วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 05:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2013, 08:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


โรคไข้หวัดเป็นโรคสามัญประจำตัวที่ทุกคนมักเป็นกันเสมอ
ยิ่งบางคนสุขภาพอ่อนแอยิ่งจะป่วยกันแบบสามวันดี สี่วันไข้เลยด้วยซ้ำ
วิธีป้องกันก็มีมากมาย รู้แล้วบ้างก็ลองทำ บ้างก็ลืม
คุณหมอส้ม (พญ.ศรันยา กตัญญูวงศ์) มีวิธีดูแลและอาหารมาแนะนำ
ทั้งช่วงก่อน, ระหว่างเป็น และขณะที่ป่วยเป็นหวัด



:b16: ช่วงก่อนเป็นไข้หวัด

โดยทั่วไปการป้องกันไข้หวัด คนจีนมักให้ดื่มน้ำขิงร้อนๆ วันละ ๑-๒ แก้ว
และทำให้ร่างกายอบอุ่นด้วยการใ่เสื้อผ้ามิดชิด โดยเฉพาะที่ขาและเท้า

เนื่องจากทางการแพทย์แผนจีน บอกว่า
การเป็นไข้หวัดเกิดจากลมเข้าสู่ร่างกายทางขุมขน
หากร่างกายอุ่น ลมเย็นจะเข้าสู่ร่างกายยากขึ้น
รวมถึงเชื่อว่า ร่างกายส่วนล่างของเรา (ขาและเท้า) เย็นง่าย
จึงต้องให้ความอบอุ่นเป็นพิเศษ



:b27: ระหว่างเป็นไข้หวัด

แต่หากว่าร่างกายอ่อนแอ ไข้หวัดเข้าสู่ร่างกายได้แล้ว
จะก่ออาการไข้หวัดได้ ๒ แบบใหญ่ คือ ไข้หวัดเย็นและไข้หวัดร้อน

ไข้หวัดเย็น ทำให้มีน้ำมูกใสไหลมาก ไม่ค่อยมีไข้
แต่มีอาการหนาวสั่นมากกว่า ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัส

การขับไล่ไข้หวัดเย็น ด้วยการกินอาหารรสเผ็ดร้อน และมีกลิ่นฉุนเพื่อไล่ลมเย็น
เช่น ต้นหอม กระเทียม อบเชย ขิงสด โดยเป็นอาหารประเภทยำ ลาบ น้ำตก ที่รสไม่จัด
ที่มีต้นหอมและกระเทียมสด

ไข้หวัดร้อน ทำให้มีอาการไข้เป็นหลัก เจ็บคอ เสียงแหบ
น้ำมูกข้นเหลือง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย

การขับไล่ไข้หวัดร้อน ควรกนอาหารมีสรรพคุณเย็นและมีกลิ่นฉุนเพื่อไล่ลมร้อน
เช่น สะระแหน่ มินต์ เต้าซี่ ดอกเก็กฮวย ใบหม่อน
โดยทำเป็นชา น้ำเก็กฮวยหรือชาใบหม่อน
หากเป็นเม็ดสมุนไพรก็กินฟ้าทะลายโจรซึ่งรักษาอาการไข้หวัดร้อนได้ดีเช่นกัน

การกินอาหารเป็นยา ควรกินให้มีปริมาณมากกว่าปกตินิดหน่อย
เพราะตัวยาในอาหารมีปริมาณน้อยกว่าในสมุนไพร



:b9: หลังเป็นไข้หวัด

เกี่ยวกับอาการไอช่วงระหว่างเป็นและหลังเป็นไข้หวัด
โดยรวมแบ่งเป็น ๒ แบบอย่างง่ายๆ ได้แก่
ไอแบบมีเสมหะกับไอแบบไม่มีเสมหะ

การแพทย์แผนจีนบอกว่า ถ้าอยากหายจากอาการไอแบบมีเสมหะ
ต้องกำจัดเสมหะให้เหลือน้อยที่สุดก่อน เพื่อไม่ให้มีตัวกระตุ้นการไอ

อาหารที่ช่วยละลายเสมหะ ได้แก่ น้ำมะนาว, ผิวเปลือกส้ม, ลูกกระวาน เป็นต้น
เมื่อเสมหะละลายเหลือแต่ไอแห้งๆ จึงค่อยกินอาหารที่ช่วยลดอาการไอ
เช่น เม็ดแอพพริคอต, แปะก๊วย เป็นต้น



สิ่งสำคัญ คือ การทำให้ร่างกายอบอุ่นไว้และหมั่นดื่มน้ำขิง
ซึ่งช่วยดูแลร่างกายได้ดี



สรุปเนื้อหาจาก นิตยสารชีวจิต
ปีที่ ๑๕ ฉบับ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๖
คอลัมภ์ แผนจีนปรับสมดุล, หน้า ๔๐-๔๑

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2015, 12:29 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2876


 ข้อมูลส่วนตัว


tongue


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 22 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร