วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 16:07  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 97 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2016, 05:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




อริยสัจ 4_resize.jpg
อริยสัจ 4_resize.jpg [ 58.29 KiB | เปิดดู 1915 ครั้ง ]
:b38:
วะยะธัมมา = ทุกขสัจจะ ความเกิด ดับ ๆ ๆ ๆอยู่ไม่รู้จักสิ้นสุดนี้เป็นทุกข์อย่างยิ่ง คนไม่เห็นความจริงจึงไม่เบื่อหน่าย อนิจัง ทุกขัง อนัตตา แต่เกิดจนตายยังหลงทำกรรมเวียนว่ายอยู่ ทุกคน

สังขารา = สมุทัยสัจจะ ความปรุงแต่ง คิดนึกมโนกรรม เมื่อมากขึ้นก็พึมพัมเป็นวจี มโนกรรม วจีกรรมในชั่วดีสุดท้ายมีกายกรรมทำด้วยตัว กรรมครบองค์ลงตัวให้มีผล คนทุกคนหลงทำกรรมดีชั่ว หมุนกงล้อแห่งวัฏฏะและเมามัวทุกสิ่งมั่วล้วนเริ่มต้นจากมโน

อัปมาเทนะ = มรรคสัจจะ เมื่อสติ สมาธิตั้งมั่นได้ ปัญญาใสจึงเกิดมาทำลายมั่ว มรรคสัจจะเมื่อย่อลงคงรู้ตัว ปัญญา ศีล สมาธิ สมบูรณ์ทั่ว ก็ลุธรรม

สัมปาเทธะ = นิโรธะสัจจะ ความสำเร็จสมบูรณ์ธรรมปฏิบัติ คือกำจัดอวิชชาออกได้สิ้น เข้ามรรค 4 ผล4 ได้ดังจินต์ จึงสุดสิ้นความหมุนวนสู่นิพพาน

onion
แปลเป็นกลอนให้ฟังเลยนะ กบกับกรัช จะมีสติปัญญาเข้าใจได้ถึงหรือเปล่าเนี้ยะ
s006
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2016, 07:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b38:
วะยะธัมมา = ทุกขสัจจะ ความเกิด ดับ ๆ ๆ ๆอยู่ไม่รู้จักสิ้นสุดนี้เป็นทุกข์อย่างยิ่ง คนไม่เห็นความจริงจึงไม่เบื่อหน่าย อนิจัง ทุกขัง อนัตตา แต่เกิดจนตายยังหลงทำกรรมเวียนว่ายอยู่ ทุกคน

สังขารา = สมุทัยสัจจะ ความปรุงแต่ง คิดนึกมโนกรรม เมื่อมากขึ้นก็พึมพัมเป็นวจี มโนกรรม วจีกรรมในชั่วดีสุดท้ายมีกายกรรมทำด้วยตัว กรรมครบองค์ลงตัวให้มีผล คนทุกคนหลงทำกรรมดีชั่ว หมุนกงล้อแห่งวัฏฏะและเมามัวทุกสิ่งมั่วล้วนเริ่มต้นจากมโน

อัปมาเทนะ = มรรคสัจจะ เมื่อสติ สมาธิตั้งมั่นได้ ปัญญาใสจึงเกิดมาทำลายมั่ว มรรคสัจจะเมื่อย่อลงคงรู้ตัว ปัญญา ศีล สมาธิ สมบูรณ์ทั่ว ก็ลุธรรม

สัมปาเทธะ = นิโรธะสัจจะ ความสำเร็จสมบูรณ์ธรรมปฏิบัติ คือกำจัดอวิชชาออกได้สิ้น เข้ามรรค 4 ผล4 ได้ดังจินต์ จึงสุดสิ้นความหมุนวนสู่นิพพาน

onion
แปลเป็นกลอนให้ฟังเลยนะ กบกับกรัช จะมีสติปัญญาเข้าใจได้ถึงหรือเปล่าเนี้ยะ
s006



ท่านอโศกขอรับ ขอร้องเถอะ อย่านำศัพท์และความหมายทางภาษาของเขา มาต้มยำทำแกงเลยขอรับ :b1: อายฟ้าดินจริงๆ

เอางี้ก็ได้ อย่าเพิ่งเชื่อกรัชกาย ไปเสริชดูในอากู๋นะ ...หนฺททานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิ โว ... มันจะขึ้นมาให้ทัศนา แล้วดูสะให้เต็มตาว่าเหมือนกับที่ท่านอโศกเว้ามั้ย :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2016, 19:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b38:
วะยะธัมมา = ทุกขสัจจะ ความเกิด ดับ ๆ ๆ ๆอยู่ไม่รู้จักสิ้นสุดนี้เป็นทุกข์อย่างยิ่ง คนไม่เห็นความจริงจึงไม่เบื่อหน่าย อนิจัง ทุกขัง อนัตตา แต่เกิดจนตายยังหลงทำกรรมเวียนว่ายอยู่ ทุกคน

สังขารา = สมุทัยสัจจะ ความปรุงแต่ง คิดนึกมโนกรรม เมื่อมากขึ้นก็พึมพัมเป็นวจี มโนกรรม วจีกรรมในชั่วดีสุดท้ายมีกายกรรมทำด้วยตัว กรรมครบองค์ลงตัวให้มีผล คนทุกคนหลงทำกรรมดีชั่ว หมุนกงล้อแห่งวัฏฏะและเมามัวทุกสิ่งมั่วล้วนเริ่มต้นจากมโน

อัปมาเทนะ = มรรคสัจจะ เมื่อสติ สมาธิตั้งมั่นได้ ปัญญาใสจึงเกิดมาทำลายมั่ว มรรคสัจจะเมื่อย่อลงคงรู้ตัว ปัญญา ศีล สมาธิ สมบูรณ์ทั่ว ก็ลุธรรม

สัมปาเทธะ = นิโรธะสัจจะ ความสำเร็จสมบูรณ์ธรรมปฏิบัติ คือกำจัดอวิชชาออกได้สิ้น เข้ามรรค 4 ผล4 ได้ดังจินต์ จึงสุดสิ้นความหมุนวนสู่นิพพาน

onion
แปลเป็นกลอนให้ฟังเลยนะ กบกับกรัช จะมีสติปัญญาเข้าใจได้ถึงหรือเปล่าเนี้ยะ
s006


แทนที่จะชี้แจง..ว่าเพราะเหตุใด...วะยะธัมมา จึง= ทุกขสัจจะ

เหตุใด..สังขารา จึง= สมุทัยสัจจะ



นี้อะไร..มาเพ้อได้ต่ออีก..

:b7: :b7: :b7:

อย่างนี้เข้าขั้น..แจกใบแดง..คับ..อิอิ Onion_R


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2016, 20:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:



แทนที่จะชี้แจง..ว่าเพราะเหตุใด...วะยะธัมมา จึง= ทุกขสัจจะ

เหตุใด..สังขารา จึง= สมุทัยสัจจะ



นี้อะไร..มาเพ้อได้ต่ออีก..



อย่างนี้เข้าขั้น..แจกใบแดง..คับ..อิอิ Onion_R



อ้าวกบว่าให้สะเองเลย เอ้า เอาชัดๆไปเลย อย่าขี้เกียจนะ ขยันหน่อยๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2016, 02:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าไปแล้วคับ..


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
s004

ทั้งกบและกรัชกายจึงไม่เห็นว่า ปฐมเทศนา มัชฌิมเทศนา และปัจฉิมโอวาท หรือแม้ธรรมทั้งหลายในสูตรอื่น ล้วนสงเคราะห์ลงในอริยสัจ 4 งอกเงยมาจากอริยสัจ 4 ทั้งสิ้น[/color][/size]


เห็นคับ...เห็นคนบางคนกำลังกระทำมิดีมิร้าย...พระธรรม.. :b32: :b32:

ลงในอริยะสัจสี่..นะใช่..

แต่ไม่ใช่...อย่างที่อโสกะว่า..

อ้างคำพูด:
"หันทะทานิ อมันตยามิโวภิกขุ วะยะธัมมา สังขารา อัปมาเทนะ สัมปาเทธะ"

วะยะธัมมา = ทุกขสัจจะ

สังขารา = สมุทัยสัจจะ

อัปมาเทนะ = มรรคสัจจะ

สัมปาเทธะ = นิโรธะสัจจะ


:b7: :b7: :b7:


และนี้ก็ให้โอกาส..อโสกะ..แสดงความคิดเห็นแล้ว..แต่ก็เงียบไปเลย..อิอิ

กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
s006

กรัชกายพึงกลับไปนั่งภาวนาสลายความนึกคิดฟุ้งซ่านแล้วมีมนสิการพิจารณาดูให้ดี มีธัมมวิจัยขึ้นมาวิเคราะห์ดูให้ดีๆ ปัจฉิมโอวาทนั้น ก็คือการสรุปอริยสัจ 4 นั่นเอง

ดูบทสวด อีกบทหนึ่ง

อนิจจา วัฏสังขารา=สมุทัยสัจจะ

อุปัททะวะยะ ธัมมิโน อุปัทชิตวา นิรุจชันติ = ทุกขสัจจะ

เตสังวูปสโม = มรรคสัจจะ

สุขโข= นิโรธะสัจจะ

:b38:

เอาอันแรกเลย...
อนิจจา วัฏสังขารา...เป็น...สมุทัยสัจจะ..อย่างไร..คับ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2016, 07:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ว่าไปแล้วคับ..





หาไม่เห็น ว่าตอนไหนนะ :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2016, 07:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าคน...
ว่าไปแล้ว..

:b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2016, 14:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b38:
วะยะธัมมา = ทุกขสัจจะ ความเกิด ดับ ๆ ๆ ๆอยู่ไม่รู้จักสิ้นสุดนี้เป็นทุกข์อย่างยิ่ง คนไม่เห็นความจริงจึงไม่เบื่อหน่าย อนิจัง ทุกขัง อนัตตา แต่เกิดจนตายยังหลงทำกรรมเวียนว่ายอยู่ ทุกคน

สังขารา = สมุทัยสัจจะ ความปรุงแต่ง คิดนึกมโนกรรม เมื่อมากขึ้นก็พึมพัมเป็นวจี มโนกรรม วจีกรรมในชั่วดีสุดท้ายมีกายกรรมทำด้วยตัว กรรมครบองค์ลงตัวให้มีผล คนทุกคนหลงทำกรรมดีชั่ว หมุนกงล้อแห่งวัฏฏะและเมามัวทุกสิ่งมั่วล้วนเริ่มต้นจากมโน

อัปมาเทนะ = มรรคสัจจะ เมื่อสติ สมาธิตั้งมั่นได้ ปัญญาใสจึงเกิดมาทำลายมั่ว มรรคสัจจะเมื่อย่อลงคงรู้ตัว ปัญญา ศีล สมาธิ สมบูรณ์ทั่ว ก็ลุธรรม

สัมปาเทธะ = นิโรธะสัจจะ ความสำเร็จสมบูรณ์ธรรมปฏิบัติ คือกำจัดอวิชชาออกได้สิ้น เข้ามรรค 4 ผล4 ได้ดังจินต์ จึงสุดสิ้นความหมุนวนสู่นิพพาน

onion
แปลเป็นกลอนให้ฟังเลยนะ กบกับกรัช จะมีสติปัญญาเข้าใจได้ถึงหรือเปล่าเนี้ยะ
s006


แทนที่จะชี้แจง..ว่าเพราะเหตุใด...วะยะธัมมา จึง= ทุกขสัจจะ

เหตุใด..สังขารา จึง= สมุทัยสัจจะ



นี้อะไร..มาเพ้อได้ต่ออีก..

:b7: :b7: :b7:

อย่างนี้เข้าขั้น..แจกใบแดง..คับ..อิอิ Onion_R

grin
ขนาดว่าเป็นกลอนมาให้ฟังข้างบน กบยังไม่เข้าใจ มองไม่เห็นอีกว่า ความเกิด -ดับ เป็นทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ความปรุงแต่งคิดนึก สังขารเป็นสมุทัยเหตุทุกข์
มรรค8 คือ ปัญญา ศีล สมาธิเป็นเหตุสุข มรรค4 ผล4 นิพพาน 1 เป็นผลสุข

อย่างนี้ชี้ชัดและแสดงว่า กบรู้อยู่แต่ในตำรา หาภาคปฏิบัติมิได้ ไอ้ที่ปฏิบัติอยู่ก็ปฏิบัติมั่วไม่ใช่ปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

ความเกิด - ดับ มันเป็นทุกขัง อนิจจัง อนัตตาได้อย่างไร เอาง่ายๆ กบลองนั่งสังเกตลมหายใจของตนเองให้ดีๆ

หายใจเข้าเกิดขึ้น หายใจเข้าสุดแล้ว ลมหายใจเข้าก็ดับไป เปลี่ยนเป็น
หายใจออก

หายใจออกเกิดขึ้น หายใจออกสุดแล้ว ลมหายใจออกก็ดับไป เปลี่ยนเป็นลมหายใจเข้า

อยากเห็นทุกขังให้ลองทำดู.....หายใจเข้าสุดแล้ว อย่าหายใจออก หรือหายใจออกสุดแล้ว อย่าหายใจเข้า คือกลั้นหายใจไว้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ สักประเดี๋ยวเดียว กบก็จะเห็นทุกขัง แล้วอนิจจังก็จะตามมาแสดงทันที ส่วนอนัตตานั้นต้องใช้สมองสติปัญญาสังเกตพิจารณานิดๆจะเห็นว่าลมหาย ใจเข้าออกนี้บังคับไม่ได้ ถ้ารู้ซึ้งใจว่าบังคับไม่ได้อย่างนี้ก็เห็นอนัตตา

ลองดูซิกบ ทำจริงๆอย่านั่งมโนคิดเอา แล้วจะซึ้งเลิกสงสัยและกอดไว้อยู่แต่คำสอนในตำรา

onion
กรัชกายก็ลองทำดูจริงๆด้วยนะ
:b11:
อ้อ!....ถ้าอยากจะเห็น อัตตา อนัตตาและนิโรธะ ให้หายใจเข้าให้เต็มปอดแล้วกลั้นหายใจไว้ให้นานๆที่สุดพร้อมกับสังเกตให้ดีๆว่าตอนที่กลั้นอยู่นั้น
ใครสั่ง
ในกายเกิดอะไร
ในจิตเกิดอะไร

เมื่อถึงสุดขีดมันเป็นอย่างไร

เมื่อปล่อยลมหายใจออก.....โซ่...... อะไรเกิดขึ้นมาให้รู้สึกทันที อะไร?

ตอนปล่อยนั้นปล่อยอะไร?ของใคร?

จิตตอนถูกสั่ง กับตอนที่ปล่อยคำสั่งมันต่างกันยังไง อธิบาย

ทำการบ้านนี้เสร็จแล้วก็ลองมาเล่าให้ฟังบ้างว่าเห็นทุกขสัจจะ สมุทัยสัจจะ มรรคสัจจะ และนิโรธะสัจจะ สมบูรณ์พร้อมในบทศึกษาหรือแบบฝึกหัดนี้ไหม

onion
ท่านผู้อ่านทั้งหลายจะลองดูด้วยก็ได้นะครับ แล้วมาคุยกัน
:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2016, 16:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:


ขนาดว่าเป็นกลอนมาให้ฟังข้างบน กบยังไม่เข้าใจ มองไม่เห็นอีกว่า ความเกิด -ดับ เป็นทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ความปรุงแต่งคิดนึก สังขารเป็นสมุทัยเหตุทุกข์
มรรค8 คือ ปัญญา ศีล สมาธิเป็นเหตุสุข มรรค4 ผล4 นิพพาน 1 เป็นผลสุข

อย่างนี้ชี้ชัดและแสดงว่า กบรู้อยู่แต่ในตำรา หาภาคปฏิบัติมิได้ ไอ้ที่ปฏิบัติอยู่ก็ปฏิบัติมั่วไม่ใช่ปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

ความเกิด - ดับ มันเป็นทุกขัง อนิจจัง อนัตตาได้อย่างไร เอาง่ายๆ กบลองนั่งสังเกตลมหายใจของตนเองให้ดีๆ

หายใจเข้าเกิดขึ้น หายใจเข้าสุดแล้ว ลมหายใจเข้าก็ดับไป เปลี่ยนเป็น
หายใจออก

หายใจออกเกิดขึ้น หายใจออกสุดแล้ว ลมหายใจออกก็ดับไป เปลี่ยนเป็นลมหายใจเข้า

อยากเห็นทุกขังให้ลองทำดู.....หายใจเข้าสุดแล้ว อย่าหายใจออก หรือหายใจออกสุดแล้ว อย่าหายใจเข้า คือกลั้นหายใจไว้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ สักประเดี๋ยวเดียว กบก็จะเห็นทุกขัง แล้วอนิจจังก็จะตามมาแสดงทันที ส่วนอนัตตานั้นต้องใช้สมองสติปัญญาสังเกตพิจารณานิดๆจะเห็นว่าลมหาย ใจเข้าออกนี้บังคับไม่ได้ ถ้ารู้ซึ้งใจว่าบังคับไม่ได้อย่างนี้ก็เห็นอนัตตา

ลองดูซิกบ ทำจริงๆอย่านั่งมโนคิดเอา แล้วจะซึ้งเลิกสงสัยและกอดไว้อยู่แต่คำสอนในตำรา[/size]

กรัชกายก็ลองทำดูจริงๆด้วยนะ

อ้อ!....ถ้าอยากจะเห็น อัตตา อนัตตาและนิโรธะ ให้หายใจเข้าให้เต็มปอดแล้วกลั้นหายใจไว้ให้นานๆที่สุดพร้อมกับสังเกตให้ดีๆว่าตอนที่กลั้นอยู่นั้น
ใครสั่ง
ในกายเกิดอะไร
ในจิตเกิดอะไร

เมื่อถึงสุดขีดมันเป็นอย่างไร

เมื่อปล่อยลมหายใจออก.....โซ่...... อะไรเกิดขึ้นมาให้รู้สึกทันที อะไร?

ตอนปล่อยนั้นปล่อยอะไร?ของใคร?

จิตตอนถูกสั่ง กับตอนที่ปล่อยคำสั่งมันต่างกันยังไง อธิบาย

ทำการบ้านนี้เสร็จแล้วก็ลองมาเล่าให้ฟังบ้างว่าเห็นทุกขสัจจะ สมุทัยสัจจะ มรรคสัจจะ และนิโรธะสัจจะ สมบูรณ์พร้อมในบทศึกษาหรือแบบฝึกหัดนี้ไหม

ท่านผู้อ่านทั้งหลายจะลองดูด้วยก็ได้นะครับ แล้วมาคุยกัน




อ้างคำพูด:
ถ้าอยากจะเห็น อัตตา อนัตตาและนิโรธะ ให้หายใจเข้าให้เต็มปอดแล้วกลั้นหายใจไว้ให้นานๆที่สุดพร้อมกับสังเกตให้ดีๆว่าตอนที่กลั้นอยู่นั้น
ใครสั่ง
ในกายเกิดอะไร
ในจิตเกิดอะไร


ท่านอโศก จะรื้อฟื้นบำเพ็ญทุกรกิริยาหรอขอรับ (ลูกศิษย์คิดล้างครู คิกๆๆ) ที่ว่านั่นน่าพระพุทธเจ้าทดลองมาแล้ว รู้แล้ว่าว่าเป็นอัตตกิลมถานุโยค แล้วก็เลิกไป

จบครับชีวิตท่านอโศก ไม่เหลืออะไรเลย ทั้งปริยัติ ปฏิบัติ :b32: ยิ่งปฏิเวธ ไม่ต้องฝันถึงเลย เพราะอะไร ? เพราะปฏิบัติผิดเสียแล้ว ปฏิเวธจะเอามาแต่ไหน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2016, 01:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b34:
:b7:
ฟุ้งซ่านไปเรื่อยเลย ทั้งกรัชกายทั้งกบ เป็นเหมือนกันหมดอย่างที่ภาษิตเขาว่า

"ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียด"


ดูประเด็นให้ดีๆเขาชี้ตรงไหน?

ยังไม่ได้ทดลองทำก็มามโนตอบมั่วๆอีก ทำดูดีๆก่อนแล้วค่อยมาวิตกวิจารณ์
อย่าให้ชวดเชยสิ่งดีๆไปเสียด้วยอำนาจสักกายทิฏฐิ มานะทิฏฐิของตนเลยกรัชกาย


"รู้มาก ยากนาน"

"ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด"

"ธรรมใดก็ไร้ค่า ถ้าไม่ทำ"

onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2016, 05:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แห่ม..ชอบพ่วงกบ..อยู่เรื่อยเลย..

เหงารึงัย.. :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2016, 06:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แห่ม..ชอบพ่วงกบ..อยู่เรื่อยเลย..

เหงารึงัย.. :b32: :b32: :b32:

:b12: :b13:
ก็คงเหงามั้งถ้าไม่ได้ดึงกบมาแจมด้วย กลัวกรัชกายไม่มีเพื่อน
:b12:
ยังไๆก็ลองนั่งฝึกบทเรียนสังเกตลมหายใจดูบ้างนะจะได้ของดีวิเศษเป็นรางวัลชีวิตเนื่องในโอกาสวิสาขะบูชาปุณมีปี 2559 นี้
:b38:
เดี๋ยวจะทำเป็นกระทู้ "ลมหายใจคือกุญแจไขความลับของชีวิตและธรรมะ"
มาให้ศึกษาและถกเถียงกันอีกที หลังวิสาขะก่อนนะครับ
smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2016, 06:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แห่ม..ชอบพ่วงกบ..อยู่เรื่อยเลย..

เหงารึงัย.. :b32: :b32: :b32:

:b12: :b13:
ก็คงเหงามั้งถ้าไม่ได้ดึงกบมาแจมด้วย กลัวกรัชกายไม่มีเพื่อน
:b12:
ยังไๆก็ลองนั่งฝึกบทเรียนสังเกตลมหายใจดูบ้างนะจะได้ของดีวิเศษเป็นรางวัลชีวิตเนื่องในโอกาสวิสาขะบูชาปุณมีปี 2559 นี้
:b38:
เดี๋ยวจะทำเป็นกระทู้ "ลมหายใจคือกุญแจไขความลับของชีวิตและธรรมะ"
มาให้ศึกษาและถกเถียงกันอีกที หลังวิสาขะก่อนนะครับ
smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2016, 08:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านอโศกไปศึกษาวิธีที่พระโพธิสัตว์ทำทุกรกิริยาเถิด :b1: ว่าทำยังไง แล้วทำไมจึงล้มเลิก

ต้องรู้ให้ชัด จึงจะเรียกว่าปัญญา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2016, 07:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ท่านอโศกไปศึกษาวิธีที่พระโพธิสัตว์ทำทุกรกิริยาเถิด :b1: ว่าทำยังไง แล้วทำไมจึงล้มเลิก

ต้องรู้ให้ชัด จึงจะเรียกว่าปัญญา

:b13:
กรัชกายนี้ยอดฟุ้งจริงๆ

อาจารย์สอนให้ลองสังเกตลมหายใจ ลองกลั้นลมหายใจแล้วสังเกตก็เพื่อให้เกิดภาวนามยปัญญาเห็นความจริงที่เป็นแบบอย่างง่ายๆให้เห็นสรุปธรรมตัวอย่างอันวิเศษ ลองทำดูจริงๆก่อนซิมันไม่ตายหรอกแต่กลับจะเห็นจริงหลายอย่างที่ไม่ต้องอธิบาย
onion
แต่นี่จิตของกรัชกายแลบฟุ้งไปไกลถึงสมัยพระโพธิสัตว์ทรมาณกายโน้น ฟุ้งไกลจนสุดกู่เรียกไม่กลับก็จะหมดโอกาสเลยนะนี่
:b7:
ปัญญาคิดนึกศึกษาฟังอ่านนั้นมันเป็นลมเลื่อนลอยเหมือนเพ้อฝัน มันจะสู้ปัญญาจากการลงมือทำจริงแล้ว รู้ ไม่ได้แน่ๆ
onion
ลงมือลองกลั้นหายใจแล้วสังเกตดีๆก่อนสิ

มีอะไรเกิดขึ้นในกาย

มีอะไรเกิดขึ้นในจิต

ถึงทีสุดแล้วมีอะไรเกิดขึ้น

สังเกตการณ์แล้วจดจำรายละเอียดที่เกิดขึ้นในกายในจิตให้ได้มากที่สุดแล้วนำมารายงานให้ทราบที่นี่หลังจากนั้นจะวิเคราะห์ให้ฟังว่ากรัชกายเป็นอย่างไร ถึงไหน สติปัญญาเป็นอย่างไร?
smiley


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 97 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร