" ต้นเหตุปัญหาสังคมไทยในปัจจุบัน "

ผู้เยี่ยมชม

ปัจจุบัน ปัญหาเด็กไทยมีมากมาย ผมเขียนchart นี้เพื่อให้เห็นว่าต้นเหตุจริง ของปัญหา อย่างเดียว ตัวผู้ใหญ่ จึงอยากวิงวอน

- วิงวอนผู้ใหญ่ ที่เป็นครู อาจารย์ ช่วยสั่งสอนลูกศิษฐ์ท่าน ให้มีคุณธรรมด้วย อย่าเน้นแต่ความสามารถอย่างเดียว สั่งสอนว่าเมื่อโตขึ้นให้ประกอบอาชีพด้วยจรรยาบรรณ ให้เป็นคนดีของสังคม อย่าเป็นเน้นค่านิยม ตามกระแสเงิน ทุนนิยม อย่าไปเป็นคนไม่รู้จักพออย่างนายก รัฐมนตรีเรา

- วิงวอนท่านผู้ปกครอง ให้มีเวลาให้ครอบครัว ท่าน ให้การอบรม ให้ความเมตตา กับบุตรของท่าน เป็นที่ปรึกษาให้บุตรท่านยามมีปัญหา พาเข้าวัดฟังธรรม บ้าง ก็จะเป็นภูมิคุ้มกัน ให้ลูกท่านทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

- วิงวอน ผู้ใหญ่ นายทุน ให้มีจรรยาบรรณ ในการขายของ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่ผิดศีลธรรม ไม่ใช่เน้นแต่เงิน ไม่ดูความถูกต้อง และ ปัจจุบันเทคโนโลยี เข้าถึงเยาวชนได้ง่าย อยากให้นึกถึงเวรกรรมที่ท่านจะได้รับ มีมากมายที่กฏหมายไม่ได้เอาผิดกับท่าน ไม่ได้เน้นเรื่องศีลธรรม ปล่อยให้สื่อลามก กระจายอยู่ทั่ว ถ้าคิดว่าเด็กๆ เป็นลูกหลานท่าน ก็ควรสำนึกซะบ้าง ยิ่งผู้ทำหนัง ทำละคร ทำหนังที่สะอาด และ สร้างสรร อาจจะยาก ไปเน้น ให้อินเตอร์ นี่คือ ผู้ใหญ่ ที่คิด น้อย คิดแค่เฉพาะตัว แค่หากำไร ได้ น่าถูกสังคมประนาม

อาจเพราะกฏหมายบ้านเราไม่เข้มงวด ประกอบกับ ผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัวมากมาย ปัญหาจึงไปตกแก่เยาวชน ปัจจุบันมีการพยายาม ผลักดันให้สอนเรื่องเพศศึกษาให้มาก จะให้มีการจำหน่ายถุงยางในสถานศึกษา นี่คือ การแก้ ที่ปลายเหตุ ผมเห็น คุณป้า ระเบียบรัตน์ พยายาม สร้างสังคม ให้มีเกณฑ์ในการนำเสนอของสื่อ ก็ขอชื่นชมด้วยใจ ว่าสังคมเรายังมีคนดีอยู่ อยากให้เราผู้ใหญ่ ช่วยกันสอดส่อง พบอะไรไม่ดี ปัจจุบันเรามีหน่วยเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม หากพวกเราช่วยกัน สังคมคงดีขึ้น

ผู้เยี่ยมชม

เรื่องนี้ใหญ่มาก ๆ

จะแก้โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฝ่ายเดียวหาสำเร็จไม่ ทั้ง 3 สถาบัน ต้องจับมือร่วมกันทำอย่างจริงจังต่อเนื่องทำไปพร้อม ๆ กัน ได้แก่

1)สถาบันครอบครัว

2) สถาบันการศึกษา

3) สถานบันการปกครอง คือ นักการเมืองทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ

--สถาบันครอบครัวคือพ่อแม่ ต้องมีความพร้อม ที่จะปั้นเขา (ลูก) ขึ้นมา เมื่อเค้าเกิดมาแล้วต้องให้ความรักเอาใจใส่ดูแล ฯลฯ เป็นแบบอย่างทางกายและวาจาที่ดีในบ้าน ปลูกฝังสิ่งที่ถูกต้องดีงามทางคุณธรรมให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก ๆ เพื่อเป็นพื้นฐานทางจิตวิญญาณ ฯลฯ

--สถาบันการศึกษาคือครูอาจารย์ที่โรงเรียน ฯลฯ โดยเริ่มจากชั้นอนุบาลขึ้นไปเลย สานต่อจากสถาบันครอบครัว.....และเสริมสร้างสิ่งที่ยังพร่องให้....ส่งต่อเป็นลำดับ ๆ ไป จนถึงมหาวิทยาลัย....

--สถานบันการปกครอง คือ รัฐ ซึ่งบริหารบ้านเมือง เจ้ากระทรวงทบวงกรมต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประชาชน ต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่มีอคติ ฯลฯ ยกย่องปกป้องคนดี ข่มผู้ที่ควรข่ม ไม่ลูบหน้าปะจมูก ฯลฯ.........

มีโจทย์ถามเล่น ๆ ว่า ณ เวลาเนี๊ยะ สถาบันดังกล่าวเดินไปด้วยกันแล้วหรือยัง

หรือว่าทางครอบครัวไปทาง ครูบาอาจารย์ไปทาง นักการเมืองไปทางหนึ่ง.....

ผู้เยี่ยมชม

อะไรที่เราควรปลูกฝังเมื่อยังเป็นเด็ก

เป็นที่น่า สังเกตว่า คนไทยนั้น มี ทัศนวิสัย ในการมอง โลกค่อนข้าง จะจำกัดและไม่ยอมรับ ความจริงใน สังคมในบางเรื่อง จนทำให้เกิดปัญหา ต่าง ๆ ตามมาอย่างสุดจะแก้ไขได้ ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จะไม่มีใคร กล้าออกมาเผชิญ หรือ โต้ตอบ หรือ แอ่นอกยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้น การแก้ปัญหาในเรื่องต่างๆ จึงอาจจะทำ ให้ช้าลงได้ อะไรที่เราควรปลูกฝังเมื่อ เรายังเป็นเด็ก เราเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ และจดจำไว้เป็นแบบในการดำเนินชีวิต ในบางเรื่อง พ่อแม่สอนเรารับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เราก็ยังจำ แต่ทุกอย่างที่พ่อแม่ พาทำ เราจะเกิดความประทับใจพ่อแม่ พาใส่บาตร พาไปวัด กราบพระ ไหว้พระ สวดมนต์ ทำบุญ หัดกล่าวคำขอศีล ทั้งหมดเป็น ภาพที่ดีที่เราภูมิใจ ที่จดจำมาตลอด ดังนั้น พ่อแม่ในปัจจุบัน จึงควรแนะ นำการทำบุญทำกุศล สร้างความดี ทำบุญให้ทานตามโอกาส ให้เป็นตัวอย่างแก่ลูกๆ ควรตั้งจิตอธิษ-ฐานในการ ทำความดี ในการทำบุญหรือ สร้างประโยชน์ แต่ละครั้งให้ดี เพราะ จะส่งให้บุคคลผู้นั้น ได้รับสิ่งที่ดีในชีวิต และจะเป็นตัวอย่างแก่เด็กๆ เพราะถ้า ผู้นั้นรอจะทำความดี ทำบุญ กุศลต่างๆ เฉพาะเมื่อรู้ว่าภัยกำลังมาถึง เช่น ฝัน ไม่ดี งานไม่ดี ผู้บังคับบัญชา รู้สึกไม่ ชอบหน้า หรือแม้กระทั่งว่า ตัวเองอยู่ ในสภาพที่แย่ที่สุดจึงนึกที่จะทำบุญ ดูเหมือนว่า การทำบุญดัง กล่าว จะเป็น การคาดหวังเกินไป มากกว่าการทำบุญ ที่เกิดจากเจตนาที่ดี อะไรที่เราควรปลูกฝังเมื่อยังเป็นเด็ก อะไรที่เราควรปลูกฝังเมื่อยังเป็นเด็ก

ผู้เยี่ยมชม

วิถีการถ่ายทอดศีลธรรมแก่เด็กเล็ก

ขั้นตอนแรก ข้าพเจ้าใคร่ขอเสนอแนะว่า ควรพยายามนำบุตรธิดา ที่เพิ่งเกิดใหม่ เข้ามาใกล้ชิดกับ พระศาสนาให้มาก เช่น พาเขาไปวัดให้ได้พบพระภิกษุ หรือเห็นพระพุทธรูป โบสถ์วิหาร ได้ยินเสียงพระภิกษุ สวดมนต์ หรือพระธรรมเทศนา ประเพณีเช่นนี้ชาวพุทธไทยห่างเหินจืดจางไปมาก แม้แต่พิธีโกนผมไฟทารก ปัจจุบันก็แทบไม่เหลือแล้ว อันนี้คงเนื่องมาจากอิทธิพลของ วัฒนธรรมตะวันตก แต่ชาวพุทธในศรีลังกา ยังปฏิบัติอยู่ค่อนข้างมั่นคง คือพวกเขาจะนำบุตรธิดาที่เพิ่งเกิดใหม่ ๆ ไปวัดให้พบพระภิกษุ, ให้นอนหงายดูต้นโพธิ์ หรือพระพุทธรูป เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นมงคลชีวิตแก่ทารกเกิดใหม่

http://www.khonnaruk.com/html/phra/dhm_vision/dv_moral.html

ตอบเมื่อ: 30 ม.ค. 2006, 7:52 pm

น่าเป็นห่วงค่านิยมในสังคมปัจจุบัน 
เพราะทุกวันนี้ท่านมักยกย่องให้ความสำคัญต่อ คนเก่ง ... (และคนรวย) 
แต่ละเลยไม่ส่งเสริม คนดี 
 
ลองดูตัวอย่างคนเก่งมีความสามารถซึ่งมีผลงานและงานเขียนมากมาย 
 <a href="http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=040920149&srcday=2006/01/27&search=no" target="_blank">http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=04927049&srcday=2006/01/27&search=no</a>

ผู้เยี่ยมชม

ระวังจะโดนหลอกให้เป็นกบเลือกนายเน้อ ไม่รู้เคยอ่านนิทานอีสปกันบ้างป่าว
การเมืองมันมีพรรคมีพวกมีฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
เราประชาชนคนธรรมดาไม่รู้ตื้นลึกหนาบางในวงการภายในเค้าหรอก มีแต่จะโดนหลอกใช้ให้ไปตายแทนเค้า

ตอบเมื่อ: 03 ก.พ.2006, 12:56 pm

หือออ .. คุณกลางๆจะต้องโยงไปถึงตรงนั้นให้ได้เชียวนะ ยิ้มเห็นฟัน

อ่านดีๆสิ ไม่เห็นเกี่ยวกันซะหน่อย แหม ทำพูดอย่างก๊ะพวกวอร์รูมไปได้
แต่ก็ขอบคุณที่ยังสุภาพนะค้า .. บารมีเว็บมั้ง สาธุ

อ่ะนะ คุณกางๆ เราอย่ามาเถียงเรื่องอย่างว่าในบอร์ดศาสนาเลยเน้อ อายค้าว อายหน้าแดง

ผู้เยี่ยมชม

คุณบัวเผลอก็แหมๆ น่าหยิกสะไม่มี สู้ สู้

มาก่าวหาว่าเป็นสตาร์วอ เฮ้ยวอรูมสะนี่
แค่ผมไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งในสังคมแค่นั้นเอง อยากให้ประเทศไทยไปลงดาวอังคารก่อนใคร.....

ถ้าอ่านแค่ภายนอกก็ดีอยู่หรอก
แต่คลิกเข้าไปสิเข้าไปดูข้างในแล้ว นั่นแหละคือสิ่งที่ผมพูดถึง

ตอบเมื่อ: 03 ก.พ.2006, 6:05 pm

วุ๊ยๆ อย่ามาหยิกเค้าเลย หนังบางเดี๋ยวน้ำมันกระเด็นใส่ ไม่รู้ด้วย ยิ้มเห็นฟัน

ตอบเมื่อ: 04 ก.พ.2006, 7:59 pm

แม้แต่พุทธองค์ยังเป็นผู้ฝึกม้าอาชาไนย อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า

เด็กจะดีลองฝึกด้วย พุทธวิธีดูสิ