รูปภาพ - พระพุทธศาสนา :: Dhammajak.net

รายการอัลบั้ม อัพโหลดล่าสุด ความเห็นล่าสุด แสดงมากสุด คะแนนสูงสุด My Favorites ค้นหา

 

หน้าหลัก > ภาพพระพุทธศาสนา > พระพุทธรูป

หลวงพ่อโต (ซำปอกง) วัดพนัญเชิงวรวิหาร
ประดิษฐาน ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร
ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
 
สองธรรมราชา 1.jpg  หลวงปู่อุ่น ชาคโร.jpg  หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง.jpg  lotus 23.jpg  ดอกเข้าพรรษา 3.jpg 
 
ให้คะแนนภาพนี้ (คะแนนตอนนี้ : 1.7 / 5 with 38 votes)
แย่มาก
ต้องปรับปรุง
พอใช้
ดี
ดีมาก
โอ้ว..พระเจ้าจอร์ช!!  มันยอดมาก...
dhammajak [มี.ค. 21, 2006 at 06:45 AM]
หลวงพ่อโต 1 ใน 3 องค์ของประเทศไทย ประดิษฐาน ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เชื้อสายจีนในวัดไทย...ตามตำนานเล่าว่า"ซำปอกง" หรือ "เจิ้งเหอ" เดิมชื่อว่า หม่า เหอ เกิดในครอบครัวชาวมุสลิมที่เมืองคุนหยาง มณฑลยูนนานทางตอนใต้ของประเทศจีน ต่อมาในปี ค.ศ.1381 เกิดสงครามกวาดล้างกองกำลังมองโกลที่ปักหลักอยู่ในแถบยูนนาน ท่ามกลางความวุ่นวายของสงคราม หม่า เหอ วัย 11 ปี ได้ตกเป็นเชลยศึก และถูกส่งตัวเข้ามาเป็นขันทีเพื่อทำงานรับใช้ในกองทัพ
dhammajak [มี.ค. 21, 2006 at 06:53 AM]
หม่า เหอ ติดตามกองทัพเข้าร่วมสมรภูมิรบจนอายุได้ 19 ปี ก็ได้มารับใช้ เอี้ยนหวังจูตี้ องค์ชายสี่แห่งราชวงศ์หมิงที่ปักกิ่ง นับแต่นั้น หม่า เหอ ก็คอยติดตามอยู่ข้างกายจูตี้ จนกลายเป็นคนสนิทที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก หม่า เหอได้สร้างความดีความชอบไว้มาก โดยเฉพาะการช่วยให้จูตี้ได้ก้าวขึ้นคลองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิหมิงเฉิงจู่ ในที่สุด หม่า เหอ ก็ได้รับการเลื่อนฐานะขึ้นเป็นหัวหน้าขันที และได้พระราชทานแซ่ "เจิ้ง" จึงกลายมาเป็น "เจิ้งเหอ" หรือที่รู้จักกันในนาม "ซำปอกง"
dhammajak [มี.ค. 21, 2006 at 06:55 AM]
และเนื่องจากการที่เจิ้งเหอเป็นบุคคลที่จูตี้ให้ความไว้วางใจมากที่สุด ทั้งจากการเป็นขันที่คนสนิท และความดีความชอบในการหนุนจูตี้ขึ้นสู่บัลลังก์ จึงได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการกองเรือขนาดใหญ่ออกเดินทางไปในมหาสมุทรอันกว้างไกล ที่เล่ากันว่านอกจากจะเป็นการเดินทางเพื่อประโยชน์ทางการค้า การเผยแพร่ความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรจีนแล้ว ยังแฝงไว้นัยสำคัญทางการเมืองและการสืบราชบัลลังก์ ค้นหาร่องรอยของอดีตจักรพรรดิหมิงฮุ่ยตี้ เพื่อสร้างความมั่นคงและมั่นใจแก่ราชบัลลังก์ของจูตี้ ว่าหมิงฮุ่ยตี้จะไม่มาเป็นหอกข้างแคร่อีกต่อไป
dhammajak [มี.ค. 21, 2006 at 06:57 AM]
การเดินทางออกสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ของเจิ้งเหอ 7 ครั้งในรอบ 28 ปี เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว กองเรือและการเดินทางของเจิ้งเหออาจกล่าวได้ว่าเป็นการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์การเดินเรือของโลก นำมาซึ่งความสำเร็จทางการทูตและทางเศรษฐกิจ ทำให้ชาวจีนกลายเป็นมหาอำนาจทางเอเชียอาคเนย์ อินเดีย และแอฟริกา แต่บันทึกเรื่องราวการเดินทางที่เป็นลายลักษณ์อักษรโดยตรงแทบไม่มีหลงเหลืออยู่เลย ความรุ่งเรืองทางทะเลของจีนก็จบสิ้นลงพร้อมกับการจากไปของเจิ้งเหอผู้ยิ่งใหญ่
dhammajak [มี.ค. 21, 2006 at 07:00 AM]
จากตำนานที่เล่าขานกันมาหลายร้อยปีกลายมาเป็นซำปอกง หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม "หลวงพ่อโต" ที่เป็นที่เคารพสักการบูชาของทั้งคนจีน คนไทย และคนไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศไทย ซึ่งในสยามประเทศมีซำปอกงองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่เพียง 3 วัดเท่านั้น โดยผู้ที่ไปกราบไหว้สักการบูชาซำปอกงส่วนใหญ่นอกจากจะกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังนิยมไปกราบไหว้เพื่อให้รุ่งเรืองทางด้านการค้าพาณิชย์ มีโชคลาภ และประสบแต่โชคดีในการเดินทาง
dhammajak [มี.ค. 21, 2006 at 07:08 AM]
หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหน้าตักกว้างประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 19 เมตร ถือเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่ชาวกรุงเก่าให้ความเคารพนับถือมาช้านานหลายร้อยปี
dhammajak [มี.ค. 21, 2006 at 07:10 AM]
ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตนั้นต่างร่ำลือไกล โดยเฉพาะในช่วงรัชสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่เมืองกรุงเก่าได้เกิดโรคอหิวาตกโรคขึ้น ทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากจนวัดไม่มีที่จะเผาศพ ชาวบ้านจึงได้ไปขอให้หลวงพ่อโตช่วยเมตตารักษาโรคภัย พร้อมกับนำน้ำมนต์กับขี้ธูปบนพื้นวิหารไปทาตัว ไปอาบ ไปกินเพื่อป้องกันโรค ปรากฏว่าหายจากโรคจริงๆ ซึ่งจากความเชื่อและเรื่องที่เล่าสืบต่อกันมา ทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อโตโด่งดังไปทั่วทุกสารทิศ
dhammajak [มี.ค. 21, 2006 at 07:11 AM]
ครั้นมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงพระราชทานนามใหม่ว่า "พระพุทธไตรรัตนนายก"
dhammajak [มี.ค. 21, 2006 at 07:17 AM]
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 มีเครื่องบินพยายามจะทิ้งระเบิดสะพานปรีดีธำรง แต่แล้วก็ทำไม่สำเร็จเพราะระเบิดที่ทิ้งลงมากลับไม่ระเบิด โดยมีคนเล่าว่าในคืนที่เครื่องบินมาทิ้งระเบิด เป็นคืนข้างขึ้นค่อนข้างสว่าง ทันทีที่เครื่องบินทิ้งระเบิดลงมาก็มีชายชราคนหนึ่งขี่ม้าสีขาวเหาะขึ้นไปปัดระเบิดลูกนั้นไม่ให้ถูกสะพาน เมื่อชายชราผู้นั้นปัดระเบิดหมดแล้ว ก็หายวูบตรงโบสถ์หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิงฯ พอรุ่งเช้าชาวบ้านจึงพากันไปดูหลวงพ่อโต ปรากฏว่าที่แขนขวาแตกร้าว จึงเป็นที่เล่าขานกันว่าหลวงพ่อโตช่วยปัดลูกระเบิดเพื่อช่วยชาวกรุงศรีอยุธยา
  • หน้าแรกธรรมจักร  • เว็บบอร์ด  • ห้องสนทนา  • หนังสือธรรมะ  • บทสวดมนต์  • กฏแห่งกรรม  • รวมเว็บ