Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ถ้าได้รับรู้เกี่ยวกับการแท้งลูกจะมีบาปกรรมติดตัวไปไหมค่ะ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
คนที่เคยหลงผิด
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2005, 3:48 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอความอนุเคราะห์ตอบคำถามให้หน่อยค่ะ คือว่าดิฉันมีลูกพี่ลูกน้อง เป็นน้องสาวคนหนึ่งเขาท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วเขาไม่มีปัญญาเลี้ยงลูกเพราะเขายังเด็กอยู่ เขาตัดสินใจทำแท้ง แต่ดิฉันก็บอกเขานะค่ะว่าถ้าคลอดมาแล้วจะช่วยเลี้ยง แต่สภาพภาวะปัจจุบันสถานภาพทางครอบครัวก็ลำบากอยู่ค่ะ เขาเลยตัดสินใจทำแท้ง ดิฉันก็ไม่อยากให้เขาทำอย่างนั้นนะค่ะ แต่เมื่อคิดดูแล้วถ้าเด็กออกมาไม่มีปัญญาเลี้ยงแน่ ๆ ตอนนั้นเด็กอายุครรภ์แค่ 2-3 เดือนอยู่ค่ะ น้องดิฉันเขาว่าเด็กยังไม่เป็นตัวยังเป็นก้อนเลือดอยู่ เขาเลยตัดสินใจแท้งลูกค่ะ โดยวิธีการกินยาขับเลือดออกมา แต่เรื่องนี้น้องดิฉันมาปรึกษาดิฉันนะค่ะ ดิฉันได้รับรู้เรื่อง ดิฉันไม่รู้ว่าเขาจะแท้งลูกจริง ดิฉันรู้ข่าวอีกที น้องของดิฉันก็อยู่โรงพยาบาลแล้ว เพราะตกเลือด ดิฉันไม่ได้มีความคิดให้เขาทำอย่างงั้นเลยนะค่ะ ดิฉันอย่างทราบว่าดิฉันจะบาปมากไหมค่ะ ที่ได้มารับรู้เรื่องราวแบบนี้ ดิฉันไม่อยากเป็นคนบาปค่ะ มีวิธีอะไรบ้างค่ะที่จะช่วยชดใช้กรรมที่ดิฉันได้ร่วมรับรู้มันได้ค่ะ ดิฉันไม่สบายใจมากเลยค่ะ ที่เรื่องมันจบอย่างนี้ ดิฉันเสียใจมากค่ะ เสียใจจริง ๆ
 
อสรี
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2005, 8:03 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณว่า พระหรือแม่ชีหรือพ่อแม่ เพื่อน ที่มีผู้คนไปขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น ท่านเหล่านั้นได้ยินได้ฟัง และให้ความเห็นในทางที่ไม่เห็นด้วยที่จะไปทำแท้งนั้น บาปหรือไม่...

 
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2005, 4:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กรณีที่ 1 ถ้าเขามาปรึกษาเรา และเราไม่ได้แนะนำให้เขาทำแท้ง ถ้าเขาไม่เชื่อ ยังคงไปทำแท้ง เราย่อมไม่บาปครับ

กรณีที่ 2 ถ้าเขาแอบทำแท้งโดยไม่บอกเราก่อน แต่พอทำแท้งแล้ว มาบอกให้เรารับรู้ภายหลัง กรณีนี้ แบ่งได้เป็น 2 ทาง ขึ้นกับพฤติกรรมของเราครับ

ถ้าเราคิดและบอกว่า ทำไมทำแบบนี้ ทำไมไม่ยอมปรึกษาพี่ก่อน เราไม่ยินดีในการทำแท้งของเขา เราย่อมไม่บาปครับ

ถ้าเราคิดตรงข้ามว่า ดีเหมือนกัน รายได้ก็ยังไม่พอ ฆ่าเด็กซะได้ ก็ลดภาระไปอีกหน่อย ถ้าคิดอย่างนี้ เขาเรียกว่า อนุโมทนาบาป ย่อมได้บาปครับ
 
นายประแจ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2005, 11:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บาปหรือไม่ขึ้นอยู่กับใจเราครับ

ตอนนี้คุณกำลังได้รับผลบาปอยู่ครับ เพราะคุณไม่สบายใจ แต่บาปที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลไม่นานหรอกครับจะค่อยๆ จางไป เพราะคุณไม่ได้เป็นผู้ก่อขึ้น ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เด็กก็จะสบายใจขึ้นครับ
 
แอนนี่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ย. 2005, 4:14 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การที่ท่านรู้สึกเช่นนี้ เราจะบอกว่าบาปหรือไม่แนะนำเป็นข้อๆค่ะ

1. จิตไม่สงบเพราะรู้เห็น ถามว่าการรู้เห็ฯนี้ท่านได้แนะนำเขาอย่างไร ชี้เห็นการผิดศีลหรือไม่ ถ้าทำแล้วก็ถือว่าท่านชี้แนะทางบุญ ยังไม่ต้องพิจารณาว่าเขาจะเลือกปฏิบัติเช่นไร

2.รู้ว่าเขาจะทำ แล้ว ให้พิจารณาว่าทุกคนมีกรรมเป็นของตนเองเราห้ามกรรมของใครไม่ได้ เช่นเขาปวดท้อง เราปวดเหมือนเขาไหม

3. มีความจำเป็น อันนี้ไม่ได้สอนให้ใครทำบาปนะ แต่จะแนะนำ หลักของธรรมมะ ในธรรมชาติ ของมนุษย์ เมื่อเรารู้อยู๋แล้วว่าเราไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูเขาได้อย่างดี เมื่อเขาเกิด เราก้อยุติการเกิดคือ ถ้าคนที่จะมาเกิดเราไม่สามารถเลี้ยงได้แต่ปล่อยให้เกิดปัญหาสังคม ทอดทิ้ง เลี้ยงดูไม่ดีก่อปํญหาให้สังคม ก็ลองพิจารณาดูว่าท่านทำถูกแล้วไหม

4.บาปกรรม ทุกอย่าง เป็นกรรมทั้งสิ้น คือ เราทำแท้ง รู้ว่าเขาทำแท้ง ไม่ห้ามหรือส่งเสริม หรือ เราปล่อยให้เกิดเป็นปัญหาสังคม ทอดทิ้ง นี่ก็คือกรรม ไม่ใช่บาปกรรม

ลองใช้ พิจารณาดู นะคะ
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ย. 2005, 9:55 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ศีล ๕ ข้อ ในหัวข้อที่ ๑ คือ

๑. ปาณาติปาตา เวรมณี งดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
ศีลข้อ ๑ มีองค์ ๕ คือ

๑. *ปาโณ สัตว์มีชีวิต
๒. ปาณสญฺญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
๓. วธกจิตฺตํ จิตคิดจะฆ่า
๔. อุปกฺกโม เพียรเพื่อจะฆ่า
๕. เตน มรณํ สัตว์ตายด้วยความเพียรนั้น

------------------------------------------------------

* อรรถกถาบางแห่งใช้ว่า ปรปาโณ คือสัตว์อื่นที่มีชีวิต มิได้หมายถึงตัวเอง เพราะฉะนั้นการฆ่าตัวเองจึงไม่ล่วงกรรมบถ เพราะไม่ครบองค์ของศีลข้อนี้ ถ้าครบองค์ ๕ ศีลข้อ ๑ ก็ขาด ถ้าไม่ครบ ๕ ข้อ ศีลไม่ขาด แต่ก็เศร้าหมอง

โทษของศีลข้อ ๑ นี้ อย่างหนักทำให้ไปเกิดในอบาย เป็นสัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน อย่างเบาทำให้อายุสั้นเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ ถึงกระนั้นโทษของการล่วงศีลข้อนี้ก็หนักเบาต่างกันด้วยร่างกายของสัตว์ ๑ ด้วยคุณของสัตว์ ๑ ด้วยเจตนา ๑ และด้วยความพยายาม ๑ กล่าวคือ

ถ้าฆ่าสัตว์ใหญ่ โทษก็มาก ถ้าฆ่าสัตว์เล็ก โทษก็น้อย ถ้าฆ่าสัตว์มีคุณมาก โทษก็หนักมาก ถ้าฆ่าสัตว์มีคุณน้อย โทษก็น้อยลดหลั่นกันลงไป ถ้าเจตนา คือความจงใจแรง โทษก็แรง ถ้าเจตนาคือ ความจงใจอ่อน โทษก็น้อย ความพยายามมากโทษก็มาก ความพยายามน้อยโทษก็น้อย

แต่อย่าได้คิดว่าเมื่อท่านฆ่าสัตว์เล็ก ทั้งมีคุณน้อย มีความจงใจอ่อน และมีความพยายามน้อย โทษก็น้อย คงจะไม่น่ากลัว อย่าลืมว่า บาปอกุศลนั้นถึงแม้จะเล็กน้อยก็ไม่ควรทำ เพราะเมื่อสำเร็จเป็นกรรมแล้ว ย่อมพาไปอบายได้เช่นเดียวกับโทษหนักเหมือนกัน เพียงแต่ว่าอาจไปอยู่ในอบายชั่วระยะเวลาอันสั้น ไม่ยาวนานเหมือนโทษหนัก เพราะฉะนั้นจึงควรสังวรระวังไม่ประมาทแม้โทษเพียงเล็กน้อย

ใน อรรถกถาวัมมิกสูตร มัช.มูล. เล่าถึงพวกโจรที่ฆ่าอุบาสกที่เป็นพระอนาคามีว่าทำให้ตาบอดทันที เพราะผู้ถูกฆ่าเป็นสัตว์ใหญ่ มีคุณธรรมสูง เจตนาของโจรก็แรง ผลจึงเกิดขึ้นในปัจจุบันทันที ยังไม่ต้องกล่าวถึงโทษที่จะเกิดในอนาคตว่าจะร้ายแรงแค่ไหน


http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง