วันเวลาปัจจุบัน 29 เม.ย. 2024, 20:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 18:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 22:05
โพสต์: 80

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จริงๆแล้วก็รูว่าการฆ่าสัตว์เป็นบาปผิดศิลข้อ 1 แต่มันจำเป็นต้องฆ่า อย่างที่บ้านมีหนูมากมาทำความเดือดร้อนกัดกินนั่นกินนี่ ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงใช้ย่าเบื่อให้กินเพื่อฆ่ามัน การฆ่าหนูอย่างนี้ก็รู้ว่าเป็นบาป อยากถามว่าเป็นบาปมากไหม อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 15:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ในทางธรรมแค่ความคิดก็เป็นบาป...การเจตนาใดๆ กรรมย่อมเกิดแก่ผู้เจตนากระทำ และแน่นอน การจะกำจัดหนูหรือฆ่าโดยวิธีใดก็แล้วแต่ การสั่งให้ฆ่า ชักชวนให้ฆ่า ย่อมผิดศีล..และเป็นบาป การฆ่าหรือพรากชีวิตเขาบ่อยๆ นั้น อาจส่งผลให้เรา เจ็บไข้ได้ป่วย หรือ อายุสั้น หรืออาจจะเสียชีวิตแบบวิธีเดียวกันกับที่เรากระทำต่อสัตว์เหล่านั้น..ขอจงพิจารณาดูเถิด..หาวิธีอื่นที่จะหลีกเลี่ยงที่จะไม่ผิดต่อศีลใดๆ

ขอเจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 16:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b12:
...ให้ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตจัดการ...มีเหยื่อก็ต้องมีผู้ล่า...
...จำเป็นก็เลี้ยงแมว...แต่ห้ามเชียร์แมวฆ่าหนู...
:b9: :b32: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 16:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่บาปนะคะใช้เจตนาเป็นเครื่องตัดสินค่ะ เจตนาไม่ใช่อยู่ที่ทำเพราะความสนุกคะนองนี่คะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 16:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...พระพุทธเจ้าทุกพระองค์สอนให้แผ่เมตตาตนเองเพื่อให้สอนตนว่าตนรักชีวิต...
...และให้แผ่เมตตาสรรพสัตว์...เพราะมีเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นธรรมชาติวนสูงๆต่ำๆ...
...ดิรัจฉาน...เป็นภพภูมิสัตวโลกที่ไม่สามารถปกป้องภัยอันตรายแก่ตนเองได้...
...และจำเป็นต้องดำรงชีพให้รอดในธรรมชาติ...ผู้แข็งแรงกว่าย่อมล่าผู้อื่นแอ...
...และต้องมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวง...และคอยระมัดระวังภัยจากการถูกล่า...
...การเป็นผู้ล่าและผู้ถูกล่าจึงจัดสรรให้ได้ผจญภัยสลับไปสลับมานับภพชาติไม่ได้...
...เช่นเสือ สิงโต ล่าม้าลาย กวาง เพื่อเป็นอาหารก็คือทำบาปโดยธรรมชาติจัดสรร...
...แม้เสือ สิงโต ก็กลายเป็นเหยื่อของมนุษย์ผู้ชอบล่าสัตว์...ผู้เห็นภัยจึงงดเว้นปาณาติบาต...
...โดยเฉพาะมนุษย์ที่ฉลาดกว่าสัตว์...จงระมัดระวังการฆ่าสัตว์ด้วยคิดว่าสัตว์นั้นเป็นอาหาร...
:b8:
:b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 18:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2009, 13:59
โพสต์: 50

อายุ: 0
ที่อยู่: ท่องไปดุจ..นอแรด

 ข้อมูลส่วนตัว


...ผลกรรมแรกที่มันแสดงออกมาอย่างทันตา
...คือความทุกข์ใจ..กังวลใจกับสิ่งที่ใด้ทำลงไป
...เมื่อทำอะไรลงไปแล้วมันก็ต้องมีผลที่ตามมาแน่นอน
...ไม่อาจหลีกเลี่ยงใด้
...บ้านที่เราอยู่เราก็ว่ามันเป็นของเรา
...แต่พวก..หนู นก มด ปลวก นั้นถึงคราวผลกรรมที่ทำไว้ส่งผลต้องมาเกิดเป็นดิรัจฉานมีเวรมีกรรม..ไม่มีความคิดปัญญาเทียบเราได้
มันคงไม่รู้หรอกว่ามันเป็นบ้านหรือเป็นอะไรของใคร
...มันก็อยู่อาศัยไปตามธรรมชาติของมัน
...แต่เราผู้มีความคิดมีปัญญามากกว่าเกิดมามีโอกาสได้สร้างบุญสร้างกุศล
ก็ไปฆ่ามัน..ก็ลองพิจารณาดู
...ความมีเมตตากรุณาสงสาร..ต่อผู้อื่น
...เป็นสิ่งที่สร้างความสุขสงบร่มเย็นแก่ตนเองและผู้อื่น
...ลองทำความเมตตาสงสารต่อเพื่อนร่วมโลกให้เกิดขึ้นในจิตใจดูครับ
...บางทีความทุกข์ใจที่มีอาจบรรเทาลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย
...เราหิว..เขาก็หิว
...เราหากิน..เขาก็หากิน
...ก็อยากให้ลองพิจารณาดู
...ความเห็นนี้..อาจจะไม่ถูกใจนัก
...จึงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

.....................................................
"..หลักของพระพุทธศาสนานั้น ไม่ใช่การพูดกันเฉย ๆ
หรือด้วยการเดา..หรือการคิดเอาเอง
หลักของพระพุทธศาสนาที่แท้จริงคือ
การรู้เท่าทันความจริงตามความเป็นจริงนั่นเอง
ถ้ารู้เท่าทันตามความเป็นจริงนี้แล้ว
การสอนก็ไม่จำเป็น..แต่ถ้าไม่รู้ถึงความเป็นจริงอันนี้
แม้จะฟังคำสอนเท่าใด ก็เหมือนกับไม่ได้ฟัง!!!"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 22:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ไล่โดยใช้คลื่นรบกวนประสาทหูของหนู น่าจะดีกว่า แต่นานไปหนูก็จะชิน
หรือจะใช้ยาฉีดกันแมลง ฉีดตามทางที่หนูผ่าน (ไม่โดนตัวหนู)
ฉีดบ่อยๆ ให้ฉุน หนูไม่ชอบก็หนีไป แต่นานๆ ก็จะกลับมา ก็ฉีดซ้ำอีก

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2010, 18:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ค. 2010, 17:57
โพสต์: 6

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




cartoon_rabbit_st5.jpg
cartoon_rabbit_st5.jpg [ 16.13 KiB | เปิดดู 8053 ครั้ง ]
การฆ่าสัตว์มันก็ผิดศีลข้อ 1 อยู่แล้ว
ที่บ้านก็เยอะเหมือนกันโดยเฉพาะบนหลังคาบ้าน
วิ่งกันเล่นยังกับเป็นสนามเด็กเล่นเลย..
แต่ทำใจค่ะ..ลองใช้วิธีแผ่เมตตาซิค่ะ
ไม่ทราบว่าจะเชื่อหรือเปล่า..แต่ลองทำดูก็ไม่เสียหายอะไร
ได้ความสบายใจด้วยค่ะ..ขอบคุณค่ะที่ให้ออกความคิดเห็น.. tongue


แก้ไขล่าสุดโดย Wanida Nim เมื่อ 28 พ.ค. 2010, 18:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2010, 11:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2010, 11:15
โพสต์: 46

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บ้านเราก็เหมือนกันมีหนู แต่เราไม่ได้ใช้วิธีเบื่อนะ เราใช้กรงดักหนูดัก เมื่อได้แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นก็นำไปปล่อยที่ไกล เป็นป่าไม้โกงกางน่ะ เราคิดว่านี่คงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว เพราะถ้าเราไม่ดักมันก็จะขึ้นบ้านกัดกินข้าวของ
ทำให้เกิดความเสียหายและสกปรกตามมา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 17 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร