วันเวลาปัจจุบัน 03 ส.ค. 2025, 11:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2018, 11:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




asian_man_holding_buc_a_ha.gif
asian_man_holding_buc_a_ha.gif [ 67.33 KiB | เปิดดู 1226 ครั้ง ]
อวิชชาที่มีสภาพปกปิดไม่ให้รู้ความจริงนั้นแบ่งได้ ๓ ประเภท
๑.บุคคลส่วนมากในโลก ถูกอวิชชาปกปิดไว้ไม่ให้รู้บาปบุญ คุณโทษประโยชน์และมิใช่ประโยชน์
ไม่รู้ว่าการกระทำอย่างนี้ดีมีประโยชน์ อย่างนี้ไม่ดีมีโทษ ย่อมกล้าทำทุจริตต่างๆ อย่างไม่รู้สึกละอายใจ
และไม่เกรงกลัวต่อภัยใดๆ แสดงว่ามี "อวิชชา" อยู่หนาแน่นมาก

๒.บุคคลบางพวกรู้ว่า การกระทำอย่างนี้ดีมีประโยชน์ อย่างนี้ไม่ดีมีโทษ บุคคลพวกนี้ เมื่อเห็นว่า
การกระทำที่ตนจะทำไปนั่นไม่ดี เป็นบาปอกุศลมีโทษก็จะพยายามหลีกเลี่ยง ไม่กระทำการงานนั้น แล้ว
เปลี่ยนจิตใจกระทำแต่สิ่งที่ดีมีประโยชน์เป็นบุญเป็นกุศล แสดงว่า "อวิชชา"ของบุคคลจำพวกนี้เบาบางมากแล้ว

๓.บุคคลที่สำเร็จเป็นพระอริยบุคคล เป็นพระโสดาบันบุคคล พระสกทาคามีบุคคล อนาคามีบุคคล นั่น
เป็นผู้เห็นแจ้งในอริยสัจ ๔ แล้ว แต่ยังทำลายอวิชชาได้ไม่หมดสิ้น อวิชชา ของพระอริยบุคคลเหล่านี้
เป็นอวิชชาที่เบาบางที่สุด บุคคลที่ปราศจากอวิชชานั้น มีแต่พระอรหันต์ประเภทเดียว ฉะนั้น
การปกปิดไม่ให้รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงของอวิชชานั้น จึงไม่มีแก่พระอรหันต์ขีณาสวะทั้งหลาย แต่ก็ไม่
ได้หมายความว่า พระอรหันต์ทั้งหลาย จะรู้อะไรๆได้ทั้งหมดทั้งปวง แม้สมมุติบัญญัติ ทั้งนี้
ต้องแล้วแต่กำลังของปัญญา

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2018, 18:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




20180604_141421.jpg
20180604_141421.jpg [ 141.53 KiB | เปิดดู 1207 ครั้ง ]
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า รู้ได้ทั่วไปทั้งหมดทั้งปวง
พระปัจเจกพุทธเจ้า รู้แต่สภาวปรมัตถธรรม ที่เป็นอรรถรส(ผล)
พระอัครสาวก และพระมหาสาวก ย่อมรู้ปรมัตถธรรมทั้งอรรถรส และธรรมรส คือรู้ทั้งเหตุและผล
แต่รู้ไม่เท่าปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

สรุปว่า อวิชชา ปกปิดไม่ให้รู้สภาวธรรมและอาการที่เป็นเหตุ เป็นผล ของสภาวธรรมตามความเป็นจริง
ได้แก่ ปกปิดไม่ให้รู้ความจริง ๘ ประการ คือ สัจจะทั้ง ๔ ขันธ์ อายตนะ ธาตุ ที่เป็นอดีต อนาคต
ทั้งที่เป็นอดีตและอนาคต และปฏิจจสมุปบาทเท่านั้น ส่วนการที่ยังไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่องอื่นๆนั้น
ไม่เกี่ยวกันการปกปิดความจริงของ อวิชชา แต่อย่างใด เช่น การไม่รู้อัธยาสัย หรือไม่รู้
การอบรมอินทรีย์ของผู้อื่น เป็นต้น

อวิชชาเมื่อว่าโดยสภาวธรรม ได้แก่ โมหเจตสิก ที่ไม่รู้ธรรม ๘ ประการ
คือ ไม่รู้อริยสัจ ๔ ไม่รู้ขันธ์ อายตนะ ธาตุ ใน อดีต. อนาคต ทั้งอดีตและอนาคต ไม่รู้ปฏิจจสมุปบาทธรรม

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 19:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1321


 ข้อมูลส่วนตัว


4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร