รูปภาพ - พระพุทธศาสนา :: Dhammajak.net

รายการอัลบั้ม อัพโหลดล่าสุด ความเห็นล่าสุด แสดงมากสุด คะแนนสูงสุด My Favorites ค้นหา

 

หน้าหลัก > ภาพพระพุทธศาสนา > พระสงฆ์
ดูภาพขยาย
พระนพีสีพิศาลคุณ (พระมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต)
วัดสันติธรรม นครเชียงใหม่
ถ.หัสดิเสวี ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱

++ อาถรรพ์สมณศักดิ์ "พระนพีสีพิศาลคุณ" ราชทินนามสงฆ์เชียงใหม่ ++

เผยประวัติสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ "พระนพีสีพิศาลคุณ" จะแต่งตั้งให้เฉพาะกับพระภิกษุสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต และจะต้องเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทำคุณประโยชน์สร้างคุณงามความดีให้กับเมืองเชียงใหม่อย่างต่อเนื่องจนชาวบ้านญาติโยมให้ความศรัทธายิ่งเท่านั้น ที่ผ่านมามีผู้ได้รับแต่งตั้งมาแล้ว ๓ รูป แต่ก็มีอันเป็นไปทุกรูป รูปแรกลาสิกขา แล้วถูกประหารชีวิตด้วยข้อหาเป็นกบฏ, รูปที่ ๒ หายสาบสูญไร้ร่องรอย และรูปที่ ๓ ได้รับแต่งตั้งไม่นานก็ถึงแก่มรณภาพลง

ในส่วนของความหมาย "นพ" ย่อมาจาก "นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่" สนธิกับ "อิสิ" เป็น "นพีสี" หมายถึง นักบวช หรือพระฤาษีทั้ง ๙ แห่งนครเชียงใหม่ ส่วนคำว่า "พิศาลคุณ" หมายถึง ผู้มีคุณงามความดีกว้างใหญ่ไพศาล รวมความแล้ว พระนพีสีพิศาลคุณ มีความหมายว่า พระผู้มีคุณอันกว้างใหญ่ไพศาลของชาวเมืองเชียงใหม่

สมณศักดิ์ "พระนพีสีพิศาลคุณ" เป็นสมณศักดิ์ที่มีมานานตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โดยพระราชทานให้ "พระมหาคำปิง คนฺธสาโร" แห่งวัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ เป็นรูปแรกเนื่องในการพระราชพิธีฉัตรมงคล พ.ศ.๒๔๔๘ โดยครั้งแรกท่านได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูสังฆบริคุต และพระครูพิศาลสรภัญ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๘, พ.ศ.๒๔๔๖ ตามลำดับ พระมหาคำปิงเป็นพระที่หน้าตาดี มีความรู้ความสามารถ เป็นคน ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ครั้นต่อมาท่านได้ไปพำนักอยู่ ณ วัดเชียงมั่น ตามคำอาราธนาของเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ ๘ แห่งราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ (เจ้าเจ็ดตน) ช่วงที่พำนักอยู่ ณ วัดเชียงมั่น อันเป็นช่วงปลายรัชกาลที่ ๕ นั้น ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระนพีสีพิศาลคุณ หลังจากได้เลื่อนสมณศักดิ์แล้ว ในเวลาไม่นานท่านก็มีอันต้องลาสิกขาออกไปแต่งงานกับเจ้าหญิง ณ เชียงตุง อยู่ที่นครเชียงตุง รัฐฉาน ได้รับแต่งตั้งเป็นกำนัน ต่อมาได้รับฐานันดรศักดิ์เป็น "เจ้าฟ้ามยุรา" และส่งไปเป็นเจ้าเมืองเลน ก่อนถูกประหารชีวิตที่บ้านฮ่องลึกด้วยข้อหาเป็นกบฏ

ด้วยเหตุใดไม่ทราบ สมณศักดิ์ "พระนพีสีพิศาลคุณ" ถึงได้ว่างเว้นไปนาน กระทั่งเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๖ ปรากฏราชทินนามนี้อีกครั้งหนึ่ง คือ "พระครูนพีสีพิศาลคุณ (พระมหาทอง โฆสิโต)" เจ้าอาวาสรูปที่ ๓ แห่งวัดเจดีย์หลวง ซึ่งท่านเป็นพระเถราจารย์ชื่อดัง ชาวบ้านญาติโยมให้ความศรัทธาเคารพยิ่ง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย แต่พอได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระนพีสีพิศาลคุณ ท่านก็พลันหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่กลับมาที่วัดเจดีย์หลวงแห่งนี้อีกเลย ซึ่งก็ไม่มีใครทราบว่าท่านเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ชาวบ้านญาติโยมต่างเล่าลือเรื่องอาถรรพ์สมณศักดิ์ "พระนพีสีพิศาลคุณ" กันอย่างกว้างขวาง จนทำให้คณะสงฆ์ต่างหวาดผวา โดยนับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๗๖ เป็นต้นมา สมณศักดิ์ดังกล่าวได้หยุดชะงักลงไป ถูกเก็บไว้เป็นตำนานในหมู่คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตของ จ.เชียงใหม่

ผ่านไป ๗๐ ปี สมณศักดิ์ "พระนพีสีพิศาลคุณ" ซึ่งถูกเก็บไว้เป็นตำนานในหมู่คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตของ จ.เชียงใหม่ ได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีก เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันศุกร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ พระครูสันตยาธิคุณ (พระมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต) เจ้าคณะธรรมยุต จ.เชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน และเจ้าอาวาสวัดสันติธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ "พระนพีสีพิศาลคุณ"

พระมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต ท่านเป็นพระมหาเถระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบปฏิบัติตรง ยึดแนวทางวัตรปฏิปทาตามเยี่ยงอย่างบูรพาจารย์พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ท่านเป็นลูกศิษย์ของพระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร) มีจริยวัตรอันงดงาม ปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด อบรมสั่งสอนธรรมปฏิบัติให้แก่พระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนทั่วไปอย่างต่อเนื่องยาวนาน ทั้งยังมีส่วนส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมให้เจริญก้าวหน้าไปพร้อมกัน ถือเป็นพระวิปัสสนาจารย์องค์สำคัญรูปหนึ่งแห่งภาคเหนือ

แต่สิ่งไม่คาดฝันบังเกิดขึ้น ภายหลังท่านดำรงตำแหน่งสมณศักดิ์พระนพีสีพิศาลคุณ ได้เพียง ๙ เดือน ก็ได้ถึงแก่มรณภาพลงเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๕.๐๐ น. ด้วยโรคภาวะไตวายเรื้อรัง ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ สิริอายุรวมได้ ๗๖ ปี ๒ เดือน ๒๕ วัน พรรษา ๕๖ โดยมีการพระราชทานเพลิงศพในวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ณ เมรุชั่วคราวหน้าวิหารวัดสันติธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่

การมรณภาพของพระมหาทองอินทร์ ยิ่งสร้างความกล่าวขานถึงอาถรรพ์ของสมณศักดิ์ที่พระนพีสีพิศาลคุณ ในหมู่คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต จ.เชียงใหม่ เป็นอย่างมาก

มีเสียงเล่าลือและวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องชื่อสมณศักดิ์ดังกล่าวไปทั่ว จ.เชียงใหม่ บ้างก็ว่าเป็นเพราะแรงสาปแช่งของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ ๖ แห่งราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ (เจ้าเจ็ดตน) คือ พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ (เจ้าชีวิตอ้าว) ที่เคยสาปแช่งเมืองเวียงกุมกามและบริเวณจุดที่เอาสมบัติไปซ่อนไว้ อาจมีผลกระทบถึงสมณศักดิ์ที่เอาชื่อเมืองมาตั้งด้วย บ้างก็ว่าเป็นเพราะพระสงฆ์ผู้ที่ได้รับพระราชทานชื่อสมณศักดิ์ดังกล่าวบารมีไม่ถึง ต้องบุคคลที่มีบารมีถึงจึงเหมาะสมที่จะใช้ชื่อสมณศักดิ์นี้ได้ บ้างก็ว่าเป็นเพราะเหตุบังเอิญเท่านั้น

"พระครูสุขุมบุญวัฒน์ (พระมหาบุญส่ง สุขปฺปตฺโต)" เจ้าอาวาสวัดล้านนาญาณสังวราราม อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ และรักษาการเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน ฝ่ายธรรมยุต (ในขณะนั้น) ซึ่งเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่คาดว่าจะได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระนพีสีพิศาลคุณ รูปล่าสุด ประจำปี พ.ศ.๒๕๔๘ นั้น ท่านได้กล่าวถึงอาถรรพ์ดังกล่าวว่า "ที่ผ่านมาพระรูปใดที่ได้สมณศักดิ์นี้จะรู้สึกไม่สบายใจ พระสงฆ์รูปแรกที่ได้ตำแหน่งนี้ ท่านเดินทางมาเผยแผ่พระศาสนาใน จ.เชียงใหม่ สร้างคุณงามความดีให้กับเมืองเชียงใหม่อย่างมากจนได้รับตำแหน่งนี้ ปรากฏว่าต่อมาท่านต้องสึกและถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ ถูกประหารชีวิต รูปต่อมาก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย และเงียบหายไปนานกระทั่งพระมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต รูปล่าสุด ได้รับตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๖ ครองตำแหน่งไม่ถึงปีก็มรณภาพ"

พระครูสุขุมบุญวัฒน์ กล่าวต่อว่า "ขณะที่อาตมาเป็นรูปต่อไปที่จะต้องได้รับสมณศักดิ์นี้ หากไม่อยากให้ชื่อนี้มีอาถรรพ์อีกต่อไป ทางมหาเถรสมาคม (มส.) น่าจะเปลี่ยนชื่อสมณศักดิ์นี้ใหม่ เอาชื่ออื่นที่ครูบาอาจารย์ตั้งขึ้นใหม่ นามที่ไพเราะมีเยอะ สำหรับชื่อสมณศักดิ์พระนพีสีพิศาลคุณน่าจะเก็บไว้เป็นตำนาน เอาชื่ออื่นมารองรับให้สุขสบายใจไว้ก่อน เรื่องกลัวหรือไม่กลัว เรื่องเกิดแก่เจ็บตาย เป็นเรื่องธรรมดา แต่เพื่อให้เกิดความสบายใจ ทางมหาเถรสมาคมหรือผู้บริหารคณะสงฆ์น่าจะพิจารณา นี่คือความเห็นของอาตมา ส่วนจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะสงฆ์ แต่ถ้าไม่เปลี่ยนยังคงเป็นพระนพีสีพิศาลคุณ อาตมาก็คงต้องทำใจ และทำบุญไว้ให้มาก ทำความดีให้มาก จะปฏิเสธไม่ได้ ด้วยเรื่องสมณศักดิ์นั้นเป็นเรื่องพระราชทานโปรดเกล้าฯ ไม่ใช่สิ่งธรรมดา หากมีการแต่งตั้งอาตมายินดี ถือเป็นตำแหน่งอันมีเกียรติ เป็นชื่อสำหรับพระสงฆ์เชียงใหม่โดยเฉพาะ หากใครได้รับแต่งตั้งถือเป็นบารมีอย่างยิ่ง อาตมารับได้ ไม่มีปัญหา พร้อมปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เผยแผ่พระศาสนาต่อไป ไม่คิดมาก"

ครั้นต่อมา วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๘ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๘ พรรษา พระครูสุขุมบุญวัฒน์ (พระมหาบุญส่ง สุขปฺปตฺโต) ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระพุทธิสารโสภณ ไม่ใช่ในราชทินนามที่ พระนพีสีพิศาลคุณ แต่อย่างใด ดังนั้น สมณศักดิ์ "พระนพีสีพิศาลคุณ" จึงได้ถูกเก็บไว้เป็นตำนานในหมู่คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตของ จ.เชียงใหม่ เพื่อเล่าขานกันสืบไป

วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๘๔ พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ พระพุทธิสารโสภณ (พระมหาบุญส่ง สุขปฺปตฺโต) เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชวินัยโสภณ

อนึ่ง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นกรณีพิเศษ พระราชวินัยโสภณ (พระมหาบุญส่ง สุขปฺปตฺโต) เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพมงคลโมลี

ที่มา >>> http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=46163

•• ประมวลภาพ “พระนพีสีพิศาลคุณ (พระมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต)”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=60837

⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱
 
หลวงปู่มหาเจิม ปญฺญาพโล 2.jpg  หลวงปู่มหาเจิม ปญฺญาพโล.jpg  หลวงปู่มหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต 31.jpg  หลวงปู่มหานนท์ พรหฺมสีโล.jpg  หลวงปู่มหาเนียม สุวโจ 3.jpg 
 
ให้คะแนนภาพนี้ (คะแนนตอนนี้ : 3.3 / 5 with 15 votes)
แย่มาก
ต้องปรับปรุง
พอใช้
ดี
ดีมาก
โอ้ว..พระเจ้าจอร์ช!!  มันยอดมาก...
  • หน้าแรกธรรมจักร  • เว็บบอร์ด  • ห้องสนทนา  • หนังสือธรรมะ  • บทสวดมนต์  • กฏแห่งกรรม  • รวมเว็บ