ความผูกพันธ์จากชาติที่แล้วจริงหรือไม่ ???

ผู้เยี่ยมชม

ขอบคุณทุกๆความคิดเห็น ข้อเสนอแนะทั้งหมด มีประโยชน์
ต่อดิฉันมาก เพราะพออ่านแล้วรู้สึกสบายใจอย่างที่สุด
ตอนนี้รู้สึกอาการไม่ทรมาน ทุรนทุราย เหมือนตอนแรกๆ
เป็นแค่ความรู้สึกคิดถึงเฉยๆ ไม่มีเรื่องเพศสัมพันธ์มาปน
แต่บางครั้งก็เกิดมีบ้าง นีกถึงข้อคิดเห็นในบอร์ดนี้ ช่วย
บรรเทาได้มากจริงๆ ขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งที่พยายาม
ช่วยให้ดิฉันได้หลุดพ้นจากอาการและความรู้สึกเหล่านี้
ถือว่าเป็นบุญของดิฉัน ดิฉันคงมีบุญบ้างถึงได้เข้ามาในบอร์ดนี้ได้

ตอบเมื่อ: 24 ส.ค. 2006, 6:25 pm

สวดมนต์เสร็จให้กล่าวขออโหสิกรรมต่อชายที่คุณคิดถึง และแผ่เมตตา ทำบ่อยๆอาการที่คุณพูดมานี้จะดีขึ้น อย่าตามใจตัวเองเพราะจะนำตัวเองไปตกสู่โลกที่ชั่ว คิดจะทำดีต้องฝืนใจ ไม่มีใครช่วยคุณได้นอกจากตัวคุณเอง

ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2006, 4:28 pm

"ไม่รู้เป็นเวรกรรมหรือเปล่าเคยไปว่า
คนอื่นเขาไว้ (อะไรกรรมจะตามเร็วขนาดนั้น)"

ก็เป็นไปได้นะคะ เพราะเคยเห็นคนที่ว่าคนอื่นแล้วเข้าตัวก็มีอยู่
อย่าคิดว่าวจีกรรมไม่ส่งผลแรงนะ
บางทีแค่คิดก็เป็นได้เหมือนกัน

คิดว่าคุณอาจวุ่นวายใจอยู่ คงต้องเจริญสติ และพยายามตัดความคิด หาอ่านในหัวข้อเกี่ยวกับการทำสมาธิ หรือ กรรมฐาน ดูนะคะ น่าจะดีขึ้น เข้มแข็งนะคะ

ผู้เยี่ยมชม

เปรียบเทียบเข้ากับ "ไตรสิกขา" ศีล สมาธิ ปัญญา
ศีล ประกอบด้วยการกระทำของ กาย 1 วาจา 1 ใจ 1 จะเห็นได้ชัดว่าแม้เพียงผิดที่ใจก็ก่อให้เกิดทุกขเวทนาแล้ว ถ้ากระทำผิดทั้งกาย และใจด้วย คงจะหาทางแก้ได้ยากและต้องรับวิบากที่รุนแรงขึ้น ขออนุโมทนาที่คุณยับยั้งวาจาและกายได้ แตจะดียิ่งขึ้นถ้าบริสุทธิได้ท้งกายวาจาและใจ จะเห็นได้แล้วว่า"ศีลเป็นสิ่งรักษาตัวคุณจากความทุกข์ได้"
การจะทำให้ใจหลุดพ้นจากอำนาจกิเลสได้โดยสิ้นเชิง ต้องอาศัยกำลังของ "สมาธิ และปัญญา"ประกอบกันให้ถึงที่สุด มีผู้ตอบ ให้คุณได้เห็นทางแล้ว แต่คุณจะเดินไปได้ถึงหรือไม่ก็แล้วแต่ตัวคุณเอง
วิบากที่ได้รับ แน่นอนว่าเกิดจากผลกรรมที่เราได้กระทำมาไม่ว่าชาตินี้หรือชาติก่อนคุณไม่ต้องไปกังวลถึงอดีตที่ผ่านมาแล้ว(เพราะแก้ไขอะไรไม่ได้) ไม่ต้องห่วงถึงอนาคต(เพราะจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการกระทำหรือกรรมในปัจจุบัน) ฉะนั้นจงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
ชีวิตคุณประกอบด้วย 5 สิ่ง คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (ขันธ์ 5) สิ่งที่เกิดขึ้นคือคุณนำสัญญา(ความจำ) มาปรุงแต่ง(สังขาร) ก่อให้เกิดเวทนา(ความรู้สึกทุกข์)
เพราะฉะนั้นวิธีแก้ก็ต้องหาทางไม่นำสัญญานั้นมาปรุงแต่ง โดยใช้กำลังของสมาธิ ให้มีสติตั้งมั่นอยู่ในกายของเรานี้ก็ได้ ให้รู้ตัวตลอดเวลาว่าขณะนี้เรากำลัง ยืน เดิน นั่ง นอน และมีกิริยาอาการเคลื่อนไหวของร่างกายอย่างไร (กายานุสติปัฏฐาน) เริ่มต้นจากตรงนี้ก่อนก็ได้ แล้วลองหาความรู้เรื่อง"สติปัฏฐาน 4" ปฏิบัติต่อจนเกิดปัญญาให้มองเห็นหนทางแก้ไขได้ด้วยตนเอง
มีข้อปฏิบัติอยู่ข้อหนึ่งถ้าผมจำไม่ผิด "ไม่ควรมองเพศตรงข้าม ถ้าต้องมองก็ไม่ควรพูด ถ้าต้องพูดก็ควรพูดแต่เรื่องธรรม ควรสำรวมอินทรีย์ทั้งหมดจะเป็นเกราะป้องกันตัวได้"

ผู้เยี่ยมชม

ขอบคุณทุกท่านที่ได้ชี้แนะให้ดิฉันพ้นจากความรู้สีกนี้
ตอนนี้กำลังพยายามอยู่ค่ะ แต่ไม่รู้เป็นอะไร เห็นหน้า
เขา น้ำตาไหลทุกที

ผู้เยี่ยมชม

เรื่องอย่างนี้มันไปเกี่ยวกับกรรมตรงไหน
เจ้าของกระทู้จิตฟุ้งซ่านเองต่างหาก แต่ก็ยัง
มีผู้ใจบุญมาตอบเป็นกำลังใจให้แฮะ ได้บุญกันทั่วหน้า

ตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2008, 9:04 pm

ตอบเมื่อ: 23 ส.ค. 2008, 10:03 pm

นานาจิตตัง อืมม์