วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 20:57  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 09 ธ.ค. 2016, 05:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


"ผิดก็ต้องยอมรับว่าผิด ทั้งทางกฎหมายและทางธรรม บางอย่างผิดทางกฎหมายมี ธรรมไม่ผิดก็มี มันแยก คือธรรมละเอียดกว่า กฎหมายว่าผิดแต่ธรรมไม่ผิดก็มีอยู่ ผิดทั้งสองนี้ก็มี ส่วนมากผิดทั้งสอง

นี่เราก็เคยได้พูดไฟเขียวไฟแดงนะ นี่กฎหมายเขาตั้งไว้สำหรับส่วนรวม กฎหมายเขาต้องเป็นอย่างนั้น เพื่อรักษาความสงบปลอดภัยของบ้านเมือง เช่น ไฟเขียว ไฟแดง ใครไปถึงไฟแดงแล้วก็ต้องหยุด ไม่หยุดไม่ได้ แต่ทางด้านธรรมะละเอียดกว่านั้นอีก นั่น ไม่มีใครมาเลยมีแต่ไฟแดง อยู่ ๆ เขาก็บังคับเอาเฉย ๆ ไม่มีอันตรายอะไร ไฟแดงก็ตามธรรมผ่านไปได้ นั่น เข้าใจไหม ไม่ผิดธรรม เข้าใจเหรอ

อยู่ ๆ ไฟแดงฟาดทั้งวันให้รถจอดคอย ให้รถคันเดียวจอดคอย ไม่มีรถคันไหนมาเลย ทำอย่างนี้มันก็เป็นโมฆะ คือที่กฎหมายตั้งไว้นี่เพื่อให้โอกาสกับทางไฟเขียว ไฟแดงต้องหยุดเป็นระยะ ๆ ถ้าเมื่อมีรถมาแม้แต่คันหนึ่ง ไฟแดงเราจะผ่านไปไม่ได้ ผิดเต็มเหนี่ยวเลย ถ้าไม่มีเลยอย่างนี้ พาเฝ้าไฟแดงทั้งวันนี้เฝ้าหาอะไร

ก็คนผู้ขับรถมันไม่ใช่บ้า มันไม่มีอะไรก็ไปได้ไม่ผิด เพราะรอบหมดแล้ว ไม่ผิดแล้วไปได้ทางธรรม แต่ทางกฎหมายปรับ ห้าม คือห้ามพระผ่านไฟแดง นี่กฎหมายว่างั้น แต่ธรรมมานี่ ไม่มีอันตรายอะไรแล้วไม่เกิดอะไรแล้ว ไปได้ไม่ผิด อันนี้ที่ว่ากฎหมายผิด ธรรมะไม่ผิด อย่างนี้มี ผิดทั้งกฎหมายผิดทั้งธรรมะอย่างนี้ เช่น มีรถมาอยู่ทั้ง ๆ ที่ไฟแดงอย่างนี้นะ ไปไม่ได้ ผิด กฎหมายก็ผิด ธรรมก็ผิด อย่างนั้นนะ"

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๔





คำโบราณท่านว่า "เรือรั่วให้รีบขนของลงใส่"
นี่มันก็เป็นปัญหาธรรมะอยู่นะ เขาว่าถ้าร่างกายนี้เปรียบเหมือนเรือรั่ว
ก็ให้รีบทำบุญทำกุศลเข้าไว้ รักษาศีล
ถ้าไปมือเปล่า มาก็มือเปล่ามันก็จะได้อะไร มาก็ทุกข์ไปก็ทุกข์
เกิดอีกมันก็ทุกข์อีกนั่นแหละ มนุษย์นี้มันมีหลายจำพวกนะ
มนุสฺสเทโว มนุสฺสเปโต มนุสฺสสุญโญ
เกิดมาแล้วสูญเปล่า ไม่ได้อะไร
ไปมือเปล่าไม่รู้จะไปพึ่งอะไร กินอะไร
เหมือนกับคนเรายังต้องอาศัยบ้านอาศัยข้าว
นี่ไม่มีอะไรสักอย่าง ไม่รู้จะไปพึ่งอะไร
มันก็ทุกข์...มีแต่ทุกข์เท่านั้นแหละ
.
หลวงปู่เพียร วิริโย





หลายคนมีความคิดว่า
น่าจะไปทำบุญกับวัดที่จน ๆ ขาดแคลนห่างไกล
ไม่น่าจะไปทำบุญกับวัดที่รวย มีเจ้าอาวาสดัง ๆ
จะว่าถูกก็ถูก

ถ้าปรารภตามอดีตชาติแล้ว
ผู้เคยได้ทำบุญร่วมกันมาแต่ภพก่อนชาติก่อนแล้ว
จะดีหรือไม่ดีก็บันดาลได้ทำบุญร่วมกัน
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องเกี่ยวกับบุญที่โยงมา
แต่ภพก่อนชาติก่อนอันเคยได้ร่วมกัน ข้อนี้สำคัญมาก
.
หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต


โพสต์ เมื่อ: 09 ธ.ค. 2016, 06:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสต์ เมื่อ: 09 ธ.ค. 2016, 22:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
ผิดยอมรับว่าผิด

มันไปเกี่ยวกับสัมมัปธานข้อที่ 1
บาปอกุศลเก่าๆที่เราเคยทำ เพียรละ

บาปอกุศลเก่าที่เราเคยทำ เป็นความผิดเก่าๆ ที่เรากลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว หากไม่ทำใจไม่ยอมรับความผิดมันจะมา
กลายเป็นนิวรณ์กางกั้นจิตไม่ให้สงบได้สักที

เพราะฉนั้นยอมรับผิดยอมรับความจริงนั้นเสียแล้วปฏิญาณว่าเราจะไม่ทำเช่นนั้นอีก อย่างนี้จิตจะเกิดการปลงตก สงบ
หมดนิวรณ์ในความผิดเก่าๆ ทำให้เรานั่งภาวนาสงบกายสงบใจ ทำความดีใหม่ๆต่อไปได้

onion


โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2016, 05:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b8:
ผิดยอมรับว่าผิด

มันไปเกี่ยวกับสัมมัปธานข้อที่ 1
บาปอกุศลเก่าๆที่เราเคยทำ เพียรละ


บาปอกุศลเก่าที่เราเคยทำ เป็นความผิดเก่าๆ ที่เรากลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว หากไม่ทำใจไม่ยอมรับความผิดมันจะมา
กลายเป็นนิวรณ์กางกั้นจิตไม่ให้สงบได้สักที

เพราะฉนั้นยอมรับผิดยอมรับความจริงนั้นเสียแล้วปฏิญาณว่าเราจะไม่ทำเช่นนั้นอีก อย่างนี้จิตจะเกิดการปลงตก สงบ
หมดนิวรณ์ในความผิดเก่าๆ ทำให้เรานั่งภาวนาสงบกายสงบใจ ทำความดีใหม่ๆต่อไปได้

onion


การเพียรละบาปอกุศลเก่าๆ...ควรจะเป็นข้อ2 อะป้าว..ลุง..

:b9: :b9:


โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2016, 06:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

ผิดยอมรับว่าผิด

มันไปเกี่ยวกับสัมมัปธานข้อที่ 1
บาปอกุศลเก่าๆที่เราเคยทำ เพียรละ

บาปอกุศลเก่าที่เราเคยทำ เป็นความผิดเก่าๆ ที่เรากลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว หากไม่ทำใจไม่ยอมรับความผิดมันจะมากลายเป็นนิวรณ์กางกั้นจิตไม่ให้สงบได้สักที

เพราะฉนั้น ยอมรับผิดยอมรับความจริงนั้นเสียแล้วปฏิญาณว่าเราจะไม่ทำเช่นนั้นอีก อย่างนี้จิตจะเกิดการปลงตก สงบหมดนิวรณ์ในความผิดเก่าๆ ทำให้เรานั่งภาวนาสงบกายสงบใจ ทำความดีใหม่ๆต่อไปได้





เห็นคำตอบท่านอโศกแล้ว ขาดพื้นฐานภาคปฏิบัติโดยสิ้นเชิง ไม่มีเลยจินๆ มีแต่คิดเอาผสมกับมโน

นิวรณ์จะสงบได้ จิตต้องมีสมาธิระดับหนึ่งขอรับ :b1:

ดูตัวอย่างนี้ (ให้ดูหลายครั้งแล้ว ตัดๆมา)

ฯลฯ

จากนั้นมีวันหนึ่ง ผมเกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ผมก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ

ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน

กำหนดคำบริกรรมในใจแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณ…

ความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปีติ มีแต่ความสุขไปหมด จากนั้นผมก็คิดขึ้นมาว่า

"มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลกมัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คนในโลกกลับไม่รู้"

จากนั้น ผมก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่าลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก :)

....แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้นเลยนะครับ แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือมีความรู้พร้อมอยู่ จากนั้นผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับเราหรือ"


http://larndham.org/index.php?/topic/27 ... ntry393770

ท่านอโศกเห็นไหม จิตเป็นสมาธิคืออยู่กับส่ิ่งที่กำหนดได้นานๆ นิวรณ์ก็สงบ ความสุขก็เกิด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2016, 20:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:


ผิดยอมรับว่าผิด

มันไปเกี่ยวกับสัมมัปธานข้อที่ 1
บาปอกุศลเก่าๆที่เราเคยทำ เพียรละ

บาปอกุศลเก่าที่เราเคยทำ เป็นความผิดเก่าๆ ที่เรากลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว หากไม่ทำใจไม่ยอมรับความผิดมันจะมา
กลายเป็นนิวรณ์กางกั้นจิตไม่ให้สงบได้สักที


เพราะฉนั้น ยอมรับผิดยอมรับความจริงนั้นเสียแล้วปฏิญาณว่าเราจะไม่ทำเช่นนั้นอีก อย่างนี้จิตจะเกิดการปลงตก สงบหมดนิวรณ์ในความผิดเก่าๆ ทำให้เรานั่งภาวนาสงบกายสงบใจ ทำความดีใหม่ๆต่อไปได้



ตัวอย่างนี้ แย้งคำพูดท่านอโศกทุกคำ :b1:


เวลาผมนั่งสมาธิ พอภาวนาไปซักพัก เริ่มตัดภาวนาไปแล้วทีนี้ก็จะเกิดอาการขนลุกเย็นทั้งตัว แล้วหลังจากนั้นก็จะมีภาพ คน สัตว์ แมลง ที่เราเคยทำร้ายเคยทำให้เค้าตาย หรือเจ็บลอยมาให้เห็น คือ
แปลกใจว่า บางเรื่องเป็นเรื่องที่นานมาก บางเรื่องเป็นเรื่องสมัยเด็กๆอยู่ด้วยซ้ำ ซึ่งบางทีนึกถึงยังนึกไม่ออกเลย เพราะนานมาก แต่พอมานั่งสมาธิ ก็ลอยมาให้เห็นเฉยเลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 11 ธ.ค. 2016, 09:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b8:

ผิดยอมรับว่าผิด

มันไปเกี่ยวกับสัมมัปธานข้อที่ 1
บาปอกุศลเก่าๆที่เราเคยทำ เพียรละ

บาปอกุศลเก่าที่เราเคยทำ เป็นความผิดเก่าๆ ที่เรากลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว หากไม่ทำใจไม่ยอมรับความผิดมันจะมา
กลายเป็นนิวรณ์กางกั้นจิตไม่ให้สงบได้สักที

เพราะฉนั้นยอมรับผิดยอมรับความจริงนั้นเสียแล้วปฏิญาณว่าเราจะไม่ทำเช่นนั้นอีก อย่างนี้จิตจะเกิดการปลงตก สงบ
หมดนิวรณ์ในความผิดเก่าๆ ทำให้เรานั่งภาวนาสงบกายสงบใจ ทำความดีใหม่ๆต่อไปได้



อ้างคำพูด:
ยอมรับผิด ยอมรับความจริงนั้นเสียแล้วปฏิญาณว่าเราจะไม่ทำเช่นนั้นอีก อย่างนี้จิตจะเกิดการปลงตก สงบหมดนิวรณ์ในความผิดเก่าๆ ทำให้เรานั่งภาวนาสงบกาย สงบใจ ทำความดีใหม่ๆต่อไปได้



อ้างคำพูด:
อย่างนี้จิตจะเกิดการปลงตก สงบหมดนิวรณ์ในความผิดเก่าๆ ทำให้เรานั่งภาวนาสงบกาย สงบใจ ทำความดีใหม่ๆต่อไปได้


ท่านอโศกมองโลกและชีวิตมองภาวนาแง่ดีแง่เดียว อย่างนี้ เรียกว่ามีความคิดความเห็นสุดโต่ง :b1:

คคห. นี้ขอโฟกัสคำพูดที่ผู้ปฏิบัติ 99.99 % (เลียนแบบ ปชต. 99.99% ผู้นำ ผดก.) ทั่วๆไปเข้าใจผิดกัน

คือ ในเบื้องต้นผู้ปฏิบัติธรรมควรรู้ไว้เลยว่า ชีวิตคือกายใจนี่ โดยเฉพาะนามธรรม มีทั้งกุศลจิต อกุศลจิต และอัพยากตจิต ที่บางขณะกุศลจิต เกิด บางขณะอกุศลจิตเกิด ไม่ว่าดีว่าร้าย เมื่อมันเกิดแล้วโยงถึงกาย ถึงวาจาด้วย (กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม)

ไม่ใช่อย่างที่ว่า ....นั่งภาวนาสงบกาย สงบใจเลย ไม่ใช่ ไม่ใช่เรายืน เดิน นั่ง ทำกรรมฐานแล้วมันจะสงบเลย ไม่ใช่

ยิ่งใครคิดจะทำกุศล ทำความดีอะไรสักอย่าง มารคือกิเลส (กิเลสมาร = อกุศลจิต) ในใจจะขัดขวางเรา (กุศลจิต อกุศลจิต มันแย่งพื้นที่กันอยู่ทุกขณะ) ดังนั้น ผู้เริ่มปฏิบัติธรรมต้องผจญมารในใจตัวเอง (ดังตัวอย่างที่ยกมาให้สังเกต) อย่าท้อที่จะกำหนดดูรู้ทันมัน (ขณะใด คิดท้อ กำหนดความคิดนั่นปั๊บ ท้อหนอๆๆๆ) อย่าปล่อยจิตให้เลื่อนลอยเรื่อยเปื่อยไปเฉยๆ

โยคีจะสุข จะทุกข์ขนาดไหนยังไง พึงกำหนดตามสภาวะที่มันเป็นทันทุกครั้งทุกขณะ อย่างนี้แหละ กุศลธรรมมีสติ-สัมปชัญญะ เป็นต้น เกิดแล้ว เกิดทุกๆครั้งที่โยคีกำหนดทัน

กำหนดครั้งหนึ่ง สติเป็นต้นเกิดทีหนึ่ง ซึ่งมันจะค่อยๆเกิดเติบใหญ่มาก-น้อยตามที่โยคีเองกำหนด แล้วมันจะคุมอกุศลจิตได้ ปฏิบัติไปทำนองนี้แหละจึงจึงจะพอสงบกาย สงบใจอย่างว่านั่นได้บ้าง
ยังยังไม่พอต้องไปอีก ไปอีก ไปอีก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 11 ธ.ค. 2016, 20:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
คนละเรื่องคนละประเด็นแล้วครับคุณกรัชกาย
grin


โพสต์ เมื่อ: 12 ธ.ค. 2016, 07:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
s004
คนละเรื่องคนละประเด็นแล้วครับคุณกรัชกาย
grin


เลือดหยดเป็นทางแล้วยังไม่สารภาพบาปยังไม่สำนึกอีก :b13:
ถ้างั้น
ตก-มีประเด็นไหนอีกว่ามา :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 13 ธ.ค. 2016, 07:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


grin
กรัชกายรู้มากเลยคิดมาก ฟุ้งซ่านไปเอง

บาปอกุศลเก่าๆที่เราเคยทำนี่ ถ้าเราปลงตกเสียได้ มันทำให้จิตใจสงบและตั้งมั่นเร็วขึ้นอีกเยอะทีเดียวแค่นี้ก็ได้เปรียบนิวรณ์ธรรมไปเป็นครึ่งแล้ว ส่วนการที่จะขจัดหรือกลบทับกำกับนิวรณ์ตัวอื่นให้สงบราบคาบตามไปด้วยนั้นเป็นงานและหน้าที่ของผู้ปฏิบัติจริงเอง กรัชกายจะไปโวยวายตีตนก่อนไข้ไปด้วยความรู้มากจนท่วมหัวทำไม ปัญหาของใครๆเขาก็จะมีปัญญาค้นหาจนพบวิธีแก้ไขเอาเองถ้าเขายังปฏิบัติจริงและไม่ถอยหนีปัญหาการปฏิบัติอย่างกรัชกาย
onion


โพสต์ เมื่อ: 13 ธ.ค. 2016, 09:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
grin
กรัชกายรู้มากเลยคิดมาก ฟุ้งซ่านไปเอง

[size=150]บาปอกุศลเก่าๆที่เราเคยทำนี่ ถ้าเราปลงตกเสียได้ มันทำให้จิตใจสงบและตั้งมั่นเร็วขึ้นอีกเยอะทีเดียวแค่นี้ก็ได้เปรียบนิวรณ์ธรรมไปเป็นครึ่งแล้ว ส่วนการที่จะขจัดหรือกลบทับกำกับนิวรณ์ตัวอื่นให้สงบราบคาบตามไปด้วยนั้นเป็นงานและหน้าที่ของผู้ปฏิบัติจริงเอง กรัชกายจะไปโวยวายตีตนก่อนไข้ไปด้วยความรู้มากจนท่วมหัวทำไม ปัญหาของใครๆเขาก็จะมีปัญญาค้นหาจนพบวิธีแก้ไขเอาเองถ้าเขายังปฏิบัติจริงและไม่ถอยหนีปัญหาการปฏิบัติอย่างกรัชกาย



ย้อนดูคำพูดท่านอโศกอีกที

อ้างคำพูด:
เพราะฉนั้น ยอมรับผิดยอมรับความจริงนั้นเสียแล้วปฏิญาณว่าเราจะไม่ทำเช่นนั้นอีก อย่างนี้จิตจะเกิดการปลงตกสงบหมดนิวรณ์ในความผิดเก่าๆ ทำให้เรานั่งภาวนาสงบกายสงบใจ ทำความดีใหม่ๆต่อไปได้


กรัชกายก็ยกตัวอย่างคนทำจริง

อ้างคำพูด:
เวลาผมนั่งสมาธิ พอภาวนาไปซักพัก เริ่มตัดภาวนาไปแล้วทีนี้ก็จะเกิดอาการขนลุกเย็นทั้งตัว

แล้วหลังจากนั้นก็จะมีภาพ คน สัตว์ แมลง ที่เราเคยทำร้ายเคยทำให้เค้าตาย หรือเจ็บลอยมาให้เห็น คือ
แปลกใจว่า บางเรื่องเป็นเรื่องที่นานมาก บางเรื่องเป็นเรื่องสมัยเด็กๆอยู่ด้วยซ้ำ ซึ่งบางทีนึกถึงยังนึกไม่ออกเลย เพราะนานมาก แต่พอมานั่งสมาธิ ก็ลอยมาให้เห็นเฉยเลย


ถึงว่า มันค้านคำพูดท่านอโศกทุกคำทุกความเห็น เออ

ความเห็นท่านอโศกนั่นแหละ เป็นความเห็นของคนไม่เคยภาวนา คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 13 ธ.ค. 2016, 21:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
มีนิมิตบาปอกุศลเก่าๆที่เคยทำผุดมาให้เห็นแล้วแก้ไขเป็นหรือเปล่าหรือมัวแต่เศร้า ซม ตรม ทุกข์อยู่กับอดีตบาปเก่าเหล่านั้นจนไม่เป็นอันภาวนาต่อ

กรัชกายแก้ไขให้ศิษย์เป็นไหมล่ะ?
แก้ยังไงลองว่ามา เดี๋ยวก็รู้จริงว่าใครเคยภาวนาหรือไม่
s006


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร