Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เมื่อมีบุญเท่านี้ถึงไปสวรรค์ได้ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
พัทธ์ญาณ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ค.2006, 9:54 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อหักล้างบาป บุญแล้ว

ถ้า....จำนวนบาปมีมากกว่าจำนวนบุญ ให้ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานตามกรรมแห่งตน
ถ้า....จำนวนบุญมีมากกว่าจำนวนบาป แต่ ไม่ถึง 3 000 บุญ จักได้เกิดเป็นมนุษย์อีก
ถ้า....จำนวนบุญมี มากกว่าบาปตั้งแต่ 3,000 บุญขึ้นไป จักได้เป็นเทพชั้นล่าง
ถ้า....จำนวนบุญมีมากกว่า 10,000 บุญขึ้นไป จักได้เป็นเทพชั้นกลาง
ถ้า....จำนวนบุญมากกว่า 15,000 บุญขึ้นไป จักได้เป็นเทพชั้นสูง
ถ้า....จำนวนบุญครบ 100,000 บุญขึ้นไป จักได้เป็นพุทธะเทพเจ้า ณ สุขาวดีแสนสุขสันต์ ส่วนผู้สร้างบาปหนัก จักตก อเวจี ตลอดกาล

ลองดูหน่วย บาป บุญ กันนะ
- พูดเท็จ กล่าวคำหยาบ นินทาผู้อื่น 1 ครั้ง................................ 1 บาป
- เสียสัจจะ ผิดนัด 1 ครั้ง..................................................... 3 บาป
- เล่นการพนัน 1 ครั้ง...........................................................5 บาป
- ตั้งบ่อนการพนัน 1 ครั้ง...................................................100 บาป
- เมาสุรา 1 ครั้ง..................................................................6 บาป
- กินเนื้อวัว เนื้อสุนัข 1 ครั้ง....................................................1 บาป
- พิมพ์หนังสือธรรมะแจก 1 เล่ม..............................................3 บุญ
- ทำบุญให้ทาน ..................................................................1 บุญ
- ลักทรัพย์, ฉ้อโกง, ทุจริต,รับทรัพย์อันมิชอบธรรม 50บาท...........1 บาป
- ขายของปลอม ของเสื่อมคุณภาพ 1 ครั้ง................................ 5 บาป
- โกงตาชั่ง 1 ครั้ง..............................................................10 บาป
- เสียภาษีครบถ้วน 1 ครั้ง..................................................... 5 บุญ
- หลีกเลี่ยงภาษี 1 ครั้ง ........................................................8 บาป
- ทะเลาะวิวาท ฟ้องร้องกัน 1 ครั้ง.......................................... 2 บาป
- ถอนคดี, ถูกหมิ่นประมาทอดกลั้นไม่เอาเรื่อง 1 ครั้ง................ 50 บุญ
- การให้บำเหน็จ การลงโทษขาดยุติธรรม 1 ครั้ง.........................3 บาป
- ลงโทษผู้ไร้ความผิด 1 คน...............................................100 บาป
- โยนความผิดให้ผู้อื่น 1 เรื่อง.............................................100 บาป
- ทิ้งขยะลงถนน, คู คลอง 1 ครั้ง..........................................0.4 บาป
- ปิดกั้นสัญจรทางน้ำหรือทางบก 1 ครั้ง.................................400 บาป
- เที่ยวซ่อง 1 ครั้ง............................................................100 บาป
- ข่มเหงรังแกผู้อ่อนแอกว่า 1 ครั้ง.......................................... 3 บาป
- ไม่ยอมรับสินบนทำตามหน้าที่เคร่งครัด 1 ครั้ง......................... 8 บุญ
- ช่วยเหลือผู้ประสบภัย 1 ครั้ง..............................................10 บุญ
- พบเห็นคนประสบอุบัติเหตุไม่ช่วยเหลือ 1 ครั้ง........................10 บาป
- ภรรยาบ่นว่าสามี 1 ครั้ง......................................................3 บาป
- สามีภรรยาทะเลาะกัน 1 ครั้ง................................................2 บาป
- หญิงครองหม้ายไม่ด่างพร้อยตลอดชีวิต ........................ 10,000 บุญ
- คบชู้ 1 ครั้ง .................................................................100 บาป
- แย่งสามีหรือภรรยาผู้อื่น 1 คน.......................................1,000 บาป
- มีสามีเดียวหรือภรรยาเดียวตลอดชีพ ..............................1,000 บุญ
- ทิ้งลูกทิ้งสามีหรือภรรยา 1 คน.......................................1,000 บาป
- เชื่อฟังบิดามารดา 1 ครั้ง....................................................5 บุญ
- ขัดคำสั่งบิดามารดา 1 ครั้ง................................................10 บาป
- เลี้ยงดูบิดามารดา 1 ครั้ง .................................................. 1 บุญ
- ไม่เหลียวแลบิดามารดา 1 วัน.......................................... 0.5 บาป
- เนรคุณบิดามารดา..................................................... 2,000 บาป
- ปรนนิบัติบิดามารดาด้วยความกตัญญูตลอดชีวิต.............100,000 บุญ
- โกรธเคืองพ่อแม่ 1 ครั้ง .....................................................1 บาป
- พี่น้องสามัคคีไม่แก่งแย่ง ............................................... 100 บุญ
- พี่น้องโกรธเคืองกัน .......................................................100 บาป
- ถูกดูหมิ่นไม่โกรธ 1 ครั้ง.....................................................1 บุญ
- โกรธไม่หาย 1 ครั้ง............................................................3 บาป
- ดื่มสุรา 1 ชาติ...............................................................900 บาป
- คืนดีกัน, ให้อภัย 1 ครั้ง......................................................3 บุญ
- พยาบาท คิดแก้แค้น 1 เรื่อง................................................3 บาป
- สวดมนต์ไหว้พระ 1 ครั้ง.....................................................1 บุญ
- กิริยาวาจาสุภาพ 1 ครั้ง................................................... 0.5 บุญ
- ผู้น้อยรับใช้ผู้อาวุโส 1 ครั้ง................................................ 3 บุญ
- ลบหลู่ครูอาจารย์ 1 ครั้ง......................................................1 บาป
- ยกย่องครูอาจารย์ 1 ครั้ง....................................................1 บุญ
- ประพฤติตนเป็นคนดี / ชาติ.......................................... 1,000 บุญ
- ประพฤติเกเร เป็นอันธพาลไม่กลับตัว / ชาติ .....................1,000 บาป
- ช่วยชีวิตคน 1 ชีวิต........................................................100 บุญ
- ฆ่าคน 1 ชีวิต.............................................................1,000 บาป
- ฆ่าตัวตาย ................................................................1,000 บาป
- ฆ่าข่มขืน 1 ชีวิต ......................................................10,000 บาป
- สละชีพเพื่อชาติ ........................................................1,000 บุญ
- ก่อการจลาจล, ทำให้เกิดความวุ่นวายแก่บ้านเมือง 1 ครั้ง ....1,000 บาป
- ใช้ไสยศาสตร์ทำร้ายคน 1 ครั้ง......................................... 80 บาป
- บำเพ็ญธรรมจริงจัง (ละชั่วทำดี)...................................10,000 บุญ
- ทำแท้ง 1 ครั้ง.......................................................... 1,000 บาป
- ทิ้งธัญญาหาร (ข้าว) 10 เม็ด ............................................ 1 บาป
- บริการให้ความสะดวกผู้อื่น 1 ครั้ง........................................ 1 บุญ
- ปล่อยนกปล่อยปลา 1 ตัว ................................................. 1 บุญ
- พูดล้อเลียนคนอัปลักษณ์ มีปมด้อย 1 คำ ............................. 5 บาป
- บริจาคยารักษาโรค 1 ครั้ง ..................................................3 บุญ
- ส่งเสริมคนทำชั่ว 1 ครั้ง .....................................................4 บาป
- พูดหยาบคายลามก 1 ครั้ง ............................................... 10 บาป
- ทำหน้าที่แม่บ้านดูแลบ้านเรือนเรียบร้อย 1 วัน .......................... 3 บุญ
- สร้างหนังสือลามก 1 เรื่อง............................................ 3,000 บาป
- แสดงหนัง-ละครลามก 1 ครั้ง ..........................................100 บาป
- อดกลั้นตัณหาราคะ 1 ครั้ง................................................ 10 บุญ
- ฆ่ากุ้งหอยปูปลาปรุงอาหาร 10 ตัว....................................... 1 บาป
************************************
 
ภูเขาน้ำแข็ง
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 13 พ.ค. 2006
ตอบ: 46

ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ค.2006, 10:04 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตื่นเต้น รู้ได้ไงหว่า
ซึ้ง น่าจะมีที่อ้างอิงด้วย จะไปอ่านดู

สาธุ
 

_________________
อย่าดับความอยากด้วยการสนอง จงดับโดยวางเฉย
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ค.2006, 11:54 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ข้อมูลจาก อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย

มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ตามธรรมชาติของจิต เมื่อมีอารมณ์มาปรากฏทางทวารใด จิตหรือวิญญาณจะเกิดขึ้นเพื่อรับอารมณ์ทางทวารนั้น

เช่น เมื่อมีเสียงมาปรากฏทางหู

โสตวิญญาณวิถีจะเกิดขึ้นเพื่อรับรู้เสียงนั้น

โสตวิญญาณจะเกิดดับเร็วมากเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน

สลับกับมโนวิญญาณวิถีที่เกิดขึ้นทางใจ

เพื่อตีความหมายของเสียงที่กำลังปรากฏอยู่

เมื่อรู้ความหมายว่าเป็นเสียงชมเชยก็จะมีความยินดีพอใจ

แต่หากเป็นเสียงด่าก็จะเกิดโทสะ

ถ้ามีสติยับยั้งไว้ได้ก็ดีไป

แต่เมื่อใดที่ขาดสติก็จะเกิดการตอบโต้ทางกาย (กายกรรม)

เช่น ไปชกหน้าผู้ที่กำลังด่าเรา

หรือทางวาจา (วจีกรรม)

เช่น ด่าตอบไปทันที

ซึ่งเป็นการสร้างกรรมใหม่ที่จะต้องได้รับผลของกรรม (วิบาก)

ในอนาคตต่อไป



ใจจะเป็นผู้สั่งให้เกิดการกระทำทางกายและทางวาจา

ทั้งที่เป็นบุญ (กุศลกรรม) และที่เป็นบาป (อกุศลกรรม)

บางครั้งก็เพียงแต่คิดไว้ในใจ (มโนกรรม)

โดยที่ไม่ได้แสดงออกทางกาย หรือ ทางวาจาเลยก็มี



การแสดงออกทางกายและทางวาจาที่เป็นบุญ

เรียกว่า กายสุจริต วจีสุจริต

ส่วนการแสดงออกทางกายและทางวาจาที่เป็นบาป

เรียกว่า กายทุจริต วจีทุจริต



กรรม ที่ทำด้วยเจตนาดี มีจิตสะอาดผ่องใส

ผลลัพธ์จะออกมาเป็นความสุขท่านเรียกว่า บุญ

ส่วนกรรมที่ทำด้วยเจตนาไม่ดี มีจิตเศร้าหมอง

จะส่งผลออกมาเป็นความทุกข์ ท่านเรียกว่า บาป

กรรมที่กระทำไว้แล้ว ไม่ว่าดีหรือชั่วย่อมไม่สูญหายไปไหน

เพราะกรรมสามารถติดตามไปให้ผลได้ ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า



ปัญหาที่น่าสงสัยคือ เราสั่งสมกรรมไว้ได้อย่างไร

มีใครจดบันทึกบัญชีกรรมของเราไว้

เหมือนบัญชีเงินฝากในธนาคารหรือไม่



คำตอบก็คือ บุญบาปที่เราทำไว้

ไม่ต้องมีใครมาติดตามจดบันทึกไว้

เพราะจิตสามารถในการสั่งสมบุญและบาป

เมื่อเราได้กระทำกรรมใด ๆ ลงไป ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว

แม้จะนานสักเพียงใดก็ตาม จะกี่ภพกี่ชาติก็ตาม

ผู้กระทำย่อมจะต้องได้รับผลของ บุญและบาป เมื่อกรรมมีโอกาสส่งผล



ถึงแม้จิตจะเกิดดับอยู่ตลอดเวลาก็ตาม

แต่ผลกรรมที่ได้กระทำไว้ ไม่ว่าจะเป็นบุญหรือเป็นบาป

ก็จะไม่สูญหายไปพร้อมกับการดับของจิตแต่ละดวง

ทั้งนี้ เพราะจิตดวงใหม่มีเหตุปัจจัยมาจากจิตดวงเดิม

และจิตดวงใหม่ที่เกิดขึ้นมานั้น

ก็เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้แก่จิตดวงต่อไปเช่นกัน



การที่จะเกิดมาเป็นมนุษย์ได้นั้น

จะต้องอาศัยผลของบุญกุศลในอดีต

ครั้นหมดเหตุหมดปัจจัยของบุญกุศล ก็ต้องตายไปจากโลกมนุษย์

เมื่อตายไปแล้วก็ต้องเกิดอีก

การเกิดใหม่ก็ต้องอาศัยเหตุปัจจัยชุดใหม่

ทำให้ชีวิตเกิดขึ้นมาใหม่อีก

สุดแล้วแต่เหตุปัจจัยใหม่นี้ จะเป็นกุศลหรืออกุศล



ถ้าเป็นกุศลก็จะปฏิสนธิ (เกิด) ในสุคติภูมิ

คือเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดา

ถ้าเป็นอกุศลก็จะปฏิสนธิในอบายภูมิ

คือเกิดเป็น สัตวนรก เปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉาน

แล้วแต่เวรกรรมของตน



ชีวิตของคนเราและสัตว์ทั้งหลาย

จึงต้องเวียนเกิด เวียนตาย ตามอำนาจของกรรมและกิเลส


http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=507

มหาสติ

ฝึกสติจนเป็นมหาสติ ขั้นจางคลายจากทุกข์และพ้นทุกข์

อันหมายถึงการฝึกให้มีสติ ให้รู้เท่าทันและเข้าใจ(ปัญญา)ในเวทนาหรือจิตสังขาร(ความคิดและคิดนึกปรุงแต่ง) แล้วปล่อยวางโดยการถืออุเบกขา(โพชฌงค์๗)เป็นกลาง วางทีเฉย โดยการไม่เอนเอียง ไม่แทรกแซง ไม่ปรุงแต่งไปในเรื่องนั้น ไม่ทั้งในทางดีหรือชั่ว คือ ถูกก็ไม่ ผิดก็ไม่, ดีก็ไม่ ชั่วก็ไม่ หมายถึงไม่ไปยึดมั่นหมายมั่นในดีชั่ว บุญบาป เป็นสภาพที่เรียกได้ว่า เหนือบุญเหนือบาป เหนือดีเหนือชั่ว หรือเหนือกรรมนั่นเอง จนเกิดความชำนาญอย่างยิ่งอันเกิดแต่การสั่งสมอบรมประพฤติปฏิบัติอย่างถูกต้อง เกิดการประสานกันอย่างกลมกลืน ในที่สุดก็จะเกิดมหาสติขึ้น
ผีเสื้อ

http://www.nkgen.com/718.htm
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ภูเขาน้ำ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ค.2006, 3:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ อนุโมทนา
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง