วันเวลาปัจจุบัน 10 มิ.ย. 2025, 02:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 59 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2018, 22:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้ มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย


ตกลงคุณโรสว่า พระอริยบุคคลนี่ ท่านเอากิเลสออกได้ไหมขอรับ

1. ไม่ได้
2. ได้

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2 ครับโผม

:b16:
รู้ตรงวิสยรูป7ตรงปัจจุบันขณะคือละไม่รู้ไงคะเพราะรู้ปกติของการคิดได้ไงคะ
ละสมุทัยคือละตัวตนเพื่อรู้ตรงปรมัตถสัจจะ1เดียวของตนคือเอกายโนมัคโครู้จักตน
ไม่มีทางรู้อย่างตถาคตแน่นอนไม่เคยได้ยินหรือคะอริยบุคคลก็รู้ในส่วนที่ท่านรู้แล้วเท่านั้น
เวลามีผู้มาถามปัญญาแม้พระขีณาสพท่านตอบไม่ได้ก็ยังไปทูลถามตถาคตเราน่ะคริคริคริไม่มีสัจจะ
:b12:
:b32: :b32:



ถามว่าตอบข้อไหน 1 หรือ 2

จะอธิบายให้คุณกรัชกายไตร่ตรองแล้วก็คิดตามก็จะรู้คำตอบค่ะ
ในแก้วมีกิเลสเป็นน้ำเกลือเต็มแก้ว
ข้อที่1รู้เติมปัญญาเป็นชิมน้ำเปล่าเพื่อให้น้ำเปล่าเข้าไปล้างน้ำเกลือ
ข้อที่2ไม่รู้เลือกไม่ถูกว่าอันไหนไม่ชิมก่อนหยิบถูกแต่น้ำเกลือไปเติม
:b32:



ถามว่า อริยบุคคล เอากิเลสออกจากใจท่านได้ไหม ไม่ใช่กิเลสในแก้วน้ำเกลือ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2018, 14:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิมุตติ ความหลุดพ้น, ความพ้นจากกิเลสมี ๕ อย่างคือ

๑. ตทังควิมุตติ พ้นด้วยธรรมคู่ปรับหรือพ้นชั่วคราว

๒. วิกขัมภนวิมุตติ พ้นด้วยข่มหรือสะกดไว้

๓. สมุจเฉทวิมุตติ พ้นด้วยตัดขาด

๔. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ พ้นด้วยสงบ

๕. นิสสรณวิมุตติ พ้นด้วยออกไป

๒ อย่างแรก เป็น โลกิยวิมุตติ ๓ อย่างหลัง เป็น โลกุตรวิมุตติ


วิมุตติญาณทัสสนะ ความรู้เห็นในวิมุตติ, ความรู้เห็นว่าจิตหลุดพ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย


วิมุตติสุข สุขเกิดแต่ความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะและปวงทุกข์, พระพุทธเจ้าภายหลังตรัสรู้แล้วใหม่ๆ ได้เสวยวิมุตติสุข

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 00:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เมื่อไม่มีใครเอากิเลสออกได้ นั่นแสดงว่าคุณโรสคิดว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส

อ้างคำพูด:
Rosarin
จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
viewtopic.php?f=1&t=56183&p=423758#p423758

คคห. คุณโรสที่ขีดเส้นใต้นั้น ไม่รู้คุณโรสหมายถึงอะไร คือ ไปเอาศัพท์แสงทางธรรมของเขามาแล้วก็ใส่ความคิดความเห็นของตัวเองลงไป เช่น

อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก


อ้างคำพูด:
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มี เพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา


อะไรของคุณโรสนะ ไม่เข้าใจ

:b12:
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
อายตนะแต่ละทางรู้กระทบผัสสะเจตสิกทีละ1แล้วดับทันทีเขียนคำอ่านนะจักขายะตะนะกระทบสี1สีดับ
ทันทีมีภวังค์คั่นส่งต่อมโนทวารผ่านภวังค์อีกทีจึงเกิดอายตนะทางอื่นต่อ...จิตเกิดดับเร็วจนปรากฏเห็นนิมิตสี
ที่เห็นเป็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตของสีหลากสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนคืออดีตสีค่ะ...คิดผิดจำผิดสัญญาเลยวิปลาส
เพราะมีทิฏฐิวิปลาสดังนั้นจึงทำให้จิตวิปลาสเป็นกิเลสอาสาวะไหลครบ6ทางอายตนะตั้งแต่จิตดับแค่3ขณะ
อุปมาเหมือนจุดธูป1ดอกแค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆกลายเป็นวงกลมลืมตาดูจิตเกิดดับทีละ1สลับกันครบ6ทางน๊า
:b16:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2018, 05:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อไม่มีใครเอากิเลสออกได้ นั่นแสดงว่าคุณโรสคิดว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส

อ้างคำพูด:
Rosarin
จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
viewtopic.php?f=1&t=56183&p=423758#p423758

คคห. คุณโรสที่ขีดเส้นใต้นั้น ไม่รู้คุณโรสหมายถึงอะไร คือ ไปเอาศัพท์แสงทางธรรมของเขามาแล้วก็ใส่ความคิดความเห็นของตัวเองลงไป เช่น

อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก


อ้างคำพูด:
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มี เพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา


อะไรของคุณโรสนะ ไม่เข้าใจ

:b12:
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
อายตนะแต่ละทางรู้กระทบผัสสะเจตสิกทีละ1แล้วดับทันทีเขียนคำอ่านนะจักขายะตะนะกระทบสี1สีดับ
ทันทีมีภวังค์คั่นส่งต่อมโนทวารผ่านภวังค์อีกทีจึงเกิดอายตนะทางอื่นต่อ...จิตเกิดดับเร็วจนปรากฏเห็นนิมิตสี
ที่เห็นเป็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตของสีหลากสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนคืออดีตสีค่ะ...คิดผิดจำผิดสัญญาเลยวิปลาส
เพราะมีทิฏฐิวิปลาสดังนั้นจึงทำให้จิตวิปลาสเป็นกิเลสอาสาวะไหลครบ6ทางอายตนะตั้งแต่จิตดับแค่3ขณะ
อุปมาเหมือนจุดธูป1ดอกแค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆกลายเป็นวงกลมลืมตาดูจิตเกิดดับทีละ1สลับกันครบ6ทางน๊า


เปรียบเหมือนคนไม่เคยเห็นผี แต่ก็พูดถึงผีวาดภาพผีไปตามจินตนาการในใจของตัว ฉันใด คุณโรสก็ฉันนั้นอ่านตำราอภิธรรมมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยเห็นความเป็นเช่นนั้นของมันจริงๆ ก็จึงได้แต่วาดภาพความเป็นเช่นนั้นไปตามมโนคติของตัวแล.

จบข่าว :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2018, 11:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้ มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย


ตกลงคุณโรสว่า พระอริยบุคคลนี่ ท่านเอากิเลสออกได้ไหมขอรับ

1. ไม่ได้
2. ได้

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2 ครับโผม

:b16:
รู้ตรงวิสยรูป7ตรงปัจจุบันขณะคือละไม่รู้ไงคะเพราะรู้ปกติของการคิดได้ไงคะ
ละสมุทัยคือละตัวตนเพื่อรู้ตรงปรมัตถสัจจะ1เดียวของตนคือเอกายโนมัคโครู้จักตน
ไม่มีทางรู้อย่างตถาคตแน่นอนไม่เคยได้ยินหรือคะอริยบุคคลก็รู้ในส่วนที่ท่านรู้แล้วเท่านั้น
เวลามีผู้มาถามปัญญาแม้พระขีณาสพท่านตอบไม่ได้ก็ยังไปทูลถามตถาคตเราน่ะคริคริคริไม่มีสัจจะ
:b12:
:b32: :b32:



ถามว่าตอบข้อไหน 1 หรือ 2

จะอธิบายให้คุณกรัชกายไตร่ตรองแล้วก็คิดตามก็จะรู้คำตอบค่ะ
ในแก้วมีกิเลสเป็นน้ำเกลือเต็มแก้ว
ข้อที่1รู้เติมปัญญาเป็นชิมน้ำเปล่าเพื่อให้น้ำเปล่าเข้าไปล้างน้ำเกลือ
ข้อที่2ไม่รู้เลือกไม่ถูกว่าอันไหนไม่ชิมก่อนหยิบถูกแต่น้ำเกลือไปเติม
:b32:



ถามว่า อริยบุคคล เอากิเลสออกจากใจท่านได้ไหม ไม่ใช่กิเลสในแก้วน้ำเกลือ คิกๆๆ

:b32:
เอาแบบยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆนะคะเปรียบการใช้ชีวิตเหมือนการว่ายน้ำบนกระแสน้ำเชี่ยว
คนที่มีปัญญาก่อนลงน้ำไปฟังคำแนะนำก่อนลงน้ำถึงวิธีไปให้ถึงต้นน้ำโดยใส่ชูชีพเกาะไตไปตามเชือกในน้ำ
ส่วนอีกคนพอเห็นแม่น้ำอยากจะถึงก่อนก็โดดลงน้ำว่ายไปเลยไม่ฟังอีร้าค่าอีลมว่ายไปโดยไม่ใส่ชูชีพอิอิอิ
ต้องว่ายกลับเข้าหาฝั่งหยุดให้หายเหนื่อยเป็นพักๆลอยทวนน้ำไม่ไหวก็จมน้ำป๋อมแป๋มไปตามยถากรรม
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2018, 11:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อไม่มีใครเอากิเลสออกได้ นั่นแสดงว่าคุณโรสคิดว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส

อ้างคำพูด:
Rosarin
จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
viewtopic.php?f=1&t=56183&p=423758#p423758

คคห. คุณโรสที่ขีดเส้นใต้นั้น ไม่รู้คุณโรสหมายถึงอะไร คือ ไปเอาศัพท์แสงทางธรรมของเขามาแล้วก็ใส่ความคิดความเห็นของตัวเองลงไป เช่น

อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก


อ้างคำพูด:
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มี เพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา


อะไรของคุณโรสนะ ไม่เข้าใจ

:b12:
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
อายตนะแต่ละทางรู้กระทบผัสสะเจตสิกทีละ1แล้วดับทันทีเขียนคำอ่านนะจักขายะตะนะกระทบสี1สีดับ
ทันทีมีภวังค์คั่นส่งต่อมโนทวารผ่านภวังค์อีกทีจึงเกิดอายตนะทางอื่นต่อ...จิตเกิดดับเร็วจนปรากฏเห็นนิมิตสี
ที่เห็นเป็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตของสีหลากสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนคืออดีตสีค่ะ...คิดผิดจำผิดสัญญาเลยวิปลาส
เพราะมีทิฏฐิวิปลาสดังนั้นจึงทำให้จิตวิปลาสเป็นกิเลสอาสาวะไหลครบ6ทางอายตนะตั้งแต่จิตดับแค่3ขณะ
อุปมาเหมือนจุดธูป1ดอกแค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆกลายเป็นวงกลมลืมตาดูจิตเกิดดับทีละ1สลับกันครบ6ทางน๊า


เปรียบเหมือนคนไม่เคยเห็นผี แต่ก็พูดถึงผีวาดภาพผีไปตามจินตนาการในใจของตัว ฉันใด คุณโรสก็ฉันนั้นอ่านตำราอภิธรรมมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยเห็นความเป็นเช่นนั้นของมันจริงๆ ก็จึงได้แต่วาดภาพความเป็นเช่นนั้นไปตามมโนคติของตัวแล.

จบข่าว :b32:

:b12:
มีอ่านรายละเอียดบางอย่างน้อยมากจากเว็บลานธรรมจักรและเว็บบ้านธัมมะน้อยมากจริงๆค่ะ
ขอโทษนะคะไม่เคยอ่านพระอภิธรรมด้วยตนเองที่เอามาสนทนานั้น
ศึกษาจากการฟังพระพุทธพจน์จากคลิปวิดีโอบ้านธัมมะอย่างเดียวค่ะ
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2018, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อไม่มีใครเอากิเลสออกได้ นั่นแสดงว่าคุณโรสคิดว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส

อ้างคำพูด:
Rosarin
จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
viewtopic.php?f=1&t=56183&p=423758#p423758

คคห. คุณโรสที่ขีดเส้นใต้นั้น ไม่รู้คุณโรสหมายถึงอะไร คือ ไปเอาศัพท์แสงทางธรรมของเขามาแล้วก็ใส่ความคิดความเห็นของตัวเองลงไป เช่น

อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก


อ้างคำพูด:
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มี เพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา


อะไรของคุณโรสนะ ไม่เข้าใจ

:b12:
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
อายตนะแต่ละทางรู้กระทบผัสสะเจตสิกทีละ1แล้วดับทันทีเขียนคำอ่านนะจักขายะตะนะกระทบสี1สีดับ
ทันทีมีภวังค์คั่นส่งต่อมโนทวารผ่านภวังค์อีกทีจึงเกิดอายตนะทางอื่นต่อ...จิตเกิดดับเร็วจนปรากฏเห็นนิมิตสี
ที่เห็นเป็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตของสีหลากสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนคืออดีตสีค่ะ...คิดผิดจำผิดสัญญาเลยวิปลาส
เพราะมีทิฏฐิวิปลาสดังนั้นจึงทำให้จิตวิปลาสเป็นกิเลสอาสาวะไหลครบ6ทางอายตนะตั้งแต่จิตดับแค่3ขณะ
อุปมาเหมือนจุดธูป1ดอกแค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆกลายเป็นวงกลมลืมตาดูจิตเกิดดับทีละ1สลับกันครบ6ทางน๊า


เปรียบเหมือนคนไม่เคยเห็นผี แต่ก็พูดถึงผีวาดภาพผีไปตามจินตนาการในใจของตัว ฉันใด คุณโรสก็ฉันนั้นอ่านตำราอภิธรรมมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยเห็นความเป็นเช่นนั้นของมันจริงๆ ก็จึงได้แต่วาดภาพความเป็นเช่นนั้นไปตามมโนคติของตัวแล.

จบข่าว :b32:



มีอ่านรายละเอียดบางอย่างน้อยมาก จากเว็บลานธรรมจักร และเว็บบ้านธัมมะน้อยมากจริงๆค่ะ
ขอโทษนะคะ ไม่เคยอ่านพระอภิธรรมด้วยตนเอง ที่เอามาสนทนานั้นศึกษาจากการฟังพระพุทธพจน์จากคลิปวิดีโอบ้านธัมมะอย่างเดียวค่ะ


ว่าแล้วนั่นไง :b16:

ผู้ปฏิบัติธรรมเป็นต้น จะหายฟุ้ง คลายความสงสัย ขั้นต้นจิตต้องดำเนินไปถึงวิสุทธิข้อนี้

กังขาวิตรณวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ด้วยหมดสงสัยในนามรูป คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้ว่า เพราะอะไรเกิด นามรูปจึงเกิด เพราะอะไรดับ นามรูปจึงดับ

ดังกระทู้ตั้งนี่

viewtopic.php?f=1&t=56409

ขั้นเริ่มต้นนะ ยังต้องไปอีกไกลทีเดียว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2018, 20:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อไม่มีใครเอากิเลสออกได้ นั่นแสดงว่าคุณโรสคิดว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส

อ้างคำพูด:
Rosarin
จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
viewtopic.php?f=1&t=56183&p=423758#p423758

คคห. คุณโรสที่ขีดเส้นใต้นั้น ไม่รู้คุณโรสหมายถึงอะไร คือ ไปเอาศัพท์แสงทางธรรมของเขามาแล้วก็ใส่ความคิดความเห็นของตัวเองลงไป เช่น

อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก


อ้างคำพูด:
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มี เพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา


อะไรของคุณโรสนะ ไม่เข้าใจ

:b12:
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
อายตนะแต่ละทางรู้กระทบผัสสะเจตสิกทีละ1แล้วดับทันทีเขียนคำอ่านนะจักขายะตะนะกระทบสี1สีดับ
ทันทีมีภวังค์คั่นส่งต่อมโนทวารผ่านภวังค์อีกทีจึงเกิดอายตนะทางอื่นต่อ...จิตเกิดดับเร็วจนปรากฏเห็นนิมิตสี
ที่เห็นเป็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตของสีหลากสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนคืออดีตสีค่ะ...คิดผิดจำผิดสัญญาเลยวิปลาส
เพราะมีทิฏฐิวิปลาสดังนั้นจึงทำให้จิตวิปลาสเป็นกิเลสอาสาวะไหลครบ6ทางอายตนะตั้งแต่จิตดับแค่3ขณะ
อุปมาเหมือนจุดธูป1ดอกแค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆกลายเป็นวงกลมลืมตาดูจิตเกิดดับทีละ1สลับกันครบ6ทางน๊า


เปรียบเหมือนคนไม่เคยเห็นผี แต่ก็พูดถึงผีวาดภาพผีไปตามจินตนาการในใจของตัว ฉันใด คุณโรสก็ฉันนั้นอ่านตำราอภิธรรมมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยเห็นความเป็นเช่นนั้นของมันจริงๆ ก็จึงได้แต่วาดภาพความเป็นเช่นนั้นไปตามมโนคติของตัวแล.

จบข่าว :b32:

:b12:
มีอ่านรายละเอียดบางอย่างน้อยมากจากเว็บลานธรรมจักรและเว็บบ้านธัมมะน้อยมากจริงๆค่ะ
ขอโทษนะคะไม่เคยอ่านพระอภิธรรมด้วยตนเองที่เอามาสนทนานั้น
ศึกษาจากการฟังพระพุทธพจน์จากคลิปวิดีโอบ้านธัมมะอย่างเดียวค่ะ


ข้ออุปมานี่ก็พูดผิด

อ้างคำพูด:
อุปมาเหมือนจุดธูป 1 ดอก แค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆ กลายเป็นวงกลม ลืมตาดู จิตเกิดดับทีละ 1 สลับกันครบ 6 ทางน๊า


เขาว่ายังงี้ขอรับ จิตมันเกิดดับเร็ว เร็วมากๆ เกิดดับเกิดดับติดต่อกันจนเราไม่เห็นเป็นดวงเดียว ไม่มีช่วงว่าง แต่ที่จริงมีช่วงว่างอยู่ แล้วท่านก็เปรียบให้เห็นภาพ ว่าเหมือนเราจุดธูปแล้วแกว่งเร็วๆ เราจะเห็นไฟที่ปลายธูปนั้นเป็นวงติดต่อกันไม่มีช่องว่างเลย ตัวอย่างหนึ่ง
อีกตัวอย่างหนึ่ง เหมือนเราเปิดพัดลม เราจะเห็นใบพัดมันหมุนติดต่อกันโดยไม่เห็นช่อง แต่พอเราค่อยๆเบาพัดลมลง ก็จะมองเห็นช่องว่างว่าใบพัดนั้นมิได้ติดกัน จิตเกิดดับก็ทำนองนี้

ผู้จะเห็นจิตเกิดดับนั้นต้องอาศัยการปฏิบัติจนมีสมาธิแล้วสังเกตุการทำงานของมันวิบคิดเรื่องนั้น วิบคิดเรื่องนี้ ฯลฯ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2018, 20:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อไม่มีใครเอากิเลสออกได้ นั่นแสดงว่าคุณโรสคิดว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส

อ้างคำพูด:
Rosarin
จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
viewtopic.php?f=1&t=56183&p=423758#p423758

คคห. คุณโรสที่ขีดเส้นใต้นั้น ไม่รู้คุณโรสหมายถึงอะไร คือ ไปเอาศัพท์แสงทางธรรมของเขามาแล้วก็ใส่ความคิดความเห็นของตัวเองลงไป เช่น

อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก


อ้างคำพูด:
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มี เพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา


อะไรของคุณโรสนะ ไม่เข้าใจ

:b12:
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
อายตนะแต่ละทางรู้กระทบผัสสะเจตสิกทีละ1แล้วดับทันทีเขียนคำอ่านนะจักขายะตะนะกระทบสี1สีดับ
ทันทีมีภวังค์คั่นส่งต่อมโนทวารผ่านภวังค์อีกทีจึงเกิดอายตนะทางอื่นต่อ...จิตเกิดดับเร็วจนปรากฏเห็นนิมิตสี
ที่เห็นเป็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตของสีหลากสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนคืออดีตสีค่ะ...คิดผิดจำผิดสัญญาเลยวิปลาส
เพราะมีทิฏฐิวิปลาสดังนั้นจึงทำให้จิตวิปลาสเป็นกิเลสอาสาวะไหลครบ6ทางอายตนะตั้งแต่จิตดับแค่3ขณะ
อุปมาเหมือนจุดธูป1ดอกแค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆกลายเป็นวงกลมลืมตาดูจิตเกิดดับทีละ1สลับกันครบ6ทางน๊า


เปรียบเหมือนคนไม่เคยเห็นผี แต่ก็พูดถึงผีวาดภาพผีไปตามจินตนาการในใจของตัว ฉันใด คุณโรสก็ฉันนั้นอ่านตำราอภิธรรมมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยเห็นความเป็นเช่นนั้นของมันจริงๆ ก็จึงได้แต่วาดภาพความเป็นเช่นนั้นไปตามมโนคติของตัวแล.

จบข่าว :b32:



มีอ่านรายละเอียดบางอย่างน้อยมาก จากเว็บลานธรรมจักร และเว็บบ้านธัมมะน้อยมากจริงๆค่ะ
ขอโทษนะคะ ไม่เคยอ่านพระอภิธรรมด้วยตนเอง ที่เอามาสนทนานั้นศึกษาจากการฟังพระพุทธพจน์จากคลิปวิดีโอบ้านธัมมะอย่างเดียวค่ะ


ว่าแล้วนั่นไง :b16:

ผู้ปฏิบัติธรรมเป็นต้น จะหายฟุ้ง คลายความสงสัย ขั้นต้นจิตต้องดำเนินไปถึงวิสุทธิข้อนี้

กังขาวิตรณวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ด้วยหมดสงสัยในนามรูป คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้ว่า เพราะอะไรเกิด นามรูปจึงเกิด เพราะอะไรดับ นามรูปจึงดับ

ดังกระทู้ตั้งนี่

viewtopic.php?f=1&t=56409

ขั้นเริ่มต้นนะ ยังต้องไปอีกไกลทีเดียว


:b32:
ก็เขานั่งพุทโธจนคำบริกรรมหายหมดกายหายหมดแล้ว
ออกทางวิปัสสนาจากฟังอภิธรรมไม่รู้เรื่องเลยจนชำนาญ
ในการระลึกตรงสัจจะที่กายใจกำลังมีตอนกำลังฟังไงคะ
ถึงพยายามมาบอกให้ระลึกตามวิสยรูป7ตลอดเวลาและ
ฟังพระพุทธพจน์ไปด้วยเป็นความตั้งมั่นสมาธิลืมตาตื่นรู้
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2018, 20:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อไม่มีใครเอากิเลสออกได้ นั่นแสดงว่าคุณโรสคิดว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส

อ้างคำพูด:
Rosarin
จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
viewtopic.php?f=1&t=56183&p=423758#p423758

คคห. คุณโรสที่ขีดเส้นใต้นั้น ไม่รู้คุณโรสหมายถึงอะไร คือ ไปเอาศัพท์แสงทางธรรมของเขามาแล้วก็ใส่ความคิดความเห็นของตัวเองลงไป เช่น

อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก


อ้างคำพูด:
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มี เพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา


อะไรของคุณโรสนะ ไม่เข้าใจ

:b12:
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
อายตนะแต่ละทางรู้กระทบผัสสะเจตสิกทีละ1แล้วดับทันทีเขียนคำอ่านนะจักขายะตะนะกระทบสี1สีดับ
ทันทีมีภวังค์คั่นส่งต่อมโนทวารผ่านภวังค์อีกทีจึงเกิดอายตนะทางอื่นต่อ...จิตเกิดดับเร็วจนปรากฏเห็นนิมิตสี
ที่เห็นเป็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตของสีหลากสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนคืออดีตสีค่ะ...คิดผิดจำผิดสัญญาเลยวิปลาส
เพราะมีทิฏฐิวิปลาสดังนั้นจึงทำให้จิตวิปลาสเป็นกิเลสอาสาวะไหลครบ6ทางอายตนะตั้งแต่จิตดับแค่3ขณะ
อุปมาเหมือนจุดธูป1ดอกแค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆกลายเป็นวงกลมลืมตาดูจิตเกิดดับทีละ1สลับกันครบ6ทางน๊า


เปรียบเหมือนคนไม่เคยเห็นผี แต่ก็พูดถึงผีวาดภาพผีไปตามจินตนาการในใจของตัว ฉันใด คุณโรสก็ฉันนั้นอ่านตำราอภิธรรมมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยเห็นความเป็นเช่นนั้นของมันจริงๆ ก็จึงได้แต่วาดภาพความเป็นเช่นนั้นไปตามมโนคติของตัวแล.

จบข่าว :b32:

:b12:
มีอ่านรายละเอียดบางอย่างน้อยมากจากเว็บลานธรรมจักรและเว็บบ้านธัมมะน้อยมากจริงๆค่ะ
ขอโทษนะคะไม่เคยอ่านพระอภิธรรมด้วยตนเองที่เอามาสนทนานั้น
ศึกษาจากการฟังพระพุทธพจน์จากคลิปวิดีโอบ้านธัมมะอย่างเดียวค่ะ


ข้ออุปมานี่ก็พูดผิด

อ้างคำพูด:
อุปมาเหมือนจุดธูป 1 ดอก แค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆ กลายเป็นวงกลม ลืมตาดู จิตเกิดดับทีละ 1 สลับกันครบ 6 ทางน๊า


เขาว่ายังงี้ขอรับ จิตมันเกิดดับเร็ว เร็วมากๆ เกิดดับเกิดดับติดต่อกันจนเราไม่เห็นเป็นดวงเดียว ไม่มีช่วงว่าง แต่ที่จริงมีช่วงว่างอยู่ แล้วท่านก็เปรียบให้เห็นภาพ ว่าเหมือนเราจุดธูปแล้วแกว่งเร็วๆ เราจะเห็นไฟที่ปลายธูปนั้นเป็นวงติดต่อกันไม่มีช่องว่างเลย ตัวอย่างหนึ่ง
อีกตัวอย่างหนึ่ง เหมือนเราเปิดพัดลม เราจะเห็นใบพัดมันหมุนติดต่อกันโดยไม่เห็นช่อง แต่พอเราค่อยๆเบาพัดลมลง ก็จะมองเห็นช่องว่างว่าใบพัดนั้นมิได้ติดกัน จิตเกิดดับก็ทำนองนี้

ผู้จะเห็นจิตเกิดดับนั้นต้องอาศัยการปฏิบัติจนมีสมาธิแล้วสังเกตุการทำงานของมันวิบคิดเรื่องนั้น วิบคิดเรื่องนี้ ฯลฯ

:b12:
เดี๋ยวนี้เลยนะคะกำลังเห็นถูกไหมคะ
กำลังเห็นแจ้งชัดสิ่งที่ปรากฏทั้งหมด
:b4: :b4:
https://youtu.be/PWONjd3hGno


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2018, 21:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อไม่มีใครเอากิเลสออกได้ นั่นแสดงว่าคุณโรสคิดว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส

อ้างคำพูด:
Rosarin
จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
viewtopic.php?f=1&t=56183&p=423758#p423758

คคห. คุณโรสที่ขีดเส้นใต้นั้น ไม่รู้คุณโรสหมายถึงอะไร คือ ไปเอาศัพท์แสงทางธรรมของเขามาแล้วก็ใส่ความคิดความเห็นของตัวเองลงไป เช่น

อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก


อ้างคำพูด:
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มี เพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา


อะไรของคุณโรสนะ ไม่เข้าใจ

:b12:
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
อายตนะแต่ละทางรู้กระทบผัสสะเจตสิกทีละ1แล้วดับทันทีเขียนคำอ่านนะจักขายะตะนะกระทบสี1สีดับ
ทันทีมีภวังค์คั่นส่งต่อมโนทวารผ่านภวังค์อีกทีจึงเกิดอายตนะทางอื่นต่อ...จิตเกิดดับเร็วจนปรากฏเห็นนิมิตสี
ที่เห็นเป็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตของสีหลากสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนคืออดีตสีค่ะ...คิดผิดจำผิดสัญญาเลยวิปลาส
เพราะมีทิฏฐิวิปลาสดังนั้นจึงทำให้จิตวิปลาสเป็นกิเลสอาสาวะไหลครบ6ทางอายตนะตั้งแต่จิตดับแค่3ขณะ
อุปมาเหมือนจุดธูป1ดอกแค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆกลายเป็นวงกลมลืมตาดูจิตเกิดดับทีละ1สลับกันครบ6ทางน๊า


เปรียบเหมือนคนไม่เคยเห็นผี แต่ก็พูดถึงผีวาดภาพผีไปตามจินตนาการในใจของตัว ฉันใด คุณโรสก็ฉันนั้นอ่านตำราอภิธรรมมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยเห็นความเป็นเช่นนั้นของมันจริงๆ ก็จึงได้แต่วาดภาพความเป็นเช่นนั้นไปตามมโนคติของตัวแล.

จบข่าว :b32:

:b12:
มีอ่านรายละเอียดบางอย่างน้อยมากจากเว็บลานธรรมจักรและเว็บบ้านธัมมะน้อยมากจริงๆค่ะ
ขอโทษนะคะไม่เคยอ่านพระอภิธรรมด้วยตนเองที่เอามาสนทนานั้น
ศึกษาจากการฟังพระพุทธพจน์จากคลิปวิดีโอบ้านธัมมะอย่างเดียวค่ะ


ข้ออุปมานี่ก็พูดผิด

อ้างคำพูด:
อุปมาเหมือนจุดธูป 1 ดอก แค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆ กลายเป็นวงกลม ลืมตาดู จิตเกิดดับทีละ 1 สลับกันครบ 6 ทางน๊า


เขาว่ายังงี้ขอรับ จิตมันเกิดดับเร็ว เร็วมากๆ เกิดดับเกิดดับติดต่อกันจนเราไม่เห็นเป็นดวงเดียว ไม่มีช่วงว่าง แต่ที่จริงมีช่วงว่างอยู่ แล้วท่านก็เปรียบให้เห็นภาพ ว่าเหมือนเราจุดธูปแล้วแกว่งเร็วๆ เราจะเห็นไฟที่ปลายธูปนั้นเป็นวงติดต่อกันไม่มีช่องว่างเลย ตัวอย่างหนึ่ง
อีกตัวอย่างหนึ่ง เหมือนเราเปิดพัดลม เราจะเห็นใบพัดมันหมุนติดต่อกันโดยไม่เห็นช่อง แต่พอเราค่อยๆเบาพัดลมลง ก็จะมองเห็นช่องว่างว่าใบพัดนั้นมิได้ติดกัน จิตเกิดดับก็ทำนองนี้

ผู้จะเห็นจิตเกิดดับนั้นต้องอาศัยการปฏิบัติจนมีสมาธิแล้วสังเกตุการทำงานของมันวิบคิดเรื่องนั้น วิบคิดเรื่องนี้ ฯลฯ

:b12:
เดี๋ยวนี้เลยนะคะกำลังเห็นถูกไหมคะ
กำลังเห็นแจ้งชัดสิ่งที่ปรากฏทั้งหมด
:b4: :b4:
https://youtu.be/PWONjd3hGno



เห็นอะไรขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2018, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ดูตัวอย่างที่พูดถึงตัวอย่างเดียว

สันตติ การสืบต่อ คือ การเกิดดับต่อเนื่องกันไปโดยอาการที่เป็นปัจจัยส่งผลแก่กัน ในทางรูปธรรม ที่พอมองเห็นอย่างหยาบ เช่น ขนเก่าหลุดร่วงไปขนใหม่เกิดขึ้นแทน ในทางนามธรรม จิตก็มีสันตติ คือเกิดดับเป็นปัจจัยสืบเนื่องต่อกันไป



สิ่งที่ปิดบังไตรลักษณ์

ทั้งที่ความเป็นอนิจจัง ทุกข์ และอนัตตา นี้ เป็นลักษณะสามัญของสิ่งทั้งหลาย เป็นความจริงที่แสดงตัวของมันเองอยู่ตามธรรมดาตลอดทุกเวลา แต่ คนทั่วไปก็มองไม่เห็น ทั้งนี้เพราะเป็นเหมือนมีสิ่งปิดบังคอยซ่อนคลุมไว้ ถ้าไม่มนสิการคือไม่ใส่ใจพิจารณาอย่างถูกต้อง ก็มองไม่เห็น สิ่งที่เป็น เหมือนเครื่องปิดบังซ่อนคลุมเหล่านี้ คือ

1. สันตติ บังอนิจจลักษณะ

2. อิริยาบถ บังทุกขลักษณะ

3. ฆนะ บังอนัตตลักษณะ

อธิบายข้อที่ 1

1. ท่านกล่าวว่า เพราะมิได้มนสิการความเกิด และความดับ หรือความเกิดขึ้น และความเสื่อมสิ้นไป ก็ถูก สันตติ คือ ความสืบต่อ หรือ ความเป็นไปอย่างต่อเนื่องปิดบังไว้ อนิจจลักษณะ จึงไม่ปรากฏ

สิ่งทั้งหลาย ที่เรารู้เราเห็นนั้น ล้วนแต่มีความเกิดขึ้น และความแตกสลายอยู่ภายในตลอดเวลา แต่ความเกิด-ดับ นั้นเป็นไปอย่างหนุนเนื่องติดต่อกันรวดเร็วมาก คือ เกิด-ดับ-เกิด-ดับ-เกิด-ดับ ฯลฯ ความเป็นไปต่อเนื่องอย่างรวดเร็วยิ่งนั้น ทำให้เรามองเห็นเป็นว่า สิ่งนั้นคงที่ถาวร เป็นอย่างหนึ่งอย่างเดิม ไม่มีความเปลี่ยนแปลง เหมือน อย่างตัวเราเองหรือคนใกล้เคียงอยู่ด้วยกัน มองเห็นกันเสมือนว่า เป็นอย่างเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
แต่เมื่อเวลาผ่านไปนาน สังเกตดู หรือไม่ เห็นกันนานๆ เมื่อพบกันอีก จึงรู้ว่าได้มีความเปลี่ยนแปลง ไปแล้วจากเดิม แต่ความเป็นจริง ความเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นอยู่ตลอด เวลาทีละน้อยและต่อเนื่องจนไม่เห็นช่องว่าง

ตัวอย่างเปรียบเทียบพอให้เห็นง่ายขึ้น เช่น ใบพัดที่กำลังหมุนอยู่อย่าง เร็วยิ่ง มองเห็นเป็นแผ่นกลมแผ่นเดียวนิ่ง เมื่อทำให้หมุนช้าลง ก็เห็นเป็นใบพัดกำลังเคลื่อนไหวแยกเป็นใบๆ เมื่อจับหยุดมองดู ก็เห็นชัดว่า เป็นใบพัดต่างหากกัน 2 ใบ 3 ใบ 4 ใบ หรือ
เหมือนคนเอามือจับก้านธูปที่จุดไฟติดอยู่แล้วแกว่งหมุนอย่างรวด เร็วเป็นวงกลม มองดูเหมือนเป็นไฟรูปวงกลม
แต่ความจริงเป็นเพียงธูปก้าน เดียวที่ทำให้เกิดรูปต่อเนื่องติดเป็นพืดไป หรือ
เหมือนหลอดไฟฟ้าที่ติดไฟ อยู่สว่างจ้า มองเห็นเป็นดวงไฟที่สว่างคงที่ แต่ความจริงเป็นกระแสไฟฟ้า ที่เกิด-ดับไหลเนื่องผ่านไปอย่างรวดเร็ว หรือเหมือนมวลน้ำในแม่น้ำ ที่มองเห็นดูเป็นผืนหนึ่งผืนเดียว
แต่ความจริงเป็นกระแสน้ำที่ไหลผ่านไปๆ เกิดจากน้ำหยดน้อยๆมากมายมารวมกัน และไหลเนื่อง
สิ่งทั้งหลายเช่นดังตัวอย่างเหล่านี้ เมื่อใช้เครื่องมือ หรือวิธีการที่ ถูกต้องมากำหนดแยกมนสิการเห็นความเกิดขึ้นและความดับไป จึงจะประจักษ์ความ ไม่เที่ยงแท้ ไม่คงที่ เป็นอนิจจัง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2018, 21:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องปฏิบัติธรรม,ปฏิบัติกรรมฐาน (ตั้งชื่ออะไรอีกก็ตั้งเอาได้) ให้เห็นสภาวะนั่น จิตจึงหยุดฟุ้งซ่านคลายความสงสัยได้บ้าง อ้าวทำไมเป็นงั้นล่ะ? ก็เพราะเขาเห็นสัจจะแล้วน่าซี่

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 10:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ต้องปฏิบัติธรรม,ปฏิบัติกรรมฐาน (ตั้งชื่ออะไรอีกก็ตั้งเอาได้) ให้เห็นสภาวะนั่น จิตจึงหยุดฟุ้งซ่านคลายความสงสัยได้บ้าง อ้าวทำไมเป็นงั้นล่ะ? ก็เพราะเขาเห็นสัจจะแล้วน่าซี่

cool
เดี๋ยวนี้คือต้องเดี๋ยวนี้เลยก็มีกิเลสเพราะกิเลสแปลว่าไม่รู้
ไปไหนๆเพราะอยากไปติดข้องในสถานที่ที่ไปเห็นอะไรๆ
ก็ติดข้องไปหมดดอกไม้สวยต้นไม้ร่มรื่นพอกลิ่นส้วมเหม็น
กิเลสตลอดเวลาชอบใจคือโลภะไม่ชอบใจคือโทสะไม่พ้นไม่รู้
และกำลังไม่รู้ว่าตนไม่รู้เพราะอยู่ในรูปภพที่ติดในกามคุณ5มีหมด
ยกเว้นปัญญาที่ไม่มีและปัญญาจะเกิดได้ต้องไม่ข้ามสุตมยปัญญาคร่า
ปัญญาเกิดตามลำดับเจริญขึ้นจากการฟังแม้แต่ฌานก็เจริญขึ้นตามลำดับ
ฌานนี่ต้องหลับตาทำใช่ไหมคะแต่วิปัสสนาคือปัญญารู้แยกแยะทุกอย่างตอนตื่นรู้แจ้งค่ะ
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 10:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อไม่มีใครเอากิเลสออกได้ นั่นแสดงว่าคุณโรสคิดว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส

อ้างคำพูด:
Rosarin
จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
viewtopic.php?f=1&t=56183&p=423758#p423758

คคห. คุณโรสที่ขีดเส้นใต้นั้น ไม่รู้คุณโรสหมายถึงอะไร คือ ไปเอาศัพท์แสงทางธรรมของเขามาแล้วก็ใส่ความคิดความเห็นของตัวเองลงไป เช่น

อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก


อ้างคำพูด:
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มี เพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา


อะไรของคุณโรสนะ ไม่เข้าใจ

:b12:
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
อายตนะแต่ละทางรู้กระทบผัสสะเจตสิกทีละ1แล้วดับทันทีเขียนคำอ่านนะจักขายะตะนะกระทบสี1สีดับ
ทันทีมีภวังค์คั่นส่งต่อมโนทวารผ่านภวังค์อีกทีจึงเกิดอายตนะทางอื่นต่อ...จิตเกิดดับเร็วจนปรากฏเห็นนิมิตสี
ที่เห็นเป็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตของสีหลากสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนคืออดีตสีค่ะ...คิดผิดจำผิดสัญญาเลยวิปลาส
เพราะมีทิฏฐิวิปลาสดังนั้นจึงทำให้จิตวิปลาสเป็นกิเลสอาสาวะไหลครบ6ทางอายตนะตั้งแต่จิตดับแค่3ขณะ
อุปมาเหมือนจุดธูป1ดอกแค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆกลายเป็นวงกลมลืมตาดูจิตเกิดดับทีละ1สลับกันครบ6ทางน๊า


เปรียบเหมือนคนไม่เคยเห็นผี แต่ก็พูดถึงผีวาดภาพผีไปตามจินตนาการในใจของตัว ฉันใด คุณโรสก็ฉันนั้นอ่านตำราอภิธรรมมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยเห็นความเป็นเช่นนั้นของมันจริงๆ ก็จึงได้แต่วาดภาพความเป็นเช่นนั้นไปตามมโนคติของตัวแล.

จบข่าว :b32:



มีอ่านรายละเอียดบางอย่างน้อยมาก จากเว็บลานธรรมจักร และเว็บบ้านธัมมะน้อยมากจริงๆค่ะ
ขอโทษนะคะ ไม่เคยอ่านพระอภิธรรมด้วยตนเอง ที่เอามาสนทนานั้นศึกษาจากการฟังพระพุทธพจน์จากคลิปวิดีโอบ้านธัมมะอย่างเดียวค่ะ


ว่าแล้วนั่นไง :b16:

ผู้ปฏิบัติธรรมเป็นต้น จะหายฟุ้ง คลายความสงสัย ขั้นต้นจิตต้องดำเนินไปถึงวิสุทธิข้อนี้

กังขาวิตรณวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ด้วยหมดสงสัยในนามรูป คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้ว่า เพราะอะไรเกิด นามรูปจึงเกิด เพราะอะไรดับ นามรูปจึงดับ

ดังกระทู้ตั้งนี่

viewtopic.php?f=1&t=56409

ขั้นเริ่มต้นนะ ยังต้องไปอีกไกลทีเดียว


:b32:
ก็เขานั่งพุทโธจนคำบริกรรมหายหมดกายหายหมดแล้ว
ออกทางวิปัสสนาจากฟังอภิธรรมไม่รู้เรื่องเลยจนชำนาญ
ในการระลึกตรงสัจจะที่กายใจกำลังมีตอนกำลังฟังไงคะ
ถึงพยายามมาบอกให้ระลึกตามวิสยรูป7ตลอดเวลาและ
ฟังพระพุทธพจน์ไปด้วยเป็นความตั้งมั่นสมาธิลืมตาตื่นรู้


คนเป็นไม่ใช่คนตายแล้ว :b32:

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เห็นเขาพูดกันทั่วๆไป :b32: นั่นไงมันแสดงให้ดูแล้วไงล่ะ บ้างก็ว่าอนัตตาบังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ของเรา ฯลฯ มันปรากฏให้เห็นแล้วไงล่ะ ทำไมรับไม่ได้ล่ะ

หน้าที่ของเราคือดูมันตามที่มันเป็น ดูการทำงานของมัน มันไม่ได้หายไปไหนหรอกนั่งหัวโด่อยู่ตรงที่นั่งนั่นแหละ :b13: แต่รู้สึกว่ามันหาย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 59 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร