วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 03:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 16:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ เมืองหิรัญบุรี
มีกษัตริย์องค์หนึ่งปกครองอยู่ทรงมีพระนามว่า “พระเจ้าหิรัญญา”
พระเจ้าหิรัญญาเป็นกษัตริย์ที่ตั้งมั่นในการบำเพ็ญเพียรและบูชาพระนารายณ์
ด้วยการสวดมนต์ถึงพระองค์ พระเจ้าหิรัญญาทรงเห็นว่า
เมื่อได้ปฏิบัติดังนี้จะทำให้ตนเองมีใจเป็นสุขสงบนิ่งสมาธิดีเป็นเลิศ
สามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาต่างๆ ของบ้านเมืองได้เป็นผลสำเร็จลุล่วงทุกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ เมื่อว่างเว้นจากการทรงงานในฐานะกษัตริย์
พระองค์จึงมักเสด็จเข้าห้องบรรทม เพื่อเข้าฌานฝึกสมาธิและสวดมนต์
ระลึกถึงองค์นารายณ์อย่างสม่ำเสมอ


อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่พระเจ้าหิรัญญากำลังเข้าฌานอยู่นั้น
จู่ๆ ก็มีเสียงร้องเรียกพระนามของพระองค์ดังแว่วขึ้นว่า

“หิรัญญาเอ๋ย หิรัญญา...จงลืมตาขึ้นเพื่อรับพรจากเราเถิด”


เมื่อได้ฟังเช่นนั้น พระเจ้าหิรัญญาก็ค่อยๆ ลืมพระเนตรขึ้นมอง
พบชายผู้หนึ่งรูปร่างงดงามยิ่งนักกำลังยืนอยู่ตรงหน้าพระองค์
รอบๆ ร่างกายของชายผู้นี้สว่างไสวไปด้วยรัศมีสีทอง
พระเจ้าหิรัญญารู้โดยทันทีว่าชายผู้นี้ต้องเป็นเทพเจ้าชั้นสูงองค์ใดองค์หนึ่งเป็นแน่
จึงรีบทรุดกายลงนั่งกับพื้นและหมอบกราบแทบเท้าเทพเจ้า

“ด้วยความเคารพองค์เทพเจ้า ท่านคือเทพซึ่งปรากฏพระนามเช่นไรหรือ”
พระหิรัญญาทรงตรัสถาม

“นามของข้าเป็นที่รู้จักดีของท่าน ท่านบูชาข้าอยู่ทุกทิวาราตรีแล้ว หิรัญญาเอ๋ย”
องค์เทพเจ้าตรัสตอบ

“ท่าน คือ...องค์นารายณ์ กระนั้นหรือ...โอ้...ข้าไม่นึกไม่ฝันมาก่อน
ว่าจะมีบุญได้เห็นท่านมาโปรด” หิรัญญาตรัสด้วยความดีพระทัยอย่างเหลือล้น

“เรามาโปรดท่าน ด้วยเห็นถึงความตั้งใจในการบำเพ็ญสมาธิของท่านนี้
เราจักให้พรแก่ท่านหนึ่งประการ ขอให้ท่านแจ้งความประสงค์แห่งพรประการนั้นมาเถิด”

องค์นารายณ์ตรัสแก่พระเจ้าหิรัญญา และโดยไม่รอช้า
พระเจ้าหิรัญญาก็ทูลขอพรประการนั้นทันที

“ข้าแต่องค์พระนารายณ์ผู้ยิ่งใหญ่ ขอพระองค์โปรดประทานความเป็นอมตะให้แก่ข้า
ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ก็ไม่อาจทำร้ายข้าได้ ไม่ว่าในเวลากลางวันหรือกลางคืน
ไม่ว่าจะอยู่ในเรือนหรือนอกเรือน ก็จักไม่มีผู้ใดสามารถสังหารหรือทำลายข้าได้เลย”


องค์นารายณ์ เมื่อได้ฟังคำขอจากพระเจ้าหิรัญญา
ก็รู้สึกถึงความลำพองใจอันชั่วร้ายบางประการที่แฝงอยู่ในจิตส่วนลึกของกษัตริย์ผู้นี้
แต่กระนั้นเมื่อพระองค์ทรงให้คำสัตย์ไปแล้วว่าจะปรานพรตามคำขอ
ก็จำเป็นจะต้องให้พรตามคำสัตย์นั้น

“เราจักประทานพรให้แก่เจ้าตามคำขอทุกคำที่เจ้าได้ร้องขอ
ขอพรนั้นจงปรากฏแก่เจ้า ณ บัดนี้”


สิ้นคำพระนารายณ์ แสงสีทองก็สว่างวาบขึ้นทั่วห้องบรรทมของพระเจ้าหิรัญญา
แล้วร่างขององค์พระนารายณ์ก็หายวับไป พร้อมกับที่พระเจ้าหิรัญญารู้สึกได้ว่า
พระองค์ทรงมีพรวิเศษขององค์พระนารายณ์อยู่กับตัวแล้ว


พระเจ้าหิรัญญานั้น เมื่อได้รับพรความเป็นอมตะจากองค์พระนารายณ์
ก็เกิดความฮึกเหิมชั่วร้ายขึ้นในจิตใจ พระองค์แปรเปลี่ยนไป
เป็นกษัตริย์ที่ลุ่มหลงมัวเมาในอำนาจของตน
ทรงกลายเป็นผู้มีจิตใจโหดเหี้ยมและหยาบคาย ละเลยกิจวัตรการบำเพ็ญเพียร
ละทิ้งการสวดมนต์สรรเสริญองค์นารายณ์
ด้วยคิดว่าความเป็นอมตะนี้ได้ทำให้พระองค์ยิ่งใหญ่กว่าใคร
และไม่จำเป็นต้องนับถือผู้ใดนอกจากตัวของพระองค์เอง
บัดนี้พระองค์ไม่เป็นที่รักของประชาชนและข้าราชบริพารอีกต่อไป
แต่กระนั้นก็ไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นใดๆ เนื่องจากเกรงกลัวพระอาญา


ตามกฎการออกศึกของเมืองหิรัญบุรีที่เคยสงบสุขนั้น
สงครามระหว่างเมืองจะเกิดขึ้นเมื่อมีข้าศึกจากเมืองอื่นยกทัพมา
หมายจะยึดครองหิรัญบุรีเท่านั้น
เพราะพระเจ้าหิรัญญาไม่อยากให้ใครๆ ต้องเป็นทุกข์ด้วยภัยจากสงคราม
แต่มาภายหลังเมื่อทรงได้รับพรให้เป็นอมตะแล้ว
พระองค์กลับทรงต้องการขยายอาณาเขตให้กว้างไกล
เพื่อประกาศความเป็นมหาราชา ของพระองค์ให้ระบือไกลไปทั่วทุกสารทิศ
สงครามระหว่างเมืองจึงเกิดขึ้นโดยที่พระองค์เป็นผู้บัญชาการการรบด้วยพระองค์เอง
และทรงได้รับชัยชนะจากทุกที่ที่ทรงยกทัพเข้าไปทำลายล้าง
เมื่อยึดครองเมืองเหล่านั้นได้แล้ว
พระองค์ก็ริบเอาทรัพย์สมบัติทั้งหมดมาเป็นของส่วนพระองค์
และทรงบังคับให้ชาวเมืองหันมาบูชา
และกล่าวคำสรรเสริญพระนามของพระองค์แทนเทพเจ้าทั้งหลาย
ที่ได้เคยเคารพบูชากันมาหลายร้อยปี


ด้วยความเกรงกลัวในอำนาจของพระเจ้าหิรัญญา
จึงไม่มีใครกล้าแข็งข้อขัดขืนคำสั่งของพระองค์
และเมื่อพระเจ้าหิรัญญาทรงได้ยินเสียงบูชาสรรเสริญนามของพระองค์
ดังไปทั่วทุกสารทิศก็ยิ่งทำให้ทรงลำพองพระทัยมากขึ้นเรื่อยๆ

:b51: :b52: :b53:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 16:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่พระเจ้าหิรัญญากำลังเพลิดเพลิน
อยู่กับการฟังคำสรรเสริญพระนามของพระองค์อยู่นั้น
จู่ๆ ก็มีเสียงสรรเสริญพระนามของเทพเจ้าองค์หนึ่งดังแทรกขึ้นมาว่า

“โอม นะโม นารายณะ...โอม นะโม นารายณะ”

พระเจ้าหิรัญญาได้ยินเข้าก็ทรงพิโรธมาก
รับสั่งให้ทหารไปจับกุมผู้ที่เอ่ยคำสรรเสริญพระนาม
ของเทพเจ้ามาให้พระองค์ เพื่อลงพระอาญา

“มันผู้นั้นคงจักเป็นบุรุษฉกรรจ์ที่คิดว่าตน เองมีฤทธิ์เดชมากมาย
จึงกล้ามาท้าทายอำนาจของข้า ดีแล้ว! ข้าจักทำให้มันสิ้นชีวิตอย่างทรมาน
เพราะความบังอาจของมันเอง” พระเจ้าหิรัญญารับสั่งอย่างเดือดดาล


แต่... ผู้กล้าสรรเสริญพระนามของพระเทพเจ้าใช่บุรุษฉกรรจ์ดั่งที่พระเจ้าหิรัญญานึกคิดไม่
หากแต่เป็นเพียงหนุ่มน้อยวัยแรกรุ่นที่มีแววตาเฉลียวฉลาด และแข็งกล้าคนหนึ่งเท่านั้น

“เจ้าเป็นใคร” พระเจ้าหิรัญญาตรัสถามอย่างกราดเกรี้ยว

“กราบ ทูลพระราชาผู้ทรงอำนาจ ข้าพระองค์มีนามว่า ภารดา
เป็นเพียงเด็กหนุ่มกำพร้าที่พเนจรเรร่อนไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น” ภารดาตอบ

“อย่างนั้นจงตอบข้ามา ใยเจ้าจึงกล้าขัดคำสั่งข้า
กล่าวคำสรรเสริญบูชานามแห่งเทพเจ้าองค์อื่นที่ไม่ใช่ข้า
แม้เจ้าจะเป็นคนจร แต่ชื่อเสียงและคำสั่งของข้าก็ระบือไกลไปทุกแคว้น เจ้าไม่รู้รึ
ว่าข้าสั่งให้ทุกคนหันมาบูชาสรรเสริญนามของข้า”

“ข้าพระองค์รู้ดี มหาราชา ตลอดทางที่ข้าพระองค์จรผ่านมา
ข้าพระองค์ก็ได้ยินแต่เสียงเอ่ยพระนามของพระองค์เท่านั้น” ภารดากล่าว

“ทุกคนสรรเสริญข้า” พระเจ้าหิรัญญาตรัสอย่างภาคภูมิพระทัย

“เปล่าเลย มหาราชา สิ่งที่ข้าได้ยินคือเสียงสาปแช่งพระองค์ที่ดังระงมไปทั่วทุกหัวระแหง
แม้วาจาของประชาชนจะเอ่ยสรรเสริญพระองค์ดังแค่ไหน
แต่ในใจของพวกเขากลับสาปแช่งพระองค์ด้วยเสียงที่ดังยิ่งกว่า
และสำหรับตัวข้า...ข้าไม่นับถือพระองค์เลย มหาราชา
เพราะอย่างนั้น จะไม่มีนามของพระองค์ปรากฏออกมาทางวาจา
หรือแม้แต่ในความนึกคิดของข้าเป็น แน่”

“บังอาจนัก เจ้าคนพเนจร!” พระเจ้าหิรัญญาตวาด
“เจ้าไม่รู้รึว่าข้ามีอำนาจมากแค่ไหน
ข้านั้นเป็นอมตะไม่มีวันตาย และเจ้าควรสรรเสริญบูชาข้า”

“มหาราชา พระองค์ทรงลืมไปแล้วหรือว่า
อำนาจของพระองค์นั้นหาได้เกิดขึ้นโดยพระองค์ไม่
จงอย่าลืมพระองค์เอง อย่าลืมผู้ประทานพรแก่พระองค์
มหาราชา...พระองค์ได้รับอำนาจนั้นมาจากมหาเทพนารายณ์มิใช่หรือ
...โอมนะโม นาราณะ...องค์นารายณ์ผู้ประทานพรนั้นต่างหากเล่า คือ ผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง
พระองค์ยิ่งใหญ่กว่ากษัตริย์อย่างท่านนัก และข้าจักบูชาพระองค์เหนือท่านเช่นกัน”

พระ เจ้าหิรัญญาพิโรธหนัก รับสั่งอย่างกราดเกรี้ยวให้ภารดาอยุดบูชาองค์นารายณ์
และหันมาสรรเสริญ พระองค์เพียงผู้เดียว ไม่เช่นนั้นพระองค์จะรับสั่งประหารชีวิตเขาเสีย

“โอม นะโม นารายณะ...โอม นะโม นารายณะ...โอม นะโม นารายณะ”
ภารดาหลับตา เฝ้าแต่ท่องสรรเสริญพระนารายณ์อย่างสงบเยือกเย็น


พระเจ้ารัญญาเห็นว่าการกระทำของภารดาเป็นการท้าทายพระราชอำนาจของพระองค์ยิ่งนัก
จึงมีรับสั่งให้ทหารจับภารดาไปโยนทิ้งที่หน้าผาเสีย
ภารดาไม่ต่อต้านการจับกุมแต่อย่างใด เขาหลับตาและท่องบูชาพระนารายณ์ไป
จนกระทั่งตนเองถูกจับโยนลงมาจากหน้าผา


แล้วสิ่งมหัศจรรย์ ก็บังเกิด ร่างที่ทิ้งดิ่งลงสู่ก้นเหวอย่างรวดเร็วของภารดา
กลับค่อยๆ เคลื่อนลงไปอย่างเชื่องช้า กระทั่งภารดาสามารถหมุนพลิกตัว
ให้เท้าแตะพื้นก้นเหวได้อย่างปลอดภัย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

“โอม นะโม นารายณะ...ขอบพระทัยองค์นารายณ์ที่ช่วยข้าน้อยให้พ้นภัย”


พระเจ้าหิรัญญาไม่ทรงละความพยายามที่จะสังหารภารดาผู้ไม่ยอมสรรเสริญพระองค์
จึงรับสั่งให้ทหารจับภารดาโยนเข้ากองไฟที่กำลังโหมกระพืออย่างรุนแรง
ตลอดเวลาพระเจ้าหิรัญญาและเหล่าทหารได้ยินแต่คำสวดพร่ำถึงองค์นารายณ์ของภราดา
กระทั่งไฟมอดกลายเป็นขี้เถ้า แต่ภารดาผู้อยู่ในกองไฟร้อนแรงหาได้รู้สึกระคายผิวไม่
สร้างความอัศจรรย์ใจให้แก่เหล่าข้าบริพารในที่นั้นเป็นอย่างมาก


ฝ่ายพระเจ้าหิรัญญาเมื่อเห็นว่าตนเองไม่สามารถทำอะไรภารดาได้
ก็รู้สึกบันดาลโทสะยิ่งนัก ทรงหยิบพระขรรค์ขึ้นมาแล้วตัดศีรษะเด็กหนุ่มจนขาดกระเด็น

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” พระเจ้าหิรัญญาทรงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“เจ้าเด็กโอหัง ข้าเตือนเจ้าแล้ว ไม่มีใครในโลกนี้หรอกที่ต่อกรกับข้าได้
...ทหาร เอาหัวของมันไปเสียบประจานให้ผู้คนได้เห็นจุดจบของผู้ที่กล้าอวดดีกับข้า
และสับร่างมันเป็นชิ้นๆ โยนให้อีแร้งนอกเมืองจิกทึ้ง”

:b51: :b52: :b53:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 16:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


แต่โดยฉับพลันนั้นเอง ศีรษะที่ถูกตัดขากของหนุ่มน้อยภารดาก็หายวับไป
ส่วนร่างของเขานั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงบางประการ
ตรงคอที่ถูกตัดขาดนั้นกลับกลายเป็นศีรษะของสิงโตขึ้นมาแทนที่
ร่างครึ่งคนครึ่งสิงโตกลับมามรชีวิตอีกครั้ง มันยืนขึ้นกวาดตามองไปทั่วบริเวณ
เหล่าทหารและเสนาอำมาตย์เมื่อเห็นดังนั้นก็พากันวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว กันจ้าละหวั่น

“เจ้าเป็นใคร” พระเจ้าหิรัญญาตรัสถาม และเงื้อพระขรรค์ขึ้นเตรียมพร้อมที่จะฟาดฟัน

“ข้าคือนาราซิมฮา ผู้เป็นข้าแห่งองค์นารายณ์
พระองค์ทรงมีรับสั่งให้ข้าลงมาปลิดชีพกษัตริย์ผู้ไร้คุณธรรมเช่นท่าน”
นาราซิมฮาว่าพลางแยกเขี้ยว แต่พระเจ้าหิรัญญากลับทรงหัวเราะร่วน แล้วตรัสว่า

“องค์นารายณ์ให้เจ้ามาปลิดชีพข้ากระนั้นหรือ
เห็นทีองค์นารายณ์คงจักไร้ความทรงจำแล้วกระมัง
ในเมื่อท่านเป็นผู้ให้พรแห่งความเป็นอมตะแก่ข้าเอง
ดังนั้นจะไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ทำอันตรายหรือสังหารข้าได้ดอก”

“องค์นารายณ์หาไร้ความจำดังท่านว่าไม่ พรของพระองค์ยังคงเกิดผลแก่ท่านทุกคำ
...หิรัญญา ท่านขอองค์นารายณ์ว่าอย่าให้มนุษย์หรือสัตว์ทำร้ายท่านได้
ไม่ว่าในเวลากลางวันหรือกลางคืน ไม่ว่าจะอยู่ในเรือนหรือนอกเรือน
...หิรัญญา เรามิใช่ทั้งสัตว์ ดังนั้นเราจึงอยู่นอกเหนือพรนั้น
เวลานี้เป็นช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดินมิใช่ทั้งกลางวันและกลางคืน
และที่ท่านกำลังยืนอยู่คือ ชายคาเรือนของท่าน
ดังนั้นจึงไม่ใช่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน
...หิรัญญา หากท่านได้รับพรจากองค์นารายณ์
และยังคงดำรงตนเป็นกษัตริย์ที่ปกครองบ้านเมืองด้วยคุณธรรมสูงส่งดัง
เช่นที่เคยปฏิบัติมา ท่านคงมิต้องมาพบจุดจบที่เสื่อมเสียเกียรติเช่นนี้หรอก
...ดังนั้น ข้าจักขอสังหารท่านเสียบัดนี้”


กล่าวจบนาราซิมฮาก็กระโจนเข้า ใส่พระเจ้าหิรัญญาและสังหารพระองค์ในทันที
หลังจากนั้นเมืองหิรัญญาก็ได้เลือกกษัตริย์พระองค์ใหม่ที่ทรงคุณธรรมขึ้นปกครอง
และปลดปล่อยบ้านเมืองอื่นๆ ที่เคยไปรุกรานให้เป็นอิสระ
ความสงบสุขจึงกลับคืนมาสู่ทุกคนอีกครั้งแต่นั้นเป็นต้นมา



......................................................................

เธอทั้งหลาย...

เมื่อเธอเป็นคนมีความดีประดับตนอยู่แล้ว
ก็ขอให้ยึดมั่นในความดีเหล่านั้น อย่าได้ละทิ้ง และจงปฏิบัติอยู่เป็นนิจ
แล้วความดีนั้นจะส่งผลให้เธอพบกับความสุขได้ในที่สุด


แต่หากว่าวันหนึ่ง เธอได้รับผลประโยชน์จากการทำความดีนั้น
ก็ขอให้อย่าได้ลุ่มหลงมัวเมาในผลประโยชน์ที่ได้รับ
เพราะผลประโยชน์นั้นจักอยู่กับเธอได้ไม่นานเท่าความดีของเธอดอก
ดังพระเจ้าหิรัญญานี่อย่างไรเล่า
ด้วยเพราะหลงใหลมัวเมาในอำนาจยิ่งใหญ่ของตน ถือว่าตนเองวิเศษกว่าผู้อื่น
แต่ลืมนึกไปว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า จงอย่าลืมตนดังเช่นพระราชาผู้นี้
แม่เธอจะได้รับการยอมรับในผลงานด้านใดๆ ของตนเอง
ก็ขอให้เก็บความภาคภูมินั้นไว้ในใจ
และแสดงความอื่นน้อมถ่อมตนออกมาอย่างสม่ำเสมอ
หลังจากนั้นจงพยายามศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
เพื่อพัฒนาผลงานของเธอให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นไปอีก


เธอที่รัก หากเธอมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ใหญ่โตกว่าคนอื่นๆ
ขอให้ใช้บุญวาสนาที่เธอมี ช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่าด้วยความเมตตาเถิด
อย่าได้คิดทำลายหรือทำร้ายใครเลย
เพราะหากเธอทำดี ไม่ทำร้ายใครแล้ว
ไหนเลยจะมีใครคิดย้อนกลับมาทำร้ายเธอได้เล่า



คัดลอกจาก... http://larndham.net/index.php?showtopic=24428&st=20

:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 27 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร