ฟันคุด เพราะปัจจุบันนี้ อาหารบริโภคได้ง่ายขึ้น มนุษย์เรียนรู้ที่จะทำอาหารให้สุกก่อนรับประทาน
ทำให้การบดเคี้ยวง่ายขึ้น การใช้งานของกรามจึงลดน้อยลง เมื่อกรามทำงานน้อยลง จึงเป็นผลให้กรามแคบลง
พื้นที่ไม่เพียงต่อฟันชุดท้าย ซึ่งจะเป็นฟันกรามซี่ในสุดทั้ง 4 ซี่ ทำให้ขึ้นมาซ้อนเก และเกิดฟันคุดในที่สุด
ในบางรายฟันชุดสุดท้ายนี้จะไม่ขึ้นเลย จึงไม่เกิดฟันคุด แต่จะมีฟันแท้ทั้งหมดเพียง 28 ซี่เท่านั้น
เรื่องฟันคุดนี้เราถามมาจากทันตแพทย์ เพราะเพื่อนรุ่นเดียวกันไปผ่าฟันคุดกันมาหมดแล้ว
เหลือเพียงแต่เราเท่านั้นที่ไม่ยอมขึ้นมาสักที เลยไปถามคุณหมอ เพื่อหาวิธีป้องกัน
สรุปว่าฟันชุดสุดท้ายของเรานี้อาจจะไปไม่ขึ้น เราจึงมีฟันแท้แค่ 28 ซี่จ้า
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th