วันเวลาปัจจุบัน 03 มิ.ย. 2025, 00:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2011, 18:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ต.ค. 2010, 19:49
โพสต์: 28

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เวลาผมนั่งสมาธิก็จะกำหนดรู้ลมหายใจ บริกรรมพุทโธ อยู่ตลอด พอนั่งๆ ไปก็เหมือนจิตมันอยู่ในภวังค์ลืมการบริกรรมไป แล้วก็จะสะดุ้งแต่ไม่ลืมตานะครับ ท้วงตัวเองอยู่ในใจว่าลืมบริกรรมได้ไง จากนั้นก็จะเริ่มบริกรรมต่อ แล้วมันก็จะเป็นแบบแรกอีกอ่ะครับ ไปอ่านในหลายเว็บแต่ก็ไม่แน่ใจว่าที่เป็น มันคือจิตเข้าสู่สมาธิให้ปล่อยไป หรือว่าเป็นเพราะเราจะหลับจริงๆ กันแน่ ใครพอจะทราบช่วยให้ความรู้หน่อยนะครับ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2011, 08:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ถึงกับหลับ แต่มันไม่รับรู้ พูดให้เข้าหลักก็คือสติสัมปชัญญะไม่ทำงาน จะต้องปลุกต้องฝึกสติเข้าอีก

ถาม จขกท.หน่อยว่า จะเจริญภาวนาเพื่ออะไรครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2011, 09:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ต.ค. 2010, 19:49
โพสต์: 28

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"อยากทำครับ" ไม่มีเหตุผลอื่นประกอบ :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2011, 16:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


อ๋อ เพราะฉันทะเป็นเหตุนั่นเองถึงได้ทำสมาธิภาวนา
:b16:
มีสติรู้ลม ไม่ต้องบริกรรมก็ได้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2011, 16:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


แต่ฉันทะก็มีการเห็นประโยชน์เป็นเครื่องสนับสนุน
แล้วอะไรคือประโยชน์ของอานาปานสติ ?

ธรรมรักษาครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2011, 19:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ต.ค. 2010, 19:49
โพสต์: 28

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ประโยชน์ของอานาปนสติก็พอทราบ
แต่ถ้าถามว่าเห็นประโยชน์อย่างไรจึงปฏิบัติขอตอบว่า ไม่ได้สนใจเรื่องประโยชน์เลยครับ ใจมันอยากจะทำ ประกอบกับมีเวลาปิดเทอมก็เลยทำ ใช้ความรู้สึกล้วนๆ เลย ฮ่าๆ :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2011, 12:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


BENZiNE เขียน:
"อยากทำครับ" ไม่มีเหตุผลอื่นประกอบ :b16:

แวะมาชม ก็อ่านพบคำตอบ ที่ให้แก่สหายธรรม ของท่าน BENZiNE

อุปมาเหมือนกับ ยิงปืน เพราะอยากยิง
ตักลมใส่ปาก เพราะอยากตัก

แต่
การเจริญสมาธิในพระศาสนานี้ เป็นอธิจิตสิกขา
สิกขา หรือศึกษาย่อมด้วยเป้าประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งครับ

ความพยายามจึงเพื่อไม่สูญเปล่า

คุณBENZiNE ใคร่ครวญอีกสักหนว่า ท่านเจริญสมาธิ โดยไม่มีเป้าหมายจึงหรือ?

เจริญธรรม

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2011, 13:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ต.ค. 2010, 19:49
โพสต์: 28

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถามอีกก็ตอบ ว่า แค่อยาก "ความอยาก" อยากจะทำให้สำเร็จ ก็น่าจะเป็นเหตุผลให้คนเราปฏิบัติสิ่งต่างๆ ได้แล้วนะครับ เป้าประสงค์ที่ ท่าน เช่นนั้น อยากจะทราบก็คือ การบรรลุผลสำเร็จในความอยากนี้ไงครับ :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2011, 13:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


BENZiNE เขียน:
ถามอีกก็ตอบ ว่า แค่อยาก "ความอยาก" อยากจะทำให้สำเร็จ ก็น่าจะเป็นเหตุผลให้คนเราปฏิบัติสิ่งต่างๆ ได้แล้วนะครับ เป้าประสงค์ที่ ท่าน เช่นนั้น อยากจะทราบก็คือ การบรรลุผลสำเร็จในความอยากนี้ไงครับ :b16:


ความอยาก ...เป็นเพียงองค์ประกอบของจิต และเจตนาของจิตครับ
การบรรลุผลสำเร็จของความอยาก สำเร็จแล้วครับเมื่อ มีความอยากครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2011, 16:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ต.ค. 2010, 19:49
โพสต์: 28

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วทั้งหมดที่ถามๆ กันมานี่เกี่ยวข้องอะไรในแง่การปฏิบัติหรอครับ ?
:b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2011, 22:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


BENZiNE เขียน:
แล้วทั้งหมดที่ถามๆ กันมานี่เกี่ยวข้องอะไรในแง่การปฏิบัติหรอครับ ?
:b10:

คุณBENZiNE...
การปฏิบัติธรรม โดยไม่มีเจตจำนงค์ คือความเลื่อนลอย ครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2011, 22:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แวะมา...เพื่อหาคำตอบ..ดี ๆ ...

หวังว่า..จะมีอีก..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2011, 00:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


สติ และ สัมปัชฌัญญะ....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2011, 04:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
BENZiNE เขียน:
ถามอีกก็ตอบ ว่า แค่อยาก "ความอยาก" อยากจะทำให้สำเร็จ ก็น่าจะเป็นเหตุผลให้คนเราปฏิบัติสิ่งต่างๆ ได้แล้วนะครับ เป้าประสงค์ที่ ท่าน เช่นนั้น อยากจะทราบก็คือ การบรรลุผลสำเร็จในความอยากนี้ไงครับ :b16:


ความอยาก ...เป็นเพียงองค์ประกอบของจิต และเจตนาของจิตครับ
การบรรลุผลสำเร็จของความอยาก สำเร็จแล้วครับเมื่อ มีความอยากครับ

คุณ จขกทครับ ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจ เรื่องรูปนามก่อนครับ การอธิบายความเราต้องแยกกัน
ความอยาก มันเป็นเรื่องของนาม ส่วนการกระทำให้สำเร็จมันเป็นเรื่องของรูปหรือกายครับ

ความอยากมันไม่ได้เกิดจากการที่เรามีความอยากครับ
มันเกิดของมันเองตามเหตุปัจจัย ซึ่งเหตุปัจจัยของความอยาก
มันก็คือตัวเวทนา ทั้งหมดล้วนมาจากต้นเหตุคืออวิชา
ถ้าพูดกันในเรื่องจิตแล้ว ผลสำเร็จของมันก็คือ ความทุกข์ครับ(จขกทไปไล่ดูในปฏิจสมุบาท)

เมื่อจิตมีทุกข์ ก็หาทางปลดเปลื้องให้เกิดการกระทำทางกายขึ้น
อันนี้ล่ะครับที่ต้องดูถึงผลสำเร็จ แล้วอะไรคือผลสำเร็จ
ผลสำเร็จนั้นก็คือ การได้กระทำให้ความทุกข์ทางใจได้ปลดเปลื้องไปครับ
ดังนั้นถ้าดูให้ดีแล้ว การกระทำทางกายมันไม่ได้เกิดจาก ความอยากแต่อย่างเดียวครับ
ความอยากเป็นแค่เหตุปัจจัยหนึ่งในหลายๆเหตุปัจจัยครับ


คำที่จขกทบอกว่า "อยากทำ ไม่มีจุดประสงอื่น" เป็นเพราะจขกท
ยังไม่เข้าใจในเรื่องของปฏิจจสมุบาท ไม่รู้ว่าทุกข์เกิดขึ้นที่ใจแล้ว
จุดประสงค์ที่แท้จริงคือต้องการปลดเปลื้องทุกข์

การกระทำของจขกทเป็นเพียงส่วนประกอบ ที่เกิดจากการปรุงแต่งของสัญญาบางส่วน
ที่ไปจำมา ดูได้จากการที่จขกทตอบว่า "ก็แค่อยากทำ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2011, 13:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ต.ค. 2010, 19:49
โพสต์: 28

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รู้ กับ ไม่รู้ สุดท้ายให้ผลต่างกันยังไงหรอครับ ยังไม่ค่อยเข้าใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร