วันเวลาปัจจุบัน 29 เม.ย. 2024, 15:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2009, 21:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 16:51
โพสต์: 11


 ข้อมูลส่วนตัว




Enso_intro.gif
Enso_intro.gif [ 30.13 KiB | เปิดดู 1768 ครั้ง ]
พระพุทธองค์ทรงตรัสธรรมบทหนึ่งให้แก่พระพาหิยทารุจีริยเถระ ซึ่งเป็นผู้เลิศที่สุดในทางตรัสรู้เร็ว

ดูกร พาหิยะ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล ดูกรพาหิยะ ในกาลใดแล เมื่อท่านเห็นจักเป็นสักว่าเห็น เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง เมื่อทราบจักเป็นสักว่าทราบ เมื่อรู้แจ้งสักเป็นสักว่ารู้แจ้ง ในกาลนั้นท่านย่อมไม่มี ในกาลใดท่านไม่มี ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกหน้า ย่อมไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์
สุตตันตปิฎก ขุกทกนิกาย อุทาน ข้อ 42-50

เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสจบ พระพาหิยะก็รู้แจ้งธรรม

ขยายความ ขอกล่าวตามปฏิจจสมุปบาท อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สาฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรามรณะ โศกะ ปริเทวะ อุปายาส เป็นเหตุเป็นปัจจัยต่อเนื่องกัน การเห็น การฟัง การทราบทางใจ การรู้แจ้งทางใจ คือผัสสะ เป็นเหตุปัจจัยให้เกิดเวทนา เช่นเห็นภาพสวยแล้วรู้สึกชอบ(เวทนา) เมื่อชอบแล้วอยากได้(ตัณหา) เมื่อไม่ได้ก็ทุกข์ใจ(อุปทาน)เกิดเป็นตัวตนผู้อยากได้ ตัวตนผู้ทุกข์ (อุปทานขันธ์ทั้งห้าเป็นตัวทุกข์) ส่วนโลกในความหมายนัยนี้หมายถึงโลกทางตา โลกทางหู โลกทางจมูก โลกทางลิ้น โลกทางกาย โลกทางใจ เมื่อยึดมั่นในโลกเหล่านี้คือทุกข์
เห็นสักว่าเห็น หมายถึงการมีสติสัมปชัญญะ รู้ทันกาย เวทนา จิต ธรรม เห็นแล้วไม่ปรุงต่อเป็นเวทนา คือดีใจ เสียใจ สุขทุกข์ ไปตามการเห็นนั้น การฟัง การทราบ ก็นัยเดียวกัน แม้รู้แจ้งแล้วก็ไม่ยึดถือว่าเราคือผู้รู้แจ้ง ทําได้อย่างนี้ก็ไม่รู้สึกว่ามีตัวมีตน เมื่อไม่มีตัวตนก็ไม่มีในโลกไหนๆ ไม่มีความทุกข์ทางใจ หรือที่สุดแห่งทุกข์

บางท่านอ่านแล้วอาจจะงง ขอให้ปฏิบัติตามแนวทางสติปัฏฐานสี่ หรือศึกษาจากพระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒. ทีฆนิกาย มหาวรรค.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2009, 00:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 20:12
โพสต์: 791

แนวปฏิบัติ: พุทโธและสัมมาอรหัง
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ใต้ร่มโพธิญาณ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ

.....................................................
ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมี 30 ทัศ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสด็จนิพพานไปแล้ว มากยิ่งกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง 4 ด้วยเดชะพระพุทธานุภาพ พระธรรมมานุภาพ พระสังฆานุภาพ พระบารมีพระโพธิสัตว์ พระปัจเจกโพธิสัตว์เจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายและพระบารมีขององค์พระสมณะโคดมบรมครู ขอได้ส่งพลังมายังตัวข้าพเจ้า จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าหายจากโรคภัยไข้เจ็บและสรรพเคราะห์ทั้งหลายในกายของข้าพเจ้า จงหายไปสิ้นทั้งหมดขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ชนะต่ออุปสรรคและมารทั้งหลาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 18:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


สาธุครับ :b8:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 22 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร