วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 18:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 216 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 15  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 03:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปัญหาชนชั้น

สุดท้ายดูเหมือนว่าสังคมไทยที่เคยได้ชื่อว่าประนีประนอม ออมชอม และประสานประโยชน์ระหว่างกันนั้น คงจะหมดไปแล้ว เหลือแต่ความรู้สึกแตกต่างระหว่างชนชั้นอย่างชัดเจน ปัญหานี้เกิดจากชนชั้นผู้ปกครองที่มีความต้องการหรือจิตใต้สำนึกที่ไม่รู้ ตัวก็ตามได้ตอกย้ำความแตกต่างนี้ตลอดเวลา

สิ่งที่ชนชั้นสูงแสดงออกคือ การดูถูกเหยียดหยามชนชั้นล่าง อาศัยเส้นสาย เอาเปรียบคนอื่น ช่วยเหลือคนในกลุ่มชนชั้นเดียวกัน ลงโทษอย่างรุนแรงกับชนชั้นล่างที่ไม่รู้กฎหมาย แต่ชนชั้นสูงที่ทำผิด เช่น ยึดพื้นที่ป่าสงวนฯและยอมส่งคืนก็จะไม่ผิด แต่คนที่เก็บของป่าในพื้นที่เดียวกันอาจติดคุก

เมื่อไม่นานมานี้ชนชั้นสูงต่างดาหน้าออกมาบอกว่าประชาชนยังโง่ ไม่มีความรู้ บางคนถึงกับเปรียบเทียบประชาชนไม่ต่างจากสุนัข ต้องมีคนที่มีความรู้เช่นพวกตนหรือเป็นคนดีที่แต่งตั้งกันเองมาปกครอง ยิ่งไปกว่านั้นยังเขียนรัฐธรรมนูญให้ปกครองด้วยระบบราชการและชนชั้นสูงที่มี อำนาจล้นเหลือ จะด้วยความรังเกียจตัวแทนประชาชนหรือกลัวอำนาจและผลประโยชน์ที่ได้มาด้วย ระบบเส้นสายจะหมดไปก็ตาม


ตัวอย่างการเขียนบิดเบือน..วาทะกรรมมีเจตนาอกุศล..

นี้..ศีลไม่ดีแล้วละกรัชกาย...จะประสาอะไรเรื่องที่จะพูดตามมา..

ทำตัวไม่น่าเชื่อถือ...เอง



ปัญหา อยู่ตรงนี้กบ คือ พื้นที่ที่นั้น เป็นพื้นที่สงวนตามนิติเหมือนกัน ถึงจะอยู่คนละแห่ง คนละจังหวัดก็ตาม เช่น แห่งหนึ่งเป็นที่ที่สงวน แต่มีคนมียศถาบรรดาศักดิ์ ขึ้นไปปลูกบ้านอยู่บนยอดเขา ตัดสินว่าไม่มีเจตนา พ้นผิดทางนิติรัฐไป

แต่อีกแห่งหนึ่ง เป็นที่สงวนตามนิติรัฐเหมือนกัน แต่ชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีฐานะทางสังคมใดๆ ไปเก็บเห็ด เก็บหอยประทังชีวิต แต่ถูกตัดสินตามนิติรัฐว่าผิดติดคุก

มันต่างกันมั้ย :b1:


พระพุทธองค์ตรัสว่า...เรากล่าวว่าเจตนาว่าเป็นกรรม
เขายายเที่ยง..เขาซื้อมาจากคนอื่นๆที่มีชื่อครอบครองอยู่ก่อนมาหลายทอดแล้ว..

นี้งัย..ตัวผิดศีล...ของกรัชกาย

รู้ทั้งรู้...ว่า..ชาวบ้านที่ถูกตัดสินติดคุก...ศาลเขาตัดสินในคดีตัดไม้ห่วงห้าม...แต่กรัชกายตั้งใจพูดคลุมเครือเพื่อให้เข้าใจว่า..ติดคุกเพราะการเก็บเห็ด..

เจตนาบิดเบือน...นี้...กรัชกายทำทำไมละคับ?


โพสต์ เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 05:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปัญหาชนชั้น

สุดท้ายดูเหมือนว่าสังคมไทยที่เคยได้ชื่อว่าประนีประนอม ออมชอม และประสานประโยชน์ระหว่างกันนั้น คงจะหมดไปแล้ว เหลือแต่ความรู้สึกแตกต่างระหว่างชนชั้นอย่างชัดเจน ปัญหานี้เกิดจากชนชั้นผู้ปกครองที่มีความต้องการหรือจิตใต้สำนึกที่ไม่รู้ ตัวก็ตามได้ตอกย้ำความแตกต่างนี้ตลอดเวลา

สิ่งที่ชนชั้นสูงแสดงออกคือ การดูถูกเหยียดหยามชนชั้นล่าง อาศัยเส้นสาย เอาเปรียบคนอื่น ช่วยเหลือคนในกลุ่มชนชั้นเดียวกัน ลงโทษอย่างรุนแรงกับชนชั้นล่างที่ไม่รู้กฎหมาย แต่ชนชั้นสูงที่ทำผิด เช่น ยึดพื้นที่ป่าสงวนฯและยอมส่งคืนก็จะไม่ผิด แต่คนที่เก็บของป่าในพื้นที่เดียวกันอาจติดคุก

เมื่อไม่นานมานี้ชนชั้นสูงต่างดาหน้าออกมาบอกว่าประชาชนยังโง่ ไม่มีความรู้ บางคนถึงกับเปรียบเทียบประชาชนไม่ต่างจากสุนัข ต้องมีคนที่มีความรู้เช่นพวกตนหรือเป็นคนดีที่แต่งตั้งกันเองมาปกครอง ยิ่งไปกว่านั้นยังเขียนรัฐธรรมนูญให้ปกครองด้วยระบบราชการและชนชั้นสูงที่มี อำนาจล้นเหลือ จะด้วยความรังเกียจตัวแทนประชาชนหรือกลัวอำนาจและผลประโยชน์ที่ได้มาด้วย ระบบเส้นสายจะหมดไปก็ตาม


ตัวอย่างการเขียนบิดเบือน..วาทะกรรมมีเจตนาอกุศล..

นี้..ศีลไม่ดีแล้วละกรัชกาย...จะประสาอะไรเรื่องที่จะพูดตามมา..

ทำตัวไม่น่าเชื่อถือ...เอง



ปัญหา อยู่ตรงนี้กบ คือ พื้นที่ที่นั้น เป็นพื้นที่สงวนตามนิติเหมือนกัน ถึงจะอยู่คนละแห่ง คนละจังหวัดก็ตาม เช่น แห่งหนึ่งเป็นที่ที่สงวน แต่มีคนมียศถาบรรดาศักดิ์ ขึ้นไปปลูกบ้านอยู่บนยอดเขา ตัดสินว่าไม่มีเจตนา พ้นผิดทางนิติรัฐไป

แต่อีกแห่งหนึ่ง เป็นที่สงวนตามนิติรัฐเหมือนกัน แต่ชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีฐานะทางสังคมใดๆ ไปเก็บเห็ด เก็บหอยประทังชีวิต แต่ถูกตัดสินตามนิติรัฐว่าผิดติดคุก

มันต่างกันมั้ย :b1:


พระพุทธองค์ตรัสว่า...เรากล่าวว่าเจตนาว่าเป็นกรรม
เขายายเที่ยง..เขาซื้อมาจากคนอื่นๆที่มีชื่อครอบครองอยู่ก่อนมาหลายทอดแล้ว..

นี้งัย..ตัวผิดศีล...ของกรัชกาย

รู้ทั้งรู้...ว่า..ชาวบ้านที่ถูกตัดสินติดคุก...ศาลเขาตัดสินในคดีตัดไม้ห่วงห้าม...แต่กรัชกายตั้งใจพูดคลุมเครือเพื่อให้เข้าใจว่า..ติดคุกเพราะการเก็บเห็ด..

เจตนาบิดเบือน...นี้...กรัชกายทำทำไมละคับ?


เขาไม่รู้หรือว่ายอดเขาเป็นที่ป่าสงวน ไม่รู้หรือ ซื้อได้ไง :b1: (ถ้าจริงตามกบพูด)

ทนายพาตายายไปร้องขอความเป็นธรรมแล้วว่า ถูกนายทุนใส่ร้ายปั้นพยานเท็จ :b1:

http://news.sanook.com/1393852/

อ้างคำพูด:
นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ กล่าวว่า จากการช่วยเหลือคดีนั้น พบพิรุธและถูกข่มขู่ คุกคามจากการช่วยเหลือตายายที่ไม่รู้หนังสือและตกเป็นเหยื่อด้วย จึงจะได้พาทั้งคู่เข้าร้องสื่อมวลชน ที่กองบังคับการปราบปราม ในวันที่ 10 มกราคม 57 เวลา 13.30 น. เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและให้กองปราบปรามได้ทำการสืบสวนสอบสวนจับกุมกลุ่มที่บุกรุกป่าตัวจริง และดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป


https://www.youtube.com/watch?v=xQPIYIvGo6o

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 07:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กระบวนการยุติของไทยเป็นระบบกล่าวหา เพียงสงสัย จนท.ก็จับผู้นั้นยัดเข้าคุกก่อนแล้ว ค่อยมาสืบหาพยานหลักฐานทีหลัง สอบไปสืบมา อ้าวตายล่ะวา คนที่จับไปขังทีแรกเป็นผู้บริสุทธิ์

ติดคุกฟรีๆ ค่าชดเชยบาดแผลทางใจก็ไม่มี

รูปภาพ

หลายๆคนตรมใจตายในคุก ใครรับผิดชอบ สังเกตดูเถอะ ผู้ที่รับชะตากรรมเช่นนี้ เป็นชาวบ้านตาดำๆทั้งเพ :b24:

ตย. คดี เชอร์รี่ แอน

http://www.thairath.co.th/content/462183


ปัจจุบันกำลังใช้กฏหมายพิเศษไล่ล่าคนคิดต่าง ฝ่ายตรงข้ามอย่างเอาเป็นเอาตาย

สังคมไร้วี่แววความสงบ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 08:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

ติดคุกฟรีๆ ค่าชดเชยบาดแผลทางใจก็ไม่มี


พูด..มั่ว ๆ..อีกแล้ว..
พูดเอาแต่อารมณ์..


โพสต์ เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 19:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปัญหาชนชั้น

สุดท้ายดูเหมือนว่าสังคมไทยที่เคยได้ชื่อว่าประนีประนอม ออมชอม และประสานประโยชน์ระหว่างกันนั้น คงจะหมดไปแล้ว เหลือแต่ความรู้สึกแตกต่างระหว่างชนชั้นอย่างชัดเจน ปัญหานี้เกิดจากชนชั้นผู้ปกครองที่มีความต้องการหรือจิตใต้สำนึกที่ไม่รู้ ตัวก็ตามได้ตอกย้ำความแตกต่างนี้ตลอดเวลา

สิ่งที่ชนชั้นสูงแสดงออกคือ การดูถูกเหยียดหยามชนชั้นล่าง อาศัยเส้นสาย เอาเปรียบคนอื่น ช่วยเหลือคนในกลุ่มชนชั้นเดียวกัน ลงโทษอย่างรุนแรงกับชนชั้นล่างที่ไม่รู้กฎหมาย แต่ชนชั้นสูงที่ทำผิด เช่น ยึดพื้นที่ป่าสงวนฯและยอมส่งคืนก็จะไม่ผิด แต่คนที่เก็บของป่าในพื้นที่เดียวกันอาจติดคุก

เมื่อไม่นานมานี้ชนชั้นสูงต่างดาหน้าออกมาบอกว่าประชาชนยังโง่ ไม่มีความรู้ บางคนถึงกับเปรียบเทียบประชาชนไม่ต่างจากสุนัข ต้องมีคนที่มีความรู้เช่นพวกตนหรือเป็นคนดีที่แต่งตั้งกันเองมาปกครอง ยิ่งไปกว่านั้นยังเขียนรัฐธรรมนูญให้ปกครองด้วยระบบราชการและชนชั้นสูงที่มี อำนาจล้นเหลือ จะด้วยความรังเกียจตัวแทนประชาชนหรือกลัวอำนาจและผลประโยชน์ที่ได้มาด้วย ระบบเส้นสายจะหมดไปก็ตาม


ตัวอย่างการเขียนบิดเบือน..วาทะกรรมมีเจตนาอกุศล..

นี้..ศีลไม่ดีแล้วละกรัชกาย...จะประสาอะไรเรื่องที่จะพูดตามมา..

ทำตัวไม่น่าเชื่อถือ...เอง



ปัญหา อยู่ตรงนี้กบ คือ พื้นที่ที่นั้น เป็นพื้นที่สงวนตามนิติเหมือนกัน ถึงจะอยู่คนละแห่ง คนละจังหวัดก็ตาม เช่น แห่งหนึ่งเป็นที่ที่สงวน แต่มีคนมียศถาบรรดาศักดิ์ ขึ้นไปปลูกบ้านอยู่บนยอดเขา ตัดสินว่าไม่มีเจตนา พ้นผิดทางนิติรัฐไป

แต่อีกแห่งหนึ่ง เป็นที่สงวนตามนิติรัฐเหมือนกัน แต่ชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีฐานะทางสังคมใดๆ ไปเก็บเห็ด เก็บหอยประทังชีวิต แต่ถูกตัดสินตามนิติรัฐว่าผิดติดคุก

มันต่างกันมั้ย :b1:


พระพุทธองค์ตรัสว่า...เรากล่าวว่าเจตนาว่าเป็นกรรม
เขายายเที่ยง..เขาซื้อมาจากคนอื่นๆที่มีชื่อครอบครองอยู่ก่อนมาหลายทอดแล้ว..

นี้งัย..ตัวผิดศีล...ของกรัชกาย

รู้ทั้งรู้...ว่า..ชาวบ้านที่ถูกตัดสินติดคุก...ศาลเขาตัดสินในคดีตัดไม้ห่วงห้าม...แต่กรัชกายตั้งใจพูดคลุมเครือเพื่อให้เข้าใจว่า..ติดคุกเพราะการเก็บเห็ด..

เจตนาบิดเบือน...นี้...กรัชกายทำทำไมละคับ?


เขาไม่รู้หรือว่ายอดเขาเป็นที่ป่าสงวน ไม่รู้หรือ ซื้อได้ไง :b1: (ถ้าจริงตามกบพูด)


อย่าแถออกนอกประเด็นที่ผมกล่าวหากรัชกาย..ที่ว่า..เจตนาบิดเบือน..".เก็บเห็ดประทังชีวิตแต่ถูกตัดสินว่าผิดติดคุก..."
ซี...
ผมถามกรัชกายว่า..ทำอย่างนี้ทำไม..บิดเบือนนี้นะ

ส่วนประเด็น..รู้ไม่รู่ว่ายอดเขาเป็นป่าสงวน..นี้..กรัชกายก็มาแนวปลุกระดม..อีกแระ..เด้วผมจะมาตอกกรัชกายทีหลัง..


โพสต์ เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 20:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปัญหาชนชั้น

สุดท้ายดูเหมือนว่าสังคมไทยที่เคยได้ชื่อว่าประนีประนอม ออมชอม และประสานประโยชน์ระหว่างกันนั้น คงจะหมดไปแล้ว เหลือแต่ความรู้สึกแตกต่างระหว่างชนชั้นอย่างชัดเจน ปัญหานี้เกิดจากชนชั้นผู้ปกครองที่มีความต้องการหรือจิตใต้สำนึกที่ไม่รู้ ตัวก็ตามได้ตอกย้ำความแตกต่างนี้ตลอดเวลา

สิ่งที่ชนชั้นสูงแสดงออกคือ การดูถูกเหยียดหยามชนชั้นล่าง อาศัยเส้นสาย เอาเปรียบคนอื่น ช่วยเหลือคนในกลุ่มชนชั้นเดียวกัน ลงโทษอย่างรุนแรงกับชนชั้นล่างที่ไม่รู้กฎหมาย แต่ชนชั้นสูงที่ทำผิด เช่น ยึดพื้นที่ป่าสงวนฯและยอมส่งคืนก็จะไม่ผิด แต่คนที่เก็บของป่าในพื้นที่เดียวกันอาจติดคุก

เมื่อไม่นานมานี้ชนชั้นสูงต่างดาหน้าออกมาบอกว่าประชาชนยังโง่ ไม่มีความรู้ บางคนถึงกับเปรียบเทียบประชาชนไม่ต่างจากสุนัข ต้องมีคนที่มีความรู้เช่นพวกตนหรือเป็นคนดีที่แต่งตั้งกันเองมาปกครอง ยิ่งไปกว่านั้นยังเขียนรัฐธรรมนูญให้ปกครองด้วยระบบราชการและชนชั้นสูงที่มี อำนาจล้นเหลือ จะด้วยความรังเกียจตัวแทนประชาชนหรือกลัวอำนาจและผลประโยชน์ที่ได้มาด้วย ระบบเส้นสายจะหมดไปก็ตาม


ตัวอย่างการเขียนบิดเบือน..วาทะกรรมมีเจตนาอกุศล..

นี้..ศีลไม่ดีแล้วละกรัชกาย...จะประสาอะไรเรื่องที่จะพูดตามมา..

ทำตัวไม่น่าเชื่อถือ...เอง



ปัญหา อยู่ตรงนี้กบ คือ พื้นที่ที่นั้น เป็นพื้นที่สงวนตามนิติเหมือนกัน ถึงจะอยู่คนละแห่ง คนละจังหวัดก็ตาม เช่น แห่งหนึ่งเป็นที่ที่สงวน แต่มีคนมียศถาบรรดาศักดิ์ ขึ้นไปปลูกบ้านอยู่บนยอดเขา ตัดสินว่าไม่มีเจตนา พ้นผิดทางนิติรัฐไป

แต่อีกแห่งหนึ่ง เป็นที่สงวนตามนิติรัฐเหมือนกัน แต่ชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีฐานะทางสังคมใดๆ ไปเก็บเห็ด เก็บหอยประทังชีวิต แต่ถูกตัดสินตามนิติรัฐว่าผิดติดคุก

มันต่างกันมั้ย :b1:


พระพุทธองค์ตรัสว่า...เรากล่าวว่าเจตนาว่าเป็นกรรม
เขายายเที่ยง..เขาซื้อมาจากคนอื่นๆที่มีชื่อครอบครองอยู่ก่อนมาหลายทอดแล้ว..

นี้งัย..ตัวผิดศีล...ของกรัชกาย

รู้ทั้งรู้...ว่า..ชาวบ้านที่ถูกตัดสินติดคุก...ศาลเขาตัดสินในคดีตัดไม้ห่วงห้าม...แต่กรัชกายตั้งใจพูดคลุมเครือเพื่อให้เข้าใจว่า..ติดคุกเพราะการเก็บเห็ด..

เจตนาบิดเบือน...นี้...กรัชกายทำทำไมละคับ?


เขาไม่รู้หรือว่ายอดเขาเป็นที่ป่าสงวน ไม่รู้หรือ ซื้อได้ไง :b1: (ถ้าจริงตามกบพูด)


อย่าแถออกนอกประเด็นที่ผมกล่าวหากรัชกาย..ที่ว่า..เจตนาบิดเบือน..".เก็บเห็ดประทังชีวิตแต่ถูกตัดสินว่าผิดติดคุก..."
ซี...
ผมถามกรัชกายว่า..ทำอย่างนี้ทำไม..บิดเบือนนี้นะ

ส่วนประเด็น..รู้ไม่รู่ว่ายอดเขาเป็นป่าสงวน..นี้..กรัชกายก็มาแนวปลุกระดม..อีกแระ..เด้วผมจะมาตอกกรัชกายทีหลัง..


ครอบครองได้ยังไง สำนักงานที่ดินออกเอกสารสิทธิ์ให้ได้หรอ ที่ยอดเขา

แล้วที่ว่า ซื้อที่ยอดเขา เอาหลักฐานมาให้ดูสิ ซื้อมาได้ยังไง

เอาข่าวมาให้ดูไม่ดูหรอ คลิปก็มี คิกๆๆ ตายายไปเก็บเห็ด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 20:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:


ปัญหาชนชั้น

สุดท้ายดูเหมือนว่าสังคมไทยที่เคยได้ชื่อว่าประนีประนอม ออมชอม และประสานประโยชน์ระหว่างกันนั้น คงจะหมดไปแล้ว เหลือแต่ความรู้สึกแตกต่างระหว่างชนชั้นอย่างชัดเจน ปัญหานี้เกิดจากชนชั้นผู้ปกครองที่มีความต้องการหรือจิตใต้สำนึกที่ไม่รู้ ตัวก็ตามได้ตอกย้ำความแตกต่างนี้ตลอดเวลา

สิ่งที่ชนชั้นสูงแสดงออกคือ การดูถูกเหยียดหยามชนชั้นล่าง อาศัยเส้นสาย เอาเปรียบคนอื่น ช่วยเหลือคนในกลุ่มชนชั้นเดียวกัน ลงโทษอย่างรุนแรงกับชนชั้นล่างที่ไม่รู้กฎหมาย แต่ชนชั้นสูงที่ทำผิด เช่น ยึดพื้นที่ป่าสงวนฯและยอมส่งคืนก็จะไม่ผิด แต่คนที่เก็บของป่าในพื้นที่เดียวกันอาจติดคุก

เมื่อไม่นานมานี้ชนชั้นสูงต่างดาหน้าออกมาบอกว่าประชาชนยังโง่ ไม่มีความรู้ บางคนถึงกับเปรียบเทียบประชาชนไม่ต่างจากสุนัข ต้องมีคนที่มีความรู้เช่นพวกตนหรือเป็นคนดีที่แต่งตั้งกันเองมาปกครอง ยิ่งไปกว่านั้นยังเขียนรัฐธรรมนูญให้ปกครองด้วยระบบราชการและชนชั้นสูงที่มี อำนาจล้นเหลือ จะด้วยความรังเกียจตัวแทนประชาชนหรือกลัวอำนาจและผลประโยชน์ที่ได้มาด้วย ระบบเส้นสายจะหมดไปก็ตาม






ป๊าด กบเอ้ย ไม่ดูลิงค์ที่แนบไว้หรอ :b32:

แล้วที่เขาเขียนนั่นน่ามันจริงไหม :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 20:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ปัญหาชนชั้น

สุดท้ายดูเหมือนว่าสังคมไทยที่เคยได้ชื่อว่าประนีประนอม ออมชอม และประสานประโยชน์ระหว่างกันนั้น คงจะหมดไปแล้ว เหลือแต่ความรู้สึกแตกต่างระหว่างชนชั้นอย่างชัดเจน ปัญหานี้เกิดจากชนชั้นผู้ปกครองที่มีความต้องการหรือจิตใต้สำนึกที่ไม่รู้ ตัวก็ตามได้ตอกย้ำความแตกต่างนี้ตลอดเวลา

สิ่งที่ชนชั้นสูงแสดงออกคือ การดูถูกเหยียดหยามชนชั้นล่าง อาศัยเส้นสาย เอาเปรียบคนอื่น ช่วยเหลือคนในกลุ่มชนชั้นเดียวกัน ลงโทษอย่างรุนแรงกับชนชั้นล่างที่ไม่รู้กฎหมาย แต่ชนชั้นสูงที่ทำผิด เช่น ยึดพื้นที่ป่าสงวนฯและยอมส่งคืนก็จะไม่ผิด แต่คนที่เก็บของป่าในพื้นที่เดียวกันอาจติดคุก

เมื่อไม่นานมานี้ชนชั้นสูงต่างดาหน้าออกมาบอกว่าประชาชนยังโง่ ไม่มีความรู้ บางคนถึงกับเปรียบเทียบประชาชนไม่ต่างจากสุนัข ต้องมีคนที่มีความรู้เช่นพวกตนหรือเป็นคนดีที่แต่งตั้งกันเองมาปกครอง ยิ่งไปกว่านั้นยังเขียนรัฐธรรมนูญให้ปกครองด้วยระบบราชการและชนชั้นสูงที่มี อำนาจล้นเหลือ จะด้วยความรังเกียจตัวแทนประชาชนหรือกลัวอำนาจและผลประโยชน์ที่ได้มาด้วย ระบบเส้นสายจะหมดไปก็ตาม

ทำไมจึงเกิดปัญหาชนชั้นขึ้นมา นี่เป็นคำถามของตะวันตกเมื่อ 300 ปีก่อน ซึ่งไม่ต่างจากสังคมไทยในปัจจุบันที่พัฒนาใกล้จะเข้าสู่การมีวุฒิภาวะแห่งความเท่าเทียมกันแล้วในไม่ช้านี้ เพราะระบบการผลิตหรือการทำมาหากินได้พัฒนาไปเรื่อยๆจนกระทั่งชนชั้นล่างมี ช่องทางค้าขายได้มากขึ้น มีความพยายามปลดเปลื้องการผูกขาดทั้งปวงลง หรืออย่างน้อยก็มีการแข่งขันมากขึ้น จนกระทั่งในหมู่ชนชั้นสูงเริ่มไม่แน่ใจในฐานะของตนเอง

ประสบการณ์ชี้ให้เห็นว่า ชนชั้นสูงทำมาหากินไม่เป็น บางคนให้ไปซื้อของในตลาดก็อาจทำไม่ได้ ลูกหลานของมูลนายในสมัยศักดินา เมื่อต้องมาเรียนหรือทำงานแข่งกับสามัญชนก็ไม่สามารถสู้ได้ สุดท้ายต้องออกแบบระบบการศึกษาให้เป็นฝ่ายได้เปรียบเท่านั้นจึงจะเข้าถึง เป้าหมายได้ หรือระบบการคัดเลือกเข้าทำงาน ระบบธุรกิจที่เกาะกลุ่มทำธุรกิจแบบไม่มีประสิทธิภาพ แต่อาศัยเส้นสาย ความคุ้นเคย กีดกันระบบมาตรฐานสากลต่างๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนไว้

ความพยายามที่จะคงผลประโยชน์ และอำนาจไว้นี้ ทำให้ระบบชนชั้นต้องอาศัยธุรกิจประเภทผูกขาดที่ใช้อำนาจรัฐในการเอาเปรียบ คู่แข่งในประเทศ เมื่อไปแข่งขันกับต่างประเทศจึงพ่ายแพ้ทุกครั้ง ธุรกิจผูกขาดลักษณะนี้ทำให้คนส่วนใหญ่ได้แก่เกษตรกรและผู้ใช้แรงงานมีชีวิต ลำบากยากแค้น มีรายได้ต่ำ รายจ่ายสูง ถึงขั้นมีการตกเขียวกัน

ข้อเสนอแนะนโยบายต่างๆก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ธุรกิจของตนเองและพยายามเอา เปรียบธุรกิจที่แข่งขันอื่นๆ คิดแต่จะแสวงหาผลประโยชน์จากระบบผูกขาดเท่านั้น ไม่สนใจว่าจะทำนาบนหลังคน ไม่คิดช่วยเหลือคนส่วนใหญ่ของประเทศ มองคนส่วนใหญ่อย่างดูถูก เห็นคนเหล่านี้เป็นภาระ

ในไม่ช้าปัญหาระหว่างชนชั้นก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง และส่งผลให้ประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่ดีขึ้น ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้นและจะไม่ยอมให้มีการยึดอำนาจอีก ไม่ยอมให้กลุ่มทุนผูกขาดสามานย์กลับมาเอาเปรียบประชาชนได้อีก

จะเป็นการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนผ่าน ปฏิรูป หรือปฏิวัติก็ตาม ขึ้นอยู่กับขอบเขตและความรุนแรงที่จะตามมา แน่นอนว่าระบอบเก่าจะอยู่ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่สามารถดำรงอยู่ตามมาตรฐานสากลได้ เพราะลูกจ้างหรือข้าราชการไม่มีคุณภาพ เนื่องจากการใช้ระบบเส้นสายจะแก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้นัก

สุดท้ายเมื่อเกิดภาวะความยากจนอย่างรุนแรง ความไม่พอใจก็จะตามมา และจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในที่สุด อย่างภาวะภัยแล้งขณะนี้ จึงให้จับตามองว่าอาจจะเห็นการก่อตัวเพื่อความอยู่รอด แต่จะเป็นไปอย่างสันติหรือไม่สันติ ใครหรือปัจจัยอะไรจะเป็นตัวชนวนนั้น

http://www.lokwannee.com/web2013/?p=212539



เอ้าย้ำอีกที :b14: ดูลิงค์ที่มาด้วย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 21:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


น่าจะไปกันได้ :b1:

https://www.facebook.com/media/set/?set ... nref=story

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 21:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปัญหาชนชั้น

สุดท้ายดูเหมือนว่าสังคมไทยที่เคยได้ชื่อว่าประนีประนอม ออมชอม และประสานประโยชน์ระหว่างกันนั้น คงจะหมดไปแล้ว เหลือแต่ความรู้สึกแตกต่างระหว่างชนชั้นอย่างชัดเจน ปัญหานี้เกิดจากชนชั้นผู้ปกครองที่มีความต้องการหรือจิตใต้สำนึกที่ไม่รู้ ตัวก็ตามได้ตอกย้ำความแตกต่างนี้ตลอดเวลา

สิ่งที่ชนชั้นสูงแสดงออกคือ การดูถูกเหยียดหยามชนชั้นล่าง อาศัยเส้นสาย เอาเปรียบคนอื่น ช่วยเหลือคนในกลุ่มชนชั้นเดียวกัน ลงโทษอย่างรุนแรงกับชนชั้นล่างที่ไม่รู้กฎหมาย แต่ชนชั้นสูงที่ทำผิด เช่น ยึดพื้นที่ป่าสงวนฯและยอมส่งคืนก็จะไม่ผิด แต่คนที่เก็บของป่าในพื้นที่เดียวกันอาจติดคุก

เมื่อไม่นานมานี้ชนชั้นสูงต่างดาหน้าออกมาบอกว่าประชาชนยังโง่ ไม่มีความรู้ บางคนถึงกับเปรียบเทียบประชาชนไม่ต่างจากสุนัข ต้องมีคนที่มีความรู้เช่นพวกตนหรือเป็นคนดีที่แต่งตั้งกันเองมาปกครอง ยิ่งไปกว่านั้นยังเขียนรัฐธรรมนูญให้ปกครองด้วยระบบราชการและชนชั้นสูงที่มี อำนาจล้นเหลือ จะด้วยความรังเกียจตัวแทนประชาชนหรือกลัวอำนาจและผลประโยชน์ที่ได้มาด้วย ระบบเส้นสายจะหมดไปก็ตาม


ตัวอย่างการเขียนบิดเบือน..วาทะกรรมมีเจตนาอกุศล..

นี้..ศีลไม่ดีแล้วละกรัชกาย...จะประสาอะไรเรื่องที่จะพูดตามมา..

ทำตัวไม่น่าเชื่อถือ...เอง



ปัญหา อยู่ตรงนี้กบ คือ พื้นที่ที่นั้น เป็นพื้นที่สงวนตามนิติเหมือนกัน ถึงจะอยู่คนละแห่ง คนละจังหวัดก็ตาม เช่น แห่งหนึ่งเป็นที่ที่สงวน แต่มีคนมียศถาบรรดาศักดิ์ ขึ้นไปปลูกบ้านอยู่บนยอดเขา ตัดสินว่าไม่มีเจตนา พ้นผิดทางนิติรัฐไป

แต่อีกแห่งหนึ่ง เป็นที่สงวนตามนิติรัฐเหมือนกัน แต่ชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีฐานะทางสังคมใดๆ ไปเก็บเห็ด เก็บหอยประทังชีวิต แต่ถูกตัดสินตามนิติรัฐว่าผิดติดคุก

มันต่างกันมั้ย :b1:


พระพุทธองค์ตรัสว่า...เรากล่าวว่าเจตนาว่าเป็นกรรม
เขายายเที่ยง..เขาซื้อมาจากคนอื่นๆที่มีชื่อครอบครองอยู่ก่อนมาหลายทอดแล้ว..

นี้งัย..ตัวผิดศีล...ของกรัชกาย

รู้ทั้งรู้...ว่า..ชาวบ้านที่ถูกตัดสินติดคุก...ศาลเขาตัดสินในคดีตัดไม้ห่วงห้าม...แต่กรัชกายตั้งใจพูดคลุมเครือเพื่อให้เข้าใจว่า..ติดคุกเพราะการเก็บเห็ด..

เจตนาบิดเบือน...นี้...กรัชกายทำทำไมละคับ?


เขาไม่รู้หรือว่ายอดเขาเป็นที่ป่าสงวน ไม่รู้หรือ ซื้อได้ไง :b1: (ถ้าจริงตามกบพูด)


อย่าแถออกนอกประเด็นที่ผมกล่าวหากรัชกาย..ที่ว่า..เจตนาบิดเบือน..".เก็บเห็ดประทังชีวิตแต่ถูกตัดสินว่าผิดติดคุก..."
ซี...
ผมถามกรัชกายว่า..ทำอย่างนี้ทำไม..บิดเบือนนี้นะ

ส่วนประเด็น..รู้ไม่รู่ว่ายอดเขาเป็นป่าสงวน..นี้..กรัชกายก็มาแนวปลุกระดม..อีกแระ..เด้วผมจะมาตอกกรัชกายทีหลัง..


ครอบครองได้ยังไง สำนักงานที่ดินออกเอกสารสิทธิ์ให้ได้หรอ ที่ยอดเขา

แล้วที่ว่า ซื้อที่ยอดเขา เอาหลักฐานมาให้ดูสิ ซื้อมาได้ยังไง

เอาข่าวมาให้ดูไม่ดูหรอ คลิปก็มี คิกๆๆ ตายายไปเก็บเห็ด


ประเด็นที่่กรัชกาย..เจตนา...พูดจนทำให้ใครๆเข้าใจว่า...ตายายถูกตัดสินติดคุกเพียงเพราะเก็บเห็ด....นี้บิดเบือน...กรัชกายศีลก็ไม่มีนะนี้..

วาทะกรรมแบบนี้..พวกแดงอย่างกรัชกาย..เห็นชอบใช้กันจัง..


โพสต์ เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 21:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าเก่งแต่ตำรา...กรัชกาย..รักษาศีลให้ดี


โพสต์ เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 22:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอกหน้ากรัชกาย..ไปแล้วเรื่อง..ศีล

ทีนี้..ก็มาเรื่อง..บนเขา

ก็ไม่พ้นวาะกรรม..ที่กรัชกายชอบ..สร้างเพื่อป้ายสี...คนอื่น ๆ

กรัชกาย เขียน:

ปัญหา อยู่ตรงนี้กบ คือ พื้นที่ที่นั้น เป็นพื้นที่สงวนตามนิติเหมือนกัน ถึงจะอยู่คนละแห่ง คนละจังหวัดก็ตาม เช่น แห่งหนึ่งเป็นที่ที่สงวน แต่มีคนมียศถาบรรดาศักดิ์ ขึ้นไปปลูกบ้านอยู่บนยอดเขา ตัดสินว่าไม่มีเจตนา พ้นผิดทางนิติรัฐไป

แต่อีกแห่งหนึ่ง เป็นที่สงวนตามนิติรัฐเหมือนกัน แต่ชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีฐานะทางสังคมใดๆ ไปเก็บเห็ด เก็บหอยประทังชีวิต แต่ถูกตัดสินตามนิติรัฐว่าผิดติดคุก

มันต่างกันมั้ย :b1:


กรัชกาย..พยายามจะดราม่า..ด้วยเลห์กล..จนหากใครไม่รู้เรื้องราวมาก่อน..ย่อมเข้าใจว่า...คนมียศมีหน้าตามีพวกมาก...จะถูกตัดสินไปในทางเป็นประโยชน์...

.เอะอะอะไร..ก็ว่า..ชนชั้นวรรณะ..มียศมีบรรดาศักดิ์...ไม่ได้ดูเลย..ว่าเขาตัดสินจากหลักฐาน..

อ้างคำพูด:
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews ... 0000002631

ดังนั้น คดีจึงเสร็จเด็ดขาด โดยเหตุที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากที่ดินบนเขายายเที่ยงแปลงที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ครอบครองนั้น จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนมีหลักฐานว่าที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 67 (พ.ศ.2508) ออกตามความใน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ซึ่งกำหนดให้ป่าเขาเตียนและป่าเขาเขื่อนลั่น (เขายายเที่ยง) ในท้องที่ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง และตำบลลาดบัวขาว จังหวัดนครราชสีมา เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่ก่อนที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จะเข้าครอบครองปลูกเป็นที่พักอาศัย ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของนายเบ้า สินนอก และบุตรเขย ซึ่งนายเบ้าได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว โดยไม่มีเอกสารสิทธิจำนวน 10 ไร่ โดยไม่ทราบว่าเป็นที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนฯ แล้วเข้าไปทำไร่มันสำปะหลัง ละหุ่ง และข้าวโพด นอกจากนั้นที่ดินในเขตป่าสงวนเขายายเที่ยงยังมีราษฎรเข้าไปอยู่อาศัยทำกินเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2518 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมป่าไม้ดำเนินการปรับปรุงป่าสงวนแห่งชาติเขายายเที่ยง เพื่อจัดสรรให้ราษฎรทำกินครอบครัวละไม่เกิน 15 ไร่ (ให้ทำกินครอบครัวละ 14 ไร่ 2 งาน และให้เป็นที่อยู่อาศัยอีก 2 งาน) โดยมีเงื่อนไขไม่ให้กรรมสิทธิ์ แต่ให้สิทธ์ครอบครองตกทอดถึงทายาทโดยธรรมได้เป็นการถาวร เพื่อป้องกันไม่ให้นายทุนมาครอบครองโดยวิธีกว้านซื้อ โดยกรมป่าไม้จะออกใบอนุญาตชั่วคราวให้ราษฎรเข้าอยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าวโดยจัดตั้งในรูปหมู่บ้านป่าไม้ นายเบ้า และบุตรเขย จึงได้รับการจัดสรรที่ดินคนละ 15 ไร่ รวม 30 ไร่ และได้มีการเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) ตลอดมา ตั้งแต่ปี 2520-2538

ต่อมานายเบ้า ได้ขายที่ดินของตนเองและบุตรเขย จำนวน 20 ไร่ ให้นายนพดล พิทักษ์วาณิชย์ เมื่อปี 2538 พร้อมมอบหลักฐานการแสดงภาษี ให้แก่นายนพดล ด้วย และนายนพดล ได้เสียภาษีบำรุงท้องที่ระหว่างปี 2538-2540 ต่อมา พ.อ.สุรฤทธ์ จันทราทิพย์ เป็นผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่ในปี 2540-2545 และในวันที่ 6 ก.ค.2543 พล.ต.สุรฤทธ์ เป็นผู้ไปยื่นขอออกเลขที่บ้าน เลขที่ 10 ตำบลคลองไผ่ (เดิมอยู่ในเขตตำบลลาดบัวขาว) อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของ พล.อ.สุรยุทธ์ ในปัจจุบัน และในวันที่ 4 ก.ค. 2546 พล.ต.สุรฤทธ์ เป็นผู้ขออนุญาตใช้ไฟฟ้าในบ้านหลังดังกล่าว


กรมป่าไม้เป็นผู้ออกใบอนุญาติให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยและใช้ได้...เอง

ถ้าจะผิด..ก็ผิดที่ใช้ที่ดินไม่ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของราชการ...ไม่ใช่ในข้อหาการบุกรุกป่าสงวน..


กรัชกายเลิกสร้างวาทะกรรม...แนวดราม่า..บ่อนทำลายความเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรม..จนเกิดความวาดระแวงของผู้คนในสังคม..สร้างความแตกแยก..ซะ

หันมาดูแล..ศีล...ของตัวเองให้ดี..สังวรในศีล..ให้ดีดี..
ทาน..ศีล...ภาวนา..ดี..คงไม่มีพฤติกรรมอย่างนี้..นะ

...ทำตัวดี..แค่นี้ก็ช่วยชาติได้แล้ว...


โพสต์ เมื่อ: 08 พ.ค. 2016, 09:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปัญหาชนชั้น

สุดท้ายดูเหมือนว่าสังคมไทยที่เคยได้ชื่อว่าประนีประนอม ออมชอม และประสานประโยชน์ระหว่างกันนั้น คงจะหมดไปแล้ว เหลือแต่ความรู้สึกแตกต่างระหว่างชนชั้นอย่างชัดเจน ปัญหานี้เกิดจากชนชั้นผู้ปกครองที่มีความต้องการหรือจิตใต้สำนึกที่ไม่รู้ ตัวก็ตามได้ตอกย้ำความแตกต่างนี้ตลอดเวลา

สิ่งที่ชนชั้นสูงแสดงออกคือ การดูถูกเหยียดหยามชนชั้นล่าง อาศัยเส้นสาย เอาเปรียบคนอื่น ช่วยเหลือคนในกลุ่มชนชั้นเดียวกัน ลงโทษอย่างรุนแรงกับชนชั้นล่างที่ไม่รู้กฎหมาย แต่ชนชั้นสูงที่ทำผิด เช่น ยึดพื้นที่ป่าสงวนฯและยอมส่งคืนก็จะไม่ผิด แต่คนที่เก็บของป่าในพื้นที่เดียวกันอาจติดคุก

เมื่อไม่นานมานี้ชนชั้นสูงต่างดาหน้าออกมาบอกว่าประชาชนยังโง่ ไม่มีความรู้ บางคนถึงกับเปรียบเทียบประชาชนไม่ต่างจากสุนัข ต้องมีคนที่มีความรู้เช่นพวกตนหรือเป็นคนดีที่แต่งตั้งกันเองมาปกครอง ยิ่งไปกว่านั้นยังเขียนรัฐธรรมนูญให้ปกครองด้วยระบบราชการและชนชั้นสูงที่มี อำนาจล้นเหลือ จะด้วยความรังเกียจตัวแทนประชาชนหรือกลัวอำนาจและผลประโยชน์ที่ได้มาด้วย ระบบเส้นสายจะหมดไปก็ตาม


ตัวอย่างการเขียนบิดเบือน..วาทะกรรมมีเจตนาอกุศล..

นี้..ศีลไม่ดีแล้วละกรัชกาย...จะประสาอะไรเรื่องที่จะพูดตามมา..

ทำตัวไม่น่าเชื่อถือ...เอง



ปัญหา อยู่ตรงนี้กบ คือ พื้นที่ที่นั้น เป็นพื้นที่สงวนตามนิติเหมือนกัน ถึงจะอยู่คนละแห่ง คนละจังหวัดก็ตาม เช่น แห่งหนึ่งเป็นที่ที่สงวน แต่มีคนมียศถาบรรดาศักดิ์ ขึ้นไปปลูกบ้านอยู่บนยอดเขา ตัดสินว่าไม่มีเจตนา พ้นผิดทางนิติรัฐไป

แต่อีกแห่งหนึ่ง เป็นที่สงวนตามนิติรัฐเหมือนกัน แต่ชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีฐานะทางสังคมใดๆ ไปเก็บเห็ด เก็บหอยประทังชีวิต แต่ถูกตัดสินตามนิติรัฐว่าผิดติดคุก

มันต่างกันมั้ย :b1:


พระพุทธองค์ตรัสว่า...เรากล่าวว่าเจตนาว่าเป็นกรรม
เขายายเที่ยง..เขาซื้อมาจากคนอื่นๆที่มีชื่อครอบครองอยู่ก่อนมาหลายทอดแล้ว..

นี้งัย..ตัวผิดศีล...ของกรัชกาย

รู้ทั้งรู้...ว่า..ชาวบ้านที่ถูกตัดสินติดคุก...ศาลเขาตัดสินในคดีตัดไม้ห่วงห้าม...แต่กรัชกายตั้งใจพูดคลุมเครือเพื่อให้เข้าใจว่า..ติดคุกเพราะการเก็บเห็ด..

เจตนาบิดเบือน...นี้...กรัชกายทำทำไมละคับ?


เขาไม่รู้หรือว่ายอดเขาเป็นที่ป่าสงวน ไม่รู้หรือ ซื้อได้ไง :b1: (ถ้าจริงตามกบพูด)


อย่าแถออกนอกประเด็นที่ผมกล่าวหากรัชกาย..ที่ว่า..เจตนาบิดเบือน..".เก็บเห็ดประทังชีวิตแต่ถูกตัดสินว่าผิดติดคุก..."
ซี...
ผมถามกรัชกายว่า..ทำอย่างนี้ทำไม..บิดเบือนนี้นะ

ส่วนประเด็น..รู้ไม่รู่ว่ายอดเขาเป็นป่าสงวน..นี้..กรัชกายก็มาแนวปลุกระดม..อีกแระ..เด้วผมจะมาตอกกรัชกายทีหลัง..


ครอบครองได้ยังไง สำนักงานที่ดินออกเอกสารสิทธิ์ให้ได้หรอ ที่ยอดเขา

แล้วที่ว่า ซื้อที่ยอดเขา เอาหลักฐานมาให้ดูสิ ซื้อมาได้ยังไง

เอาข่าวมาให้ดูไม่ดูหรอ คลิปก็มี คิกๆๆ ตายายไปเก็บเห็ด


ประเด็นที่่กรัชกาย..เจตนา...พูดจนทำให้ใครๆเข้าใจว่า...ตายายถูกตัดสินติดคุกเพียงเพราะเก็บเห็ด....นี้บิดเบือน...กรัชกายศีลก็ไม่มีนะนี้..

วาทะกรรมแบบนี้..พวกแดงอย่างกรัชกาย..เห็นชอบใช้กันจัง..


เอาหลักฐานมาให้ดูแล้ว ยังแถนะ กบ :b1: คลิปที่ทนายชี้แจงก็นำมาให้ดู แต่ไม่ดู จะเอาเจตนา คิกๆๆ เจตนาก็แบบว่ายึดยอดเขาบอกไม่มีเจตนายังงี้หรอ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 พ.ค. 2016, 09:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตอกหน้ากรัชกาย..ไปแล้วเรื่อง..ศีล

ทีนี้..ก็มาเรื่อง..บนเขา

ก็ไม่พ้นวาะกรรม..ที่กรัชกายชอบ..สร้างเพื่อป้ายสี...คนอื่น ๆ

กรัชกาย เขียน:

ปัญหา อยู่ตรงนี้กบ คือ พื้นที่ที่นั้น เป็นพื้นที่สงวนตามนิติเหมือนกัน ถึงจะอยู่คนละแห่ง คนละจังหวัดก็ตาม เช่น แห่งหนึ่งเป็นที่ที่สงวน แต่มีคนมียศถาบรรดาศักดิ์ ขึ้นไปปลูกบ้านอยู่บนยอดเขา ตัดสินว่าไม่มีเจตนา พ้นผิดทางนิติรัฐไป

แต่อีกแห่งหนึ่ง เป็นที่สงวนตามนิติรัฐเหมือนกัน แต่ชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีฐานะทางสังคมใดๆ ไปเก็บเห็ด เก็บหอยประทังชีวิต แต่ถูกตัดสินตามนิติรัฐว่าผิดติดคุก

มันต่างกันมั้ย :b1:


กรัชกาย..พยายามจะดราม่า..ด้วยเลห์กล..จนหากใครไม่รู้เรื้องราวมาก่อน..ย่อมเข้าใจว่า...คนมียศมีหน้าตามีพวกมาก...จะถูกตัดสินไปในทางเป็นประโยชน์...

.เอะอะอะไร..ก็ว่า..ชนชั้นวรรณะ..มียศมีบรรดาศักดิ์...ไม่ได้ดูเลย..ว่าเขาตัดสินจากหลักฐาน..

อ้างคำพูด:
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews ... 0000002631

ดังนั้น คดีจึงเสร็จเด็ดขาด โดยเหตุที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากที่ดินบนเขายายเที่ยงแปลงที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ครอบครองนั้น จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนมีหลักฐานว่าที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 67 (พ.ศ.2508) ออกตามความใน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ซึ่งกำหนดให้ป่าเขาเตียนและป่าเขาเขื่อนลั่น (เขายายเที่ยง) ในท้องที่ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง และตำบลลาดบัวขาว จังหวัดนครราชสีมา เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่ก่อนที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จะเข้าครอบครองปลูกเป็นที่พักอาศัย ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของนายเบ้า สินนอก และบุตรเขย ซึ่งนายเบ้าได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว โดยไม่มีเอกสารสิทธิจำนวน 10 ไร่ โดยไม่ทราบว่าเป็นที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนฯ แล้วเข้าไปทำไร่มันสำปะหลัง ละหุ่ง และข้าวโพด นอกจากนั้นที่ดินในเขตป่าสงวนเขายายเที่ยงยังมีราษฎรเข้าไปอยู่อาศัยทำกินเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2518 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมป่าไม้ดำเนินการปรับปรุงป่าสงวนแห่งชาติเขายายเที่ยง เพื่อจัดสรรให้ราษฎรทำกินครอบครัวละไม่เกิน 15 ไร่ (ให้ทำกินครอบครัวละ 14 ไร่ 2 งาน และให้เป็นที่อยู่อาศัยอีก 2 งาน) โดยมีเงื่อนไขไม่ให้กรรมสิทธิ์ แต่ให้สิทธ์ครอบครองตกทอดถึงทายาทโดยธรรมได้เป็นการถาวร เพื่อป้องกันไม่ให้นายทุนมาครอบครองโดยวิธีกว้านซื้อ โดยกรมป่าไม้จะออกใบอนุญาตชั่วคราวให้ราษฎรเข้าอยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าวโดยจัดตั้งในรูปหมู่บ้านป่าไม้ นายเบ้า และบุตรเขย จึงได้รับการจัดสรรที่ดินคนละ 15 ไร่ รวม 30 ไร่ และได้มีการเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) ตลอดมา ตั้งแต่ปี 2520-2538

ต่อมานายเบ้า ได้ขายที่ดินของตนเองและบุตรเขย จำนวน 20 ไร่ ให้นายนพดล พิทักษ์วาณิชย์ เมื่อปี 2538 พร้อมมอบหลักฐานการแสดงภาษี ให้แก่นายนพดล ด้วย และนายนพดล ได้เสียภาษีบำรุงท้องที่ระหว่างปี 2538-2540 ต่อมา พ.อ.สุรฤทธ์ จันทราทิพย์ เป็นผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่ในปี 2540-2545 และในวันที่ 6 ก.ค.2543 พล.ต.สุรฤทธ์ เป็นผู้ไปยื่นขอออกเลขที่บ้าน เลขที่ 10 ตำบลคลองไผ่ (เดิมอยู่ในเขตตำบลลาดบัวขาว) อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของ พล.อ.สุรยุทธ์ ในปัจจุบัน และในวันที่ 4 ก.ค. 2546 พล.ต.สุรฤทธ์ เป็นผู้ขออนุญาตใช้ไฟฟ้าในบ้านหลังดังกล่าว


กรมป่าไม้เป็นผู้ออกใบอนุญาติให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยและใช้ได้...เอง

ถ้าจะผิด..ก็ผิดที่ใช้ที่ดินไม่ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของราชการ...ไม่ใช่ในข้อหาการบุกรุกป่าสงวน..


กรัชกายเลิกสร้างวาทะกรรม...แนวดราม่า..บ่อนทำลายความเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรม..จนเกิดความวาดระแวงของผู้คนในสังคม..สร้างความแตกแยก..ซะ

หันมาดูแล..ศีล...ของตัวเองให้ดี..สังวรในศีล..ให้ดีดี..
ทาน..ศีล...ภาวนา..ดี..คงไม่มีพฤติกรรมอย่างนี้..นะ

...ทำตัวดี..แค่นี้ก็ช่วยชาติได้แล้ว...



ถ้ายังงั้น มันก็ผิดทั้งหมด กฎหมายเขามีว่า จะออกเอกสารสิทธิ์ ต้องห่างจากที่ลาดชันเท่านั้นเท่านี้ นี่เล่นไปออกบนยอดเขาเลยนิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 พ.ค. 2016, 11:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ตอกหน้ากรัชกาย..ไปแล้วเรื่อง..ศีล

ทีนี้..ก็มาเรื่อง..บนเขา

ก็ไม่พ้นวาะกรรม..ที่กรัชกายชอบ..สร้างเพื่อป้ายสี...คนอื่น ๆ

กรัชกาย เขียน:

ปัญหา อยู่ตรงนี้กบ คือ พื้นที่ที่นั้น เป็นพื้นที่สงวนตามนิติเหมือนกัน ถึงจะอยู่คนละแห่ง คนละจังหวัดก็ตาม เช่น แห่งหนึ่งเป็นที่ที่สงวน แต่มีคนมียศถาบรรดาศักดิ์ ขึ้นไปปลูกบ้านอยู่บนยอดเขา ตัดสินว่าไม่มีเจตนา พ้นผิดทางนิติรัฐไป

แต่อีกแห่งหนึ่ง เป็นที่สงวนตามนิติรัฐเหมือนกัน แต่ชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีฐานะทางสังคมใดๆ ไปเก็บเห็ด เก็บหอยประทังชีวิต แต่ถูกตัดสินตามนิติรัฐว่าผิดติดคุก

มันต่างกันมั้ย :b1:


กรัชกาย..พยายามจะดราม่า..ด้วยเลห์กล..จนหากใครไม่รู้เรื้องราวมาก่อน..ย่อมเข้าใจว่า...คนมียศมีหน้าตามีพวกมาก...จะถูกตัดสินไปในทางเป็นประโยชน์...

.เอะอะอะไร..ก็ว่า..ชนชั้นวรรณะ..มียศมีบรรดาศักดิ์...ไม่ได้ดูเลย..ว่าเขาตัดสินจากหลักฐาน..

อ้างคำพูด:
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews ... 0000002631

ดังนั้น คดีจึงเสร็จเด็ดขาด โดยเหตุที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากที่ดินบนเขายายเที่ยงแปลงที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ครอบครองนั้น จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนมีหลักฐานว่าที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 67 (พ.ศ.2508) ออกตามความใน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ซึ่งกำหนดให้ป่าเขาเตียนและป่าเขาเขื่อนลั่น (เขายายเที่ยง) ในท้องที่ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง และตำบลลาดบัวขาว จังหวัดนครราชสีมา เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่ก่อนที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จะเข้าครอบครองปลูกเป็นที่พักอาศัย ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของนายเบ้า สินนอก และบุตรเขย ซึ่งนายเบ้าได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว โดยไม่มีเอกสารสิทธิจำนวน 10 ไร่ โดยไม่ทราบว่าเป็นที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนฯ แล้วเข้าไปทำไร่มันสำปะหลัง ละหุ่ง และข้าวโพด นอกจากนั้นที่ดินในเขตป่าสงวนเขายายเที่ยงยังมีราษฎรเข้าไปอยู่อาศัยทำกินเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2518 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมป่าไม้ดำเนินการปรับปรุงป่าสงวนแห่งชาติเขายายเที่ยง เพื่อจัดสรรให้ราษฎรทำกินครอบครัวละไม่เกิน 15 ไร่ (ให้ทำกินครอบครัวละ 14 ไร่ 2 งาน และให้เป็นที่อยู่อาศัยอีก 2 งาน) โดยมีเงื่อนไขไม่ให้กรรมสิทธิ์ แต่ให้สิทธ์ครอบครองตกทอดถึงทายาทโดยธรรมได้เป็นการถาวร เพื่อป้องกันไม่ให้นายทุนมาครอบครองโดยวิธีกว้านซื้อ โดยกรมป่าไม้จะออกใบอนุญาตชั่วคราวให้ราษฎรเข้าอยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าวโดยจัดตั้งในรูปหมู่บ้านป่าไม้ นายเบ้า และบุตรเขย จึงได้รับการจัดสรรที่ดินคนละ 15 ไร่ รวม 30 ไร่ และได้มีการเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) ตลอดมา ตั้งแต่ปี 2520-2538

ต่อมานายเบ้า ได้ขายที่ดินของตนเองและบุตรเขย จำนวน 20 ไร่ ให้นายนพดล พิทักษ์วาณิชย์ เมื่อปี 2538 พร้อมมอบหลักฐานการแสดงภาษี ให้แก่นายนพดล ด้วย และนายนพดล ได้เสียภาษีบำรุงท้องที่ระหว่างปี 2538-2540 ต่อมา พ.อ.สุรฤทธ์ จันทราทิพย์ เป็นผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่ในปี 2540-2545 และในวันที่ 6 ก.ค.2543 พล.ต.สุรฤทธ์ เป็นผู้ไปยื่นขอออกเลขที่บ้าน เลขที่ 10 ตำบลคลองไผ่ (เดิมอยู่ในเขตตำบลลาดบัวขาว) อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของ พล.อ.สุรยุทธ์ ในปัจจุบัน และในวันที่ 4 ก.ค. 2546 พล.ต.สุรฤทธ์ เป็นผู้ขออนุญาตใช้ไฟฟ้าในบ้านหลังดังกล่าว


กรมป่าไม้เป็นผู้ออกใบอนุญาติให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยและใช้ได้...เอง

ถ้าจะผิด..ก็ผิดที่ใช้ที่ดินไม่ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของราชการ...ไม่ใช่ในข้อหาการบุกรุกป่าสงวน..


กรัชกายเลิกสร้างวาทะกรรม...แนวดราม่า..บ่อนทำลายความเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรม..จนเกิดความวาดระแวงของผู้คนในสังคม..สร้างความแตกแยก..ซะ

หันมาดูแล..ศีล...ของตัวเองให้ดี..สังวรในศีล..ให้ดีดี..
ทาน..ศีล...ภาวนา..ดี..คงไม่มีพฤติกรรมอย่างนี้..นะ

...ทำตัวดี..แค่นี้ก็ช่วยชาติได้แล้ว...



ถ้ายังงั้น มันก็ผิดทั้งหมด กฎหมายเขามีว่า จะออกเอกสารสิทธิ์ ต้องห่างจากที่ลาดชันเท่านั้นเท่านี้ นี่เล่นไปออกบนยอดเขาเลยนิ


กรัชกาย..เอ่ย...

อ่านรู้เรื่องมั้ย?...ออกเอกสารสิทธิอะไร?
ที่ลาดชัน..นั้นนะ..เขาใช้เป็นเงื้อนไขออกเอกสารอะไร?...น.ส 3...โฉนด?...

กรมป่าไม้..ออกเอกสารอะไร?..กรัชกาย :b32: :b32:

อย่ามีอคติ..จนอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง..นี้เขาเรียกว่า..อคติทำให้ไม่มีปัญญา

กรัชกาย เขียน:
ถ้ายังงั้น มันก็ผิดทั้งหมด กฎหมายเขามีว่า จะออกเอกสารสิทธิ์ ต้องห่างจากที่ลาดชันเท่านั้นเท่านี้ นี่เล่นไปออกบนยอดเขาเลยนิ


อ่านข้อคิดนี้...แล้วก็ให้สงสาร.ปนเวทนา..กรัชกาย..ซะจริง

:b3: :b3: :b3:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 08 พ.ค. 2016, 11:45, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 216 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 15  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร