วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 21:57  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


- สถานที่ปฏิบัติธรรม
แนะนำรายชื่อสถานที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐานทั่วประเทศ
http://www.dhammajak.net/forums/viewforum.php?f=9

- รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=30



กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2013, 10:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2013, 14:34
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเคยจุดธูปที่บ้านบนว่าเอ็นทรานซ์ติดจะบวช ผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว

จนป่วยเป็นน้ำคั่งในโพรงสมอง มีอาการสั่นเกร็งที่แขนขาด้านซ้าย เดินลำบาก ผมจะขอขมาอย่างไรดีครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2013, 10:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


:b46:


โดยส่วนตัว เชื่อว่า ตัวเองคงเคยออกปากหรือติดสินบาท คาดสินบน กับมนุษย์บ้าง อมนุษย์บ้าง กันมาบ้างเหมือนกัน ไม่ชาตินี้ก็ชาติที่แล้วก่อนๆมา เราเองก็คงไม่ตามแก้ไขด้วยการเซ่นไหว้บูชาล่ะค่ะ

เลยใช้วิธีขอขมาต่อพระรัตนตรัย (ทำประจำ) จะกราบพระสวดมนต์ก็บางทีก็ขอขมาก่อน บางทีก็ขอขมาหลังจากสวดมนต์ จากนั้นก็ขอขมาต่อสัตว์ทั้งหลายที่เราเคยประมาทล่วงเกิน รวมถึงขอถอนคำแช่งที่เคยแช่งใครไว้ชาติใดๆ เคยอาฆาตผู้ใดไว้ชาติใดๆ เคยติดสินบนต่อผู้ใดไว้แต่เมื่อปางใดๆก็ตาม ขอถอนทั้งสิ้น ไม่อาฆาตใครหรือสัตว์ใดอีกแล้ว ตั้งใจว่าต่อไปนี้ไม่เบียดเบียนใครอีก ฯลฯ

ถ้าคุณผู้ตั้งกระทู้คิดว่า อย่างที่ฮานาโกะเล่าข้างบนมีประโยชน์ลองทำดูก็ได้ค่ะ
เราเองเคยอธิษฐานขอขมาพระรัตนตรัยแบบจริงๆจังๆ เราก็ตั้งใจ อาบน้ำให้สบายๆ ชำระศีล ให้ใจเราเบาสบายแล้วก็จุดธูปไหว้พระ (ปกติที่บ้านจุดธูปในบ้านไม่ได้ค่ะ) ตั้งใจ รวมกำลังใจให้มากที่สุดกราบพระรัตนตรัยให้ใจเรามันแนบแน่นมากๆแล้วอธิษฐานขอขมาด้วยความเคารพจริงๆ แม้ว่า โอเค..เรารู้ตัวว่า ปัจจุบันเราเคารพแต่ในอดีตไม่รู้ไปล่วงเกินไว้อย่างไรมาแล้วบ้าง (เชื่อว่าเคยแน่ :b20: ) ก็ตอนนี้ตั้งใจใหม่ก็อธิษฐานขอขมาและตั้งสัจจะกับตัวเองไปด้วยในตัว


ขอให้คุณผู้ตั้งกระทู้เคารพพระรัตนตรัย ตั้งพระรัตนะทั้ง ๓ นี้ไว้สูงสุด ขอขมาพระรัตนตรัยก่อนแล้วก็ค่อยขอขมาต่อเทพ เทวดา หรืออมุษย์ที่เราเคยติดสินบน-บนบานไว้

ทำด้วยความตั้งใจ แล้วรู้สึกใจเบาสบาย โล่ง เลยอะค่ะ



.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2013, 12:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


ผ่านมา ๒๐ กว่าปี คุณโยมอาหารการกินเขาว่าเป็นเหมือนยา
แต่ถ้าเรากินเราิดื่มในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ แล้วก็เป็นโทษต่อร่างกาย
สิ่งตกค้างต่างๆ ที่สะสมอยู่ในร่างกาย รวมถึงการไม่ได้ดูแล
ตรวจเช็คสุขภาพร่างกาย เพื่อป้องกันรักษาเอาไว้แต่เนิ่นๆ

ส่วนนี้เป็นสาเหตุหลัก ที่เราเผลอ เราประมาทในการใช้ชีวิตของเราเอง
ส่วนตรงที่ เป็นการบนการขอเอาไว้ แล้วไม่ได้ทำตามที่พูด
ถ้ามองว่าเป็นปม เป็นชนวนปัญหา ก็ต้องแยกว่าเป็นปมระหว่าง
สุขภาพร่างกายและจิตใจที่เกี่ยวเนื่องกัน คือยังติดค้างไม่ได้
รับการดูแลรักษา ทำข้อตกลงกับตนเอง ดูแลสุขภาพกายใจ
ตนเองได้ไม่ดีพอ จึงเป็นสาเหตุที่เกี่ยวเื่นื่องกันจนทำให้เกิด
ปัญหาทางสุขภาพ จนหนัก จนลำบากนะครับชาวพุทธ

ให้มันเป็นเหตุเป็นผลสักหน่อย ก่อนจะทำอะไรลงไปด้วยความกลัว
โทษทางร่างกาย ๒๐ ปีกินดื่มอย่างไรก็ได้อย่างนั้น เช่นเดียวกัน
โทษทางจิตใจ ๒๐ ปีที่สั่งสมเอาไว้ ทำผิดต่อพ่อต่อแม่ ไม่เคย
สำนึกผิด ทำผิดต่อใครต่อใครแล้วไม่ได้ ขอให้เขายกโทษอดโทษ
ดื้อรั้น เอาแต่ใจตัวเอง คิดว่าตนเองถูกเสมอ ละอายสำนึกผิด
แต่ก็ไม่กล่าวคำขอโทษ ขอขมา บาดหมาง สร้างความขุ่นข้อง
หมองใจให้กับบุคคลอื่นเอาไว้

นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่เป็น บุพกรรมที่สั่งสมเอาไว้มานาน โรคทาง
ระบบประสาทภายในสมอง เป็นอกุศลวิบากที่เกิดทางร่างกาย
เกิดจากกรรม จิต อุณหภูมิ อาหาร ที่ไม่ดีพอ ไม่เพียงพอ
จนเป็นองค์ประกอบหลากหลาย หลายเหตุหลายปัจจัยที่ควร
นำมาพิจารณาค้นหา คล้ายๆ กับว่าเรารู้ แล้วว่าร่างกายเรา
เจ็บป่วย ก็เหมือนกับ เรารู้่ว่า เราติดกรรม ติดวิบากอะไร แต่
มันเป็น กรรมที่ล่วงไปแล้วในอดีตที่ผ่านมา

ดังนั้น ไม่ว่าจะรู้จริงหรือไม่จริง ในปมเหตุที่ผ่านมา ถึงวันนี้
ก็มีแต่ต้องยอมรับความจริง ให้กำลังใจตนเอง เยี่ยวยารักษา
คุณภาพกาย คุณภาพจิตใจเราเอง คุณโยมอาจ กล่าวคำขอขมา
จากหนังสือสวดมนต์ จากคำแนะนำของกัลยาณมิตรที่มีจิตเมตตา
ให้คำแนะนำกับเรา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือกำลังใจ ดีๆ จากตัวเราเอง

หลายๆ เคสจากประสบการณ์ส่วนตัว ถ้ามีกำลังใจมีศรัทธามีความเชื่อ
จิตใจก็จะค่อยๆ ได้รับการเยี่ยวยารักษา ส่งผลไปถึงคุณภาพของร่างกาย
เซลประสาท ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายก็ แข็งแรงขึ้นมา

ดูนะครับ ยังไม่ให้อภัยใคร ยังยึดมั่นถือมั่น ดื้อดึง พยาบาท
ผูกโกรธใคร หรือยังรู้สึกติดค้างผิดใจอะไรกับใคร ขอโทษและ
ขอบคุณบุคคลที่เราเคย ผิดพลาดล่วงเกินต่อเขา ไม่ว่าจะเป็น
ผู้ใหญ่ ผู้น้อย ผู้เสมอกันกับเรา ก็ให้อภัย ทำใจกว้างๆ เปิดใจ
พอจิตใจเราอ่อนโยน ปมราคะ ปมโทสะ ปมโมหะของเรา
เจือจางเบาบางลง สวดมนต์ไหว้พระ กล่าวขอขมา พูดบอก
ขอบคุณขอโทษใครๆ ได้จริง สวดโดยนำไปใช้จริง!!!

สุขภาพร่างกายจิตใจที่ ไม่แข็งแรงก็จะค่อยๆ ฟื้นตัวอาการ
สั่นเกรง อาการเดินที่ไม่ค่อยสะดวกก็จะค่อยๆ ดีขึ้น

นอกจากสะสางปมทางใจแล้ว ปมทางกาย การรับประทาน
ในสิ่งที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงสิ่งเสพติดเป็นโทษ ให้กับร่างกาย
หมั่นอาศัยกายภาพบำบัด เชื่อว่า ทาน การให้การเสียสละ
การให้อภัย ลดปมตระหนี่ ปมโลภ ปมโกรธลงได้จริง เชื่อว่า
การรักษาศีล ทำให้จิตใจสงบเยือกเย็น เชื่อว่า ภาวนา การทำ
ให้จิตใจตั้งมั่นไม่ฟุ้งซ่าน เกิดความสงบอยู่ในภายใน และมีปัญญา
ยอมรับเข้าใจ ในใจเราใจเขาตามความเป็นจริง

อนุภาพแห่ง พระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณจะปรากฏประจักษ์
แก่คุณโยม ด้วยอนุภาพนี้ อุปัททวะ เสนียดจัญไร โรคภัยไข้เจ็บ
ต่างๆ ก็จะค่อยๆ แข็งแรง เราไม่ได้บวช แก้บน ๕ วัน ๗ วัน
แล้วจะหาย เราสะสมปมโทษ ทางกาย ทางใจมา ๒๐ กว่าปี
ดังนั้น อดีตผ่านไปแล้ว รู้หรือไม่รู้ว่าเป็นเพราะวิบากเพราะกรรม
อะไรก็ตาม ที่พระท่านสอนส่วนใหญ่เป็นการ แก้ปัญหา แก้ทุกข์
ในกายในใจเรานี่เอง ทำกรรม(พฤติกรรม)ดี ดูแลรักษากายใจ
ของตนเองให้ดี คิดดี พูดดี ทำดี เมื่อจิตใจดี พระท่านว่าสุคติ
หมายถึงความสุขเราย่อมสามารถปรารถนาและหวังได้

การฝึกจิตฝึกใจให้ลด โลภโกรธหลงลงได้ อันนี้นี่แหละ
ประโยชน์ที่มีผลมากกับตัวเราเองชีวิตเราเอง

สุขภาพร่างกายจิตใจ ๒๐ ปีที่แล้ว ก็แล้วไปแล้วนั่นเอง
วิบากที่ต่อเนื่องสะสมมา เราควรเดินหน้า ใช้เวลาที่เหลือ
ก่อเกิดประโยชน์เพิ่มพูน ทางสุข ทางสงบให้แก่ตนเอง
เชื่อมั่นในความดี จะรักษาคุ้มครองตน ขอให้โชคดีนะครับ


เจริญพร.

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2013, 15:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2013, 14:34
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมขอบพระคุณทั้งสองท่านมากครับ โดยเฉพาะท่านพุทธฏีกา ผมอาจเคยทำผิดกับแม่ ซึ่งเลี้ยงดูผมมาตั้งแต่เล็กซึ่งตอนสองขวบผมเป็นโรคนี้ทีหนึ่งแล้วรักษาหายแต่แขนขาข้างขวาผมจะลีบใช้การไม่ปกติ ผมได้กราบขอขมาแม่ผมไปแล้วครับ ตอนนี้ได้แต่รักษาศีล เผื่อว่าร่างกายจะฟื้นตัวครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2013, 16:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


อิทธิบาท ๔ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา

มีความพอใจในการประกอบความดี
มีความพยายามในกุศลทั้งหลาย
มีความตั้งใจในการประกอบความดีนั้นๆ
มีปัญญาสอดส่องพิจารณาในสิ่งที่ทำโดยแยบคาย

อิทธิบาท เป็นพละ หมายถึงธรรมที่ทำให้มีกำลัง
ในทางโลกคนเราอาจวัดกันที่คนมีสุขภาพร่างกาย
แข็งแรงจนล้ม จนเอาชนะคนอื่นได้ ถือเป็นคนมีกำลัง
แต่ในทางโลกเพื่อความสุข ในทางธรรมเพื่อความพ้นทุกข์
เราถือกันว่า คนที่มีอาการครบ ๓๒ แต่มีความคิดชั่ว
มีการกระทำชั่ว มีคำพูดชั่ว บุคคลนั้นเป็นคนที่อ่อนพละกำลัง
อ่อนต่อคุณความดี ต่อกุศลผลบุญทั้งหลาย

เมื่อคุณโยมขอขมาต่อบุพการีผู้ให้กำเนิดแล้ว ขอให้
ประคับประครองกุศลธรรม ทางกายวาจาใจ คิดดีพูดดี
ทำดีต่อไปเอาไว้มากๆ รักษาศีล รับประทานผักผลไม้
ลดทานเนื้อลง หรือหันมารับประทานอาหารมังสวิรัต
ที่ปรุงมีรสชาตหลากหลายน่ารัปประทาน แทนเนื้อสัตว์
บางทีอาจช่วยให้สุขภาพร่างกายคุณโยมแข็งแรงขึ้น

อิทธิบาทที่เป็นพละ เป็นกำลังในทางชอบทางควร
จึงเป็นเรื่องของการชนะจิตใจตัวเราเอง มีความพอใจ
พยายาม ตั้งใจ พิจารณาถึงกุศลกรรมความดีทั้งหลาย
ไม่ย่อท้อ ต่อผลหรือวิบากที่ปรากฏ

กุศลกรรมที่ทำไ้ด้อย่างนี้ จะทำให้จิตใจของเราเข้มแข็ง
มีกำลังมีแรง มีฤทธิ์มีอนุภาพทางใจ เป็นคนที่มีกำลัง
มีคุณธรรมความดีคุ้มครอง ถึงแม้ร่างกายจะอ่อนแอ
ลองดูนะครับในสังคมยังมีคนอื่นๆ ที่ลำบาก มีวิบาก
มากกว่าเรา ยังแบกสังขาร ยังอดทน ไม่ย่อท้อต่อ
การทำความดี คิดดี พูดดี ดังนั้นก็ขอเป็นกำลังใจ
ให้คุณโยม ต่อสู้กับ ความกลัว ความผิดหวังในจิตใจ
ให้คุณโยม มีพลังกาย พลังใจที่เข้มแข็ง ที่แข็งแรง
ให้สามารถ ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปโดยปราศจาก
อุปัททวะทั้งหลาย มีโรคภัยไข้เจ็บเป็นต้น

อดทนหน่อยนะครับ อาศัยอิทธิบาท ๔ เปลี่ยนตัวเอง
ให้เป็นคนใหม่ ให้เข้มแข็ง เป็นคนที่สมบูรณ์แข็งแรง
ในปัจจุบันนี้และในอนาคต อวยพรนะครับ เจริญพร.

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2013, 12:44 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2876


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ขอกราบโมทนากับท่านผู้ให้คำแนะนำคะ

:b39: อีกทั้งขอให้บุญรักษา คุณ eakthosjul
ให้กลับสู่ภาวะปกติของร่างกายและจิตใจด้วยคะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 15 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร