Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 บุญ-บาป อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ภัทรภร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 ธ.ค.2005, 5:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำดี คิดดี คือบุญ /ทำชั่ว คิดชั่วคือบาปและบุคคลที่สติไม่ครบ(บ้า)หากทำในกรณีทั้งสองนี้จัดเป็นคนประเภทใด
 
new
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532

ตอบตอบเมื่อ: 12 ธ.ค.2005, 5:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นคำถามที่ดีนะครับ ถ้าเป็นคนบ้า แล้ว ทำความผิด ตามกฏหมาย บอกว่าเป็นคนวิกลจริต ก็จะไม่ผิด ไม่ติดคุก แต่ต้องไปอยู่ โรงพยาบาลบ้า



แต่ถ้าในทาง กฏแห่งกรรม คนบ้าทำความชั่ว ทำสิ่งผิด จะต้องเป็นไปตามกฏแห่งกรรมอย่างไร อืม น่าคิดครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 ธ.ค.2005, 6:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนดีๆ ที่ไปสร้างกรรมโดยไม่เจตนา เช่น เผลอไปเหยียบมดตาย ก็ยังเป็นกรรม ที่จะตามให้ผลต่อไปเลยล่ะครับ แต่เป็นผลอย่างอ่อนๆ จะให้ผลหลังจากที่กรรมที่ทำด้วยเจตนา ให้ผลไปหมดแล้ว



ดังนั้น ไม่ต้องพูดถึงคนบ้าเลยล่ะครับ ว่าเขาจะได้รับวิบากกรรม ในกรรมที่เขาทำหรือไม่ เขาย่อมได้รับแน่นอนครับ เพียงแต่ผลอาจจะไม่แรงเท่ากับ คนที่ตั้งใจสร้างกรรมโดยเจตนาจริงๆ



ดังตัวอย่างในอเมริกา ที่มีชายคนหนึ่งถูกตัดหัวตาย แล้วตำรวจก็จับคนบ้า ที่เป็นเพื่อนเขา แล้วถามว่า เขาตัดหัวเพื่อนแล้วเอาไปซ่อนทำไม คนบ้าบอกว่า "ผมอยากให้เพื่อนแปลกใจ เวลาตื่นขึ้นมา แล้วหาหัวตัวเองไม่เจอ"



ถ้าคนบ้ามีเจตนาอย่างนี้จริง ก็ได้รับผลกรรมนี้ครับ เพียงแต่จะไม่แรงเท่ากับคนดีๆ (ไม่บ้า) ที่ตั้งใจตัดหัวคนอื่น เพื่อฆ่าให้ตาย
 
new
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532

ตอบตอบเมื่อ: 12 ธ.ค.2005, 6:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ครับผม อยู่ที่เจตนา เจตนา เป็นแบบใด มากน้อยแค่ไหน ก็จะเป็นไปตามนั้น หว่านพืช เช่นใด ได้รับผลเช่นนั้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เฟ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 ธ.ค.2005, 6:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สงสัยอะ แล้วจิตของคนบ้า เป็นจิตที่บ้าด้วยรึเปล่าคะ
 
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86

ตอบตอบเมื่อ: 12 ธ.ค.2005, 9:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



ตอนแรกที่อ่านคำถามคุณเฟก็ขำๆว่า

ถ้าจิตอยู่เป็นปกติแล้วจะเป็นคนบ้าได้อย่างไร ถามแปลกๆน้อ



สักพักนึกขึ้นได้ถึงพระเถรีกีสาโคตมี ขออนุญาตเล่าคร่าวๆนะคะ

ก่อนที่ท่านจะได้พบพระพุทธเจ้า ท่านเป็นบ้าเสียสติไปเพราะ

สามีและลูกน้อย 2 คน เกิดมีเหตุสิ้นชีวิตในคราวติดๆกัน



ด้วยพระมหาเมตตาและปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้า

ประกอบกับนางยังมีจิตสำนึกที่ยังรู้ความจึงยอมรับฟังพระพุทธเจ้า

ซึ่งค่อยๆตะล่อมนางกีสาโคตมีว่า ท่านจะทำให้สามีกับลูกฟื้นชีวิตขึ้นมา

แต่มันต้องใช้เมล็ดพันธุ์ผักกาดจากบ้านที่ไม่เคยมีใครตายมาก่อน

แน่นอน นางหาอย่างไรก็ไม่เจอ จึงคิดได้ถึงความจริงของชีวิต

ว่ามีความตายเป็นธรรมดา ถ้าจำไม่ผิดท่านบรรลุโสดาบัน

แล้วจึงบรรลุอรหัตผลหลังจากบวชเป็นพระภิกษุณี



ยกเรื่องมายืดยาว เพื่อบอกว่าความวิปลาสอาจเป็นชั่วคราวและหายได้

หากได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง นั่นหมายถึงผู้เสียสติต้องให้ความร่วมมือ

แต่ถ้าผู้เสียสตินั้นมีอัตตาด้วย ไม่ยอมรับฟังเพราะมีมิจฉาทิฏฐิด้วย

ก็คงลำบากไปอีกนานแสนนาน

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86

ตอบตอบเมื่อ: 12 ธ.ค.2005, 11:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



บัวเบลอๆ ขออนุญาตแก้ไขข้อมูลค่ะ





นางกีสาโคตมีนี่ลูกตาย นางอุ้มศพลูกเที่ยวหาคนชุบชีวิตลูก

จนได้พบพระพุทธเจ้า ดังที่เล่าข้างต้น รายละเอียดตามลิงค์นี้ค่ะ


http://www.84000.org/one/2/12.html





แต่ยังมีอีกนางที่อาการหนักหนานัก เสียสติจนแม้ผ้าผ่อนท่อนสไบ

ก็ไม่มีติดตัว คือนางปฏาจารา ซึ่งเสียสามี ลูก 2 คน รวมทั้งบิดามารดา

ในเวลาไล่เรี่ยกัน จนเมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า



สามารถอ่านเรื่องโดยละเอียดได้จาก
http://www.larnbuddhism.com/atatakka/tere/tere4.html

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ปูคุง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ธ.ค.2005, 6:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ ภัทรภร ครับ

คงจะยังลังเลสงสัยในบุญบาปอยู่ เป็นแน่?

กรรมนั้นมี ทั้งฝ่าย บุญ บาป และกลางๆ ภาษาธรรมเรียกว่า กุศลกรรม อกุศลกรรม อพยากตธรรม

กรณีคนวิกลจริต บ้า ละเมอ เสียสติ ไม่มีสติ ย่อมไม่มีสัมปชัญญะ คือ ขาดทั้งสติ และสัมปชัญญะ

กรรมที่กระทำในขณะนั้นๆก็ขาดเจตนา ก็ไม่เป็นกรรมบาป หรือ บุญ แต่เป็นกลางๆไปเสีย เหมือน กินข้าว เดิน อาบน้ำ ฯลฯ ไม่เรียกว่าได้บุญ หรือ บาป

(แต่วิบากแห่งอพยากตธรรม นั้น มีหรือไม่อย่างไร ท่านผู้รู้คงตอบได้)

แต่ในขั้นนี้ โดยรวบรัด ผมเห็นว่า อพยากตธรรมก็มีผลเป็นวิบากกรรมเหมือนกัน คือ กรรมนั้นให้ผลได้

ให้ผลอย่างไร...

ในภพชาติ ที่เขาเกิดเป็นมนุษย์ปกติ ก็ได้รับวิบากกรรมกลางๆนี้ให้ผล ได้

เช่น หาว่าคุณ ก เคยฆ่าคนขณะวิกลจริต มาชาตินี้ วิบากนั้นตามให้ผล ถูกคนวิกลจริตฆ่าตาย ก็เป็นได้ครับ แล้วคงเรียกร้องทางแพ่งอาญาลำบากครับ ถือว่าเป็นเวรกรรมแต่ชาติปางก่อนครับ หายๆกันไป

วิบากกรรม ก็ยุติ ไม่ให้ผลอีกต่อไปครับ

ภาวนาว่า อย่าให้คนวิกลจริตฆ่าตายก็แล้วกันนะครับ

แต่คนมีบุญ คงไม่ถูกฆ่าตายแบบนั้นหรอกครับ



 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง