วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 13:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2010, 23:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 08:36
โพสต์: 532

แนวปฏิบัติ: ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: กรรมทีปนี , วิมุตติรัตนมาลี , ภูมิวิลาสินี
ชื่อเล่น: เจ้านาง
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


:b44: ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่อัคคาฬวเจดีย์เมืองอาฬวี ทรงปรารภกุฏิการสิกขาบทที่ภิกษุชาวเมืองอาฬวีพากันสร้างกุฏิด้วยการเที่ยวขอไม่มีขีดจำกัด เป็นเหตุให้ชาวเมืองอาฬวีเดือดร้อนเห็นพระภิกษุที่ไหนก็กลัวหลบหนีหน้าไปหมด
:b44: พระองค์จึงตรัสติเตียนพวกภิกษุว่า "ภิกษุทั้งหลายขึ้นชื่อว่าการขอ อย่าว่าแต่มนุษย์เลย แม้พวกนาคในนาคภิภพก็ไม่ชอบใจ" แล้วทรงนำอดีตนิทานมาสาธก ว่า...
:b44: กาลครั้ง หนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ในตระกูลมั่งคั่งมีทรัพย์สมบัติมากตระกูลหนึ่ง ท่านมีน้องชายอยู่คนหนึ่งรักกันมากต่อมาเมื่อมารดาบิดาเสียชีวิตแล้ว พราหมณ์สองพี่น้องก็พากันสละทรัพย์สมบัติบริจาคทานออกบวชเป็นฤาษีบำเพ็ญพรตอยู่ฝั่งแม่น้ำคงคาฤาษีพี่ชายอยู่ทางทิศเหนือของแม่น้ำ ส่วนฤาษีน้องชายอยู่ทางทิศใต้ของแม่น้ำ อยู่มาวันหนึ่ง พญานาคมณิกัฏฐะได้แปลงเพศเป็นชายหนุ่มเที่ยวเล่นไปตามฝั่งแม่น้ำคงคา ผ่านไปถึงอาศรมของฤาษีผู้น้องจึงแวะเข้าไปสนทนาปราศรัยด้วยเกิดความสนิทสนม คุ้นเคยชอบพอกันกับฤาษีผู้น้องนั้นจึงเทียวมาเยี่ยมเยือนทุกวันมิได้เว้น เมื่อสนทนาเสร็จก่อนจะกลับก็จะคืนร่างเป็นพญานาคเอาขนดหางตะหวัดรัดรอบฤาษี แผ่พังพานไว้เหนือหัวด้วยความสิเนหาในฤาษีนั้น นอนพักอยู่หน่อยหนึ่งแล้วค่อยคลายร่างออกไหว้ฤาษี แล้วจึงกลับนาคพิภพ จะเป็นเช่นนี้ประจำ ฤาษีนั้นทุกครั้งที่ถูกรัดตัวเกิดความกลัวจึงกินไม่ได้นอนไม่หลับจนร่างกายซูบซีดผ่ายผอมลงทุกวัน วันหนึ่งท่านได้แวะไปหาฤาษีพี่ชายเล่าเรื่องให้ฟังแล้วปรับทุกข์กับพี่ชายว่า "ผมไม่อยากให้พญานาคมาหาผมเลย พี่ช่วยผมหน่อยซิ" พี่ชายถามว่า "พญานาคเวลามา มีเครื่องประดับอะไรไหมละ" "ประดับแก้วมณีมาครับพี่" ท่านตอบพี่ชาย ฤาษีพี่ชายจึงแนะนำว่า "เมื่อพญานาคมาถึงอาศรมของท่าน ยังไม่ทันได้ไหว้ ท่านก็ขอแก้วมณีของมันเลย มันก็จะหนีไปวันที่สองพอมันมาถึงประตูอาศรมเท่านั้น ท่านก็เอ่ยปากขอแก้วมณีของมันอีก พอถึงวันที่สาม ท่านไปยืนดักรอที่ฝั่งแม่น้ำ พอมันโผล่หัวขึ้นจากฝั่งแม่น้ำเท่านั้น ท่านก็เอ่ยปากขอแก้วมณีอีก ทีนี้แหละมันก็จะไม่มารบกวน ท่านอีกเลย " ฤาษี ผู้น้องได้ทำตามนั้น ในวันที่ ๓ พญานาคขณะยืนอยู่ในน้ำเมื่อถูกฤาษีขอแก้วมณีอีก จึงพูดว่า "ท่านฤาษี ข้าวและน้ำอันไพบูลย์ยิ่งมีแก่ข้าพเจ้าก็เพราะแก้วมณีดวงนี้ ข้าพเจ้าจักให้แก้วมณีแก่ท่านได้อย่างไรท่านก็ยิ่งขอหนักขึ้น ต่อแต่นี้ไปข้าพเจ้าจักไม่มาอาศรมของท่านอีกแล้วละ เมื่อท่านขอแก้วมณีดวงนี้ทำให้ข้าพเจ้าหวาดเสียวเหมือนชายหนุ่มถือดาบอันคม กริบ"กล่าวจบก็ดำน้ำลงไปนาคพิภพไม่กลับมาที่นั้นอีกเลย
:b44: ฝ่าย ฤาษี เมื่อพญานาคไปแล้วไม่มาหาอีกกลับคิดถึง เกิดความเศร้าเสียใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมจึงยิ่งซูบผอมลงไปมากกว่าเดิมอีก หลายวันต่อมาฤาษีพี่ชายอยากจะทราบเรื่อง จึงแวะมาที่อาศรมน้องชาย เมื่อเห็นน้องชายแล้วยิ่งตกใจจึงถามถึงสาเหตุ ฤาษีน้องชายจึงตอบเป็นคาถาว่า "บุคคลไม่ควรขอสิ่งที่รู้ว่าเป็นที่รักของเขา อนึ่ง เพราะขอเกินไปย่อมเป็นที่เกลียดชัง นาคราชถูกฤาษีขอแก้วมณี จึงไม่หวนกลับมาให้ฤาษีเห็นอีกเลย"
:b44: ฤาษีพี่ชายได้ปลอบน้องชายให้หายเศร้าเสียใจ แล้วจึงกลับอาศรมของตน ฤาษีสองพี่น้องบำเพ็ญฌานสมาบัติได้ไปเกิดในพรหมโลกในที่สุด
:b44: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: โดยธรรมชาติของคนและสัตว์ไม่ชอบการขอ ควรขอเท่าที่จำเป็นและขอในสิ่งที่เขาจะสามารถให้ได้เท่านั้น

ที่มา :หนังสือนิทานชาดก เล่มที่ ๒ โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม (เสนาซุย)

.....................................................
...รู้จักทำ รู้จักคิด รู้ด้วยจิต รู้ด้วยศรัทธา...
..................ศรัทธาธรรม..................


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 29 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร