วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 06:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 167 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 12  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2015, 20:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 18:22
โพสต์: 309


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:

ลึกซึ้งเอามากๆ ลึกเกินกว่าจะเข้าใจ
อยู่ข้อไหนหมวดไหนครับท่าน..จะได้ติดตามไปอ่าน


ผู้ศึกษาธรรมะจากความทุกข์ประสบการณ์ที่พบเจอกับคนที่นั่งเปิดตำราอ่าน
ย่อมมีมุมมองที่ต่างกันเหมือนหน้ามือกับหลังมือก็อยู่ในมือเดียวกันอย่าไปถือคติว่า
มือมีข้างเดียว ถ้างั้นก็ไม่ต้องปฏิบัติแล้วนั่งอ่านตำราก็บรรลุกันหมด
ผู้รู้มีมากผู้ปฏิบัติมีน้อยช่างเหมาะกับยุคสมัยนี้จริงๆ :b41: :b31:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2015, 20:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 18:22
โพสต์: 309


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
พระอาจารย์ไม่ต้องหวั่นเกรงว่าจะไม่มีเพื่อน
โยมประพฤติพรหมจรรย์อยู่เป็นเพื่อนเจ้าค่า
:b27:
ถ้าท่านอยากพบครูบาอาจารย์ที่ท่านมีเมตตาและ
มีศีลาจาริวัตรงดงามเมตตาธรรมสูงเรียนเชิญที่
วัดโพธิโนนทันอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นเจ้าค่ะ
:b27:
ท่านพระครูภาวนา โพธิคุณเป็นเจ้าอาวาสและ
ทำหน้าที่เป็นผอ.วิทยาลัยสงฆ์์หลายตำแหน่ง
ที่วัดแห่งนี้มีชาวต่างชาติมาจากต่างประเทศ
มาปฏิบัติธรรมเป็นประจำมีตารางปฏิบัติตลอดปี
และพร้อมทั้งมีกุฏิรับรองพระอาคันตุกะด้วยเจ้าค่า
http://www.watphokk.net/index.php?show=menu&file=detail&id=20
:b12:
:b44: :b44:


:b8: :b8: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2015, 20:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แสงแห่งพระธรรม เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พระอาจารย์ไม่ต้องหวั่นเกรงว่าจะไม่มีเพื่อน
โยมประพฤติพรหมจรรย์อยู่เป็นเพื่อนเจ้าค่า
:b27:
ถ้าท่านอยากพบครูบาอาจารย์ที่ท่านมีเมตตาและ
มีศีลาจาริวัตรงดงามเมตตาธรรมสูงเรียนเชิญที่
วัดโพธิโนนทันอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นเจ้าค่ะ
:b27:
ท่านพระครูภาวนา โพธิคุณเป็นเจ้าอาวาสและ
ทำหน้าที่เป็นผอ.วิทยาลัยสงฆ์์หลายตำแหน่ง
ที่วัดแห่งนี้มีชาวต่างชาติมาจากต่างประเทศ
มาปฏิบัติธรรมเป็นประจำมีตารางปฏิบัติตลอดปี
และพร้อมทั้งมีกุฏิรับรองพระอาคันตุกะด้วยเจ้าค่า
http://www.watphokk.net/index.php?show=menu&file=detail&id=20
:b12:
:b44: :b44:


:b8: :b8: :b1:

เขียนนามท่านตกหล่นเจ้าค่ะ
ท่านดร.พระครูภาวนา โพธิคุณ
ที่ขอนแก่นก็มีมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2015, 20:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 18:22
โพสต์: 309


 ข้อมูลส่วนตัว


หลังจากออกจากมหาลัยสงฆ์ถึงเวลาแล้วที่จะออกเดินทางตามที่ตั่งใจไว้และจะไม่กลับมา
อีกแล้ว โดยเริ่มจากกลับไปที่บ้านเกิดเพื่อสร้างบ้านให้พ่อก่อนและเพื่อทดสอบตัวเอง
เพราะถ้าผ่านที่บ้านมาได้ก็สามารถไปอยู่ทุกหนแห่งได้สบาย และก็บังเอิญพระที่มาจำพรรษา
ในถ้ำราชคฤห์ออกพรรษาก็ย้ายออกพอดีเลยอยู่คนเดียวถือโอกาสทดสอบตัวเองเรื่องความ
กลัว อยู่ภาวนาในถ้ำเป็นเวลาเดือนกว่าเรื่องการปฏิบัติ ความกลัวก็ไม่มีปัญหาเพราะอยู่
ไปๆก็ได้ผีนี้แหละเป็นเพื่อนทำให้หายกลัวไปเลย :b14: แต่มีปัญหาเรื่องอาหารการฉันตอนเช้าไป
บิณฑบาทใส่แต่ทางบ้านกับบ้านญาติอีกสองหลังบ้านอื่นไม่ใส่และที่บ้านใส่ก็เพราะบอกให้
ใส่ทุกๆวันจะได้กับข้าวมาสามถุงก็ฉันอยู่แค่นี้อยู่ไปๆรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเรื่องอาหารการฉัน
เพราะเหมือนไปบังคับให้เขามาใส่บาตรอยู่ได้เดือนกว่าก็เลยเดินทางไปดอยอ่างขาง
อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ตอนอยู่ดอยอ่างขางได้เจอเหตุการณ์หนึ่งทำให้ตกใจมาก คือ ถูกคน
อิสลามทำร้าย เรื่องมีอยู่ว่ามีพระจะไปซื้อของฝากญาติทางบ้านก็ชวนเราไปเป็นเพื่อนตรงด้าน
หน้าสถานีเกษตรหลวง บังเอิญร้านที่ซื้อเป็นร้านอิสลามเราก็ยื่นอยู่หน้าร้านรอพระเพื่อนปรากฎ
ว่ามีคนอยู่ขั้นบนโยนกระสอบลงมาโดนเราเต็มๆแต่ดีข้างในไม่ใช่ของแข็งก็เลยไม่เป็นไรมาก
ด้วยความตกใจก็เลยรีบเดินกลับ คนรอบๆเขาก็เห็นนะแต่ไม่มีใครกล้าว่าอะไร

อยู่ดอยอ่างขางหนึ่งเดือนก็เลยเดินทางไปดอยปุย มาอยู่ดอยปุยได้เจอเอกสารเล่มหนึ่งจริงๆแล้วก็เคยอ่านนานแล้วเป็นเอกสารที่หลุดออกมาเกี่ยวกับแผนการยึดครองประเทศไทยของศาสนาอิสลามในเอกสารเขียนถึงดอยอ่างขางและดอยปุยแล้วก็เป็นอย่างที่เขียนไว้จริงๆคือเขาสำเร็จแล้ว คือตรงใหนเป็นแหละท่องเที่ยว ย่านเศรษกิฐ การค้าเขาจะส่งคนของเขาลงไปให้แต่งงานกับคนในเพื้นที่แล้วค้าขายเพื่อเงินจะได้อยู่ในกลุ่มคนของเขา
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าร้านขายของฝากในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางจะมีร้านของคนอิสลาม
เกือบครึ่งหนึ่งแล้วมีร้านอาหารใหญ่โตตั่งอยู่หน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขางหรืออย่างดอยปุย
ร้านขายของฝากในหมู่บ้านมุ้งรวมถึงหน้าตำหนักราชนิเวศภูพิงค์ ก็เหมือนกัน จากที่สังเกตุ
ตอนเช้าไปบิณบาตร ร้านที่เป็นคนอิสลามเขาจะเปิดร้านก่อนคนพุทธคือเปิดแต่เช้ามืดพอตอนเช้า
พระไปบิณฑบาตรนักท่องเที่ยวก็จะไปซื้อของจากร้านอิสลามมาใส่บาตร อย่างหน้าสถานี
เกษตรหลวงอ่างขางกับหน้าตำหนักราชนิเวศภูพิงค์ประจำเลยจะได้แต่อาหารอิสลาม ก็คง
ไม่แปลกที่มีข่าวว่าจะมีการสร้างโรงงานผลิตอาหารฮาลานที่ดอยหลอด
และช่วงที่อยู่ดอยปุยก็เจออีกเหตุการณ์หนึ่ง คือตอนเช้าเราจะลงไปบิณฑบาตรในหมู่บ้านมุ้ง
มียายคนหนึ่งแกจะพาหลานสองคนมารอใส่บาตรตรงจุดจำหน่วยตั๋วเพื่อเข้าชมดอกฝิ่นเป็น
ประจำทุกๆวันไม่เคยขาดดูแล้วก็คงจะมีฐานะอยากจนแต่มีศรัทธามาใส่บาตรทุกเรายังรู้สึก
เปลื้อมเลยแต่แล้วก็มีอยู่วันหนึ่งในขณะกำลังเดินบิณฑบาตรปรากฎว่ามีคนอิสลามประมาณร้อยกว่าคนเหมารถแดงขึ้น มาถึงแล้วก็แบ่งกันแยกย้ายเดินสำรวจดูหมู่บ้านจะว่ามาเที่ยวทำไม
มาแต่เข้ามืดร้านค้ายังไม่เปิดเลย พอเดินบิณฑบาตรมาถึงยายที่ว่าปรากฎว่ามีคนอิสลาม
ล้อมอยู่ประมาณ10คนพอเห็นพระเดินมาก็เปิดทางให้ยายใส่บาตรพอใส่เสร็จก็มาล้อมยาย
อีกและจากวันนั้นยายคนนี้ไม่มาใส่บาตรอีกเลยก็แปลกใจเหมือนกัน
จริงๆแล้วก็เจออะไรมาเยอะแต่ไม่อยากเอามาเล่าก็เฉพราะบางส่วน จากเหตุการที่พบเจอกับความ
คิดว่าออกจากมหาลัยสงฆ์แล้วจะไม่กลับมาอีกเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจขึ้น ขนาดหนีจากเมืองมาอยู่ตาม
ป่าเขากลับมาต้องมาเจออะไรแบบนี้ยอมรับว่ารู้สึกกลัวขึ้นมา ถ้ายังมาอยู่แบบนี้ต่อไปในวันข้าง
หน้าจะเป็นอย่างไร อย่างที่ว่าพระก็เหมือนกับเต่าไม่มีกระดอใครสาดอะไรมาก็โดนเต็มๆ
ก็เลยตัดสินใจกลับจำพรรษาที่วัดในสังกัดเพื่อมาตั่งหลักใหม่ :b4: :b41: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2015, 21:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ทุกสถานการณ์ล้วนเป็นแบบทดสอบทั้งบู้และบุ๋น
จอมยุทธจำเป็นต้องฝึกฝนวิทยายุทธให้แกร่งกล้า
:b4: :b4:
:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2015, 23:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ทุกสถานการณ์ล้วนเป็นแบบทดสอบทั้งบู้และบุ๋น
จอมยุทธจำเป็นต้องฝึกฝนวิทยายุทธให้แกร่งกล้า
:b4: :b4:
:b16:
อย่าเดินทางผิดน๊า

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 02:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทุกสถานการณ์ล้วนเป็นแบบทดสอบทั้งบู้และบุ๋น
จอมยุทธจำเป็นต้องฝึกฝนวิทยายุทธให้แกร่งกล้า
:b4: :b4:
:b16:
อย่าเดินทางผิดน๊า

:b1:
เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ระวังสะดุดความดีเค้า
จนหัวทู่ๆของทู่ทิ่มบ่อล่ะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 06:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทุกสถานการณ์ล้วนเป็นแบบทดสอบทั้งบู้และบุ๋น
จอมยุทธจำเป็นต้องฝึกฝนวิทยายุทธให้แกร่งกล้า
:b4: :b4:
:b16:
อย่าเดินทางผิดน๊า

:b1:
เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ระวังสะดุดความดีเค้า
จนหัวทู่ๆของทู่ทิ่มบ่อล่ะ
:b32: :b32:
อย่าลืมน๊าพญามารเหยียบถึงพรหมโลก. ความหลงน่ากลัวที่สุด

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 09:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 18:22
โพสต์: 309


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมะกำลังจะพ้ายแพ้ต่ออธรรม
แล้วอะไรละคือสิ่งที่มนุษย์ควรยึดมั่น
พระเจ้างั้นเหรอ หากพระเจ้าคือสิ่งสุงสุด
แล้วธรรมะในความหมายที่ว่าเป็นกฎของธรรมชาติ
อยู่ในฐานะอะไรที่คู่ควรกับการเอาชีวิตเข้าไปแลกเพื่อ
ดำรงค์ตนตามวิถีแห่งสมถะ อะไรคือแรงบันดาลใจ
อะไรคือเป้าหมาย มนุษย์ชอบทำให้เป็นเรื่องสลับซับซ้อน
จนพากันหลงอยู่ในวังวนกลายเป็นเรื่องยุงยากซับซ้อนขึ้นมา
หากพระเจ้าคือคำตอบสุดท้ายการทำลายทุกๆอย่างก็เพื่อ
อุทิศตนให้กับพระเจ้านั่นเอง แต่วิถีแห่งจิตจะนำพาให้พบกับคำตอบ
ที่แท้จริงตามวิถีแห่งสมถะที่แม้แต่พระเจ้ายังไม่สามารถให้คำตอบได้
เป็นเรื่องเพ้อฝันแต่กลับมีอยู่ในตัวของทุกคน จิตปล่อยวางแล้วจะค้นพบ
กับตัวตนที่แท้จริง :b41: :b44: :b14:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 13:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 18:22
โพสต์: 309


 ข้อมูลส่วนตัว


เพราะความกลัวทำให้ถอยกลับมาแต่เมื่อตั่งหลักได้ก็เกิดคำถามว่ากลัวทำไม
กลัวตายหรอแค่นี้ก็กลัวแล้ว หากไม่สามารถดำเนินชีวิตเพื่อสร้างคุณงามความดี
ตามความปราถนาเพียงเพราะความกลัวแล้ว ช่างเป็นสิ่งอนาคใจเหลือเกิน ไม่ว่าจะช้า
หรือเร็วทุกคนก็ต้องพบกับความตาย แต่จะตายในแบบใหน ตายในฐานะฮีโร่ผู้ชนะ
กิเลส หรือตายแบบผู้พ้ายแพ้ต่อกิเลสตัวเอง ชีวิตเป็นสิ่งที่เลือกได้โดยเฉพราะเลือกสิ่ง
ที่ดีที่สุดให้ตัวเอง เพราะความดีมีอยู่ในตัวของทุกคน :b8: :b8:
ออกพรรษาแล้วเราจะออกเดินทางอีกครั้ง และอาจจะไม่กลับมา ไม่ว่าจะกลับมาในความหมาย
แบบใหน ดังนั้นจึงเลือกกลับมาจำพรรษาวัดในสังกัดเป็นครั้งแรกตั่งแต่บวชพระเพื่อเยื่อม
ญาติโยมเก่าๆที่ยังอยู่ ในฐานะที่เราเป็นลูกหม้อที่นี้ เพราะถ้าไม่กลับมาพรรษานี้คงไม่มีโอกาส
ได้กลับมาหรือกลับมาอีกทีญาติโยมที่คุ้นเคยตั่งสมัยมาอยู่ใหม่ๆอาจจะล้มหายตายจากไป
หมดแล้วอย่างกลับมาครั้งนี้ญาติโยมที่เคยมาถือศีลก็ตายไปหลายคนแล้ว :b14: :b14:
และก่อนไปอยากจะบูรณะห้องกุฏีที่เคยอยู่ตั่งแต่สมัยแรกมาอยู่ให้ดีเพราะอาจเป็นสิ่งสุดท้าย
ที่จะฝากไว้ในพระศาสนา ทางข้างหน้ามีแต่ความตาย จะไปก็ตายไม่ไปก็ตาย หนีไม่พ้น
ชีวิตมีแค่นี้เอง :b41: :b41: :b46: :b47:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 19:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ทาน ศิล ภาวนา

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 20:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
แสงแห่งพระธรรม เขียน:
เพราะความกลัวทำให้ถอยกลับมาแต่เมื่อตั่งหลักได้ก็เกิดคำถามว่ากลัวทำไม
กลัวตายหรอแค่นี้ก็กลัวแล้ว หากไม่สามารถดำเนินชีวิตเพื่อสร้างคุณงามความดี
ตามความปราถนาเพียงเพราะความกลัวแล้ว ช่างเป็นสิ่งอนาคใจเหลือเกิน ไม่ว่าจะช้า
หรือเร็วทุกคนก็ต้องพบกับความตาย แต่จะตายในแบบใหน ตายในฐานะฮีโร่ผู้ชนะ
กิเลส หรือตายแบบผู้พ้ายแพ้ต่อกิเลสตัวเอง ชีวิตเป็นสิ่งที่เลือกได้โดยเฉพราะเลือกสิ่ง
ที่ดีที่สุดให้ตัวเอง เพราะความดีมีอยู่ในตัวของทุกคน :b8: :b8:
ออกพรรษาแล้วเราจะออกเดินทางอีกครั้ง และอาจจะไม่กลับมา ไม่ว่าจะกลับมาในความหมาย
แบบใหน ดังนั้นจึงเลือกกลับมาจำพรรษาวัดในสังกัดเป็นครั้งแรกตั่งแต่บวชพระเพื่อเยื่อม
ญาติโยมเก่าๆที่ยังอยู่ ในฐานะที่เราเป็นลูกหม้อที่นี้ เพราะถ้าไม่กลับมาพรรษานี้คงไม่มีโอกาส
ได้กลับมาหรือกลับมาอีกทีญาติโยมที่คุ้นเคยตั่งสมัยมาอยู่ใหม่ๆอาจจะล้มหายตายจากไป
หมดแล้วอย่างกลับมาครั้งนี้ญาติโยมที่เคยมาถือศีลก็ตายไปหลายคนแล้ว :b14: :b14:
และก่อนไปอยากจะบูรณะห้องกุฏีที่เคยอยู่ตั่งแต่สมัยแรกมาอยู่ให้ดีเพราะอาจเป็นสิ่งสุดท้าย
ที่จะฝากไว้ในพระศาสนา ทางข้างหน้ามีแต่ความตาย จะไปก็ตายไม่ไปก็ตาย หนีไม่พ้น
ชีวิตมีแค่นี้เอง :b41: :b41: :b46: :b47:

:b8:
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านทุกประการเจ้าค่ะ
ผู้ที่ได้อัตภาพเป็นบุรุษเพศแล้วละการครองเรือนได้
ลดความติดข้องได้มหาศาลเลยเจ้าค่า บำเพ็ญล้วนๆ
ชื่อว่าไม่เสียชาติเกิดที่ได้พบพระพุทธศาสนาเจ้าค่ะ
ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องมาแย่งทำมาหากินอย่างปุถุชนเลย
แค่ยุคกึ่งพุทธกาลจิตใจคนในสังคมก็ห่างจากธรรมมาก
แกร่งแย่งกันทำมาหากินมีหนี้สินรุงรังแถมโจรภัยชุกชุม
ท่านได้เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อรักษาพระธรรมและพระวินัยโดยตรง
เป็นทางเอกไม่ใช่ทางโทหรือตรอกซอกซอยเล็กซอยน้อย
ความสันโดษมักน้อยเป็นปกติที่ใช้ผ้าเพียง3ผืนได้ทุกงาน
คนทั่วไปหรือเจ้าคะหลากสีหลายชุดงานแต่ง งานศพ ชุดนอน
ไปงานไหนใส่ชุดเดิมก็กลัวน้อยหน้า ครอบครัวมากกว่า1คน
ก็กิเลสหลากหลาย เพศพระภิกษุถ้าไม่ใช่เพราะทำบุญมาดี
ก็ไม่มีวาสนาได้เป็นเจ้าค่ะหรือไม่บวชไม่นานก็ร้อนผ้าเหลือง
อยากจะศึกออกมาเป็นคนหาเงิน สมัยนี้ทำมาหากินลำบากมาก
เป็นบุญของท่านที่ได้บวช ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นเจ้าค่ะ
แค่บาตรเดียวที่พระพุทธเจ้ามอบให้เป็นเงินเดือนก็เหลือเฟือแล้ว
:b39:
:b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2015, 13:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1067

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การทำของคนเราพระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า การทำ การพูด การคิด ของเรามี 5 อย่าง คือ
1. ทำ พูด คิด เพราะบ้า คือ ยึดถือแบบไร้ปัญญา ยึดถึอจนคลั่งไคล้ เคร่งเครียดและบ้าไป
2.ทำ พูด คิด เพราะโง่ คือ ไม่รู้ต้นคิดซึ่งผลิตต้นเหตุอยู่ตลอดเวลา
3.ทำ พูด คิด เพราะปราถนาลามก คือ หลอกลวงเขา เจ้าเล่ห์ กลโกง จะเอาท่าเดียว
4.ทำ พูด คิด เพราะเห็นว่ามันดี ก็อวดดีไปทั่ว เที่ยวขัด เที่ยวแย้งทะเลาะกับเค้า สรุปว่าก็ไม่ดี
5.ทำ พูด คิด เพราะความรู้ทัน จะต้องเห็นเหตุแรกเกิด ว่าเค้าเกิดที่ตาก็ดับที่ตา เค้าเกิดที่ใจก็ดับที่ใจ รู้ทันต้นเหตุแห่งความคิด จะคิดดับๆ
จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2015, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 18:22
โพสต์: 309


 ข้อมูลส่วนตัว


อย่างหลงส่งเสริญคนทำผิดเพราะคิดว่าเป็นการทำบุญ
อย่างเอาคำว่ากลัวบาปมาบังหน้า ถ้าไม่รู้แยกแยะความดี ความชั่ว
ความถูก ความผิด อย่าระมัดระวังมากเกินไป แต่ขาดความเข้าใจ
เพราะคิดว่าตนเข้าใจดีแล้ว อาจจะตกนรกโดยไม่รู้ตัว :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2015, 22:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2012, 18:22
โพสต์: 309


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
แสงแห่งพระธรรม เขียน:
เพราะความกลัวทำให้ถอยกลับมาแต่เมื่อตั่งหลักได้ก็เกิดคำถามว่ากลัวทำไม
กลัวตายหรอแค่นี้ก็กลัวแล้ว หากไม่สามารถดำเนินชีวิตเพื่อสร้างคุณงามความดี
ตามความปราถนาเพียงเพราะความกลัวแล้ว ช่างเป็นสิ่งอนาคใจเหลือเกิน ไม่ว่าจะช้า
หรือเร็วทุกคนก็ต้องพบกับความตาย แต่จะตายในแบบใหน ตายในฐานะฮีโร่ผู้ชนะ
กิเลส หรือตายแบบผู้พ้ายแพ้ต่อกิเลสตัวเอง ชีวิตเป็นสิ่งที่เลือกได้โดยเฉพราะเลือกสิ่ง
ที่ดีที่สุดให้ตัวเอง เพราะความดีมีอยู่ในตัวของทุกคน :b8: :b8:
ออกพรรษาแล้วเราจะออกเดินทางอีกครั้ง และอาจจะไม่กลับมา ไม่ว่าจะกลับมาในความหมาย
แบบใหน ดังนั้นจึงเลือกกลับมาจำพรรษาวัดในสังกัดเป็นครั้งแรกตั่งแต่บวชพระเพื่อเยื่อม
ญาติโยมเก่าๆที่ยังอยู่ ในฐานะที่เราเป็นลูกหม้อที่นี้ เพราะถ้าไม่กลับมาพรรษานี้คงไม่มีโอกาส
ได้กลับมาหรือกลับมาอีกทีญาติโยมที่คุ้นเคยตั่งสมัยมาอยู่ใหม่ๆอาจจะล้มหายตายจากไป
หมดแล้วอย่างกลับมาครั้งนี้ญาติโยมที่เคยมาถือศีลก็ตายไปหลายคนแล้ว :b14: :b14:
และก่อนไปอยากจะบูรณะห้องกุฏีที่เคยอยู่ตั่งแต่สมัยแรกมาอยู่ให้ดีเพราะอาจเป็นสิ่งสุดท้าย
ที่จะฝากไว้ในพระศาสนา ทางข้างหน้ามีแต่ความตาย จะไปก็ตายไม่ไปก็ตาย หนีไม่พ้น
ชีวิตมีแค่นี้เอง :b41: :b41: :b46: :b47:

:b8:
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านทุกประการเจ้าค่ะ
ผู้ที่ได้อัตภาพเป็นบุรุษเพศแล้วละการครองเรือนได้
ลดความติดข้องได้มหาศาลเลยเจ้าค่า บำเพ็ญล้วนๆ
ชื่อว่าไม่เสียชาติเกิดที่ได้พบพระพุทธศาสนาเจ้าค่ะ
ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องมาแย่งทำมาหากินอย่างปุถุชนเลย
แค่ยุคกึ่งพุทธกาลจิตใจคนในสังคมก็ห่างจากธรรมมาก
แกร่งแย่งกันทำมาหากินมีหนี้สินรุงรังแถมโจรภัยชุกชุม
ท่านได้เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อรักษาพระธรรมและพระวินัยโดยตรง
เป็นทางเอกไม่ใช่ทางโทหรือตรอกซอกซอยเล็กซอยน้อย
ความสันโดษมักน้อยเป็นปกติที่ใช้ผ้าเพียง3ผืนได้ทุกงาน
คนทั่วไปหรือเจ้าคะหลากสีหลายชุดงานแต่ง งานศพ ชุดนอน
ไปงานไหนใส่ชุดเดิมก็กลัวน้อยหน้า ครอบครัวมากกว่า1คน
ก็กิเลสหลากหลาย เพศพระภิกษุถ้าไม่ใช่เพราะทำบุญมาดี
ก็ไม่มีวาสนาได้เป็นเจ้าค่ะหรือไม่บวชไม่นานก็ร้อนผ้าเหลือง
อยากจะศึกออกมาเป็นคนหาเงิน สมัยนี้ทำมาหากินลำบากมาก
เป็นบุญของท่านที่ได้บวช ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นเจ้าค่ะ
แค่บาตรเดียวที่พระพุทธเจ้ามอบให้เป็นเงินเดือนก็เหลือเฟือแล้ว
:b39:
:b44: :b44:


เจริญพร...ขอให้เจริญในธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเช่นกัน :b8: :b41: :b43: :b44:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 167 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 12  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 150 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร