วันเวลาปัจจุบัน 17 ก.ค. 2025, 02:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2016, 06:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รู้จักอานาปานสติ

คำว่า “อานาปานสติ” แยกออกเป็นสามคำ คือ คำว่า “อานะ” แปลว่า ลมหายใจเข้า ตรงกับคำว่า “อัสสาสะ” คำว่า “อาปานะ” ลมหายใจออก ตรงกับคำว่า “ปัสสาสะ” และคำว่า “สติ” แปลว่า ความกำหนดพิจารณา ความระลึกรู้ตาม รวมสามคำเข้าด้วยกันเป็นอานาปานสติ แปลว่า ความกำหนดพิจารณาลมหายใจเข้า และลมหายใจออก หมายถึง การใช้สติเป็นตัวกำหนดดูลมหายใจเข้า และลมหายใจออกที่เป็นปัจจุบันแต่ ละขณะๆ เป็นหนึ่งในวิธีฝึกกัมมัฏฐาน 40 วิธี โดยจัดอยู่ในข้อที่ 9 แห่งกัมมัฏฐานประเภทที่ใช้สติเป็นตัวนำ ซึ่งเรียกว่า อนุสติ 10


ความสำคัญของอานาปานสติ


อานาปานสติกัมมัฏฐาน เป็นวิธีการฝึกสมาธิเจริญวิปัสสนาที่นิยมกันมากที่สุดในพระพุทธศาสนา เพราะสามารถเจริญเป็นสมถกัมมัฏฐานให้สมบูรณ์ และยังสามารถเจริญเป็นวิปัสสนากัมมัฏฐาน ให้สติปัฏฐาน ๔ สมบูรณ์ได้ อีกทั้งยังเป็นสมาธิภาวนาแบบที่พระเจ้าตรัสยืนยันว่า เป็นระบบที่พระองค์ได้ทรงปฏิบัติ และตรัสรู้ เพราะพระองค์คุ้นเคยกับการฝึกสมาธิแบบนี้มาตั้งแต่ยังทรงเยาว์ ดังหลักฐานปรากฏในหนังสือพุทธประวัติตอนเสด็จพิธีแรกนาขวัญ ความว่า สิทธัตถราชกุมาร ได้ตามเสด็จพระเจ้าสุทโธทนะ พระราชบิดาไปในพิธีแรกนาขวัญของชาวกรุงกบิลพัสดุ์ ขณะที่พิธีการกำลังดำเนินอยู่นั้น ได้ปลีกตัวไปประทับใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง เจริญอานาปานสติ คือทรงใช้สติกำหนดลมหายใจเข้า-ออก ซึ่งนับว่า พระองค์เป็นนักภาวนาหรือนักสมาธิโดยกำเนิดก็ว่าได้ ดังนั้น พุทธบริษัททั้งในอดีต และปัจจุบันจึงนิยมใช้อานาปานสติเป็นแบบอย่าง ในการฝึกกัมมัฏฐาน เพราะศรัทธาเชื่อมั่นว่า เป็นสมาธิภาวนาที่พระพุทธองค์ใช้โดยมีหลักฐานอ้างอิงในพระไตรปิฎกหลากที่ หลายแห่งมากที่สุด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2016, 07:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูตัวอย่างพุทธพจน์สักเล็กน้อย


“ดูกรราหุล เมื่อเจริญอานาปานสติแล้วอย่างนี้ ทำให้มากแล้วอย่างนี้ แม้แต่ลมอัสสาสะ ปัสสาสะ ซึ่งมีในท้ายที่สุด ก็ดับไปโดยรู้ มิใช่ดับโดยไม่รู้”

พุทธพจน์แสดงวิธีปฏิบัติ

“ภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ เจริญให้มากอย่างไร ทำให้มากอย่างไร จึงจะมีผลมาก มีอานิสงส์มาก?

มีสติหายใจออก มีสติหายใจเข้า

ฯลฯ

เมื่อหายใจออกยาว - ก็รู้ชัดว่าหายใจออกยาว
เมื่อหายใจเข้ายาว - ก็รู้ชัดว่าหายใจเข้ายาว
เมื่อหายใจออกสั้น - ก็รู้ชัดว่าหายใจออกสั้น
เมื่อหายใจเข้าสั้น - รู้ชัดว่าหายใจเข้ายาว

ฯลฯ

แค่นี้พอ คนมีแววอยู่บ้าง เห็นก็จับหลักได้แล้ว แต่ของจริง ไม่เป็นลำดับหนึ่ง สอง สาม อย่างบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรนั่น ดังนั้น อ่านแล้วอย่าติดในตัวอักษร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2016, 07:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปราชญ์บางท่านชี้ให้สังเกตความแตกต่าง ระหว่างอานาปานสติ กับ วิธีฝึกหัดเกี่ยวกับลมหายใจของลัทธิอื่นๆ เช่น การบังคับควบคุมลมหายใจของโยคะ ที่เรียกว่า ปราณยาม เป็นต้น ว่าเป็นคนละเรื่องกันทีเดียว โดยเฉพาะว่า อานาปานสติ เป็นวิธีฝึกสติ ไม่ใช่ฝึกหายใจ คือ อาศัยลมหายใจ เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับฝึกสติ ส่วนการฝึกบังคับลมหายใจนั้น บางอย่างรวมอยู่ในวิธีบำเพ็ญทุกรกิริยา ที่พระพุทธเจ้าเคยบำเพ็ญ และละเลิกมาแล้ว

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร