วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 15:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 284 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 19  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2014, 16:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


idea เขียน:
--คุณกรัชกาย
Idea เคยทำเหมือนคุณค่ะ และตอนนี้ก็ยังทำอยู่ แต่ด้วยเหตุผลต่างกัน
เพราะเป็นคนขี้กลัวค่ะ หากหลับตาแล้วจะรู้สึกเหมือนมีคนรุมเข้ามา ทุกวันนี้เลยมีข้อจำกัดในการทำสมาธิ

ที่บ้านจะหานั่งตรงระเบียงแคบพอหนึ่งคนยืนสบายค่ะ ต้องรู้ว่ามีคนอยู่ด้วย แต่ที่นั่งอยู่หลบจากสายตาคนนะคะ บางทีก็เสียงดังกัน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค
เคยพยายามฝึกมองเข้าไปในความกลัว เวลาที่รู้สึก แต่จิตไม่แข็งพอจะตกใจ ตอนเริ่มฝึกใหม่ๆคราวที่แล้วยิ่งลำบาก เพราะเกิดความรู้สึกบ่อยๆ หลับตาลืมตา จนจิตหาความสงบไม่ได้ เลยเลือกเอาความสบายใจก่อน เพราะหากตกใจแรงๆจะกลัวจนจะทำให้ยิ่งกลัวการนั่งสมาธิไปเลย แต่ก็สู้ค่ะ ก็หาอุบายแก้ก่อน คือหากใจเริ่มสงบบ้าง แวบกลัวขึ้นมา

ก็จะแผ่เมตตาทันที พอบ่อยๆก็ไม่ตกใจอะไร เหมือนถ้ารู้สึกก็กำหนดแผ่เมตตาไปเลย โดยจะกำหนดไปหาประมานไม่ได้ และรู้สึกได้ถึงร่างกายที่ขยายไปตามที่เรากำหนด จนเหมือนไม่มีกาย เป็นคล้ายๆกระแสพลังงานหนึ่งที่กระจายออกไป พอจบก็กลับมาที่องค์ภาวนา จิต,ลมจะละเอียดขึ้นชัดเจน แต่ไม่ได้ทำเป็นจุดเริ่มต้นเพราะไม่รู้ควรไม่ควร แต่รู้ว่าหากจิตพอสงบ แล้วได้กำหนดจบ ผลจะทำให้จิตละเอียดขึ้นกว่าเดิม(แต่หากทำตอนฟุ้งซ่านไม่เกิดผลนะคะ)

จะทำเฉพาะเวลารู้สึกกลัว กับตอนที่ ด้วยเหตุผลส่วนตัวนะ คือจะคิดว่าหากได้ทำสมาธิจนถึงจิตใจตั้งมั่นพอสมควร สว่างไสว จะเกิดเป็นตัวบุญที่เราสามารถเผื่อแผ่ให้ กับทุกสภาวะจิต ก็จะเริ่มจากเริ่มระลึกถึงพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ บุคคลอันเป็นที่รัก เริ่มจากจุดที่ตั้งแผ่ไปหาประมานมิได้



อ้างคำพูด:
เป็นคนขี้กลัวค่ะ หากหลับตาแล้วจะรู้สึกเหมือนมีคนรุมเข้ามา....


นั่นคือปัญหาพื้นฐานทางจิตของ จขกท. (ที่เช่นนั้ันว่า เจตนาฟุ้ง :b13: ดูคำอธิบายเขาได้ที่ viewtopic.php?f=1&t=47986&start=165) ซึ่งยังไม่ถูกกำจัดออกไป ได้แต่เลี่ยงหลบกลบปัญหาเหมือนกวาดขยะซุกไว้ใต้พรหม เมื่อต้นเหตุของทุกข์ของปัญหา (สมุทัย) ยังไม่ถูกกำจัดออกไป ปัญหาอื่นก็มีตามมาอีกนับเอนกอนันต์

ตัวอย่างส่วนมากนำมาให้ดูๆ มักจะถามว่า เขาเป็นอะเไร และจะแก้ปัญหานี้ๆอย่าง่ไร ไม่ใช่นำมาให้เอาเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ๆ ปัญหาต้องแก้ จึงจะหมดปัญหาสิ้นทุกข์ เมื่อสิ้นทุกข์ก็นิโรธ


แต่ดูภาพรวมวิธีปฏิบัติของ จกขท.แล้ว ไม่เหมาะที่จะลงลึกถึงด้านฝึกจิตโดยตรง ถอยออกมา เอาแค่คิดนึกปลุกปลอบใจพื้นๆ เวลามีปัญหาก็สวดมนต์แผ่เมตตากรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรอะไรก็ว่าไป เอาระดับนี้ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 07:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ คุณกรัชกาย :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 08:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
idea เขียน:
--คุณกรัชกาย
Idea เคยทำเหมือนคุณค่ะ และตอนนี้ก็ยังทำอยู่ แต่ด้วยเหตุผลต่างกัน
เพราะเป็นคนขี้กลัวค่ะ หากหลับตาแล้วจะรู้สึกเหมือนมีคนรุมเข้ามา ทุกวันนี้เลยมีข้อจำกัดในการทำสมาธิ

ที่บ้านจะหานั่งตรงระเบียงแคบพอหนึ่งคนยืนสบายค่ะ ต้องรู้ว่ามีคนอยู่ด้วย แต่ที่นั่งอยู่หลบจากสายตาคนนะคะ บางทีก็เสียงดังกัน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค
เคยพยายามฝึกมองเข้าไปในความกลัว เวลาที่รู้สึก แต่จิตไม่แข็งพอจะตกใจ ตอนเริ่มฝึกใหม่ๆคราวที่แล้วยิ่งลำบาก เพราะเกิดความรู้สึกบ่อยๆ หลับตาลืมตา จนจิตหาความสงบไม่ได้ เลยเลือกเอาความสบายใจก่อน เพราะหากตกใจแรงๆจะกลัวจนจะทำให้ยิ่งกลัวการนั่งสมาธิไปเลย แต่ก็สู้ค่ะ ก็หาอุบายแก้ก่อน คือหากใจเริ่มสงบบ้าง แวบกลัวขึ้นมา

ก็จะแผ่เมตตาทันที พอบ่อยๆก็ไม่ตกใจอะไร เหมือนถ้ารู้สึกก็กำหนดแผ่เมตตาไปเลย โดยจะกำหนดไปหาประมานไม่ได้ และรู้สึกได้ถึงร่างกายที่ขยายไปตามที่เรากำหนด จนเหมือนไม่มีกาย เป็นคล้ายๆกระแสพลังงานหนึ่งที่กระจายออกไป พอจบก็กลับมาที่องค์ภาวนา จิต,ลมจะละเอียดขึ้นชัดเจน แต่ไม่ได้ทำเป็นจุดเริ่มต้นเพราะไม่รู้ควรไม่ควร แต่รู้ว่าหากจิตพอสงบ แล้วได้กำหนดจบ ผลจะทำให้จิตละเอียดขึ้นกว่าเดิม(แต่หากทำตอนฟุ้งซ่านไม่เกิดผลนะคะ)

จะทำเฉพาะเวลารู้สึกกลัว กับตอนที่ ด้วยเหตุผลส่วนตัวนะ คือจะคิดว่าหากได้ทำสมาธิจนถึงจิตใจตั้งมั่นพอสมควร สว่างไสว จะเกิดเป็นตัวบุญที่เราสามารถเผื่อแผ่ให้ กับทุกสภาวะจิต ก็จะเริ่มจากเริ่มระลึกถึงพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ บุคคลอันเป็นที่รัก เริ่มจากจุดที่ตั้งแผ่ไปหาประมานมิได้



อ้างคำพูด:
เป็นคนขี้กลัวค่ะ หากหลับตาแล้วจะรู้สึกเหมือนมีคนรุมเข้ามา....


นั่นคือปัญหาพื้นฐานทางจิตของ จขกท. (ที่เช่นนั้ันว่า เจตนาฟุ้ง :b13: ดูคำอธิบายเขาได้ที่ viewtopic.php?f=1&t=47986&start=165) ซึ่งยังไม่ถูกกำจัดออกไป ได้แต่เลี่ยงหลบกลบปัญหาเหมือนกวาดขยะซุกไว้ใต้พรหม เมื่อต้นเหตุของทุกข์ของปัญหา (สมุทัย) ยังไม่ถูกกำจัดออกไป ปัญหาอื่นก็มีตามมาอีกนับเอนกอนันต์

ตัวอย่างส่วนมากนำมาให้ดูๆ มักจะถามว่า เขาเป็นอะเไร และจะแก้ปัญหานี้ๆอย่าง่ไร ไม่ใช่นำมาให้เอาเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ๆ ปัญหาต้องแก้ จึงจะหมดปัญหาสิ้นทุกข์ เมื่อสิ้นทุกข์ก็นิโรธ


แต่ดูภาพรวมวิธีปฏิบัติของ จกขท.แล้ว ไม่เหมาะที่จะลงลึกถึงด้านฝึกจิตโดยตรง ถอยออกมา เอาแค่คิดนึกปลุกปลอบใจพื้นๆ เวลามีปัญหาก็สวดมนต์แผ่เมตตากรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรอะไรก็ว่าไป เอาระดับนี้ :b1:

เมื่อวานไม่ได้ระบุชื่อ เช่นนั้น เช้านี้ พาดพิง นะกรัชกาย
ในเมื่อกรัชกาย พาดพิง
ก็จะบอกกรัชกายนะ ว่า
มั่วมากเหมือนเดิม นอกจากไม่แก้ปัญหาก็ยังซ้ำเติมความกลัวว่าอยู่คนเดียวแล้ว เหมือนมีคนรุมเข้ามาให้ติดแน่นอยู่ในกมลสันดาน

จะบ้ารึ ไปแนะนำอย่างนั้น

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 09:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
idea เขียน:
--คุณกรัชกาย
Idea เคยทำเหมือนคุณค่ะ และตอนนี้ก็ยังทำอยู่ แต่ด้วยเหตุผลต่างกัน
เพราะเป็นคนขี้กลัวค่ะ หากหลับตาแล้วจะรู้สึกเหมือนมีคนรุมเข้ามา ทุกวันนี้เลยมีข้อจำกัดในการทำสมาธิ

ที่บ้านจะหานั่งตรงระเบียงแคบพอหนึ่งคนยืนสบายค่ะ ต้องรู้ว่ามีคนอยู่ด้วย แต่ที่นั่งอยู่หลบจากสายตาคนนะคะ บางทีก็เสียงดังกัน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค
เคยพยายามฝึกมองเข้าไปในความกลัว เวลาที่รู้สึก แต่จิตไม่แข็งพอจะตกใจ ตอนเริ่มฝึกใหม่ๆคราวที่แล้วยิ่งลำบาก เพราะเกิดความรู้สึกบ่อยๆ หลับตาลืมตา จนจิตหาความสงบไม่ได้ เลยเลือกเอาความสบายใจก่อน เพราะหากตกใจแรงๆจะกลัวจนจะทำให้ยิ่งกลัวการนั่งสมาธิไปเลย แต่ก็สู้ค่ะ ก็หาอุบายแก้ก่อน คือหากใจเริ่มสงบบ้าง แวบกลัวขึ้นมา

ก็จะแผ่เมตตาทันที พอบ่อยๆก็ไม่ตกใจอะไร เหมือนถ้ารู้สึกก็กำหนดแผ่เมตตาไปเลย โดยจะกำหนดไปหาประมานไม่ได้ และรู้สึกได้ถึงร่างกายที่ขยายไปตามที่เรากำหนด จนเหมือนไม่มีกาย เป็นคล้ายๆกระแสพลังงานหนึ่งที่กระจายออกไป พอจบก็กลับมาที่องค์ภาวนา จิต,ลมจะละเอียดขึ้นชัดเจน แต่ไม่ได้ทำเป็นจุดเริ่มต้นเพราะไม่รู้ควรไม่ควร แต่รู้ว่าหากจิตพอสงบ แล้วได้กำหนดจบ ผลจะทำให้จิตละเอียดขึ้นกว่าเดิม(แต่หากทำตอนฟุ้งซ่านไม่เกิดผลนะคะ)

จะทำเฉพาะเวลารู้สึกกลัว กับตอนที่ ด้วยเหตุผลส่วนตัวนะ คือจะคิดว่าหากได้ทำสมาธิจนถึงจิตใจตั้งมั่นพอสมควร สว่างไสว จะเกิดเป็นตัวบุญที่เราสามารถเผื่อแผ่ให้ กับทุกสภาวะจิต ก็จะเริ่มจากเริ่มระลึกถึงพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ บุคคลอันเป็นที่รัก เริ่มจากจุดที่ตั้งแผ่ไปหาประมานมิได้



อ้างคำพูด:
เป็นคนขี้กลัวค่ะ หากหลับตาแล้วจะรู้สึกเหมือนมีคนรุมเข้ามา....


นั่นคือปัญหาพื้นฐานทางจิตของ จขกท. (ที่เช่นนั้ันว่า เจตนาฟุ้ง :b13: ดูคำอธิบายเขาได้ที่ viewtopic.php?f=1&t=47986&start=165) ซึ่งยังไม่ถูกกำจัดออกไป ได้แต่เลี่ยงหลบกลบปัญหาเหมือนกวาดขยะซุกไว้ใต้พรหม เมื่อต้นเหตุของทุกข์ของปัญหา (สมุทัย) ยังไม่ถูกกำจัดออกไป ปัญหาอื่นก็มีตามมาอีกนับเอนกอนันต์

ตัวอย่างส่วนมากนำมาให้ดูๆ มักจะถามว่า เขาเป็นอะเไร และจะแก้ปัญหานี้ๆอย่าง่ไร ไม่ใช่นำมาให้เอาเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ๆ ปัญหาต้องแก้ จึงจะหมดปัญหาสิ้นทุกข์ เมื่อสิ้นทุกข์ก็นิโรธ


แต่ดูภาพรวมวิธีปฏิบัติของ จกขท.แล้ว ไม่เหมาะที่จะลงลึกถึงด้านฝึกจิตโดยตรง ถอยออกมา เอาแค่คิดนึกปลุกปลอบใจพื้นๆ เวลามีปัญหาก็สวดมนต์แผ่เมตตากรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรอะไรก็ว่าไป เอาระดับนี้ :b1:


เมื่อวานไม่ได้ระบุชื่อ เช่นนั้น เช้านี้ พาดพิง นะกรัชกาย
ในเมื่อกรัชกาย พาดพิง
ก็จะบอกกรัชกายนะ ว่า
มั่วมากเหมือนเดิม นอกจากไม่แก้ปัญหาก็ยังซ้ำเติมความกลัวว่าอยู่คนเดียวแล้ว เหมือนมีคนรุมเข้ามาให้ติดแน่นอยู่ในกมลสันดาน

จะบ้ารึ ไปแนะนำอย่างนั้น


นึกได้ว่า เช่นนั้นว่า เจตนาฟุ้ง และเขาก็พูดเอง บอกเองว่าเป็นเช่นนั้น
อ้างคำพูด:
เป็นคนขี้กลัวค่ะ หากหลับตาแล้วจะรู้สึกเหมือนมีคนรุมเข้ามา


ก็บอกเขาว่า นั่นแหละพื้นฐานทางจิตใจที่ต้องกำจัดให้หมดไป (ความกลัว) พูดความจริงอย่างนี้ แน่ะมาว่าเราบ้า นั่นแหละปัญหาที่ต้องแก้ เอาล่ะ ในเมื่อเขาว่า ต้องการทำในสิ่งที่สบายใจก่อน เราก็บอกว่า ยังงั้นก็ถอยออกมา อย่าเพิ่งลงลึกขนาดนั้น หันสวดมนต์แผ่เมตตาไปก่อน...ในเมื่อมีปัญหา แล้วไม่ถูกกับเนื้อผ้าตรงไหน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 09:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ก็บอกเขาว่า นั่นแหละพื้นฐานทางจิตใจที่ต้องกำจัดให้หมดไป (ความกลัว) พูดความจริงอย่างนี้ แน่ะมาว่าเราบ้า นั่นแหละปัญหาที่ต้องแก้ เอาล่ะ ในเมื่อเขาว่า ต้องการทำในสิ่งที่สบายใจก่อน เราก็บอกว่า ยังงั้นก็ถอยออกมา อย่าเพิ่งลงลึกขนาดนั้น หันสวดมนต์แผ่เมตตาไปก่อน...ในเมื่อมีปัญหา แล้วไม่ถูกกับเนื้อผ้าตรงไหน

ตรงไหน :b17: :b17: :b17:
ไม่บอกกรัชกายหรอก
จขกท. สงสัยถึงจะบอก

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 09:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บอกชัดๆอีกที การพัฒนาจิต จะต้องลงลึกถึงพื้นฐานของจิตของความคิด จึงจะแก้ปัญหาได้แก้ทุกข์ได้ หากยังหลบเลี่ยงทุกข์เลี่ยงปัญหา แก้ไม่ได้หรอก นี่ขั้นสูงสุด

แต่ผ่อนลงมาก็ได้ ถ้าใครรู้ว่ายังทำไม่ถึงขนาดนั้น ก็ทำแค่สวดมนต์ แผ่เมตตา ตักบาตร ปล่อยสัตว์น้ำ สัตว์บกไปก่อน :b1:

โดยไม่ต้องไปถามพระสารีบุตร :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 09:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
บอกชัดๆอีกที การพัฒนาจิต จะต้องลงลึกถึงพื้นฐานของจิตของความคิด จึงจะแก้ปัญหาได้แก้ทุกข์ได้ หากยังหลบเลี่ยงทุกข์เลี่ยงปัญหา แก้ไม่ได้หรอก นี่ขั้นสูงสุด

แต่ผ่อนลงมาก็ได้ ถ้าใครรู้ว่ายังทำไม่ถึงขนาดนั้น ก็ทำแค่สวดมนต์ แผ่เมตตา ตักบาตร ปล่อยสัตว์น้ำ สัตว์บกไปก่อน :b1:

โดยไม่ต้องไปถามพระสารีบุตร :b32:

ไม่บอกกรัชกายไง อ่านไม่รู้เรื่องรึ
มั่ว มาตั้งแต่ต้นจนจบ ทำเจตนาฟุ้งอยู่นั่นล่ะ :b32: :b32: :b32:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 09:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ก็บอกเขาว่า นั่นแหละพื้นฐานทางจิตใจที่ต้องกำจัดให้หมดไป (ความกลัว) พูดความจริงอย่างนี้ แน่ะมาว่าเราบ้า นั่นแหละปัญหาที่ต้องแก้ เอาล่ะ ในเมื่อเขาว่า ต้องการทำในสิ่งที่สบายใจก่อน เราก็บอกว่า ยังงั้นก็ถอยออกมา อย่าเพิ่งลงลึกขนาดนั้น หันสวดมนต์แผ่เมตตาไปก่อน...ในเมื่อมีปัญหา แล้วไม่ถูกกับเนื้อผ้าตรงไหน

ตรงไหน :b17: :b17: :b17:
ไม่บอกกรัชกายหรอก
จขกท. สงสัยถึงจะบอก


ไม่เข้าใจพูดสื่ออะไร เอาชัดๆ จริงๆนะพูดอะไรคลุมๆเครือ ไม่ค่อยถนัด มีอะไรว่ากันตรงๆ ไม่ต้องอ้อมไปอ้อมให้ตีความให้เดากัน :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 09:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
บอกชัดๆอีกที การพัฒนาจิต จะต้องลงลึกถึงพื้นฐานของจิตของความคิด จึงจะแก้ปัญหาได้แก้ทุกข์ได้ หากยังหลบเลี่ยงทุกข์เลี่ยงปัญหา แก้ไม่ได้หรอก นี่ขั้นสูงสุด

แต่ผ่อนลงมาก็ได้ ถ้าใครรู้ว่ายังทำไม่ถึงขนาดนั้น ก็ทำแค่สวดมนต์ แผ่เมตตา ตักบาตร ปล่อยสัตว์น้ำ สัตว์บกไปก่อน :b1:

โดยไม่ต้องไปถามพระสารีบุตร :b32:

ไม่บอกกรัชกายไง อ่านไม่รู้เรื่องรึ
มั่ว มาตั้งแต่ต้นจนจบ ทำเจตนาฟุ้งอยู่นั่นล่ะ :b32: :b32: :b32:



เหมือนพูดกันละเรื่อง เขาบอกว่า

อ้างคำพูด:
--คุณกรัชกาย

Idea เคยทำเหมือนคุณค่ะ และตอนนี้ก็ยังทำอยู่ แต่ด้วยเหตุผลต่างกัน
เพราะเป็นคนขี้กลัวค่ะ หากหลับตาแล้วจะรู้สึกเหมือนมีคนรุมเข้ามา ทุกวันนี้เลยมีข้อจำกัดในการทำสมาธิ

ที่บ้านจะหานั่งตรงระเบียงแคบพอหนึ่งคนยืนสบายค่ะ ต้องรู้ว่ามีคนอยู่ด้วย แต่ที่นั่งอยู่หลบจากสายตาคนนะคะ บางทีก็เสียงดังกัน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค

เคยพยายามฝึกมองเข้าไปในความกลัว เวลาที่รู้สึก แต่จิตไม่แข็งพอจะตกใจ ตอนเริ่มฝึกใหม่ๆคราวที่แล้วยิ่งลำบาก เพราะเกิดความรู้สึกบ่อยๆ หลับตาลืมตา จนจิตหาความสงบไม่ได้ เลยเลือกเอาความสบายใจก่อน



ตัวแดง พื้นฐานลึกๆทางจิตเป็นยังงั้น ok เข้าใจ (หลบก่อนได้ ถ้ายังไม่พร้อมที่จะแก้เหตุของปัญหา)

ที่ขีดเส้นใต้ ก็ก็ ok ทำไปสิเอาแบบที่ตนเองบอกว่าต้องการสบายไปก่อน

เออ เราก็ไม่ได้ว่าไม่ได้ค้านอะไรนี่ เออ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 27 มิ.ย. 2014, 09:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 09:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


55555
ถึงบอกไง ว่ามั่ว ตั้งแต่ต้นจนจบ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 09:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
55555
ถึงบอกไง ว่ามั่ว ตั้งแต่ต้นจนจบ


มั่วยังไง :b10: หรือต้องไปถามพระสารีบุตร :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 09:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปล่อยกรัชกายให้ งง อยู่อย่างนั้นล่ะ
จะพอสำนึก ไปทำความศึกษาในพระสูตรบ้าง :b19: :b19: :b19:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 09:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
ปล่อยกรัชกายให้ งง อยู่อย่างนั้นล่ะ
จะพอสำนึก ไปทำความศึกษาในพระสูตรบ้าง :b19: :b19: :b19:



เช่นนั้นเอ้ย ออกมาจากท่อนซุงเถอะ หลงชีวิตแล้วท่าน :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 09:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ปล่อยกรัชกายให้ งง อยู่อย่างนั้นล่ะ
จะพอสำนึก ไปทำความศึกษาในพระสูตรบ้าง :b19: :b19: :b19:



เช่นนั้นเอ้ย ออกมาจากท่อนซุงเถอะ หลงชีวิตแล้วท่าน :b32:

กรัชกาย ตีบตัน ไปไม่เป็น ก็ยอมรับเถอะ
ไปศึกษาพระสูตร ให้ดีๆ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2014, 11:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1399782792-Laughing-o.gif
1399782792-Laughing-o.gif [ 312.31 KiB | เปิดดู 3737 ครั้ง ]
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ปล่อยกรัชกายให้ งง อยู่อย่างนั้นล่ะ
จะพอสำนึก ไปทำความศึกษาในพระสูตรบ้าง :b19: :b19: :b19:



เช่นนั้นเอ้ย ออกมาจากท่อนซุงเถอะ หลงชีวิตแล้วท่าน :b32:

กรัชกาย ตีบตัน ไปไม่เป็น ก็ยอมรับเถอะ
ไปศึกษาพระสูตร ให้ดีๆ


คิกๆๆ วน

นี่ใช่พระสูตรไหม viewtopic.php?f=1&t=48040

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 284 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 19  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 33 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร