วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 02:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2010, 18:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


“ภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติสมาธินี้แล เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปสภาพสงบ ประณีต

สดชื่น เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุข และยังอกุศลธรรมชั่วร้ายที่เกิดขึ้นแล้วๆ ให้อันตรธานสงบไปได้โดย

พลัน เปรียบเหมือนฝนใหญ่ที่ตกในสมัยมิใช่ฤดูกาล ยังฝุ่นละอองที่ฟุ้งขึ้นในเดือนท้ายฤดูร้อนให้

อันตรธานสงบไปโดยพลัน ฉะนั้น”

(วินย.1/178/131 ฯลฯ)

“ภิกษุทั้งหลาย...เมื่อจะกล่าวให้ถูกต้อง พึงกล่าวถึงอานาปานสติสมาธิว่าเป็นอริยวิหารก็ได้ ว่าเป็น

พรหมวิหารก็ได้ ว่าเป็นตถาคตวิหารก็ได้ ภิกษุเหล่าใดเป็นเสขะ ยังไม่บรรลุอรหัตผล ปรารถนาภาวะ

ปลอดโปร่งโล่งใจอันยอดเยี่ยม อานาปานสติสมาธิที่ภิกษุเหล่านั้นเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็น

ไปเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ส่วนภิกษุเหล่าใด เป็นพระอรหันต์สิ้นอาสวะแล้ว...

อานาปานสติสมาธิที่ภิกษุเหล่านั้นเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความอยู่สุขสบายใน

ปัจจุบัน และเพื่อสติสัมปชัญญะ”

(สํ.ม.19/1366-4/413)

-พึงสังเกตคำว่า พรหมวิหาร ไม่ใช่ชื่อจำเพาะของเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาเสมอไป (ชื่อเฉพาะของธรรมชุดนั้นคืออัปมัญญา)

-อริยวิหาร เครื่องอยู่ของพระอริยะ
-พรหมวิหาร ธรรมเป็นเครื่องอยู่ของพรหม
-ตถาคตวิหาร ธรรมเป็นเครื่องอยู่ของตถาคต
-อยู่สุขสบายในปัจจุบัน ศัพท์ทางธรรม ทิฏฐธรรมสุขวิหาร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 27 ส.ค. 2010, 08:23, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2010, 18:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


“ภิกษุทั้งหลาย ดังที่เป็นมา เรานั้น ก่อนสัมโพธิ เมื่อยังมิได้ตรัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่ ก็อยู่ด้วย

วิหารธรรมคืออานาปานสตินี้โดยมา เมื่อเรานั้นเป็นอยู่ด้วยวิหารธรรมนี้โดยมาก กายก็ไม่เมื่อย ตาก็ไม่

เหนื่อย และจิตของเราก็หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย ด้วยไม่ถือมั่น เพราะฉะนั้นแล ภิกษุทั้งหลาย

หากภิกษุหวังว่า กายของเราไม่พึงเมื่อย ตาก็ไม่พึงเหนื่อย และจิตของเราก็พึงหลุดพ้นจากอาสวะ

ทั้งหลาย ด้วยไม่ถือมั่น ก็พึงมนสิการอานาปานสติสมาธินี้แลให้มาก”

(สํ.ม.19/1329-1330/401...แม้แต่การบรรลุปฐมฌานเมื่อครั้งที่พระองค์ยังเป็นพรกุมารประทับใต้ร่ม

ต้นหว้า ในคราวที่พระพุทธบิดาประกอบพิธีแรกนาตามความใน ม.มู.12/425/457 ฯลฯ ก็ว่า ทรงได้

ปฐมฌานนั้นด้วยการกำหนดลมหายใจ)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2010, 18:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


“สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ไพรสณฑ์ ชื่ออิจฉานังคละ ใกล้อิจาฉานังคลนคร ณ ที่นั้น

แล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย เราปรารถนาจะหลีกเร้นอยู่ตลอด

ไตรมาส ใครๆไม่พึงเข้ามาหาเรา เว้นแต่ภิกษุผู้นำบิณฑบาตรูปเดียว...ครั้งนั้นแล เมื่อล่วงสามเดือน

แล้ว พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากที่หลีกเร้นแล้ว ตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย หากว่า

อัญเดียรถีย์ปริพาชกทั้งหลาย จะพึงถามพวกเธออย่างนี้ว่า พระสมณโคดม อยู่จำพรรษาด้วยวิหาร

ธรรมไหน โดยมาก เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงชี้แจงแก่อัญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้น

อย่างนี้ว่า ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคประทับจำพรรษาด้วยอานาปานสติสมาธิ โดยมาก”

(สํ.ม.19/1373-4/415)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 26 ส.ค. 2010, 19:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2010, 18:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


“ดูกรอานนท์ ธรรมหนึ่งคืออานาปานสติสมาธิ ภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมยังสติปัฏฐาน 4

ให้บริบูรณ์ สติปัฏฐาน 4 อันภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมยังโพชฌงค์ 7 ให้บริบูรณ์

โพชฌงค์ 7 อันภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมยังวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์”


(สํ.ม.19/1381/417)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2010, 18:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




girl_med2.jpg
girl_med2.jpg [ 23.9 KiB | เปิดดู 2579 ครั้ง ]
“ดูกรราหุล เมื่อเจริญอานาปานสติแล้วอย่างนี้ ทำให้มากแล้วอย่างนี้ แม้แต่ลมอัสสาสะปัสสาสะ

ซึ่งมีในท้ายที่สุด ก็ดับไปโดยรู้ มิใช่ดับไปโดยไม่รู้”

(สํ.ม.13/1461/142...วิสุทธิมัคค์อธิบายว่า เมื่อจะสิ้นชีพสามารถรู้ลมหายใจเข้าออกสุดท้ายของ

ตนตั้งแต่เริ่มจนดับไป พร้อมกับจุติจิต และท่านอธิบายต่อไปด้วยว่า ภิกษุที่บรรลุอรหัตด้วยเจริญ

กรรมฐานอย่างอื่นย่อมกำหนดระยะกาลแห่งอายุของตนได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ท่านที่เจริญอานาปานสติ

ครบกระบวนแล้วบรรลุอรหัต สามารถกำหนดระยะกาลแห่งอายุของตนได้...ว่าจะอยู่ไปอีกนาน

เท่าใด จะสิ้นชีพเมื่อใด)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2010, 18:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


phaya_chalawan เขียน:
ทำอานาปานสติ โดยการตามดูลมหายใจเข้า-ออก
เวลาเลิกทำ ลมหายใจมันหนัก ๆ ติด ๆ ครับ
จะแก้ไขอย่างไร


เมื่อธรรมชาติ ณ ขณะนั้น เป็นอย่างนั้น เราพึงกำหนดรู้ตามที่มันเป็น โดยไม่ต้องแก้ไขอะไรมัน ธรรมชาติ

เป็นยังไง กำหนดรู้ยังงั้น รู้สึกยังไงกำหนดรู้ยังงั้น ตามที่มันเป็น

อันที่จริงสภาวะอย่างนี้ ฯลฯ มันมีเป็นอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก แต่ก่อนหน้าเราไม่รู้ไม่เห็น เพราะขาด

มนสิการ ครั้นเรามาตั้งใจมนสิการลมหายใจเขาออกอย่างใกล้ชิด จึงรู้เห็นความเป็นอย่างนั้นของมัน

ก็เท่านี้

จขกท.ลองอ่านสภาวธรรมที่เกิดแก่ผู้เจริญกรรมฐานที่นี่ก่อนแล้วคุณจะเข้าใจสภาพธรรมระดับหนึ่ง

เมื่อดูแล้วสงสัยไม่เข้าใจตรงไหน ค่อยถามใหม่ที่นี่ครับ

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?board=3.0

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2010, 19:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จะนำวิธีเจริญอานาปานสติในแบบมาให้ดูให้ศึกษาสักเล็กน้อยเอาพอๆมองเห็นแนวทาง ไม่นำมา

ทั้งหมด เดี๋ยวยึดติดตัวอักษรกันอีก



“ภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ เจริญอย่างไร ทำให้มากอย่างไร จึงจะมีผลมาก มีอานิสงส์มาก ?

-ภิกษุในธรรมวินัยนี้

-ไปสู่ป่าก็ดี ไปสู่โคนไม้ก็ดี ไปสู่เรือนว่างก็ดี

-นั่งคู้บันลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า (= เอาสติมุ่งต่อกรรมฐาน คือลมหายใจที่

กำหนด)

-เธอมีสติหายใจออก มีสติหายใจเข้า *

-เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่าหายใจออกยาว

-เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่าหายใจเข้ายาว

-เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่าหายใจออกสั้น

-เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่าหายใจเข้าสั้น

ฯลฯ

(พอให้เห็นเป็นตัวอย่าง ภาคปฏิบัติสรุปก็คือมันเป็นยังไงก็กำหนดรู้ยังงั้น ตามที่มันเป็น)


* อรรถกถาวินัย แปลอัสสาสะว่าหายใจออก ปัสสาสะว่าหายใจเข้า

ส่วนอรรถกถาพระสูตรแปลกลับกัน อัสสาสะว่าหายใจเข้า ปัสสาสะว่าหายใจออก

ในที่นี้แปลไปตามที่นิยมในเมืองไทย คือตามอรรถกถาวินัย ท่านที่ชอบแนวพระสูตร พึงเปลี่ยนเข้า

เป็นออก ออกเป็นเข้า

(ทั้งหมดนำมาจากพุทธธรรมหน้า 859...ตัวอย่างวิธีเจริญสมาธิ)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 11:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 11:21
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณสำหรับทุกท่านครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2010, 08:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ

การกำหนดลมตอนทำสมาธิแรกเข้า กับตอนออกจากสมาธิ ได้กำหนดไว้หรือไม่

เพราะถ้าไม่รู้จักกองแห่งลม ทำให้ลมสับสนไม่เป็นระเบียบ

หลวงพ่อพุทธทาสเคยกล่าวไว้ในธรรมเทศนาว่า ต้องกำหนดแบบปล่อย แต่ไม่ใช่การบังคับ :b18:

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 45 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร