วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 23:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2009, 20:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

.....ชาดกว่าด้วยโทษของการไม่รู้จักประมาณ

.....สถานที่ตรัสชาดก


.....เชตวันมหาวิหาร นครสาวัตถี



.....สาเหตุที่ตรัสชาดก


.....ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระบรมศาสดาประทับ ณ เชตวันมหาวิหาร ได้ทรงทราบว่ามีพระภิกษุรูปหนึ่ง มีนิสัยดื้อรั้นไม่อยู่ในโอวาทของพระเถระผู้ใหญ่ และไม่สนใจรับฟังคำตักเตือนของเพื่อนพระภิกษุด้วยกัน ประพฤติตนเป็นที่เบื่อหน่าย เอือมระอาแก่เพื่อภิกษุทั้งหลาย

.....พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงเรียกพระภิกษุรูปนั้นมา เมื่อทรงซักถามได้ความแล้ว จึงทรงตำหนิ แล้วทรงระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณ ถึงภพในอดีตของพระภิกษุรูปนั้น ทรงชี้โทษของการเป็นคนว่ายากสอนยาก ที่พระภิกษุนั้นเคยได้รับในชาติก่อน โดยตรัสว่า สังขธมนชาดก ดังนี้



.....เนื้อหาชาดก

.....ในอดีตกาล สมัยเมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติ ณ กรุงพาราณสี คราวหนึ่ง มีงานนักขัตฤกษ์ประจำปี พ่อลูกสองคนซึ่งเป็นนักเป่าสังข์ ได้พากันมาแสดงการเป่าสังข์ในงานนี้ด้วย

.....สองพ่อลูกเป่าสังข์เป็นเพลงได้ไพเราะจับใจมาก ไม่ว่าจะเป็นเพลงช้า เพลงเร็ว เพลงใหม่ เพลงเก่าอย่างไร ทั้งสองก็เป่าได้ถูกอกถูกใจคนฟังยิ่งนัก ทั้งยังร่ายรำทำท่าตามจังหวะเพลงได้อย่างเหมาะเจาะ ทำให้ผู้ฟังสนุกสนานเพลิดเพลินไปด้วยกันอย่างเต็มที่

.....คนที่มาเที่ยวงานต่างมุงฟังเสียงสังข์ของสองพ่อลูกอย่างแน่นขนัด ทุกครั้งที่เสียงสังข์หยุดลง ก็จะได้ยินเสียงปรบมือและเสียงเงินเหรียญที่คนฟังหย่อนใส่ถุงให้ทั้งสองพ่อลูก ยิ่งมีคนฟังมากก็ได้เงินมาก เขาก็ยิ่งครึ้มอกครึ้มใจ เป่าสังข์ได้สนุกสนานครื้นเครงยิ่งขึ้นไปอีก

.....สองพ่อลูกเป่าสังข์จนกระทั่งงานเลิกแล้ว จึงพากันเดินลัดเลาะมาตามชายป่าเพื่อกลับบ้าน ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้น ผู้เป็นพ่อรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจ จึงหยิบสังข์ขึ้นมาเป่าทำนองที่ใช้ประกอบการเสด็จของเจ้านายชั้นสูง ลูกชายก็ไม่ว่าอะไร ได้แต่เดินเคียงข้างไปเรื่อยๆ

.....หลังจากเป่าทำนองขบวนเสด็จกองเกียรติยศไปได้ระยะหนึ่ง เขาก็เป่าสังข์เป็นทำนองสนุกสนานครื้นเครง ตามจังหวะเพลงที่กำลังนิยมกัน ลูกชายจึงเขย่าแขนพ่อแล้วเตือนขึ้นทันที

....."พ่อ…พ่อ…!! เป่าเพลงอะไรน่ะ หยุดเถอะ"

......แต่ผู้เป็นพ่อกลับเบี่ยงตัวหลบ แล้วเป่าสังข์ต่ออย่างครึ้มใจ แม้ลูกชายจะท้วงติงอย่างไร ก็ไม่สนใจฟัง

.....ฝ่ายพวกโจรซึ่งอยู่ในป่า ได้ยินเสียงเป่าสังข์ในตอนแรก ก็ซ่อนตัวเงียบอยู่ เพราะคิดว่ามีขบวนเสด็จผ่านมา แต่เมื่อฟังไปเรื่อยๆ ทำนองเพลงสังข์กลับเปลี่ยนไปไม่ใช่ขบวนเสด็จเสียแล้ว ก็แปลกใจ ครั้นออกจากที่ซ่อน เห็นสองพ่อลูกกำลังเป่าสังข์อยู่ก็โกรธ จึงพากันกรูเข้ามารุมตีสองพ่อลูก แล้วชิงเงินทั้งหมดไป

.....เมื่อโจรไปหมดแล้ว ลูกชายได้พยุงพ่อให้ลุกขึ้น แล้วกล่าวว่า

....."พ่ออยากเป่าสังข์ก็เป่าไปเถิด แต่ไม่น่าเป่าเกินประมาณอย่างนี้ เราอุตส่าห์เป่าสังข์ได้ทรัพย์มา แต่พ่อกลับเป่าสังข์พร่ำเพรื่อเลยเป่าเอาทรัพย์ไปแท้ๆ ทีเดียว"

.....จากนั้น ทั้งสองคนพ่อลูกก็พากันเดินโซซัดโซเซกลับบ้านด้วยความทุลักทุเล



.....ประชุมชาดก

.....เมื่อพระบรมศาสดาทรงแสดงชาดกจบแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า

.....บิดา ได้มาเป็นพระภิกษุผู้ว่ายาก

.....ลูกชาย ได้มาเป็นพระองค์เอง



.....ข้อคิดจากชาดก

.....๑. ผู้ใหญ่ทั้งหลาย ควรรับฟังความคิดเห็น คำท้วงติงของเด็กบ้าง อย่าถือว่าตนเองผ่านโลกมามากกว่า เพราะโดยทั่วไปคนเรามักมองไม่ค่อยเห็นความผิดของตัวเอง ต้องให้คนอื่นช่วยบอกให้

.....๒. ผู้ใหญ่ดื้อ แก้ยาก เหมือนไม้แก่ดัดยาก บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเป็นคนหัวดื้อ
บางคนรู้ตัวว่าเป็นคนดื้อรั้น อยากแก้ไขตัวเองเหมือนกัน แต่ก็มีทิฐิจัด ใครเตือนก็โกรธ ไม่ยอมรับ อย่างนี้ต้องแก้ไขตัวเอง โดยหมั่นนั่งสมาธิมากๆ สำรวจตัวเองทุกวันว่า มีข้อบกพร่องอะไรแล้วพยายามแก้ไขตัวเองไปเรื่อยๆ

.....๓. ลูกที่เห็นว่า พ่อ แม่ ดื้อรั้นในบางเรื่อง เมื่ออยากจะตักเตือนต้องฉลาดหาอุบายที่เหมาะสม อย่าผลีผลามพูดจาว่ากล่าวโดยไม่ถูกกาลเทศะ และต้องรู้จักขัดเกลาสำนวนให้ไพเราะ มิฉะนั้นจะกลายเป็นลบหลู่พ่อแม่ไป


:b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2009, 09:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 33 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร