วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 22:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2010, 13:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกกตัญญูกับหมอ บุญเทียม


รูปภาพ

ที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนัน มีนายแพทย์ผู้มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพยกย่องของชาวเมืองทั่วไปท่านหนึ่ง ทุกคนเรียกท่านว่า หมอบุญหมอบุญเป็นหมอที่เกิดมาเพื่อวิชาชีพที่ช่วยชีวิตคนเจ็บป่วยจริงๆเพราะหมอไม่เคยเห็นแก่เงินไม่เคยย่อท้อต่อความเหนื่อยยากให้การรักษาคนไข้ด้วยความเอาใจใส่เหมือนกันหมดไม่ว่ายากดีมีจนเป็นที่รู้กันไปทั่วว่า หมอบุญไม่ยอมรับความสะดวกสบายด้วยการนั่งรถรับจ้างที่คนไข้ยากจนต้องจ่ายค่ารถให้ไปตรวจรักษาที่บ้าน หมอจะอ้างว่าเป็นฝีที่ก้นนั่งรถกระแทกไม่ได้ แล้วหมอก็จะก้าวฉับๆเดินเท้าไป หากถึงเวลาอาหารหมอบุญก็ไม่ยอมรับประทานอาหารที่ญาติคนไข้เตรียมไว้ต้อนรับซึ่งมากมายไปด้วยหมูเห็ดเป็ดไก่ หมอจะอ้างว่า หมอไม่รับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์จะรับประทานแต่ผักและเต้าหู้เท่านั้น
นานวันเข้าก็เป็นที่รู้กันไปทั่วอีกว่าหมอบุญไม่อยากให้ใครต้องยุ่งยากสิ้นเปลืองเพื่อท่าน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วหมอบุญยังไม่ได้ปวารณาถือมังสวิรัติหรือกินเจดังนั้นคนทั้งหลายจึงเรียกหมอบุญว่า "หมอบุญเทียม" ที่เรียกว่า "บุญเทียม"นั้นคือยังไม่ได้ถือเจจริงๆนั่นเอง
เย็นวันหนึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินทางมาจากอำเภอหัวที่อยู่ไกลออกไปมาก เขามาขอความช่วยเหลือจากหมอขอให้เดินทางไปตรวจรักษาแม่ของเขาที่บ้านด้วยเนื่องจากแม่ป่วยมาเป็นเวลาช้านานแล้ว รักษาอย่างไรก็ไม่ได้ผล ในที่สุดก็ได้บนบานศาลกล่าวขอให้สิ่งศักดิ์สิทธ์ช่วยให้ได้พบหมอดีที่จะช่วยรักษาแม่ของเขาให้หายด้วยเถิดเมื่อวานนี้ จึงมีผู้แนะนำให้เขาเดินทางมาหาหมอบุญเทียมซึ่งเป็นหมอที่เชี่ยวชาญสามารถ อีกทั้งเปี่ยมด้วยเมตตาคุณธรรมชายหนุ่มผู้นั้นแซ่เฉิน เป็นลูกกตัญญูที่ชาวอำเภอหัวกล่าวขวัญไปทั่ว เมื่อหนุ่มเฉินเหยียบย่างเข้ามาในบ้านของหมอบุญเทียมเขาก็ยอมรับประทับใจในคำชื่นชมที่บ้านมีต่อหมออย่างจรังจังเขาได้เห็นความเรียบง่ายสมถะ และความเมตตาจริงใจของหมอด้วยสายตาของเขาเองหมอบุญเทียมรับปากว่า พรุ่งนี้จะออกเดินทางไปอำเภอหัวตั้งแต่เช้าพร้อมกับชายหนุ่มเฉิน ซึ่งการเดินทางไปอำเภอหัวจะต้องนั่งเรือข้ามฟากไปอำเภอหลิ่วหยัง ทั้งทุลักทุเลและฝ่าอันตรายแต่เพื่อช่วยชีวิตคนไข้หมอบุญเทียมก็ไม่ปฏิเสธที่จะไปที่ท่าข้ามแม่น้ำหลิ่วหยังไปยังฟากตรงข้ามซึ่งเป็นอำเภอหัว และอำเภออื่นอีกมากแม้จะเป็นท่าข้ามที่มีความสำคัญยิ่งแห่งหนึ่งแต่ภาชนะที่ใช้ข้ามฟากยังเป็นเรือยนต์เล็กๆ
ก่อนหน้าที่หมอบุญเทียมจะเดินทางไปอำเภอหัวคืนนั้นนายท่าเรือหลิ่วหยังฝันไปว่าพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (พระโพธิสัตว์กวนอิม) ได้เสด็จลงมากำชับเขาว่า
"พรุ่งนี้เรือเที่ยวแรกที่จะข้ามแม่น้ำไปที่อำเภอหัวจะมีหมอบุญเทียมมาร่วมลงเรือไปด้วยเจ้าจงหาทางยับยั้งไว้อย่าให้เขาลงเรือไป หากไม่ปฏิบัติตามเจ้าจะได้รับโทษ"
นายท่าเรือตกใจตื่น แต่คิดว่าเป็นความฝันเรื่อยเปื่อยจึงไม่ได้ใส่ใจแล้วก็เคลิ้มหลับต่อไป คราวนี้เขาฝันเห็นเทพเจ้าผู้ตรวจการแม่น้ำพระองค์สั่งสำทับเขาว่า
"อย่าลืมนะพรุ่งนี้ให้ยับยั้งหมอบุญเทียมไว้หากเจ้าปล่อยให้เขาลงเรือข้ามฟากไป เจ้าจะโดนไม้พลองนี้จนตาย"
นายท่าเรือตกใจตื่นขึ้นอีก คราวนี้เขาชักไม่สบายใจกับความฝันนั้นแต่เนื่องด้วยยังเป็นเวลาเช้ามืดมาก ด้วยความง่วง นายท่าเรือจึงเคลิ้มหลับต่อไปอีกพอหลับได้ไม่นาน เขาก็ฝันเห็นพ่อปู่เจ้าที่ท่านมาเตือนย้ำเขาว่า
"นายท่าจำไว้ให้ดีนะ ที่พระโพธิสัตว์กวนอิมและเทพเจ้าผู้ตรวจการแม่น้ำกำชับไว้ อย่าให้หมอบุญเทียมลงเรือข้ามฟากเป็นอันขาด มิฉะนั้นข้าจะไม่อภัยให้เจ้าแน่ๆ"
นายท่าเรือตื่นขึ้นครั้งนี้เขานอนไม่หลับอีกต่อไปลุกขึ้นนั่งใจจดใจจ่อแต่คนที่ชื่อหมอบุญเทียมอยู่จนกระทั่งฟ้าสางนายท่าเรือไม่กล้าคิดว่าความฝันที่ย้ำเตือนถึงสามครั้งสามคราเมื่อคืนนี้จะเป็นเรื่องไร้สาระอีกต่อไปเขาสั่งลูกน้องทุกคนให้สอดส่องตรวจตราให้ถี่ถ้วน
เขาประกาศว่า "มิให้หมอบุญเทียมลงเรือข้ามฟากเที่ยวเช้านี้เป็นอันขาด"
ฝ่ายหมอบุญเทียมและหนุ่มเฉินลูกกตัญญู เดินทางมาถึงท่าข้ามแต่เช้ายังไม่ได้เวลาที่เรือเที่ยวแรกจะออกจากท่าจึงพากันแวะเข้าไปรับประทานอาหารในร้านขายอาหารแถวนั้น หนุ่มเฉินจะสั่งหมูย่างไก่ย่างมาเลี้ยงหมอบุญเทียมรีบห้ามไว้ทันที แล้วบอกว่า
"หมอกินได้แต้ผักและเต้าหู้ไม่กินเนื้อสัตว์"
หนุ่มเฉินได้ฟังก็หัวเราะและพูดว่า "หมอโปรดอย่าได้เกรงใจอาหารเท่านี้ไม่ได้ทำให้ผมสิ้นเปลืองสักเท่าไหร่เลย ผมทราบมาว่าหมอไม่ได้ถือเจอย่างจริงจัง ขอประทานโทษผมทราบว่าด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงเรียกหมอว่า "หมอบุญเทียม"
คำสนทนาระหว่างหมอกับหนุ่มเฉินไม่ได้รอดพ้นจากการสอดส่องตรวจตราของเจ้าหน้าที่การท่าเรือไปได้เลย คนที่ได้ยินคำสนทนานี้รีบไปรายงานนายท่าเรือทันทีว่า
"ผมพบหมอบุญเทียมแล้วผมพบแล้ว"
"ถ้าเช่นนั้นรีบคุมตัวไว้ แล้วให้เรือเที่ยวเช้าออกจากท่าทันที"
นายท่าสั่งการโดยด่วน หนุ่มเฉินและหมอไม่เข้าใจเลยว่าตนมีความผิดอะไรจึงต้องถูกกักกันไว้ไม่ให้ลงเรือลำนี้ หนุ่มเฉินร้องไห้โฮเขาคุกเข่าลงอ้อนวอนนายท่าขอให้เขาได้พาหมอข้ามไปรักษาแม่ของเขาโดยเร็วที่สุดเถิดแต่ถึงอย่างไรนายท่าก็ไม่ยอมอนุญาติ ดูไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยแต่คำสั่งห้ามที่อธิบายไม่ได้ของนายท่า ก็มิไดทำให้ทุกฝ่ายสงสัยอยู่นานนักเพราะเมื่อเรือยนต์ลำนั้น แล่นไปไม่ถึงกลางแม่น้ำพลันก็เกิดลมพายุใหญ่โดยปัจจุบันพัดเรือยนต์ลำนั้นพลิกคว่ำลงกลางแม่น้ำทันทีผู้โดยสารทุกคนจมหายลงไปกับกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ไม่มีใครรอดชีวิตแม้แต่คนเดียวเขาเหล่านั้นทำกรรมมาในระดับเดียวกัน คนดีมีคุณธรรมเสมอมักจะอยู่ในสายตาของเทพยดาฟ้าดินทั้งสิ้น สิ่งศักดิ่สิทธ์ทั้งหลายพระองค์จะทรงห่วงใยไม่อาจปล่อยให้ต้องจับพลัดจับผลูปะปนเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนที่มีกรรมหนักได้จึงได้พยายามทุกวิถีทางที่จะพยายามรักษาชีวิตของเค้าไว้ให้เป็นประโยชน์และเป็นแบบอย่างอันดีงามแก่คนทั้งหลายต่อไปเฉกเช่นหมอบุญเทียมและหนุ่มเฉินลูกกตัญญู เมตตาโดยท่านอาจารย์ ฟังเตี่ยนฉวนซือ

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


แก้ไขล่าสุดโดย ธรรมบุตร เมื่อ 11 ม.ค. 2010, 13:28, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 33 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร