Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 จะแก้กรรมที่เคยเป็นชู้ได้อย่างไร?? อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
บัวใต้น้ำ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ย.2005, 11:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ก่อนอื่นดิฉันอยากจะขอเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาก่อน

เมื่อ 5 ปีก่อน ดิฉันได้ทำเรื่องเลวร้ายไว้เรื่องหนึ่ง คือดิฉันแต่งงานแล้วมีลูก 1 คน และสามีดิฉันเป็นคนดีมาก เราแต่งงานกันมาครอบครัวก็อบอุ่นและมีความสุขดี

แต่แล้ว... วันหนึ่งดิฉันก็เกิดมีใจไปชอบผู้ชายคนหนึ่งที่ทำงานด้วยกัน ทั้งๆที่ทำงานมาด้วยกันมาแล้ว 2 ปี ดิฉันก็ไม่เคยนึกชอบเค้าเลย และดิฉันก็รู้ว่าเค้ามีครอบครัวแล้ว เราต่างคนก็ต่างรู้สถานะของกันและกัน และเราสองคนก็ไม่เคยมีท่าทีที่จะมีความรู้สึกรักกันชอบกันเลย

แต่เมื่อจู่ๆ เราก็เกิดมาชอบกัน และพากันไปทำในสิ่งที่ผิดอย่างยิ่ง และสุดท้ายภรรยาของเค้าก็จับได้ และเธอได้เล่าเรื่องให้สามีดิฉันฟัง เราจึงเลิกติดต่อกัน ดิฉันก็เสียใจมาก เพราะตอนนั้นรู้สึกรักเค้ามาก และขาดเค้าไม่ได้ ในความรู้สึกตอนนั้น ดิฉันเลือกผู้ชายคนนั้นค่ะ แต่สามีก็พยายามเป็นกำลังใจให้เราไม่ทำผิดอีก ยอมรับฟังปัญหาของดิฉันทุกเรื่อง และปลอบใจเรื่อยมา

จนในที่สุด ดิฉันก็ค้นพบทางที่สามารถทำให้ดิฉันออกจากความรู้สึกทุกข์แสนสาหัสนั้นได้ โดยการปฏิบัติธรรม ดิฉันได้ทำสมาธิ เดินจงกรม ทำทุกวันไม่เคยหยุดมาเป็นเวลา 1 ปี แล้ว ความรู้สึกเปลี่ยนไปมาก และดิฉันสงบมาก มีความสุขยิ่งกว่าได้อยู่กับผู้ชายคนนั้น

ดิฉันรู้ตัวดีว่า ดิฉันได้ทำผิดศีลอย่างร้ายแรง พยายามนั่งสมาธิ แผ่เมตตาให้กับครอบครัวของผุ้ชายคนนั้น ขออโหสิกรรม แต่ก็ยังกลัวตกนรกมากๆ

จะมีวิธีใหนหรือไม่ค่ะ ที่ดิฉันจะสามารถชดใช้กรรมนี้ได้ในชาตินี้

ช่วยแนะนำด้วยเถิดค่ะ
 
วรากร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ย.2005, 12:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

1. หยุดการกระทำที่ไม่สมควร หยุดทำบาป ก่อน

2. หาหนังสือธรรมะที่เกี่ยวกับเรื่องการผิดศีลข้อ 3 ถวายวัด สถานธรรม เช่น คัมภีร์ละกาม เล่ม 1 คัมภีร์ละกาม เล่ม 2 หนังสือธรรมะอื่น บ่อยๆ
http://thai.mindcyber.com

3. ฝึกจิตปฏิบัติธรรมต่อไป



กรรมไม่ดีเหมือนเกลือ กรรมดีเหมือนน้ำ

หากเราลองใส่เกลือ 1 ช้อนในน้ำแก้วเล็กมันก็จะเค็ม หาเราใส่เกลือ 1 ช้อนลงในโอ่งน้ำก็จะไม่มีรสเค็มที้งที่เราใส่เกลือเท่ากัน



ขอให้ท่านจงตั้งมั่น ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้น



สาธุ



 
บัวใต้น้ำ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ย.2005, 1:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรียนคุณวรากร



การถวายหนังสือดังกล่าว ต้องนำไปถวายให้พระหรือเปล่าค่ะ หรือแค่นำไปวางไว้ในที่ที่ทางวัดจัดไว้ให้ เช่นมุมหนังสือธรรมะของวัด และต้องถวายมากน้อยเท่าไหร่



ขอบพระคุณมากค่ะ
 
วรากร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ย.2005, 1:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สมควรจะถวายให้พระ หรือคนที่ดูแลสถานธรรมบอกว่าเราต้องการมาถวายหนังสือธรรมะท่านจะนำไปแจกอย่างไรก็แล้วแต่ท่านนะครับ อย่าไปกังวล



การถวายหนังสือก็อย่าทำให้ตัวเองเดือดร้อนด้วย ทำตามกำลัง ทำที่ละน้อย นะครับ

 
บัวใต้น้ำ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ย.2005, 1:54 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอขอบคุณ คุณวรากรมากค่ะ



ทุกวันนี้ ดิฉันมีแต่ความละอายใจ ไปที่วัดใหนก็ตามอยากจะกราบพระ แต่ใจก็มีแต่ความละอายใจ กลัวพระท่านรู้ว่าเราทำสิ่งที่บาปมา ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาท่าน ละอายต่อท่านค่ะ

ดิฉันก็ไม่ทราบว่า เมื่อไหร่จะรู้สึกดีขึ้นซักที มันมีความรู้สึกว่า เรามีปมด้อย แต่ก็ดีอย่างค่ะ ทำให้เราลดอัตตาลงไปเยอะ อย่างน้อยเราก็ไม่ได้ดีไปกว่าใครเลย



เรื่องปฏิบัติธรรม ดิฉันก็ตั้งใจปฏิบัติอยู่ทุกวันค่ะ และตั้งใจว่าจะไปนั่งกัมฐามอีก 3 วันในเดือนหน้าค่ะ



ขอบคุณมากค่ะที่ไม่ดูถูกดิฉัน และยังให้คำแนะนำ
 
วรากร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ย.2005, 2:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนที่ทำผิดแล้วยอมรับผิดในสิ่งที่ทำนั้นหายาก เขาก็เป็นเหมือนครูสอนใครด้วยความผิดเขาเอง แล้วจะไปดูถูกได้อย่างไร



หากคุณมีจิตที่ต้องการลดบาปที่ทำลงจริง สวรรค์ หรือ นรก ก็คงจะอนุโมทนาด้วยเป็นแน่



ความผิดในอดีตไม่อาจแก็ไข อนาคตก็ยังมาไม่ถึง ไม่แน่นอน ปัจจุปันทำดีไว้เถอะ



การปฏิบัติธรรมนั้นไม่ได้เลือกว่า คนดีเท่านั้นที่สามารถบรรลุธรรม คนดีก็อาจกลายเป็นคนเลว คนเลวก็อาจกลายเป็นคนดี ไม่มีอะไรแน่นอน ว่างดาบลงสำเร็จ พุทธะ



พระพุทธเจ้าทรงมองคนดีและคนเลวเท่าๆกัน ท่านไม่เคยแบ่งว่าสอนแต่คนดีเท่านั้น หากเคยอ่านพระไตรปิฏก จะทราบดี คนเราเองที่แบ่งคน ไม่ใช่ใคร



เราจงยกโทษให้ในความผิดของตัวเองก่อน เพราะหากเราไม่ยกโทษให้ตัวเราเองแล้วจะมีใครที่ไหมมายกโทษให้เรา บางคนก็ยกโทษให้ บางคนก็ไม่ยกโทษให้ หากท่านมั่วแต่ถามหาการยกโทษ ชาตินี้คงติดอยู่แค่นี้



สาธุ







 
I am
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ย.2005, 3:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พยายามอย่านึกถึงเรื่องในอดีต อย่าทำกรรมเพิ่มขึ้นอีก

จงอยู่กับปัจจุบัน ทำให้ปัจจุบันดีที่สุด



...ผู้มีปัญญาเมื่อนึกถึงความจริงนี้ ย่อมไม่ประมาท ย่อมเห็นภัยที่จะตามมา เป็นภัยที่จักเกิดแต่กรรมทั้งหลายที่ได้ประกอบกระทำไว้ด้วยตัวเองในอดีตชาติและปัจจุบันที่มากมายพ้นประมาณ จึงพยายามหนีให้พ้น...หนีให้กรรมไม่ดีตามไม่ทัน หรือไม่ก็พยายามสร้างกำลังที่จะเอาชนะความแรงของกรรมไม่ดีให้ได้ เพื่อไม่ต้องรับผลของกรรมไม่ดี ที่อาจร้ายแรงทำความชอกช้ำให้แก่ชีวิตได้เป็นอันมาก



ผลของกรรมไม่ดีเช่นนี้...แม้จะติดตามทุกคนผู้ทำเหตุแห่งกรรมไม่ดีนั้นอยู่ แต่ก็อาจไม่สามารถตามทัน...ถ้าผู้นั้นจะพยายามวิ่งหนีอยู่เต็มสติปัญญา เต็มความสามารถ



พลังสำคัญประการหนึ่ง ที่จะช่วยให้สามารถหนีพ้นมือแห่งกรรมไม่ดีที่ติดตามตระครุบอยู่ได้ และเป็นพลังที่จะสามารถทำให้เกิดได้ไม่ยาก คือ การนึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพุทโธ นึกไว้ให้คุ้นเคยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับใจ สิ่งใดที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หมายถึงไม่อาจแยกจากกันได้เลย...ไม่ว่าเวลาใดก็ตาม จะสุข จะทุกข์ จะเป็น จะตาย ใจก็มีพุทโธ พุทโธ พุทโธ...จะมีอยู่ในใจ



พึงพร้อมกันน้อมใจรับเพียงการรำลึกถึงพุทธองค์ว่า พุทโธ พุทโธ พุทโธ ในทุกเวลานาที ที่มิได้มีภาระอื่น จะนั่ง จะนอน จะยืน เดิน พึงพร้อมกันทำอย่าได้ว่างเว้น และทุกคนทำได้ ทุกคนมีเวลาทำอย่างมากมาย ในรถที่ติด ในที่นอนที่นอนไม่หลับ ในงานที่ไม่ต้องใช้ความคิดมากมาย ในเวลารัประทานอาหาร ฯลฯ



การภาวนาพุทโธไม่ใช่งานหนัก ไม่ใช่งานยาก แต่มีคุณมหาศาลเกินกว่าจะมีผู้ใดบอกได้ ผู้ใดทำผู้นั้นจะได่เข้าใจด้วยตัวเอง จึงขอให้ทำเพื่อหนีผลแห่งกรรมไม่ดีที่ไม่อาจรู้เห็นได้ ว่ากำลังจะเกิดแก่ชีวิตในวินาทีใดและร้ายแรงเพียงไหน เช่นที่ได้เกิดขึ้นให้เห็นอยู่แล้วทุกวันนี้



ตั้งจิต “ขออโหสิกรรม” และ “ให้อโหสิกรรม” ต่อผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวร ต่อผู้ที่ได้ล่วงล้ำก้ำเกินทั้งน้อยใหญ่ แล้วภาวนาพุทโธไว้เถิด ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับใจ ไม่หมดอายุก็จะสวัสดี หมดอายุก็จะไปดี ไปสบายไม่ลำบาก



การทำกรรมดี หรือกุศลกรรมให้มาก ย่อมอาจให้ผลตัดรอนอกุศลกรรมได้ อกุศลกรรมที่หนัก ที่แรง จำเป็นต้องมีกุศลกรรมที่หนักกว่า แรงกว่ามากๆ จึงจะสามารถตัดกันได้ทันท่วงที จึงไม่ควรลังเลที่จะทำความดี คือกุศลกรรมให้มาก ให้สม่ำเสมอ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป...



ชีวิตนี้น้อยนัก.... แต่ “ชีวิตนี้สำคัญนัก”

เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ เป็นทางแยก

จะไปสูงไปต่ำ จะไปดีไปร้าย

เลือกได้ในชีวิตนี้เท่านั้น

พึงสำนึกข้อนี้ให้จงดี

แล้วจงเลือกเถิด...เลือกให้ดีเถิด



จาก ชีวิตนี้สำคัญนัก

โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก



ผิดรู้ว่าผิดคิดแก้ไข นับว่าประเสริฐนัก

 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง