ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
โลกธรรม ๘ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=51221 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 13 ต.ค. 2015, 07:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | โลกธรรม ๘ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) |
![]() หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ยศถาบรรดาศักดิ์ ความสรรเสริญเยินยอ ความนินทาภายนอก หมู่นั้นน่ะมันเป็นแต่เพียงธรรมประจำโลก ท่านจึงเรียกว่า “โลกธรรม” ธรรมอันนี้มันมีมาแต่ดึกดำบรรพ์ พระพุทธเจ้าแสดงไว้ เป็นธรรมของเก่า บุคคลเกิดมาในโลกนี้ก็มาหวั่นไหวอยู่ด้วยความมีลาภมียศ สรรเสริญ ความสุขกายสบายใจ ถ้าได้ประสบอย่างนี้เรียกว่า ได้ประสบ “อิฏฐารมณ์” อารมณ์อันน่าชอบใจก็ดีอกดีใจว่าตนนั้นได้ในสิ่งที่ปรารถนา ได้ลาภ ได้ยศ ได้คำสรรเสริญเยินยอจากผู้อื่นมากมาย แล้วก็โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่ค่อยเบียดเบียนร่างกาย มีความสุขกายสุขใจอยู่ ติดอยู่ในความสุขอันนี้ท่านก็เรียกว่า ติดอยู่ในโลกธรรม ติดอยู่ในธรรมประจำโลก จิตใจก็หนีจากโลกนี้ไปไม่ได้ ก็ต้องวนเวียนเกิดแก่เจ็บตายอยู่ในโลกอันนี้ ถ้าไปยึดถือเอาความเสื่อมลาภเสื่อมยศ ถูกนินทาว่าร้าย ถูกความทุกข์ครอบงำกายใจ ก็ไปเสียอกเสียใจ ระทมทุกข์ทางจิตใจ เช่นนี้ก็เรียกว่า ยึดเอา “อนิฏฐารมณ์” อารมณ์อันที่เป็นที่ไม่น่าพอใจต่างๆ ในโลกนี้ มันก็เป็นเครื่องผูกมัดจิตใจให้ติดอยู่ในโลกนี้เช่นเดียวกัน ให้พึงพากันศึกษาให้เข้าใจ เราจะพอใจติดอยู่แต่ในโลกธรรมเท่านี้เหรอ หรือว่าเห็นโทษของโลกธรรมเหล่านี้ มันก็เป็นหน้าที่ของเราแต่ละคน จะต้องพิจารณาให้เห็นด้วยตนเอง ถ้าไม่เห็นด้วยตนเองแล้วก็ละมันไม่ได้ ต้องพิจารณาให้เห็นด้วยตนเอง อย่าไปนิ่งนอนใจอยู่เฉยๆ เพราะว่าชีวิตของคนเราที่เกิดมาในโลกนี้ มันมีโลกธรรมแปดประการนี้นะครอบงำอยู่นะ นั่นล่ะ พระพุทธองค์ตรัสว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามธรรมนั้น” นี่นะก็จริงอยู่นะ จิตใจก็ไหลไปตามโลกธรรมนี้อยู่ทั้งวันทั้งคืนไปอยู่อย่างนั้น เอ้า เพื่อนได้ลาภมา ร่ำรวยข้าวของเงินทองก็ดีอกดีใจ มีผู้ให้ยศถาบรรดาศักดิ์เข้าไปก็ดีใจปลื้มใจ มีใครสรรเสริญเยินยอก็ดีอกดีใจมาก นี่แหละทั้งร่างกายก็ไม่มีโรคภัยอันร้ายแรงเบียดเบียน ก็ชื่นชมยินดีกับร่างกายอันนี้อยู่อย่างนั้นถือว่าตนนั้นมีความสุขสบายพอแล้ว ไอ้อย่างนี้น่ะที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามธรรมนั้น หมายถึง “ดวงจิต” นี้เองแหละหวั่นไหวไปตามโลกธรรมเหล่านั้นอยู่ ไอ้คนเราที่จะได้ทะเลาะวิวาทกัน แตกสามัคคีกัน ก็เพราะมันหวั่นไหวต่อโลกธรรมทั้งแปดนี้อย่างใดอย่างหนึ่งนั่นเอง บางทีถูกผู้อื่นเขาตำหนิติเตียน นินทาว่าร้ายมาอย่างนี้ ก็หวั่นไหวแล้วจิตใจ ไม่พอใจแล้ว จะไม่ยอมให้ใครแตะต้องเลย ถือว่าไอ้เรานั้นมันก็คนคนหนึ่งนะ จะมาแตะต้องกันไม่ได้ มันก็ต้องตอบโต้กันไป ในที่สุดไม่มีใครดีกว่าใคร เลวด้วยกันทั้งสองฝ่าย ปานนั้นยังไม่รู้ตัวนะคนเนี่ยยังสำคัญว่าตัวดีอยู่ ถ้าผู้ใดรู้ตัวได้พยายามปรับปรุงจิตใจของตนให้หนักแน่นเข้าไป อดกลั้นทนทานต่อโลกธรรมดังกล่าวมานี้ได้ ไม่หวั่นไหว พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้นั้นย่อมมีกิเลสดั่งธุลีไปปราศแล้ว นี่แหละเราไม่อยากให้กิเลสหมดไปจากจิตใจเหรอ ก็ถามตัวเองดู ![]() ![]() :: รวมคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” http://www.dhammajak.net/forums/viewforum.php?f=75 :: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=6&t=51952 |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 07 เม.ย. 2016, 21:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โลกธรรม ๘ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ |
น้อมกราบองค์หลวงปู่เจ้าค่ะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Duangtip [ 01 ก.ค. 2018, 09:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โลกธรรม ๘ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |