พระธาตุจอมกิตติ
|
ประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุจอมกิตติ
ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
|
|
ให้คะแนนภาพนี้ (คะแนนตอนนี้ : 1.8 / 5 with 34 votes) |

|

|

|

|

|

|
|
จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในจังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๐ ที่ผ่านมา เป็นผลให้พระธาตุจอมกิตติ พระธาตุองค์สำคัญและเก่าแก่ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดดอยน้อยหรือดอยจอมกิตติ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เกิดรอยร้าวในส่วนองค์พระธาตุ รวมทั้งในส่วนยอดฉัตรและยอดปลีหักพังลง ผู้เขียนจึงขอนำเรื่องราวความเป็นมาของพระธาตุจอมกิตติ มาเล่าสู่กันฟังไว้ ณ ที่นี้
|
|
พระธาตุจอมกิตติ เป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงแสน และเป็น ๑ ในพระธาตุ ๙ จอม อันมี พระธาตุจอมผ่อ, พระธาตุจอมแจ้ง, พระธาตุจอมแว่, พระธาตุจอมจ้อ, พระธาตุจอมกิตติ, พระธาตุจอมจันทร์ และพระธาตุจอมสัก ซึ่งเป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดเชียงราย
|
|
ตามตำนานได้กล่าวถึงการสร้างพระธาตุจอมกิตติไว้ว่า พระพุทธโฆษาจารย์ พระเถระชาวมอญ ได้ไปศึกษาพระพุทธศาสนาที่ลังกา และเมื่อเดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่แคว้นโยนก ก็ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากเมืองลังกา มาถวายพระเจ้าพังคราช ผู้ครองแคว้นโยนกในขณะนั้น ซึ่งได้โปรดให้พระเจ้าพรหม พระราชโอรส อัญเชิญไป ประดิษฐานบนดอยน้อยหรือดอยจอมกิตติ พระเจ้าพรมจึงโปรดให้สร้างพระเจดีย์สูง ๖ วา ๒ ศอก กว้าง ๓ วา เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อ พ.ศ.๑๔๘๓ พร้อมกับขนานนามพระเจดีย์องค์นี้ว่า ?พระธาตุจอมกิตติ?
|
|
อีกราว ๕๐๐ กว่าปีต่อมาคือใน พ.ศ.๒๐๓๐ พระเจ้าสุวรรณคำล้านนา ได้โปรดให้หมื่นเชียงสงบูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุจอมกิตติ โดยการสร้างพระเจดีย์ครอบองค์เดิมที่เหลือเพียงซากอิฐ หลังจากนั้นในปี พ.ศ.๒๒๓๗ เจ้าฟ้าเฉลิมเมือง เจ้าเมืองเชียงแสนในขณะนั้น ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุขึ้นอีกครั้ง จากนั้นในปี พ.ศ.๒๕๐๐ กรมศิลปากรได้เข้ามาบูรณะปฏิสังขรณ์ โดยการเสริมความมั่นคงและเสริมส่วนที่ชำรุดเท่านั้น พร้อมทั้งประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ
|
|
ครั้นถึงราว พ.ศ.๒๕๑๑ กรมศิลปากรก็ได้ทำการบูรณะอีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนั้นทำได้เพียงการเสริมความมั่นคงและเสริมส่วนที่ชำรุดหลุดร่วงไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธียกยอดฉัตร เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๙ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๓๘ ได้เกิดแผ่นดินไหว เป็นเหตุให้รอยแยกแตกขององค์เจดีย์ที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลานั้น ขยายตัวมากขึ้น ประกอบกับโครงสร้างส่วนยอดและลายปูนปั้นก็หลุดร่วงแตกลงมากขึ้นเช่นเดียวกัน และองค์พระธาตุก็เกิดการทรุดเอียงลงด้วย
|
|
ในปี พ.ศ.๒๕๔๘ คณะรัฐมนตรีมีมติให้บูรณะปฏิสังขรณ์โบราณสถาน โบราณวัตถุ วัด และศาสนสถานทั่วประเทศที่มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ ๖๐ ปี ขึ้นไป เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในปี พ.ศ.๒๕๔๙ ซึ่งมีพระธาตุจอมกิตติรวมอยู่ด้วย ดังนั้นในปี พ.ศ.๒๕๔๙ กรมศิลปากรจึงได้สร้างฐานรากเพื่อยึดรอบองค์พระธาตุ รวมทั้งรอยแตกใต้ฐาน อย่างไรก็ตามในปี พ.ศ.๒๕๕๐ นี้ กรมศิลปากรก็จะลงมือบูรณะพระธาตุจอมกิตติอีกครั้งหนึ่ง อันเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวนั่นเอง
|
|
พระธาตุจอมกิตติเป็นเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนา ที่มีส่วนผสมแบบอยุธยา ประกอบด้วยส่วนฐานเขียงรองรับฐานบัวย่อมุมไม้สิบสอง และชุดฐานบัวรองรับองค์ระฆัง ๓ ฐาน ในส่วนของฐานบัวย่อมุมประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นประทับยืนในซุ้มจระนำ ๔ ทิศ ในส่วนขององค์ระฆังมีเส้นคาดอก ซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่นของเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนา เหนือขึ้นไปเป็นชุดดอกบัวรองรับปล้อง ไฉน และปลียอด ซึ่งประดับฉัตร ๙ ชั้น
|
|
มีความเชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้พระธาตุจอมกิตติ และตั้งจิตอธิษฐาน จะอุดมไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ ลาภยศ มีผู้คนสรรเสริญ พระธาตุจอมกิตติตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระธาตุจอมกิตติ ซึ่งวัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ โดยพระครูสังวรสมาธิวัตร ปัจจุบันมีพระครูวิกรมสมาธิคุณ เป็นเจ้าอาวาส (จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 79 มิ.ย. 50 โดย เก้า มกรา)
|