วันเวลาปัจจุบัน 01 พ.ค. 2025, 22:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 07:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2016, 11:37
โพสต์: 18

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีสติในปัจจุบันขณะ

ในชีวิตจริงเมื่อมีสติเกิดขึ้นระลึกรู้ในปัจจุบันขณะ แล้วสัมปชัญญะพิจารณาอะไรจึงจะเกิดกุศลจิตเกิดปัญญา อยากถามท่านที่ปฏิบัติว่าพิจารณาธรรมอะไร?และอย่างไร?ในชีวิตจริงๆ

ขณะที่เดิน มีสติรู้ว่าเดิน ควรจะพิจารณาว่าเดินทำไม? เพื่ออะไร? มีประโยชน์อะไร? มีโทษอย่างไร?
เหตุปัจจัยอะไรทำให้เดิน? ใครเดิน?

ขณะที่เดิน มีสติรู้ว่าเดินปัญญาควร ควรจะพิจารณาว่าเดินทำไม? (ไปสุขา) เพื่ออะไร? (ป้องกันทุข์เวทนาทางกาย) มีประโยชน์อะไร? (รู้เวทนารู้กาย รู้เหตุทุกข์ รู้สมุทัย) มีโทษอย่างไร? (อวิชชาปิดบังทุกข์)
เหตุปัจจัยอะไรทำให้เดิน?(ธาตุลม)(โทสะ กลัวทุกข์) ใครเดิน?
(ไม่มีผู้เดิน มีแต่เหตุปัจจัย อวิชชา+นามรูป)

ขณะที่กินอาหาร มีสติระลึกรู้ สัมปะชัญญะพิจารณาว่ากินทำไม? ( หิว)
เพื่ออะไร? (ความอยาก เสพย์รส) มีประโชน์อะไร? (ป้องกันทุกข์ บำรุงกาย) มีโทษอะไร? (ยึดติดรส
กินมากไปเกิดโรค) ใครกิน? ( ไม่มีตัวตนกินมีแต่ขันธ์5โลภะ กิเลส นามรูป)

ขณะที่ฟังธรรมมะ มีสติระลึกรู้ พิจารณาว่าฟังไปทำไม? (เพิ่มความเข้าใจถูก ) เพื่ออะไร?
(เพื่อเกิดศรัทธา) มีประโยชน์อะไร? (กำจัดอวิชชา) เหตุปัจจัยอะไรทำให้ฟังธรรม (ศรัทธา+ฉันทะ)

ใครพิจารณาธรรมในแง่มุมไหนกันบ้าง ใครมีธรรมมะใดเป็นเครื่องอยู่ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในชีวิตจริงๆ
ช่วยเอามาแชร์กันบ้างครับ หลายคน หลายมุมมอง หลายประโชน์
อย่าเอาธรรมมะมาโฆษนาว่าฉันรู้ถูก รู้มากกว่า รู้ละเอียดกว่า คนอื่นรู้ไม่จริง
เอาธรรมมะมาปฏิบัติกันเถิด เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตจริงๆดีกว่า น่าสรรเสริญกว่า
จะตรงต่อความต้องการของพระพุทธเจ้าที่ทรงสอนไว้ มาเปลี่ยนความคิดกันเถิด

ขอเชิญทุกๆท่านแชร์ความเห็นในทางปฏิบัติกันเถิดครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 08:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แชร์ก็แชร์ :b13:

https://www.youtube.com/watch?v=thuSgMwRhvE

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 10:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
แชร์ก็แชร์ :b13:

https://www.youtube.com/watch?v=thuSgMwRhvE


รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 11:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natipakorn เขียน:
มีสติในปัจจุบันขณะ
ในชีวิตจริงเมื่อมีสติเกิดขึ้นระลึกรู้ในปัจจุบันขณะ แล้วสัมปชัญญะพิจารณาอะไรจึงจะเกิดกุศลจิตเกิดปัญญา อยากถามท่านที่ปฏิบัติว่าพิจารณาธรรมอะไร?และอย่างไร?ในชีวิตจริงๆ

เริ่มต้นก็พูดไม่รู้เรื่องเสียแล้ว คำว่า"มีสติในปัจจุบันขณะ" เป็นคำพูดที่พร่ำเผื่อหาเหตุผลไม่ได้
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะผู้พูดขาดซึ่งความเข้าใจใน"พุทธบัญญัติ" อย่างเช่น"สติ"ที่จขกทเอามาอ้างพูดเป็นต้น
หรือแม้แต่ คำว่า"พิจารณาธรรม"ก็เช่นกัน ยกขึ้นมาพูดด้วยความเข้าใจผิดในหลักธรรม
natipakorn เขียน:
ขณะที่เดิน มีสติรู้ว่าเดิน ควรจะพิจารณาว่าเดินทำไม? เพื่ออะไร? มีประโยชน์อะไร? มีโทษอย่างไร?
เหตุปัจจัยอะไรทำให้เดิน? ใครเดิน?


การเดินหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมาย เดินเพื่ออะไรจะต้องกำหนดรู้ด้วยอิทธิบาท
ต้องมีอิทธบาทเป็นหลัก การเดินเปรียบเหมือนองค์มรรคของอิทธิบาท

อย่างเช่น เราต้องการไปสถานที่แห่งหนึ่ง เราเลือกที่จะเดินไป การเดินไปสถานที่ๆเรากำหนดจนสำเร็จ
ท่านเรียกว่าอิทธิบาท ส่วนการเดินเป็นองค์ประกอบในอิทธิบาทนั้น...ท่านเรียกองค์มรรคแห่งอิทธิบาท
ซึ่งในความเป็นองค์มรรค(องค์ประกอบ) จะต้องอาศัย..สติสัมปชัญญะและสมาธิ องค์มรรคจึงจะเกิดขึ้นได้
natipakorn เขียน:
ที่เดิน มีสติรู้ว่าเดินปัญญาควร ควรจะพิจารณาว่าเดินทำไม? (ไปสุขา) เพื่ออะไร? (ป้องกันทุข์เวทนาทางกาย) มีประโยชน์อะไร? (รู้เวทนารู้กาย รู้เหตุทุกข์ รู้สมุทัย) มีโทษอย่างไร? (อวิชชาปิดบังทุกข์)
เหตุปัจจัยอะไรทำให้เดิน?(ธาตุลม)(โทสะ กลัวทุกข์) ใครเดิน?
(ไม่มีผู้เดิน มีแต่เหตุปัจจัย อวิชชา+นามรูป)


ในขณะที่เดินไม่ใช่มาพิจารณาว่าเดินทำไม ......ทุกอย่างจะต้องพิจารณามาก่อนที่จะลงมือปฏิบัติ(เดิน)
งานที่ทำ(อิทธิบาท)มีจุดมุ่งหมายอะไร ทำอย่างไรจึงจะสำเร็จผล ทุกอย่างจะต้องพิจารณามาก่อน..
ท่านเรียกว่าการกำหนดรู้ธรรมหรือการกำหนดรู้อิทธิบาท

...จขกทยกเอาเรื่องที่จขกทเข้าใจผิดมาตั้งเป็นประเด็น
พูดให้ชัดก็คือ เอาสมมติฐานผิดๆมาตั้งเป็นกระทู้ชวนสนทนา
จะบอกให้ครับว่า เนื้อหาของกระทู้มันผิดหลักธรรม พุทธบัญญัติก็ใช้ผิด ความเข้าใจในการปฏิบัติก็ผิด
สรุปก็คือ มันไม่มีเนื้อหาชวนสนทนา มันเป็นเนื้อหาที่ต้องให้ผู้รู้มาแก้ไขความไม่เข้าใจของจขกทครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 15:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8564


 ข้อมูลส่วนตัว


natipakorn เขียน:
มีสติในปัจจุบันขณะ

ในชีวิตจริงเมื่อมีสติเกิดขึ้นระลึกรู้ในปัจจุบันขณะ แล้วสัมปชัญญะพิจารณาอะไรจึงจะเกิดกุศลจิตเกิดปัญญา อยากถามท่านที่ปฏิบัติว่าพิจารณาธรรมอะไร?และอย่างไร?ในชีวิตจริงๆ

ขณะที่เดิน มีสติรู้ว่าเดิน ควรจะพิจารณาว่าเดินทำไม? เพื่ออะไร? มีประโยชน์อะไร? มีโทษอย่างไร?
เหตุปัจจัยอะไรทำให้เดิน? ใครเดิน?

ขณะที่เดิน มีสติรู้ว่าเดินปัญญาควร ควรจะพิจารณาว่าเดินทำไม? (ไปสุขา) เพื่ออะไร? (ป้องกันทุข์เวทนาทางกาย) มีประโยชน์อะไร? (รู้เวทนารู้กาย รู้เหตุทุกข์ รู้สมุทัย) มีโทษอย่างไร? (อวิชชาปิดบังทุกข์)
เหตุปัจจัยอะไรทำให้เดิน?(ธาตุลม)(โทสะ กลัวทุกข์) ใครเดิน?
(ไม่มีผู้เดิน มีแต่เหตุปัจจัย อวิชชา+นามรูป)

ขณะที่กินอาหาร มีสติระลึกรู้ สัมปะชัญญะพิจารณาว่ากินทำไม? ( หิว)
เพื่ออะไร? (ความอยาก เสพย์รส) มีประโชน์อะไร? (ป้องกันทุกข์ บำรุงกาย) มีโทษอะไร? (ยึดติดรส
กินมากไปเกิดโรค) ใครกิน? ( ไม่มีตัวตนกินมีแต่ขันธ์5โลภะ กิเลส นามรูป)

ขณะที่ฟังธรรมมะ มีสติระลึกรู้ พิจารณาว่าฟังไปทำไม? (เพิ่มความเข้าใจถูก ) เพื่ออะไร?
(เพื่อเกิดศรัทธา) มีประโยชน์อะไร? (กำจัดอวิชชา) เหตุปัจจัยอะไรทำให้ฟังธรรม (ศรัทธา+ฉันทะ)

ใครพิจารณาธรรมในแง่มุมไหนกันบ้าง ใครมีธรรมมะใดเป็นเครื่องอยู่ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในชีวิตจริงๆ
ช่วยเอามาแชร์กันบ้างครับ หลายคน หลายมุมมอง หลายประโชน์
อย่าเอาธรรมมะมาโฆษนาว่าฉันรู้ถูก รู้มากกว่า รู้ละเอียดกว่า คนอื่นรู้ไม่จริง
เอาธรรมมะมาปฏิบัติกันเถิด เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตจริงๆดีกว่า น่าสรรเสริญกว่า
จะตรงต่อความต้องการของพระพุทธเจ้าที่ทรงสอนไว้ มาเปลี่ยนความคิดกันเถิด

ขอเชิญทุกๆท่านแชร์ความเห็นในทางปฏิบัติกันเถิดครับ


คำถามที่ตั้งขึ้นมานั้นรู้ได้ทันทีว่ามาจากสาย อ.แนบ มหานีรานน อ. วรรณสิทธิ ไวยทยะเสวี พระ อ. มหาแสวง และ อ. นืยม ฤทธิ์เสือ
อยู่ที่พุทธมณฑลสาย ๕ ต. บางกระทึก จ.นครปฐม ถ้าจำไม่ผิด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 15:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ

มีสติคือละ (ไม่โหยหา)อดีตที่ผ่านมาแล้ว

มีสติคือ ละ(ไม่พะวง) อนาคตที่ยังมาไม่ถึง

ดำรงตนเฉพาะหน้า

การสังเกตุอริยาบท เพื่อ รู้ความเป็น ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ของขันธ์5 คือนามรูป

อย่างคุณโฮฮับที่บอกว่า เดินด้วยจุดมุ่งหมาย คืออธิบาท หรือองค์มรรค

เช่นเดียวกับการกิน

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แชร์ก็แชร์ :b13:

https://www.youtube.com/watch?v=thuSgMwRhvE


รูปภาพ



พูดบ้างสิโฮฮับ จะให้ตีความเองรึไง :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 20:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใครที่ปฏิบัติหรือลงมือทำ ต้องควบคุมจิตใจให้อยู่กับงาน อยู่กับสิ่งที่ทำ ณ ขณะนั้นๆ ยก ตย.ให้เห็นภาพ สมมุติ เราจะทำบันไดสักอันหนึ่ง ไม้ที่ใช้ทำมีแล้ว อีกทั้งตนเองก็รู้วิธีทำทำเป็น ตอกตาปูได้ตอกเป็น ...ถึงขั้นลงมือทำเลย ควบคุมจิตใจให้อยู่กับงานซึ่งกำลังทำ แค่นี้ธรรมะหรือจะเรียกอะไรเข้าครบ งานก็สำเร็จด้วยดี


แต่ถ้ามือก็ตอกตาปูฉึกๆๆ ใจก็คิดเรื่องนี้เรื่องนั่น เมื่อเช้าทะเลาะกับเมีย แหมกวนจริงๆยายนี่ คิดไปตอกไป ฆ้อนทุบหัวแม่มือบวบ ตาปูกระเด็นเข้าตา งานก็ไม่สำเร็จ ฉันใด

การปฏิบัติกัมมัฏฐาน หรือเรียกปฏิบัติธรรมก็ ฉันนั้น เพียรพยายามควบคุมให้จิตใจอยู่กับลมหายใจเข้า ลมหายใจออก อยู่กับอาการท้องพอง-ท้องยุบ อยู่กับการเดิน ตามดูรู้เท่าทันมันทุกๆขณะ แค่นี้ธรรมะเข้าโดยไม่ต้องเรียกร้องหามัน

แต่ถ้าทำไปคิดแยกแยะยังงี้เป็นสติ แบบนี้เป็นสัมปชัญญะ ท่านี้เป็นสมาธิ แบบนี้เป็นวิปัสสนา ฯลฯ เรียกฟุ้งซ่านธรรม ไม่ใช่ปฏิบัติธรรม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 20:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพื่อไม่ให้ยึดติดชื่อเรียก จะเรียกชื่อหลายๆชื่อ: ปฏิบัติทางจิต, ฝึกจิต, ปฏิบัติธรรม,ภาวนา,ทำกรรมฐาน,บำเพ็ญสมถะ,ปฏิบัติวิปัสสนา ทำสติปัฏฐาน 4 หรือเรียกชื่ออื่นๆนอกจากนี้ ขอย้ำว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่หมูๆ ชีวิตจิตใจเป็นธรรมชาติที่ละเอียดอ่อนลึกซึ้งเข้าใจยากมากๆ ผู้ปฏิบัติทางจิตต้องอาศัยการสังเกตการทำงานของมัน อีกทั้งได้ผู้รู้เข้าใจแนะนำ

สังเกตสองตัวอย่าง

อ้างคำพูด:
ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หลุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิที่ปฏิบัติจริงๆครั้งนี้คือครั้งที่ 2 ที่เข้าถึง นั่งได้เกือบชั่วโมง ครั้งแรกรู้สึกลอยอยู่บนเมฆ รู้สึกดีมาก ครั้งนี้ก็เหมือนกัน แต่ครั้งนี้ลึกกว่ามากนานกว่ามากด้วยเป็นชั่วโมง ครั้งนี้นั่งระลึกจิต หรือเขาเรียกอะไรไม่รู้ ใจคิดถึงแม่คิดถึงพ่อมาก เหมือนจิตอยู่ในอดีต คิดถึงเขาเหมือนจากมานานมาก คิดถึงจับจิต คิดถึงน้ำตาไหลร้องไห้มือสั่นตัวสั่นตัวชา
ถามตัวเองว่าร้องทำไม ร้องไห้ไม่หยุด ตอนร้องรู้สึกตัว ถามตัวเองว่าร้องทำไม ตอบตัวเองไม่ได้ รู้แต่ว่าคิดถึงเขาที่จากมาไกล ไม่ได้คิดไปเองนะ ไม่ได้บ้าด้วย มีคนเป็นเหมือนเรา ใจนิ่งจิตนิ่ง แต่ทำไมใจกับจิตต้องคิดถึงเขาขนาดนั้น เราอยู่กันคนละโลกแล้วถึงจิตจะคิดถึงแค่ไหนก็ต้องละต้องวาง ใจคิดจะนั่ง สมาธิแค่ให้มีสมาธิอ่านหนังสือ ทำไปทำมายาวเลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเรากลัวจิต (คือความคิด) ตัวเอง เหมือนเด็กกลัวเงาตัวเอง เพราะเหตุไร

https://www.youtube.com/watch?v=3yJvQi5roYg

เพราะดังที่พระพุทธเจ้าตรัสในปฐมเทศนาที่ว่า "สังขิตเตน ปัญจุปาทานนักขันธา ทุกขา"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 22:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แชร์ก็แชร์ :b13:

https://www.youtube.com/watch?v=thuSgMwRhvE


รูปภาพ


เห็นด้วยกับโฮ...ลุงกรัชกายนี้เลอะเทอะ..

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มี.ค. 2016, 09:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แชร์ก็แชร์ :b13:

https://www.youtube.com/watch?v=thuSgMwRhvE


รูปภาพ


เห็นด้วยกับโฮ...ลุงกรัชกายนี้เลอะเทอะ..

:b32: :b32:


เลอะเทอะยังไงอ่ะ :b1:

2 คนช่วยกัน เลอะเทอะยังไง ว่าปาย แม่ฮ่องสอน คิกๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มี.ค. 2016, 22:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ภูกระดึง..เลย...กำลังฮอตกว่า... :b32: :b32:

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2016, 13:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ภูกระดึง..เลย...กำลังฮอตกว่า..


ไม่มีต้นทุนเรยย บอกให้ไปศึกษาๆๆ จะได้เลิกมั่วเสียที

download/file.php?id=67283

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2016, 09:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
รู้เดี๋ยวนี้ทันทีที่มีสิ่งที่กำลังปรากฏให้รู้ได้ตรงปัจจุบันทันสมัยทุกขณะจิตที่เกิดดับทุกขณะ
ในชีวิตจริงเมื่อมีสติเกิดขึ้นระลึกรู้ในปัจจุบันขณะต้องเริ่มจาการฟังให้เข้าใจความจริงก่อน
เพราะพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุืทธเจ้าทรงสละสมบัติจักรพรรดิ์เพื่อตรัสรู้ความจริง
ตรัสทุกคำที่เป็นสัจจะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเข้าใจได้ขณะที่กำลังฟังรู้จิตตนทันที
ถ้าไม่ค่อยๆฟังความจริงที่กำลังมีให้เข้าใจเพื่อละคลายความหลงผิดยึดมั่นในภาพลวงตาแล้ว
จะได้ปัญญาดับอวิชชามาจากไหนเพราะต้องค่อยๆฟังไปทีละคำไม่ใช่เข้าใจรวดเดียวแบบอ่าน
ฟัง+คิดตามคำที่ได้ยินเพื่อการแสวงหาบารมีที่พร้อมด้วยปัญญาที่สละละคลายความยึดมั่นถือมั่น
:b12:
https://www.youtube.com/watch?v=4Oxr_U3-GcY
onion onion onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร