Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เขาถามน่าสนใจ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 09 พ.ค.2007, 6:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คำถามนี้นำมาจากลิงค์ข้างล่าง

http://dhammathai.org/webboard/view.php?No=6658

เห็นว่า มีประโยชน์จึงนำมาถามที่นี่...เขาถามว่า....

-มีการถกเถียงกันพอสมควร ตามเว็บธรรมะ และตามสำนักปฏิบัติกรรมฐาน เรื่องใช้

บริกรรมภาวนา

บ้างก็ให้บริกรรมพุทโธๆ บ้าง พองหนอยุบหนอบ้าง อื่น ๆอีกบ้างตามอาการลมหายใจ ตามที่เคย

ได้ยินมา

กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยก็ว่า สมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้ามิได้สอนให้บริกรรม...ดังกล่าว จึงไม่ตรงกับพระ

ไตรปีฎก ที่สอนว่า

หายเข้าสั้นก็รู้ว่าหายใจเข้าสั้น เป็นต้น ไม่ได้สอนให้บริกรรมสะหน่อย

เพราะฉะนั้นสอนให้บริกรรมจึงผิดพุทธวจนะ

ทำให้ผู้ใหม่สับสน

ขอถามท่านผู้แตกฉานในธรรมะปฏิบัติว่า มีความเห็นในกรณีนี้อย่างไร ?

สมัยพุทธกาลมีสอนให้บริกรรมบ้างไหม ? มีหลักฐานตรงไหนบ้างที่สอนให้บริกรรม
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 09 พ.ค.2007, 6:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับ เคยอ่านพบเจอที่ไหนกันบ้างไหม ที่พระพุทธเจ้าสอนให้บริกรรม
อยากให้วิจารณ์ธรรมกันดูนะครับ
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
aratana
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 พ.ย. 2006
ตอบ: 90
ที่อยู่ (จังหวัด): ร้อยเอ็ด

ตอบตอบเมื่อ: 09 พ.ค.2007, 7:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คำบริกรรม เป็นเพียงอุบาย ที่ทำให้ จิตงดการ "ปรุงสังขาร"
เพื่อเข้าสู่ "ความสงบ" สงัดจากขันธ์ทั้งหลาย ให้จิตเป็นอิสระ จาก"โลกธรรม"

จิต...จึงจะสามารถเข้าถึงความละเอียดแห่งธรรมได้ตามลำดับ จากหยาบไปหาพิสดาร

การยึดติดกับ การบริกรรมแบบใดแบบหนึ่ง อย่างจริงจัง ก็จะเป็น "อุปาทาน" ไม่ใช่ "สมาทาน" จึงเป็นการยกโทษให้กับจิต จิตจะไม่ปล่อยวาง

ดังนั้น จริงๆแล้ว บริกรรมอย่างไรก็ได้ที่ เหมาะกับ จริตแห่งตนก็ใช้ได้หมด

แต่ พุทธบุตรแท้แล้ว การน้อมเอารูปแบบแห่งพระศาสดา มาใช้ นับเป็นการดำเนินตามพระองค์อย่างไม่มี วิตกจริตเลย

.......อนุโมทนา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2007, 7:25 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอบว่า เคย "รโชหรณัง รโชหรณังๆๆ" ที่สอนพระจุลปันถกให้บริกรรมผ้าขาวพร้อมกับเอาลูบผ้านั้น "รโชหรณังๆ"
 
สมพร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2007, 12:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ภาวนาแบบไหนก็ได้หมด เหมือนกับที่คุณaratana บอกถูกต้องแล้วครับ ส่วนการที่จะฝึกกสินก็จำเป็นต้องมีคำภาวนาต่างหาก ตามแต่กสินนั้นๆครับ เพราะคำภาวนาจะมีกำลังต่างกันครับ
แต่ถ้าทำเพื่อให้จิตเป็นสมาธิ ใช้คำภาวนาแบบไหนก็ได้ครับ
 
นวโยคี
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 04 พ.ค. 2007
ตอบ: 20
ที่อยู่ (จังหวัด): bkk

ตอบตอบเมื่อ: 11 พ.ค.2007, 8:45 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใน อนุสติ 10 ข้อที่ว่า พุทธานุสติ ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า เราจึงใช้คำว่า พุท โธ เป็นการระลึกถึงพระพุทธเจ้า ก็ไม่เห็นผิดจากคำสอนตรงไหน

ในการเพ่งกสิณ สีต่างๆ ท่านก็สอนให้บริกรรม ลองไปศึกษาดูได้ครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121

ตอบตอบเมื่อ: 11 พ.ค.2007, 9:20 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บริกรรมด้วยคำต่างๆสามารถภาวนาได้โดยปัญญา แต่ไม่สามรถภาวนาได้โดยสัจจธรรม เนื่องจากไม่ตรงกับสภาวะที่ใหลเลื่อนเคลื่อนตัวอยู่ตลอด เช่น นั่งไปแล้ว ปวดหลัง แต่ไปภาวนาว่าพุทธ โธ มันก็ไม่ตรงสภาวะความเป็นจริง เป็นหินทับหญ้า เมื่อเราออกจากสมาธิเราไม่สามารถที่จะภาวนา พุทธโธได้ แต่ถ้าเราภาวนาแบบปรมัตถธรรม ถึงแม้เราจะออกจากการนั่งปฏิบัติ เราก็สามารถที่จะ มีสมาธิอยู่ได้ด้วยการอยู่กับปัจจุบัน

May the Dhamma be with you. ขอธรรมจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลาย สาธุ
 

_________________
ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
Atago
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 พ.ค.2007, 5:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จะใช้คำบริกรรมหรือไม่ก็ดี อยู่ที่ สติ เป็นพื้นฐานอยู่ตลอดเวลา ต้องศึกษาสติปัฏฐาน ๔ ให้เข้าใจ ก็จะหมดความสงสัย
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 11 พ.ค.2007, 9:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

http://larndham.net/index.php?showtopic=26120&st=1
การศึกษาธรรมแต่เพียงด้านใดด้านหนึ่งด้านเดียวแล้วมักจะติดตัน ดูคำตอบของท่านหนึ่งตามลิงค์ข้างบน
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง