วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 00:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:33
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บันทึกธรรมจากหลวงปู่ท่อน
พระราชญาณวิสุทธิโสภณ
(หลวงปู่ท่อน ญาณธโร)
-การปฏิบัติธรรมนั้น นอกจากการตั้งสติแล้วไม่มีอย่างอื่นยิ่งไปกว่า ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ก็มีสติระลึกได้ ถ้าเดินนึก เดินคิด นั่งนึก นั่งคิด นอนนึก นอนคิด ไม่ชื่อว่าปฏิบัติธรรม เขาเรียกกันว่าฟุ้งซ่านไปตามสัญญาอารมณ์ ถ้ามีสติระลึกได้ทุกเมื่อมีสัมปชัญญะประกอบด้วยยิ่งดีใหญ่เป็นการปฏิบัติธรรมโดยแท้
-ให้มีสติอยู่ในกาย เวทนา จิต ธรรม เอาจิตอยู่กับ 4 อย่างนี้ให้ตลอดเวลา พิจารณาโดยแยบคาย พิจารณาอย่างนี้ ทำอยู่อย่างนี้จะสบาย เอาธรรมเป็นผู้ตัดสินเสมอ ๆ
-การมีสติรู้ตัวพร้อมจึงเรียกทำความเพียร ไม่จำเป็นว่านั่งสมาธิ เดินจงกรมจึงเรียกว่าทำความเพียร ถ้าไม่มีสติรู้ตัวฟุ้งคิดไปเรื่อยก็ไม่เรียกทำความเพียร เมื่ออิริยาบถใดจะยืน จะเดิน จะนั่งจะนอน มีสติรู้ตัวพร้อม จึงเรียกว่าทำความเพียร
-เมื่อเราเพียรเพ่งดูจิต ดูความคิด ความนึกของตัวเองตลอดไม่ยอมให้หลุดออกจากจิต แล้วเราจะเข้าใจสังขาร อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เองมันปรุงให้เราดีใจ เสียใจ ร้องไห้ หัวเราะ โศกเศร้า มันปรุงเราได้ ๆ
-เวลาไหนเราไม่ปรุงไม่แต่งไปตามสังขาร ราคะ โทสะ โมหะ สังขารปรุงไม่ได้ เรียกนิพพานชั่วขณะ
-กายมันไม่ใช่เรา มันไม่ใช่ของเรา มันไม่มีอะไรเลยที่น่ายึดมั่น มันแค่เครื่องอาศัยชั่วคราว เร่งทำให้มาก เอาให้จริง
-การปฏิบัติธรรม อย่าอยากได้อยากเห็นอยากเป็นใด ๆ เลย ให้รู้มันอยู่อย่างเดียว มีอะไรก็ช่างรู้มันอยู่อย่างเดียว ถ้าอยากก็ไม่ไปไหน เป็นสมาธิอยู่ก็หลุดจากสมาธิ เราปฏิบัติเพื่อความปล่อยวางเพื่อละความยึดมั่นต่างๆ เพื่อละความยินดียินร้าย เราเป็นผู้ดูไม่ใช่ผู้บังคับให้มันเป็น
-จิตปรุงกิเลส คือ จิตเริ่มคิดก่อน คิดชอบ คิดไม่ชอบ เมื่อความคิดเกิดจึงปรุงให้เกิดกิเลส โลภ โกรธ หลงเมื่อกิเลสเกิดขึ้น เราไม่มีสติสัมปชัญญะพอจะดับกิเลส มันก็ปรุงจิตให้คิดวุ่นวายไปเรื่อย ไม่ผ่องใส พอจิตคิด มันก็ปรุงให้กิเลสเพิ่มขึ้น ๆ หมุนกันเป็นเกลียว จนกว่าจะมีสติ
-สติระลึกได้ ใจไม่ลอยไปทางอื่น ไม่เผลอ ไม่หลงมีความระลึกได้ถี่ยิบเป็นมหาสติ หากรู้ตัวว่าเราทำอะไรอยู่เป็นสัมปชัญญะ สติสัมปชัญญะเป็นธรรมมีอุปการะมาก ถ้าพร่ำเพ้อเจ้อเป็นคนขาดสติ สติต้องทำขนาดไหน ทำให้เหมือนเราเดินไปที่ลื่น ๆ ต้องเอาเท้าจิกดินหากพลาดก็ลื่นล้ม นี้เรียกว่าการตั้งสติ หายใจเข้า รู้ กำหนดพุท หายใจออก รู้ กำหนดโธ เป็นการตั้งสติ อย่าหายใจทิ้งเฉย ๆ ถ้ามัวคิดไปอย่างอื่น ใจลอย ฟุ้งซ่าน เขาเรียกว่านอกลู่นอกทางไม่อยู่ในทางถ้าตั้งสติอยู่ทุกเมื่อ สัมปชัญญะรู้ตัวอยู่ทุกเมื่อ วิเศษวิโส กิเลสจะเบาไปบางไป สติเมื่อมันแก่กล้าขึ้นมาแล้ว ไม่เผลอไม่หลงหายใจเข้ารู้ หายใจ-ใจวิมุตติ หลุดพ้น ไม่ยึด ไม่ถือวางแล้วสบาย ทำใจให้วางอยู่ทุกวัน มีชีวิตอยู่ก็วางอยู่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 42 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร