ธรรมกำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้
ได้เกิดเป็นคนเป็นผลของความดี
ขณะนี้มีธรรม+รู้ตัวด้วยว่าเป็นคน
แต่ไม่รู้จักธรรมตรงตามเป็นจริง
ธรรมแปลว่าสิ่งที่มีจริงต้องกำลังมี
ธรรมปรากฏว่ากำลังมีกำลังเป็นไป
ตรงกับทุกคำในพระไตรปิฎกมีจริงจริง
แต่เราไม่รู้ว่าธรรมแต่ละคำคืออะไร

จะเข้าใจคำต่างๆในพระไตรปิฎกได้
จากการเรียนรู้แต่ละคำเพื่อรู้จักตัวตน
ถ้าไม่ศึกษาทีละคำจะไม่รู้อะไรเลย
เพราะเราหลงคิดว่าเรามีตัวตนขาดฟัง
จึงทำให้ไม่มีสติปัญญาไตร่ตรองธรรม
จะเข้าใจธรรมให้เริ่มต้นที่ฟังให้เข้าใจ
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเวลาใดไม่เคยขาดธรรม
เพราะธรรมมีอยู่ที่กายใจตนเองเท่านั้น

เราอยู่ในโลกของความคิดด้วยคิดว่า
มีคนสัตว์วัตถุมีแม่น้ำป่าไม้ภูเขา
มีภพภูมิ31ภพภูมนั่นคือความคิด
จากการเคยอ่านเคยเห็นตามตัวอักษร
แล้วมีการจดจำเป็นเรื่องราวมากมาย
แต่เราไม่รู้จักตัวจริงของธรรมเลย
ก็ตัวจริงของธรรมคือความจริงแท้แท้
ที่ไม่สามารถคิดคำได้เองต้องพึ่งฟังจริง

การฟังไม่ทำให้คิดผิดต้องตั้งใจฟังดีดี
และคิดอย่างละเอียดรอบคอบตรงคำ
ฟังจริงจนกว่าจะรอบรู้ตรงคำตามปกติ
เพราะขณะนี้มีธรรมปรากฏกับอวิชชา
ฟังจนกว่าจะรู้ว่าธรรมอะไรปรากฏให้รู้
เมื่อได้ยินคำใดอย่าคิดว่าเข้าใจแล้ว
เพราะสิ่งที่มีจริง(ธรรม)ที่พระพุทธเจ้า
ทรงตรัสรู้ไม่ใช่ความคิดแต่เป็นสัจจะ
ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงลักษณะของธรรม

ทุกคำเป็นจริงมีจริงตรงคำเป็นเท่ากับ
แต่ต้องระลึกตรงตามที่กำลังตั้งใจฟัง
เพราะธรรมไม่ใช่ความคิดของเราแต่
ธรรมเป็นธรรมที่มีจริงๆแต่มีตรงแค่1คำ
จึงต้องฟังทีละคำเพื่อรู้จัก1คำของตัวเอง
อริยสาวกคือผู้ฟังพระธรรมจนเข้าถึง
ความจริงที่ปรากฏตรงสัจจะในขณะนี้

ไม่มีใครรู้ความจริงจนกว่าจะเริ่มต้นฟัง
ฟังอะไรต้องคิดดีๆฟังความจริงที่มีจริง
ไม่ใช่ความเชื่อไม่ใช่ความคิดไม่ใช่ความจำ
แต่อะไรกำลังปรากฏให้รู้ต้องฟังก่อน
ความจริงมีจริงหนึ่งเดียวมีแล้วในขณะนี้
แค่ขาดการฟังเพื่อไตร่ตรองว่าอะไรมีจริง
https://youtu.be/1bKApAocaLc