วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 08:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2014, 06:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


จงอย่าสนใจจริยาของบุลคลอื่น และการเจริญสมาธิ จงอย่าทำเพื่อโอ้อวด การเจริญสมาธิที่จะดีให้ดีได้ ให้ถือใจความพระพุทธเจ้าว่า ใครเขาจะมีกินมาก ใครเขาจะมีกินน้อย ใครเขาจะอว้นมากใครเขาจะอว้นน้อย ใครเขาจะมีสาวกมาก ใครเขาจะมีสาวกน้อย คนเจริญสมาธิจิตวิปัสสนาญยังแต่งตัวสวย ยังผัดหน้า ยังทาแป้ง ใครเขาจะดีจะชั่ว อย่างไรเป็นเรื่องของเขา จงอย่าสนใจ เราจะนั่งสมาธิ ก็จงอย่านั่งให้บุลคลอื่นเห็น ถ้าหากไปทำอย่างนั้นพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ยังมีอุปกิเลสอยู่มาก
จงอย่าลืมว่าเราฝึกฝนกันที่ใจ เรื่องกายนี้ไม่มีความหมาย กายมันเป็นที่อาศัยของใจความบริสุทธิ์ผุดผ่องจะมีขึ้นมาได้ หรือไม่ได้มันอยู่ที่ใจเป็นสำคัญ ถ้าใจดีเสียอย่างเดียว ปากก็พูดดี กายก็ทำดี ถ้าใจเลว ปากก็พูดเลว กายทำเลว ฉะนั้น เวลาฝึกใจต้องใช้ ( มัชฌิมาปฏิปทา ) คือทำปานกลาง หมายถึงว่าทำปล่อยกายมันไปตามปกติ มันอยากจะนอนก็ให้มันนอน มันอยากจะนั่งก็ให้มันนั่ง มันอยากเดินก็ให้มันเดิน มันอยากยืนก็ให้มันยืน ....

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ


หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
ของดีวิเศษที่สุดในโลกก็
คือ จิตใจของเรา
...
จิตใจของเราแต่ละรายๆ มัน
ไม่ได้อยู่ที่อื่นนะ ของดีของวิเศษนี่
มันอยู่ที่ดวงใจของเรา อย่าดูถูกดูหมิ่น
ตัวเองว่า บุญน้อย วาสนาน้อยไม่ใช่
ฐานะ ไม่ใช่วาสนาของเราที่จะมา
ปฎิบัติ โยนให้พระอริยเจ้า ซึ่งพระอริ
ยเจ้า ก็แปลว่า ประเสริฐ
พระอริยเจ้าที่ท่านรู้ ท่านรู้
อะไร ท่านก็รู้ทุกข์ แล้วทุกข์มันไม่มี
กับเราหรือไง มันก็มี เพราะฉะนั้นทำ
ไมเราจะรู้ไม่ได้ ทีนี้ทุกข์อันใด ก็สมุ
ทัยอันนั้น สมุทัยอันใด ก็นิโรธอันนั้น
มันอยู่ที่เดียวกัน
นิโรธ ก็คือความดับ
ทุกข์มันเกิดขึ้นได้ มันก็ดับได้
ทุกข์มันเกิดที่ไหน ทุกข์มันเกิดที่จิต
มันก็ต้องดับที่จิต และเราจะไปหาของ
ดีที่ไหน มันมีอยู่แล้วแต่เราไม่เอากัน
เท่านั้น


หลงลูก ก็เหมือนเชือกผูกคอ
หลงสามีภรรยา ก็เหมือนปอผูกศอก
หลงทรัพย์สมบัติภายนอกเหมือนห่วงผูกข้อเท้า
ถ้าผู้ใดติดอยู่ในบ่วง 3บ่วงนี้แล้ว ก็ย่อมจะกระดิกตัวไม่ไหว...
ไปไหนไม่รอดแน่ จะต้องติดอยู่ในโลกนี้เอง
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร


"ไปเดือดร้อนอะไรกับคนนินทา ใครนินทา
เราไม่ได้ยิน ไม่ใส่ใจ ก็สบาย
คนนินทาน่ะเป็นยาชูกำลังที่จะเตือนตัวเอง
เขาติดีกว่าเขาชม จะได้รู้ตัว
ถ้าเราเป็นอย่างนั้นจะได้ปรับปรุง ...
เราจะไปโกรธเขาทำไม
ถ้าไปโกรธเขาก็เรียกว่าเราแพ้ตัวเอง"
หลวงปู่ท่อน ญาณธโร


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2014, 09:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว


..อนุโมทนาแล้วๆๆ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2014, 15:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


สมาธิคนเรานั้นมีใช้ตลอดเวลา ไม่ต้องเจริญมันก็เจริญอยู่แล้ว
สมาธิมีได้ทั้งที่เป็นกุศลและอกุศล เราจึงควรมาเจริญสติกันให้มากๆจะดีกว่า
เพราะสติเป็นไปในกุศลเพียงฝ่ายเดียว ถ้าเราไม่เจริญสติขณะนั้นเป็นอกุศลทันที

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2014, 21:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รสมน เขียน:
จงอย่าสนใจจริยาของบุลคลอื่น และการเจริญสมาธิ จงอย่าทำเพื่อโอ้อวด การเจริญสมาธิที่จะดีให้ดีได้ ให้ถือใจความพระพุทธเจ้าว่า ใครเขาจะมีกินมาก ใครเขาจะมีกินน้อย ใครเขาจะอว้นมากใครเขาจะอว้นน้อย ใครเขาจะมีสาวกมาก ใครเขาจะมีสาวกน้อย คนเจริญสมาธิจิตวิปัสสนาญยังแต่งตัวสวย ยังผัดหน้า ยังทาแป้ง ใครเขาจะดีจะชั่ว อย่างไรเป็นเรื่องของเขา จงอย่าสนใจ เราจะนั่งสมาธิ ก็จงอย่านั่งให้บุลคลอื่นเห็น ถ้าหากไปทำอย่างนั้นพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ยังมีอุปกิเลสอยู่มาก
จงอย่าลืมว่าเราฝึกฝนกันที่ใจ เรื่องกายนี้ไม่มีความหมาย กายมันเป็นที่อาศัยของใจความบริสุทธิ์ผุดผ่องจะมีขึ้นมาได้ หรือไม่ได้มันอยู่ที่ใจเป็นสำคัญ ถ้าใจดีเสียอย่างเดียว ปากก็พูดดี กายก็ทำดี ถ้าใจเลว ปากก็พูดเลว กายทำเลว ฉะนั้น เวลาฝึกใจต้องใช้ ( มัชฌิมาปฏิปทา ) คือทำปานกลาง หมายถึงว่าทำปล่อยกายมันไปตามปกติ มันอยากจะนอนก็ให้มันนอน มันอยากจะนั่งก็ให้มันนั่ง มันอยากเดินก็ให้มันเดิน มันอยากยืนก็ให้มันยืน ....

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ


หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
ของดีวิเศษที่สุดในโลกก็
คือ จิตใจของเรา
...
จิตใจของเราแต่ละรายๆ มัน
ไม่ได้อยู่ที่อื่นนะ ของดีของวิเศษนี่
มันอยู่ที่ดวงใจของเรา อย่าดูถูกดูหมิ่น
ตัวเองว่า บุญน้อย วาสนาน้อยไม่ใช่
ฐานะ ไม่ใช่วาสนาของเราที่จะมา
ปฎิบัติ โยนให้พระอริยเจ้า ซึ่งพระอริ
ยเจ้า ก็แปลว่า ประเสริฐ
พระอริยเจ้าที่ท่านรู้ ท่านรู้
อะไร ท่านก็รู้ทุกข์ แล้วทุกข์มันไม่มี
กับเราหรือไง มันก็มี เพราะฉะนั้นทำ
ไมเราจะรู้ไม่ได้ ทีนี้ทุกข์อันใด ก็สมุ
ทัยอันนั้น สมุทัยอันใด ก็นิโรธอันนั้น
มันอยู่ที่เดียวกัน
นิโรธ ก็คือความดับ
ทุกข์มันเกิดขึ้นได้ มันก็ดับได้
ทุกข์มันเกิดที่ไหน ทุกข์มันเกิดที่จิต
มันก็ต้องดับที่จิต และเราจะไปหาของ
ดีที่ไหน มันมีอยู่แล้วแต่เราไม่เอากัน
เท่านั้น


หลงลูก ก็เหมือนเชือกผูกคอ
หลงสามีภรรยา ก็เหมือนปอผูกศอก
หลงทรัพย์สมบัติภายนอกเหมือนห่วงผูกข้อเท้า
ถ้าผู้ใดติดอยู่ในบ่วง 3บ่วงนี้แล้ว ก็ย่อมจะกระดิกตัวไม่ไหว...
ไปไหนไม่รอดแน่ จะต้องติดอยู่ในโลกนี้เอง
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร


"ไปเดือดร้อนอะไรกับคนนินทา ใครนินทา
เราไม่ได้ยิน ไม่ใส่ใจ ก็สบาย
คนนินทาน่ะเป็นยาชูกำลังที่จะเตือนตัวเอง
เขาติดีกว่าเขาชม จะได้รู้ตัว
ถ้าเราเป็นอย่างนั้นจะได้ปรับปรุง ...
เราจะไปโกรธเขาทำไม
ถ้าไปโกรธเขาก็เรียกว่าเราแพ้ตัวเอง"
หลวงปู่ท่อน ญาณธโร


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2014, 12:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2010, 10:42
โพสต์: 249

แนวปฏิบัติ: ไม่เอา ไม่เป็น ไม่ยึด
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มของท่านพุทธทาส
อายุ: 32
ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: คุณลุงหมานและเพื่อนๆทุกท่าน

แต่ละท่านแนะนำวิธีทำสัมมาสมาธิให้เกิดขึ้นโดยวิธีใดครับ

:b8:

.....................................................
วงว่างยงอยู่ยั้ง อนันตกาล
ในถิ่นที่ทุกสถาน แหล่งหล้า
ยึดมั่นไป่พบพาน ประจักษ์
ยามปล่อยหยุดไขว่คว้า ถึงได้โดยพลัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2014, 15:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


โกเมศวร์ เขียน:
:b8: คุณลุงหมานและเพื่อนๆทุกท่าน

แต่ละท่านแนะนำวิธีทำสัมมาสมาธิให้เกิดขึ้นโดยวิธีใดครับ

:b8:


สัมมาสมาธิ แปลว่า สมาธิชอบ คือความตั้งใจมั่น โดยการที่กุศลจิตมีอารมณ์เป็นอันเดียว
เข้าถึง ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน และ จตุตถฌาน (จิตตั้งมั่นในฌานทั้ง ๔ นี้ ส่วนอรูปฌาน)
ทั้ง ๔ ท่านจัดเข้าในจตุตถฌาน ตามอารมณ์ที่อรูปฌานมีเจตสิกที่เข้ามาประกอบในจิต
คือ อุเบกขาเจตสิกและเอกัคคตาเจตสิก เช่นเดียวกับจตุตถฌาน

คำว่า สมาธิ กับคำว่า สัมมาสมาธิ มีความแตกต่างกัน

สมาธิ ได้แก่การถือเอา อารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง ทำให้แน่วแน่อยู่ในอารมณ์นั้น
ที่เป็นไปได้ทั้งกุศลและอกุศล เช่น เป็นไปทางอกุศล ในขณะเราจะยิงนก
เราก็ต้องใช้สมาธิในการเล็งปืน เป็นต้น เรียกว่ามิจฉาสมาธิ

สมาธิที่เป็นไปอย่างธรรมดาสามัญ เช่นเล่นกิฬา อ่านหนังสือ คิดบัญชี ร้องเพลง
ท่องจำ เหล่านี้เป็นต้น

สัมมาสมาธิ ที่เป็นกุศลก็มี ๒ อย่างที่เป็นไปในทางโลกียะ และโลกุตตระ
สัมมาสมาธิที่เป็นไปในทางโลกียะ คือการเพ่งอารมณ์ไปในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง
ในกัมมัฏฐาน ๔๐ เพื่อให้เข้าถึงฌาน แบบสมถะสมาธิ

สัมมาสมาธินั้น ที่เป็นไปในทางโลกุตระ เป็นสมาธิที่มีรากฐานจากการกำหนดรู้
ในมหาสติปัฏฐานทั้ง ๔ คือกาย เวทนา จิต ธรรม (หรือมี รูป-นาม เป็นอารมณ์) โดยไม่ต้องไปเพ่ง
เพียงตามรู้ด้วยสติที่กำลังเกิดขึ้น ปัญญาก็จะทำหน้าที่กำหนดรู้ตามสภาวะตามความเป็นจริง

ซึ่งเป็นหนทางแห่งการดำรงชีวิตอย่างรู้แจ้ง มีสติเป็นพี้นฐานด้วยการฝึกสติสามารถพัฒนาสมาธิจิต
ซึ่งจะช่วยให้บรรลุถึงปัญญา เพราะ สัมมาสมาธิจึงสามารถบรรลุถึงสัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ
สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ และสัมมาวายามะ ปัญญาความเข้าใจซึ่งพัฒนาขึ้นนั้น
สามารถกำจัดความไม่รู้ (อวิชชา) ได้ในที่สุด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2014, 21:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สติ....มากเกิน....ไม่มีสัมปชัญญะ....ก็แย่เหมือนกันนะ

:b13: :b13:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 147 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร