วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 23:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 79 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 01:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


ปัจจุบันนี้เวลาทุกคนเดินจงกรม บางท่านจะต้องกำหนด ยกหนอ ย่างหนอ เหยีบหนอ เป็นต้นนะงับ ผมกลัวว่าทุกท่านจะไปไม่รอด เพราะติดบัญญัตินี่ละ ผู้ปฎิบัติใหม่ๆๆลองเอาไปดูได้นะงับ ผู้ที่นั่งสมาธิแล้วหลับเอาไปใช้ได้ดีแล้วนะงับ นั่งไม่ได้อย่าฝืนงับ เดินก็ได้

สำหรับวันนี้ของขวัญสำหรับทุกท่านคือ

การเดินจงกรมแบบของผมคือ เดินยาวเท่าไหร่ก็ได้ นานเท่าไหร่ก็ได้ เร็วหรือช้าก็ได้ ไม่ต้องหลับตาก็ได้นะงับ แต่ถ้าไม่หลับตาห้ามคิดนะ ให้มองตาลงต่ำกับพื้น และ ที่สำคัญที่สุด คือ ต้องดูอาการของกายที่เคลื่อนนะอย่าไปบังคับละ ถ้าไม่เชื่อนะลองบังคับดู แล้วจะอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก แล้วไม่ไปเพ่งนะ เพ่งแล้วรู้ว่าขามันเคลื่อน สมมุติบัญญัติจะกัดเอาจะไม่ก้าวหน้า เพราะขาเป็นบัญญัติ แต่ถ้ารู้ว่ากายเคลื่อนจะเริ่มเข้าปรมัตแล้วละ รู้ว่ากายมันเคลื่อนพอ แล้วอย่าเผลอไปคิดละ ไม่เชื่อก็ลองดูได้นะเพราะเผลอไปแล้วจะปฎิบัติไม่ได้ผลหรอกงับ


ข้อแม้
1 ต้องไม่ขี้เกียจตามใจกิเลส
2 ต้องเดินแต่ห้ามหักโหมเข้าความพอดีของตัวเองเป็นหลัก
3 ไม่คิดไปที่อื่น
4 กำหนดเวลาที่ทำตามสมควร
5 แผ่เมตตาไม่ใช่บทสวด สัพเพ สัตตา นะ ต้องทำใจให้เป็นเมตตา แผ่ไปไม่มี ศัตรู รักศัตรูเหมือนลูก เท่านี้ละคือเมตตา นอกนั้นไม่ใช่เป็นแค่คำสวดไม่มีประโยชน์
6 รักษาศีล 5 ให้ได้เป็นอย่างน้อยนะงับ
7 อย่าสวดมนต์มากๆก่อนเดินจงกลมนะ เพราะว่ามันอาจทำให้ฟุ้งซ่านได้ เพราะเหนื่อย 8 ไม่บังคับ และ กดข่ม ทั้งกายและใจนะงับ อาจทำให้เป็นบ้าไปได้ เพราะว่า 2 สิ่งนี้บังคับไม่ได้แต่สร้างเหตุให้มันได้นะงับ
9 รู้แล้วเฉยๆไว้ก็พอนะงับ

ของขวัญดีๆๆมีเท่านี้ละงับ ทำๆไปสุดท้ายได้ดีเองนะงับ ถ้าทำถูกต้อง

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 01:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: ถ้าอย่างนั้น ก็ขอบคุณ มากนะฮับ :b12: :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 05:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เริ่มหนุกหนาน :b1:
จงกรม เขียนอย่างนี้งับ "จงกรม" ไม่ใช่ "จงกลม" ไม่ใช่งับ :b12:

ถามท่านขงเบ้ง จงกรม แปลว่า อะไรงับๆ
เอาเท่านี้ก่อน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 23 มิ.ย. 2009, 05:23, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 05:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เริ่มหนุกหนาน :b1:
จงกรม เขียยอย่างนี้งับ "จงกรม" ไม่ใช่ "จงกลม" ไม่ใช่งับ :b12:

ถามท่านขงเบ้ง จงกรม แปลว่า อะไรงับๆ
เอาเท่านี้ก่อน



งานนี้สงสัยต้องเชิญท่านกรัชกายอธิบายแล้ว

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 06:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
งานนี้สงสัยต้องเชิญท่านกรัชกายอธิบายแล้ว


อธิบายอะไรงับ ไม่เข้าใจ
ก็ถามว่า จงกรม ที่ท่านแนะนำนั่นน่า แปลว่า อะไร เอาเบื้องต้นนี้ก่อน ความหมายคำว่า จงกรม งับ
ยังมีประเด็นอีก ยังไม่จบ แต่ตอนนี้เอาความหมาย จงกรม ก่อนงัยงับ


http://www.free-webboard.com/look.php?n ... hat&qid=33

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 23:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เดินจงกลม บางท่านจะต้องกำหนด ยกหนอ ย่างหนอ เหยีบหนอ เป็นต้นนะงับ
ผมกลัวว่า ทุกท่านจะไปไม่รอด เพราะติดบัญญัตินี่ละ



จงกรม ถามไม่ตอบ งั้นเอาใหม่

ไม่ค่อยเข้าใจคำว่า บัญญัติ ที่ท่านขงเบ้งพูด ท่านขงเบ้งช่วยอธิบาย บัญญัติ กับ ปรมัตถ์ ให้แจ่มแจ้งที
แล้วช่วยยกตัวอย่าง ทั้งปรมัตถ์กับบัญญัติด้วยงับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 00:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
เดินจงกลม บางท่านจะต้องกำหนด ยกหนอ ย่างหนอ เหยีบหนอ เป็นต้นนะงับ
ผมกลัวว่า ทุกท่านจะไปไม่รอด เพราะติดบัญญัตินี่ละ



จงกรม ถามไม่ตอบ งั้นเอาใหม่

ไม่ค่อยเข้าใจคำว่า บัญญัติ ที่ท่านขงเบ้งพูด ท่านขงเบ้งช่วยอธิบาย บัญญัติ กับ ปรมัตถ์ ให้แจ่มแจ้งที
แล้วช่วยยกตัวอย่าง ทั้งปรมัตถ์กับบัญญัติด้วยงับ


ผมไม่เก่งบัญญัตินะงับ (ก็ตัวหนังสือ)ละ ก็ขอให้คุณกรัชกาย อธิบายแล้วกันงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 07:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




tuxedosr5tn7yo7.gif
tuxedosr5tn7yo7.gif [ 14.16 KiB | เปิดดู 6134 ครั้ง ]
อ้างคำพูด:
ผมไม่เก่งบัญญัตินะงับ (ก็ตัวหนังสือ)ละ ก็ขอให้คุณกรัชกาย อธิบายแล้วกันงับ


งับๆ เมื่อเป็นดังว่า ก็เอาเฉพาะที่คุณขงเบ้งเก่งก็แล้วกัน คือ ปรมัตถ์ ถ้างั้น อธิบายคำว่า ปรมัตถ์ งับ
แล้วที่เหลือค่อยว่ากันอีกที

อีกอย่างที่กรัชกายเห็นขงเบ้งเก่ง ทำได้ดีกรัชกายยังทำไม่เป็นเลยงับ นึกออกมั้ยอะไร :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปัจจุบัน นี้เวลาทุกคนเดินจงกรม บางท่านจะต้องกำหนด ยกหนอ ย่างหนอ เหยีบหนอ เป็นต้นนะงับ ผมกลัวว่าทุกท่านจะไปไม่รอด เพราะติดบัญญัตินี่ละ ผู้ปฎิบัติใหม่ๆๆลองเอาไปดูได้นะงับ ผู้ที่นั่งสมาธิแล้วหลับเอาไปใช้ได้ดีแล้วนะงับ นั่งไม่ได้อย่าฝืนงับ เดินก็ได้

แนะนำแบบนี้อันตรายจริงๆ นะครับ จริงอยู่บางท่านอาจไม่จำเป็นต้องใช้บัญญัติช่วย นั่นสำหรับผู้มีอินทรีย์แก่กล้าเท่านั้นซึ่งร้อยคน หรือพันคนอาจจะมีซักคนหนึ่ง แต่สำหรับผู้เริ่มใหม่นั้นการใช้บัญญัติช่วยจะทำให้การกำหนดเป็นไปอย่างแนบแน่น เป็นผลให้อินทรีย์เพิ่มขึ้นอย่างรวมเร็ว และเมื่อทำไปซักพักจะทิ้งบัญญัติก็ได้ถ้าทิ้งแล้วสติยังเกิดแบบต่อเนื่องดุจสายน้ำ ตัวอย่างเช่น ถ้าท่านเดินโดยไม่ได้กำหนดซ้ายย่างหนอ หรือขวาย่างหนอ คือเดินดูอาการอย่างเดียวท่านก็จะเดินไปคิดไปก็คือเดินแบบขาดสติ และในทำนองเดียวกันสมมุติท่านนั่งดูลมโดยไม่มี พุท โธ หรือ พองหนอ ยุบหนอ ช่วย จิตท่านก็จะเกาะติดไปกับพองยุบไม่ได้นาน สุดท้ายก็เป็นการนั่งแบบจิตลอยไปลอยมาไม่มีที่ยึด สำหรับผู้ปฏิบัติใหม่โดยทั่วไปแล้วถ้าไม่ใช้บัญญัติสติจะเกิดแบบอิมพัลล์ คือนานๆ เกิดทีไม่ต่อเนื่อง ในทางกลับกันถ้าใช้บัญญัติช่วยช่วงไม่มีสติจะเกิดแบบอิมพัลล์ คือช่วงที่มีสติมีมากกว่าช่วงที่ขาดสติ ท่านว่าอย่างไหนดีกว่ากันคับ
อีกอย่างการเดินจงกรมนั้นจะเดินอย่างเดียวโดยไม่นั่งกำหนดเลยนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียว ถ้าท่านเดินอย่างเดียวเลยไม่ยอมนั่งถ้าท่านทำตลอดทั้งวันอาจจะเกิดอาการปวดหัว หรือไม่ก็อาเจียน ทั้งนี้เนื่องมาจากอินทรีย์ไม่สมดุลนั่นเอง ซึ่งมันจะทำให้ไปไม่ถึงจุดหมายครับ แต่ถ้าท่านเดินสลับนั่งอย่างละเท่าๆ กันจะทำให้อินทรีย์เพิ่มขึ้นอย่างสมดุล วิปัสสนาญาณก็จะเกิดขึ้นตามมา

ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่ท่านทั้งหลาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 04:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ผมไม่เก่งบัญญัตินะงับ (ก็ตัวหนังสือ)ละ ก็ขอให้คุณกรัชกาย อธิบายแล้วกันงับ


งับๆ เมื่อเป็นดังว่า ก็เอาเฉพาะที่คุณขงเบ้งเก่งก็แล้วกัน คือ ปรมัตถ์ ถ้างั้น อธิบายคำว่า ปรมัตถ์ งับ
แล้วที่เหลือค่อยว่ากันอีกที

อีกอย่างที่กรัชกายเห็นขงเบ้งเก่ง ทำได้ดีกรัชกายยังทำไม่เป็นเลยงับ นึกออกมั้ยอะไร :b1:




ทั้งบัญญัติและปรมัตถ คงต้องให้ผู้ที่รู้ อธิบายแล้วงับ

ผมนึกไม่ออกนะงับ คงต้องคุณกรัชกายเฉลยแล้ว อิอิ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 05:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


อายะ เขียน:
ปัจจุบัน นี้เวลาทุกคนเดินจงกรม บางท่านจะต้องกำหนด ยกหนอ ย่างหนอ เหยีบหนอ เป็นต้นนะงับ ผมกลัวว่าทุกท่านจะไปไม่รอด เพราะติดบัญญัตินี่ละ ผู้ปฎิบัติใหม่ๆๆลองเอาไปดูได้นะงับ ผู้ที่นั่งสมาธิแล้วหลับเอาไปใช้ได้ดีแล้วนะงับ นั่งไม่ได้อย่าฝืนงับ เดินก็ได้

แนะนำแบบนี้อันตรายจริงๆ นะครับ จริงอยู่บางท่านอาจไม่จำเป็นต้องใช้บัญญัติช่วย นั่นสำหรับผู้มีอินทรีย์แก่กล้าเท่านั้นซึ่งร้อยคน หรือพันคนอาจจะมีซักคนหนึ่ง แต่สำหรับผู้เริ่มใหม่นั้นการใช้บัญญัติช่วยจะทำให้การกำหนดเป็นไปอย่างแนบแน่น เป็นผลให้อินทรีย์เพิ่มขึ้นอย่างรวมเร็ว และเมื่อทำไปซักพักจะทิ้งบัญญัติก็ได้ถ้าทิ้งแล้วสติยังเกิดแบบต่อเนื่องดุจสายน้ำ ตัวอย่างเช่น ถ้าท่านเดินโดยไม่ได้กำหนดซ้ายย่างหนอ หรือขวาย่างหนอ คือเดินดูอาการอย่างเดียวท่านก็จะเดินไปคิดไปก็คือเดินแบบขาดสติ และในทำนองเดียวกันสมมุติท่านนั่งดูลมโดยไม่มี พุท โธ หรือ พองหนอ ยุบหนอ ช่วย จิตท่านก็จะเกาะติดไปกับพองยุบไม่ได้นาน สุดท้ายก็เป็นการนั่งแบบจิตลอยไปลอยมาไม่มีที่ยึด สำหรับผู้ปฏิบัติใหม่โดยทั่วไปแล้วถ้าไม่ใช้บัญญัติสติจะเกิดแบบอิมพัลล์ คือนานๆ เกิดทีไม่ต่อเนื่อง ในทางกลับกันถ้าใช้บัญญัติช่วยช่วงไม่มีสติจะเกิดแบบอิมพัลล์ คือช่วงที่มีสติมีมากกว่าช่วงที่ขาดสติ ท่านว่าอย่างไหนดีกว่ากันคับ
อีกอย่างการเดินจงกรมนั้นจะเดินอย่างเดียวโดยไม่นั่งกำหนดเลยนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียว ถ้าท่านเดินอย่างเดียวเลยไม่ยอมนั่งถ้าท่านทำตลอดทั้งวันอาจจะเกิดอาการปวดหัว หรือไม่ก็อาเจียน ทั้งนี้เนื่องมาจากอินทรีย์ไม่สมดุลนั่นเอง ซึ่งมันจะทำให้ไปไม่ถึงจุดหมายครับ แต่ถ้าท่านเดินสลับนั่งอย่างละเท่าๆ กันจะทำให้อินทรีย์เพิ่มขึ้นอย่างสมดุล วิปัสสนาญาณก็จะเกิดขึ้นตามมา

ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่ท่านทั้งหลาย




เรียนคุณอายะงับ ถ้าข้ามไปแล้วก็ไม่ต้องใช้ตัวที่เป็ฯองค์ภาวนานะงับ ไม่จำเป็ฯว่ากี่คนทำได้ แต่ท่านที่ผ่านไปแล้ว ก็ใช้ตัวนี้กันนะงับ แล้วโอกาสที่ท่านว่าทิ้งบัญญัติมีน้อยนะงับ

ต้องทำความเข้าใจให้ดีๆนะงับ ไม่ใช่จะทำให้อาเจียนได้นะงับ เพราะบางท่านมีจุดของความพอดีอยู่แล้วนะงับไม่ใช่ นั่ง ยืน เดิน นอน โดยอาการเดียวทั้งวันและคืนนะงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 05:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ทั้งบัญญัติและปรมัตถ คงต้องให้ผู้ที่รู้ อธิบายแล้วงับ

ผมนึกไม่ออกนะงับ คงต้องคุณกรัชกายเฉลยแล้ว อิอิ


บอกตรงๆว่ากรัชกายอ่อนใจงับ พูดได้เป็นคุ้งเป็นแคว ว่าเป็นบัญญัติไม่ใช่ปรมัตถ์ ฯลฯ ครั้นให้พูดบอกว่าบัญญัติเป็นยังไง ปรมัตถ์ต้องยังไง ส่วนมากก็เป็นแบบเดียวกันเนี่ยล่ะงับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 05:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถามใหม่ตามที่คุณทำได้
ถามขงเบ้ง ว่าคุณแก้ไขข้อความแล้ว คุณทำยังไง แก้ไขข้อความนี้=>

(แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 23 มิ.ย.2009, 5:23 am, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง.)

จึงไม่มี
ช่วยบอกวิธีให้กรัชกายบ้างสิงับ :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 05:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




y1pzCtueIutJFnkmR2dMwXNbYYn6-HsE76zN9oEu2mMgyaXaywXEPA7_ZQPQLi103Ag-_4-bKJgrRM.jpg
y1pzCtueIutJFnkmR2dMwXNbYYn6-HsE76zN9oEu2mMgyaXaywXEPA7_ZQPQLi103Ag-_4-bKJgrRM.jpg [ 61.31 KiB | เปิดดู 6005 ครั้ง ]
ความหมายบัญญัติปรมัตถ์ตามหลักวิชาลิงค์นี้

viewtopic.php?f=2&t=19996


ศึกษาบัญญัติปรมัตถ์ภาคปฏิบัติ หรือ ลงมือทำจริงๆ ท้ายๆ ลิงค์นี้

viewtopic.php?f=2&t=22685&st=0&sk=t&sd=a&start=15

อุบายวิธีจงกรม + ความหมาย ลิงค์นี้

viewtopic.php?f=2&t=20691

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 13:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรียนคุณขงเบ้ง
ที่เขียนไปอย่างนั้นเพราะคุณอ้าง "ผู้ปฎิบัติใหม่ๆๆลองเอาไปดูได้นะงับ" แล้วคุณก็ยังบอกว่า "การเดินจงกรมแบบของผมคือ เดินยาวเท่าไหร่ก็ได้ นานเท่าไหร่ก็ได้"

แต่คุณก็มาตอบว่า
" ถ้าข้ามไปแล้วก็ไม่ต้องใช้ตัวที่เป็ฯองค์ภาวนานะงับ ไม่จำเป็ฯว่ากี่คนทำได้ แต่ท่านที่ผ่านไปแล้ว ก็ใช้ตัวนี้กันนะงับ แล้วโอกาสที่ท่านว่าทิ้งบัญญัติมีน้อยนะงับ" อันนี้ใช่ผู้ปฏิบัติใหม่หรือไม่ แล้วท่านรู้ได้อย่างไรว่าทิ้งบัญญัติมีน้อยและทำไมบางท่านทิ้งบัีญญัติได้ หรือไม่ได้

และคุณก็ยังมาตอบว่า
"ต้องทำความเข้าใจให้ ดีๆนะงับ ไม่ใช่จะทำให้อาเจียนได้นะงับ เพราะบางท่านมีจุดของความพอดีอยู่แล้วนะงับไม่ใช่ นั่ง ยืน เดิน นอน โดยอาการเดียวทั้งวันและคืนนะงับ" อันนี้มันไม่ขัดกับข้างต้นหรือครับที่ว่า "เดินยาวเท่าไหร่ก็ได้ นานเท่าไหร่ก็ได้"

ผมขอถามใหม่แล้วกันว่า
1. ผู้ฝึกใหม่จำเป็นต้องมีองค์ภาวนาหรือไม่ ต้องใช้บัญญัติหรือไม่ เพราะอะไร
2. การเจริญสติใช้อริยาบทเดินอย่างเดียวใช่หรือไม่ เดินนานเท่าไรก็ได้ใช่หรือไม่ เพราะอะไร

ผมไม่ได้มีเจตนาจะคาดคั้นแต่เนื่องจากกังวลว่าถ้าบางท่านเมื่อได้อ่านแล้วเอาไปปฏิบัติตามจะเกิดผลดีหรือผลเสียอย่างไร

ขอความเจริญในธรรมจงมีแ่ด่ท่าน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 79 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 42 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร