วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 11:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 126 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2012, 00:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


7/7/2555

อยากมีความสุข ก็ต้องละเหตุแห่งทุกข์‏

สวัสดีครับพี่ ทุกวันนี้ ยิ่งนอกออกไปภายนอก ยิ่งเห็นแต่กิเลสของคนอื่น ก็เหมือนเห็นตนเอง ที่เต็มไปด้วยความไม่รู้ แต่ก็ เป็นอดีตของเรา ซึ่งเคยมีและเป็นมาทั้งนั้น

มันโง่มาก่อนทั้งนั้น หลงเล่นกับ กาย ซึ่งเป็นเครื่องมือของใจให้สร้างแต่เหตุ ทั้งที่ มันไม่มีอยู่จริงในความเป็นเรา ของๆเรา จึงเบียดเบียนกันไม่อยู่ตลอดเวลา

แต่ก็ได้เรียนรู้ ในสภาวะ ที่เกิดขึ้น เมื่อเกิดอารมณ์ แต่ เรา รู้ว่ามันเกิดแล้ว เราจะไม่ตาม เราจะปล่อยมันไป เพราะนั้นคือเหตุของเรา

แต่เราก็ได้เรียนรู้ มันในความ เกิด แห่งทุกข์ แต่เราจะไม่ทุกข์ เพราะเรารู้จักมัน รู้จักครูที่สอนให้เรา ชนะตนเอง จะเกิดอะไรก็เพียงทำความรู้จักมัน

แต่เรา จะไม่มีและไม่เป็นอะไรกับมัน ให้มีเหตุแห่งทุกข์วนเวียน อยากมีความสุข ก็ต้องละเหตุแห่งทุกข์นั้นเอง เพราะเราปฎิบัติเพื่ออยู่เหนือทุกข์ทั้งปวง การรู้จักมัน

ขอบคุณครับพี่ บางที ความคิด ในธรรมมันคิดออกมาพรวดๆ ห้ามก็ไม่หยุด อยากคิดก็ปล่อยมันคิดไป

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2012, 23:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


9/7/2555

ขอบคุณที่เตือนสติผม‏

ขอบคุณครับ พี่ที่ช่วยเตือนสติผม ผมจะ ต้องมีสติให้มากกว่านี้ครับพี่ ไม่ทำร้ายตัวเองให้ทุกข์ เพราะการ คิดจะไปสอนใครเขาอีกต่อไป

แค่เจ็บใจ แล้วทุกอย่างจะจบลงไปเอง เพราะมันเป็นเหตุของตัวเราเองจะไปโทษใครเขา ใช้หนี้กันไป ครับคุณมากๆครับพี่




ผมเองมันวิ่งหาแต่สุข คือ ความสงบ แต่หนีทุกข์ คือความวุ่นวาย ติดแต่ดี ทั้งที่ สุข และทุกข์ มันก็ไม่เที่ยงแท้แน่นอน ไปฝืนธรรมชาติของเขา เหมือนๆกับ หนีตัวตนเอง

ทั้งที่เรา ยังมีกิเลสอยู่มากมาย แต่กับไป หาเหตุแห่งทุกข์ เหตุแห่งการเกิดให้ยืดยาว ให้มาทับถม ตนเอง ให้ทุกข์ รู้มากจึงยากนาน

ถ้าเรายังไม่รู้ด้วยตัวเองแล้ว ยังทำไม่ได้แล้ว ผมก็ไม่สมควรจะไปสอนใคร ถ้า ไม่ใช่เหตุเขา สร้างร่วมกันมา

เส้นทางยังอีกยาวไกล ถ้าเรายังหลงตัวรู้อยู่ แต่ไม่ดู แล้ววางมัน ขอบคุณพี่น้ำมากๆ ผมคิดเสมอๆว่าซักวันผมต้องพ้นทุกข์ ถ้าเรา ทำความเพียรไม่พัก จุดหมายต้องถึงซักวันหนึ่ง



11/7/2555


เห็นผิดเพื่อถูก‏


ตราบใดที่ยัง เดินตาม มรรค อยู่ ตราบนั้น ย่อมมี อริยะบุคคล อาศัย ทุกข์ ในสมมุติบัญญัติ แต่เราจะใช้มันแต่ไม่ยึดมัน เอาความจำไปรู้ความจริง มันทวนในก็ถามตนเองว่า ควรหรือไม่ที่เราจะยึด ความไม่เที่ยง เอาความไม่เที่ยงไปหลงของไม่เที่ยง มันก็หลงอยู่นั้นเอง

แต่ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ ต้อง อาศัย การรับ รู้ ทางตา หา จมูก ลิ้น กายและใจ อยู่ ก็ต้องมีความทุกข์ แต่ทุกข์ นั้นไม่ใช่เรา เพราะเราวางมัน ปล่อยให้มันปรุงไป มันจะคิด ปรุงอะไรๆ แต่เรา ไม่เอามัน มาเป็นเรา

เราปฎิบัติเพื่อ จะรู้เท่าทันใน ตัวเราเอง รู้เท่าทันภายใน เหตุมี ผลย่อมมี สติที่สืบเนื่องก็ สมาธิตั่งมั่นดีแล้วก็ ให้มีกำลังไม่ฟุ้งซ่านแล้วมาพิจารณาว่าอะไร ธาตุสี่ ขันธ์ห้า มันก็แค่ ก้อนทุกข์ ที่ทนได้อยากในตัวมันเอง ก็ใช้เพื่อละตัวมันเอง ในความหลงในความเป็นตัวตนของๆตน

ในความเป็นไปเพื่อ ละความเห็นผิดของจิตที่ไปหลงในขันธ์ ว่าเป็นตัวตน ความผิดที่ทำไปด้วยความไม่รู้จุดมุ่งหมาย ไร้ทิศทาง มันก็ดี ที่มาสอนเรา ให้ไม่กลับไปหลงใน ตัวโง่ อีก ที่คิดว่า ต้องเห็น นู่นนี้ เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตามเขา

ทั้งที่ มันเป็นเหตุของเขา มันไม่ใช่เรา เหตุใครเหตุมัน หยุดสร้างเหตุภายนอกตัว คิดเยอะๆก่อน พูด ก่อน กระทำอะไรลงไป

ถ้าเราไม่เดือนร้อน และ เขาไม่เดือดร้อน ก็ทำไป ถ้า ใครคนใดคนหนึ่งเดือดร้อนเพราะเรา ก็อย่าไปทำเลย มันก็กลับมาทำร้ายตัวเราเอง ยอมโง่ซะบ้างจะได้ไม่สร้างเหตุเพิ่มเติม ทำได้คือทำใจเราเองให้วาง ช่างมัน เดี๋ยวก็ดับไป เราเขา รู้เรา ย่อมชนะตัวตนของตนเอง

ถามนิดนึงพี่น้ำ เห็นเคยได้ยืนครูบาอาจารย์ท่านพูด ว่า ถ้ายังมีวิบากอยู่ ก็ยังไม่ รู้และเข้าใจ ในธรรม ต่อเมื่อ มีเหตุ ในบุญเก่าที่มาหนุนให้ได้รู้ และเข้ามาในเส้นทางนี้ ย่อมมีเหตุใช่ไหมครับ


ตอบ แค่รู้ ทำต่อเนื่องไปค่ะ แล้วจะรู้ทุกสิ่ง ด้วยตัวเอง เรื่องเดินกับนั่ง ไม่ต้องไปกังวล ทำได้แค่ไหน ทำตามเหตุปัจจัยของตัวเอง เหตุของแต่ละคนสร้างมาไม่เหมือนกัน

ในชีวิตประจำ พยายามอย่าสร้างเหตุนอกตัว

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2012, 23:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


12/7/2555


ธรรมชาติที่ไม่เที่ย‏ง

พี่น้ำ ช่วงนี้ วกวนในอารมณ์ เบื่อไม่อยากจากแสวงหา สุขใน การดูหนัง ฟังเพลง และอื่นๆ ซักเท่าไหร่ ใจลึกๆมันคิดเสมอว่า มันแค่หนีจากความเป็นจริง ไม่นาน

คิดเสมอเว่าเวลามันมีค่าสำหรับเรา รื่นเริงในธรรมจะดีกว่า เราจะเพียร ทำ เราเชื่อมั่นว่ามรรค ผล นั้นมีจริง ที่แน่ใจในตอนนี้ คือ ภพชาติ ที่สั้นลงนั้นมันตัดกันอย่างไหร่ ที่พี่น้ำบอกว่า หยุดสร้างเหตุภายนอก รู้ชัดภายใน ตรงนี้ๆเอง มันดับกันตรงนี้

น้อมมาสู่ตน จากการฟัง จนเกิดปัญญา แล้วอาศัย พิจารณา คิดทบทวนกลับไปกลับมาหาเราในกาย รู้ซ้อนรู้ ถอนความเป็นเรา

เมื่อจิตสบาย หลังจากทำ สมาธิทุกครั้ง เดินทุกกก้าวนั้น ระลึกรู้อยู่ในกาย มีสติอยู่ในกาย รู้อยู่ที่ลมหายใจ และอาการพองยุบ บางที เสี่ยงที่พูด จิตลึกยังคิดว่าเหมือน สิ่งที่แปลกปลอมกับจิตเลย คิดในใจเสมอว่า ขอเพียงเพื่อนร่วมเดินทาง เป็นครูบาอาจารย์ กัลยาณมิตร กัลยาณธรรม เพื่อถึงที่สุดแห่งทุกข์ ขอบคุณพี่ ที่เป็นพี่เลี้ยงให้ผม



มาจากธรรมชาติที่ไม่เที่ยง มาหลงสิ่งที่ไม่เที่ยง มาหลงอารมณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับใจเราว่าป็นเรา มาติดสุข เกลียดทุกข์ หลงในอารมณ์ ที่มันไม่เที่ยงว่าเป็นเรา ยึดอะไรไม่ได้เลยจริงๆ มีแต่ สิ่งที่แค่รู้ และ ยอมรับ แล้วก็ปล่อยมันไป เพราะมันไม่ใช่เรา เราแค่อาศัยมันอยู่ชั่วคราว แล้วจะมาทุกข์อะไรกับของชั่งคราว วางทั้ง รู้ สักแต่ว่า รู้ คิดนึกปรุงแต่ง ถ้ามันไม่วางก็วางมันเอง ยอมรับในความเป็นจริงซะก็หมดเรื่องกันไป



18/7/2555

ผู้เฝ้าสังเกตุ‏

ถึงพี่น้ำที่เคารพ

เมื่อเราคอยเฝ้าสังเกตุภายในกายบ้าง หรือ ใช้ สมถะคำบริกรรบ้าง อาการ วิตก ในสัญญาบ้าง สังขารปรุงแต่งไป ในอดีตและอนาคตบ้าง

เริ่มจับต้นตอแห่งอาการ เกิด ย่อมมีความคิดเป็นเครื่องรู้ มีสติคอยเฝ้าสังเกตุ อาการของจิต ย่อมโปร่งโล่งสบาย เมื่อมีสิ่งใดกระทบ ย่อมไม่มีเวทนา อยู่นาน และไม่มีสัญญาเหล่านั้นย่อมตั้ง ไม่ได้ไม่ได้


เมื่อไม่กี่วันนี้ ก็มีเหตุเกิดขึ้น ทั้งๆที่เขาดูถูกเรา แต่เมื่อเรามีสติ รู้ถึงเหตุและปัจจัยนั้น เราย่อม ดับเหตุแห่งการเกิดที่ตัวเรา พิจารณาว่าความจริงที่มันเป็นก็ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ไม่คิดจะแก้ไข คิดว่าทุกอย่างมีเหตุถึงมีผล เรายอมรับผลนั้นๆ เรา มีความตั่งมั่นที่จะละ และชนะตัวเอง แพ้สิ่งใดไม่เท่าแพ้ใจตัวเอง ขอบคุณพี่น้ำที่ชี้ทางสว่างให้ ขอบคุณครับ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2012, 20:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


19/7/2555

ไม่สู้ ไม่หนี ทำความดีเข้าไว้...(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)...

ความมั่นคงของชีวิต

ชีวิตที่มั่นคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินหรืองานที่ทำอยู่ แม้กระทั่งความมั่นคงในฐานะต่างๆทางโลก
ความมั่นคงของชีวิตที่แท้จริง คือการเห็นตามความเป็นจริง และรู้ชัดในรูป,นาม



ไม่สู้ ไม่หนี ทำความดีเข้าไว้...(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)...
กัมมัฏฐานนี้สำคัญ ระลึกเหตุการณ์ในชีวิตได้
ขอให้ท่านตั้งใจทำ หนักเอาเบาสู้
คนที่เขาร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีเขาลำบากมามาก เขาอดทนมามาก
นี่แหละท่านทั้งหลายความดีความชอบนี้ไม่ใช่คนอื่นทำให้
เราทำตัวเอง
เราได้ดิบได้ดีไม่ใช่สบาย ผู้ใหญ่เป็นโตก็ใช่ว่าสบาย
ถ้าหากว่ากินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน ไม่ทำอะไรเลยนั้น
กำลังทำชั่วโดยไม่รู้ตัว
หากท่านพบความลำบากเท่าไรก็จงภูมิใจเทิดว่า
ท่านลำบากเพราะกำลังทำความดี
ถึงจะไปทำงานให้คนอื่นก็ถือว่าทำดี
ความดีของเราที่ทำไว้จะติดตัวเราไปจนสู่สัมปรายภพ ไม่มีสูญหาย
การเดินจงกรมก็จะติดตัวเรา
สร้างความดีให้ติดตัวเราไปในอนาคตข้างหน้า
ขอให้ท่านไม่สู้ใคร ไม่หนีใคร
แล้วหมั่นสร้างความดีไว้ ต้องได้ดีแน่นอน...



มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน



ความมั่นคงของชีวิต

ชีวิตที่มั่นคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินหรืองานที่ทำอยู่ แม้กระทั่งความมั่นคงในฐานะต่างๆทางโลก
ความมั่นคงของชีวิตที่แท้จริง คือการเห็นตามความเป็นจริง และรู้ชัดในรูป,นาม

ถึงพี่น้ำที่เคารพ



เข้าใจ คำพูดที่ หลวงพ่อ พูดเป็นปริศนา ว่า ไม่สู้ ไม่หนี ทำความดีเข้าไว้ ชั่งลึกซึ้งในความหมายเป็นอย่างมาก หนี้เก่าใช้กันไป รู้ภายนอก แล้ว ย้อนดูภายใน ความเป็นกลาง ในตัวเอง ความรู้สึกใดๆ ที่เกิด นั้น มันล้วน พิจารณา ในการเกิด ภพชาติต่อไป จริงๆ

ยากแท้แต่เคย เคยชินแต่พิพากษาภายนอก โทษแต่ภายนอก ใครเล่าจะรู้ได้ ในจิตตนเอง ตัวเราเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด ร้อยรู้ พันรู้ ไม่เท่ารู้จักจิตใจตัวเอง

โลกภายนอกนั้นล้วน มีแต่เหตุแห่งการเกิดมากมาย สติ สมาธิ และ ปัญญา ล้วนเป็นตัวกลางเชื่อม ให้เราอาศัย อยู่ได้เพื่อความสบายในการอยู่อย่างไม่ทุกข์ ในวัฎฎะสงสาร ที่วนเวียนไปด้วย กิเลส กรรม วิบาก

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 21:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


18/7/2555


พี่น้ำ มีสภาวะ ที่เกิดขึ้น วันนี้ เหตุที่ มีบุคคลทำกับเราไว้ ทางวาจานั้น ซึ่งเหตุมันเกิดมานานแล้ว แต่เรา ในขณะนั้นไม่ต้องตอบโต้ใดๆ ในคำพูดของเขา คำพูดนั้น เพราะเราไม่ได้ตั้งใจให้เกิด

การกระทำนั้นกลับกลายเป็นเขากระทำเสียเอง แต่กลับมี บุลคลอื่นร่วมกัน นินทาในการกระทำของเขาซึ่ง เป็นกลุ่มเลย เราอยู่ในกลุ่มนั้นเราได้แต่รับฟัง

เหมือนความรู้สึกว่า เหตุมีผลย่อมมีจริงๆ นิ่งคือดับขยับคือเกิด โลกนี้มีแต่ เหตุให้เกิด มากมายจริงๆ ดับได้เพียงตัวเราเท่านั้นจริงๆเลยพี่น้ำ





27/7/2555

ถึงพี่น้ำ

ตอนนี้ ก็ยังคงปฎิบัติ อยู่อย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่เร่งรีบเคร่งเครียด จนมากเกินไป เพราะปฎิบัติไปตาม เหตุและปัจจัย และตามกาลเวลาและสถานที่ เพราะ ดูความเหมาะสม ในหน้าที่เป็นหลัก แต่ ก็รักษา ใจไว้ในที่ๆควรให้ไม่ทุกข์ จาก อารมณ์ทั้งหลายจนเกินไป

เพราะเราต้องก้าวผ่านมันไป แต่ก็ต้องย้ำแล้วย้ำอีก ในความโง่เขลาของเรา แต่อุบายต่างๆที่จะมารักษาจิตนั้น พยายามจะไม่ยึดตายตัว เปลี่ยนไปตาม ความเหมาะสมและถนัดของตนเองที่รู้สึกสบายมากกว่า

บางทีก็ พลิกมือคว่ำและหงาย กระพริบตาบ้าง หรือ ตามท้องพองยุบ การเต้นของหัวใจที่รู้สึกว่ามาเด่นชัดกว่าอาการอื่นๆที่สามารถจับได้ง่าย แต่ก็มี สัญญา ในอดีต คอย หวนระลึกเป็นระยะๆ

แต่ ที่พี่น้ำบอกว่า ถ้าความรู้สึกไหนที่มันเคยชิน แล้วเราไปฝืน ในสิ่งที่เราชอบ ยิ่งชอบ ยิ่งทุกข์ ทุกข์ เพราะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่ บาง เรื่องเมื่อได้ แล้ว ก็ หดหู่ วนเวียนไปตามเหตุ ที่ยังมีอยู่

สิ่งสำคัญ ที่ย้ำเตือนใจและบ้างเรื่องที่ ระลึก ได้ ในใจลึกๆและยอมรับคือ กฎแห่งกรรม ทำอย่างไหร่ ย่อมได้ เช่นนั้น ไม่ว่าจะเร็วหรือช้า มีแต่เหตุของการเกิด เกิดแห่งทุกข์ เกิดแห่งสุข ล้วนเป็นแดนแห่งความไม่เที่ยง หมุนวนไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เข้าใจจริงๆ ว่า การมีสติ ระลึกรู้อยู่ในกาย เนืองๆ นั้น เหมือน เต่าที่อยู่ในกระดองย่อมปลอดภัยจาก เหตุภัยต่างๆ ที่มาจากการขาดสติ รู้เท่ารู้ทัน ในสิ่งทั้งหลาย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2012, 16:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


1/8/2555


พี่น้ำ ช่วงนี้ ก็ยังทำต่อเนื่อง อาจมีเผลอสติไป ตามสิ่งเร้าต่างซึ่งมีมากมายในยุคปัจจุบัน กิเลสก็ตัวเดิมๆ ของผมนี้ติดเรื่อง กามราคะ ในสื่อๆต่างในเน็ทอยู่มาก

คือพูดตามตรงเมื่อก่อน ผมชอบเที่ยวทำนองนี้ จึงได้รู้จักทุกข์ที่สุดในชีวิต เลยคิดว่าไม่เอาดีกว่าเราจะต้องไม่สร้างปัญหาให้ตนเองและคนที่เรารัก เลยเลิกไป

จึงได้มีโอกาสไปบวชปฎิบัติธรรมที่วัด เมื่อตอนที่ เดินจงกรมที่วัดนั้น ความคิดในสัญญามันออกมาตอกย้ำเราอยู่ตลอดเลย

เราก็คิดเสมอในตอนนั้นว่าเราเป็นพระ ข่มใจไว้ สุดแสนจะทรมานในใจ พระอาจารย์ก็บอกว่าถ้าคนไหนเกิดมีอารมณ์ก็ให้ไปปัสสาวะ อาจช่วยได้บ้าง ให้มันทุเลาเบาบางลง อาการที่มันบีบคั้นให้ทุกข์ แต่ก็ ดับไปบ้าง

ในบางขณะ เข้าใจว่า จิตเรามันพิจารณา รับรู้อาการและอารมณ์ต่างๆได้เพียง เรื่องเดียว แต่การเห็นต้นของความคิด มันก็จะขาดช่วงขาดตอนไป แต่ก็มีความคิดอื่นๆมาให้รู้อีก ก็เปลี่ยนมาทำความรู้สึกตัวในกายอยู่เนืองๆ ก็พอจะบรรเทาไปบ้างครับ

เหมือนมันจะทันกันในบางเรื่องที่เรามีความตั้งใจมั่นอยู่ในกาย มีทำในรูปแบบ พิจารณา ทำตามความสะดวก ไม่จับเวลา เดินก่อนนั่ง ก็ดีขึ้น จับอาการ ที่เกิดขึ้นกับกาย ทำความรู้สึกอยู่ตามความเป็นจริง

เมื่อวานฟังหลวงพ่อเทียนพูดถึงวิปัสนูกิเลสที่ว่า เมื่อก่อน หลวงพ่อเดินอยู่ก็อยากแสดงแต่ธรรมให้คนอื่นฟังในสิ่งที่เรารู้เราเห็น

หลวงพ่อเทียนบอกว่า หลวงพ่อเข้าใจจริงๆในเรื่องนี้ ทุกคนนั้นต้องเจอเหมือนๆกัน เป็นเหมือนๆกัน



ไม่ใช่สิ่งอื่นใด ก็เพราะใจเราเอง‏

ช่วงนี้ก็เข้างานกะกลางคืน เลยมีเวลาทำในรูปแบบบ้าง แต่รู้สึกว่าช่วงพักจิต ช่วยให้สบายร่างกายจากการอดนอนได้เยอะมากๆ

เวลาออกจากกรรมฐานแล้วสดชื้นมาก มีความปิติและสว่างขณะเข้าสมาธิ รู้อาการตึงกล้ามเนื้ออย่างชัดเจน แต่กายนั้นเบาสบาย

สิ่งทั้งหลายที่คิดว่าดี หรือชั่ว มันก็เพราะใจเราที่เข้าไปยึดมั่นถือมั่นในตัวตน จึงมีหน้าที่แค่รู้ จะหายไปหรือ จะอย่างไหร่ก็แค่รู้ แค่อาการ ที่ย่อมมีเหตุและปัจจัยในตัวของมัน

เมื่อมันมีเหตุมันก็ย่อมมีผลอยู่อย่างนี้แหละหนอ เราจะไปฝืนได้อย่างไหร่ ก็ฝืนธรรมชาติ มีผลเป็นทุกข์อยู่ร่ำไป

เหมือนของที่หาย ถ้าเราอย่างไม่ปล่อยไม่วางก็ ทุกข์ใจเพราะใจมันยังยึดอยู่ร่ำไป ใครเล่าจะรู้เท่าตัวเรา ใครเล่าจะช่วยตัวเราเอง นอกจากตัวเองจะปล่อยจะวางแบกไว้ก็ยิ่งเป็น ทุกข์ที่ซ้อนในทุกข์ ให้ยึดยาวต่อไป

เราไปหาเหตุมาให้ใจเราเองทั้งนั้นเลย แล้วจะแก้ที่ไหน ก็ต้องแก้ที่ใจเรา ขอบคุณพี่น้ำทีคอยเป็น กัลยณมิตร และพี่เลี้ยงที่แสนดี ที่ดีต่อกันอยู่เสมอ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 126 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 45 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร