วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 12:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 95 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2015, 19:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
ก็กระทู้ว่า "ทางสายกลาง" แต่ถกเถียงกันไปถึงเรื่องคุณสมบัติของพระโสดาบัน ผมก็เลยสะกิดสัมปชัญญะของผู้สนทนาให้กลับมาสู่เรื่องทางสายกลางจริงๆด้วยวิธีนี้ ไม่ได้มุ่งมาชี้ผิดชี้ถูกใครหรอกครับคุณกบ
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2015, 00:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
หากลางและลงกลางกันได้หรือยังครับคุณ Rossarin & bigto & กบ

ถ้ายังไม่ลง กลาง ก็จะยังไม่ถึง สมดุลย์ กลับสู่ ปกติ ไม่ได้กันนะครับ
:b13:


อโสกะ..ละ...Bigtoo พูดไม่ถูก..ไม่ควร..ไม่ตรงธรรม

อโสกะก็เข้ากลาง...ไม่พูดไม่จา..เลยรึ?

ก่อนอุเบกขา...มันต้องเมตตา..กรุณา...มุติตา...บอกกล่าว..ชี้จุดผิด...ให้แก้ไขกันก่อน..ถ้าแก้ไม่ได้จึงมาอุเบกขา..ปล่อยไป

จะว่าไปแล้ว....ขณะพูดจาว่ากล่าวตักเตือนนี้...ก็ตักเตือนด้วยความเป็นกลางได้นะ...ว่ามั้ยครับ..อโสกะ
:b11:
เอาอุเบกขาพรหมวิหารซะแล้ว. มารยังไปถึงนะกบ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2015, 06:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
ก็กระทู้ว่า "ทางสายกลาง" แต่ถกเถียงกันไปถึงเรื่องคุณสมบัติของพระโสดาบัน ผมก็เลยสะกิดสัมปชัญญะของผู้สนทนาให้กลับมาสู่เรื่องทางสายกลางจริงๆด้วยวิธีนี้ ไม่ได้มุ่งมาชี้ผิดชี้ถูกใครหรอกครับคุณกบ
:b13:


ก็ผู้สนทนา...เขาว่า..อย่างนี้ไม่ใช่คุณสมบัติอริยะ..แล้วก็ยกคุณสมบัติอริยะมา

กระผมก็สะกิดเขาให้มาสู่ทาง...นี้ครับ..ว่าอาการที่ว่าไม่ใช่อริยะที่เขาว่านั้นมันไม่ถูกตรงกับที่เขายกธรรมมา...นะซิ

ใยอโสกะ..จึงมุ่งไปแต่ทางสายกลางที่เป็นบัญญัติ....ไม่มาดูสายกลางของผู้กำลังหลง..ละคับ

นอกเสียจากว่า..อโสกะเห็นว่า..นั้นถูกต้องแล้ว..อโสกะจึงไม่พูดจาอะไร

มีหลายกรณี..ที่ Bigtoo ทำแปลก ๆ .แต่อโสกะก็เงียบ..ไม่ตักไม่เตือน...เหมือนมองไม่เห็น..อิอิ

รึว่า....ชอบจนลำเอียง...ละคับ..อโสกะ

:b9: :b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2015, 08:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
ก็กระทู้ว่า "ทางสายกลาง" แต่ถกเถียงกันไปถึงเรื่องคุณสมบัติของพระโสดาบัน ผมก็เลยสะกิดสัมปชัญญะของผู้สนทนาให้กลับมาสู่เรื่องทางสายกลางจริงๆด้วยวิธีนี้ ไม่ได้มุ่งมาชี้ผิดชี้ถูกใครหรอกครับคุณกบ
:b13:


ก็ผู้สนทนา...เขาว่า..อย่างนี้ไม่ใช่คุณสมบัติอริยะ..แล้วก็ยกคุณสมบัติอริยะมา

กระผมก็สะกิดเขาให้มาสู่ทาง...นี้ครับ..ว่าอาการที่ว่าไม่ใช่อริยะที่เขาว่านั้นมันไม่ถูกตรงกับที่เขายกธรรมมา...นะซิ

ใยอโสกะ..จึงมุ่งไปแต่ทางสายกลางที่เป็นบัญญัติ....ไม่มาดูสายกลางของผู้กำลังหลง..ละคับ

นอกเสียจากว่า..อโสกะเห็นว่า..นั้นถูกต้องแล้ว..อโสกะจึงไม่พูดจาอะไร

มีหลายกรณี..ที่ Bigtoo ทำแปลก ๆ .แต่อโสกะก็เงียบ..ไม่ตักไม่เตือน...เหมือนมองไม่เห็น..อิอิ

รึว่า....ชอบจนลำเอียง...ละคับ..อโสกะ

:b9: :b9: :b9:
bigtooทำแปลกอะไรจ๊ะ. ที่ยกมาก็ลงตรงตามคำสอนนะ เพียงแต่กบคิดเองเออเองว่านั้นทำไม่ได้โน้นทำไม่ได้. คิดไปเองไม่ตรงนะกบ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2015, 09:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แแลกเยอะ...

มือถือสาก...ปากถือศีล...

ปากว่า...ควรกล่าวแต่คำตถาคต
มือถือสาก...ตู่ด้วยคำไม่จริง..ว่าพระพุทธเจ้าพูด..

เป็นต้น
:b32:

แปลกเยอะ....ไปตอบกระทู้เจ้าปัณหาของตัวเองนั้นไป๊...เดียวจะรกกระทู้นี้เปล่าๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2015, 11:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แแลกเยอะ...

มือถือสาก...ปากถือศีล...

ปากว่า...ควรกล่าวแต่คำตถาคต
มือถือสาก...ตู่ด้วยคำไม่จริง..ว่าพระพุทธเจ้าพูด..

เป็นต้น
:b32:

แปลกเยอะ....ไปตอบกระทู้เจ้าปัณหาของตัวเองนั้นไป๊...เดียวจะรกกระทู้นี้เปล่าๆ

เข้าใจคำว่า มหาปเทสสี่ป่าว เมื่อตรวจสอบตรงมีความหมายลงตรงตัวก็คือธรรม ไม่ใช่ติดดีแต่ไม่ตรงธรรมอย่างที่กบชอบพูด. อะไรๆก็ดีหมด ทำอะไรก็ไม่ได้.

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2015, 13:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
ก็กระทู้ว่า "ทางสายกลาง" แต่ถกเถียงกันไปถึงเรื่องคุณสมบัติของพระโสดาบัน ผมก็เลยสะกิดสัมปชัญญะของผู้สนทนาให้กลับมาสู่เรื่องทางสายกลางจริงๆด้วยวิธีนี้ ไม่ได้มุ่งมาชี้ผิดชี้ถูกใครหรอกครับคุณกบ
:b13:


ก็ผู้สนทนา...เขาว่า..อย่างนี้ไม่ใช่คุณสมบัติอริยะ..แล้วก็ยกคุณสมบัติอริยะมา

กระผมก็สะกิดเขาให้มาสู่ทาง...นี้ครับ..ว่าอาการที่ว่าไม่ใช่อริยะที่เขาว่านั้นมันไม่ถูกตรงกับที่เขายกธรรมมา...นะซิ

ใยอโสกะ..จึงมุ่งไปแต่ทางสายกลางที่เป็นบัญญัติ....ไม่มาดูสายกลางของผู้กำลังหลง..ละคับ

นอกเสียจากว่า..อโสกะเห็นว่า..นั้นถูกต้องแล้ว..อโสกะจึงไม่พูดจาอะไร

มีหลายกรณี..ที่ Bigtoo ทำแปลก ๆ .แต่อโสกะก็เงียบ..ไม่ตักไม่เตือน...เหมือนมองไม่เห็น..อิอิ

รึว่า....ชอบจนลำเอียง...ละคับ..อโสกะ

:b9: :b9: :b9:

:b12:
ผมสังเกตดูแล้วและเห็นว่า bigto ยังมีอะไรเด็ดๆดีๆซ่อนอยู่ในคำพูดโดยที่ คุณกบและน้องRossarin ยังมองไม่เห็นความปารถนาดีที่ซ่อนอยู่ในนั้น ผมจึงลองดูต่อไปอีกสักนิด แต่เมื่อเห็นว่าเรื่องมันจะไปไกลเกินกว่าชื่อกระทู้มากแล้ว จึงสะกิดท้วงติงมาให้เกิด สัมปชัญญะครับ
:b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2015, 22:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไหนอโสกะ..ไม่ชอบพวกเอาแต่ตำรา...ไม่ใช่รึครับ..เห็นชอบว่ากระผมประจำจัง...ทั้งๆที่ก็ไม่เคยพูดเลยว่า..ต้องพุทธพจน์..พุทธพจน์

แต่คนลอกตำรามาพูด..เอาคำตรงนั้นนิ..เอาคำตรงนี้มาหน่อย...ผสมๆกัน...อโสกะเงียบเฉยเลย
:b32:

กลับคิดว่า..มีอะไรอะไรดีๆซ้อนอยู่เยอะ... :b22: :b22:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2015, 08:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ไหนอโสกะ..ไม่ชอบพวกเอาแต่ตำรา...ไม่ใช่รึครับ..เห็นชอบว่ากระผมประจำจัง...ทั้งๆที่ก็ไม่เคยพูดเลยว่า..ต้องพุทธพจน์..พุทธพจน์

แต่คนลอกตำรามาพูด..เอาคำตรงนั้นนิ..เอาคำตรงนี้มาหน่อย...ผสมๆกัน...อโสกะเงียบเฉยเลย
:b32:

กลับคิดว่า..มีอะไรอะไรดีๆซ้อนอยู่เยอะ... :b22: :b22:
ท่านอโสกะท่ารู้ว่าคำพูดของผมไม่ผิดหลักคำสอนครับไม่ได้เอนเอียง กบเข้าไม่ถึงมากกว่านะเชื่อเถอะ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แก้ไขล่าสุดโดย bigtoo เมื่อ 04 ส.ค. 2015, 10:59, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2015, 08:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ทางสายกลางที่มีอยู่ในตัวเรา. ที่ผมชวนให้ปลุกมันขึ้นมา เราปลุกมันได้ด้วยเพราะพระปัญญาของพระพุทธองค์ แต่เอาเถอะเรายังมีทางเลือกอีกถ้ากำลังสติปัญญาในชาตินี้เรามีไม่เพียงพอที่จะบรรลุในชาตินี้ได้. เรายังมีโอกาสที่จะไปบรรลุในชาติหน้าบนสวรรค์ชั้นฟ้าได้. ขอเพียงเราท่องให้คร่องปากขึ้นใจ. แม้แต่ตายแบบหลงลืมสติพระศาสดากล่าวว่าเราจะไปได้เกิดบนสวรรค์ชั้นใดชั้นหนึ่งแล้วจะไปบรรลุธรรมด้วยสี่อาการ ฉะนั้นแล้วทางสายกลางยังมีอีกไม่ต้องกังวลมาก

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2015, 16:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
ก็กระทู้ว่า "ทางสายกลาง" แต่ถกเถียงกันไปถึงเรื่องคุณสมบัติของพระโสดาบัน ผมก็เลยสะกิดสัมปชัญญะของผู้สนทนาให้กลับมาสู่เรื่องทางสายกลางจริงๆด้วยวิธีนี้ ไม่ได้มุ่งมาชี้ผิดชี้ถูกใครหรอกครับคุณกบ
:b13:


ก็ผู้สนทนา...เขาว่า..อย่างนี้ไม่ใช่คุณสมบัติอริยะ..แล้วก็ยกคุณสมบัติอริยะมา

กระผมก็สะกิดเขาให้มาสู่ทาง...นี้ครับ..ว่าอาการที่ว่าไม่ใช่อริยะที่เขาว่านั้นมันไม่ถูกตรงกับที่เขายกธรรมมา...นะซิ

ใยอโสกะ..จึงมุ่งไปแต่ทางสายกลางที่เป็นบัญญัติ....ไม่มาดูสายกลางของผู้กำลังหลง..ละคับ

นอกเสียจากว่า..อโสกะเห็นว่า..นั้นถูกต้องแล้ว..อโสกะจึงไม่พูดจาอะไร

มีหลายกรณี..ที่ Bigtoo ทำแปลก ๆ .แต่อโสกะก็เงียบ..ไม่ตักไม่เตือน...เหมือนมองไม่เห็น..อิอิ

รึว่า....ชอบจนลำเอียง...ละคับ..อโสกะ

:b9: :b9: :b9:

:b12:
ผมสังเกตดูแล้วและเห็นว่า bigto ยังมีอะไรเด็ดๆดีๆซ่อนอยู่ในคำพูดโดยที่ คุณกบและน้องRossarin ยังมองไม่เห็นความปารถนาดีที่ซ่อนอยู่ในนั้น ผมจึงลองดูต่อไปอีกสักนิด แต่เมื่อเห็นว่าเรื่องมันจะไปไกลเกินกว่าชื่อกระทู้มากแล้ว จึงสะกิดท้วงติงมาให้เกิด สัมปชัญญะครับ
:b11:

:b6:
ตามทัศนะที่เป็นความเห็นตรงทางสายกลางที่อริยชนใช้เดินทางเดียวคืออริยสัจจ์สี่+อริยมรรค์แปด
เป็นการใช้หลักธัมมะที่เข้าถึงความละเอียดจากจิตตภาวนาทั้งด้านจิตที่สงบและจิตที่ไตร่ตรองธัมมะ
ทรงความรู้ที่สามารถแยกความแตกต่างของจิตฝ่ายดีที่เป็นกุศลจิตและจิตฝ่ายไม่ดีที่เป็นอกุศลจิตได้
ซึ่งเป็นจิตที่รู้ความจริง โดยแยกแยะจิตฝ่ายดีและจิตฝ่ายไม่ดี แล้วพยายามผลักดันจิตให้ยกระดับจิตดี
ให้มีอำนาจเหนือจิตฝ่ายไม่ดี จนเป็นกำลังฝ่ายดีฟาดฟันกิเลส เพราะกิเลสขี้เยี่ยวราดรดบนหัวใจมานาน
เมื่ออริยชนที่สามารถยกระดับจิตให้พ้นทางเลี่ยงเมืองเข้าสู่ช่องทางที่เป็นทางตรงของทางสายกลางแล้ว
ก็เหมือนเดินถูกทางแน่นอน แม้จะหยุดพักระหว่างทางบ้างหรือเดินเร็วเดินช้าหรือวิ่งก็อยู่ในเส้นทางแล้ว
เพราะเป็นทางสายเอกสายเดียวที่ไม่มีทางแยกให้เลี้ยวออกนอกเส้นทางได้เมื่อถึงจุดหมายจึงรู้ได้นั่นเอง
อย่างน้อยๆนะ ข้าพเจ้าก็คิดว่าได้อยู่บนเส้นทางนั้นแล้ว และกำลังหันซ้าย หันขวา หันหน้า หันหลังอยู่นะ

:b32: :b16: :b20: :b12:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
tongue
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
ก็กระทู้ว่า "ทางสายกลาง" แต่ถกเถียงกันไปถึงเรื่องคุณสมบัติของพระโสดาบัน ผมก็เลยสะกิดสัมปชัญญะของผู้สนทนาให้กลับมาสู่เรื่องทางสายกลางจริงๆด้วยวิธีนี้ ไม่ได้มุ่งมาชี้ผิดชี้ถูกใครหรอกครับคุณกบ
:b13:


ก็ผู้สนทนา...เขาว่า..อย่างนี้ไม่ใช่คุณสมบัติอริยะ..แล้วก็ยกคุณสมบัติอริยะมา

กระผมก็สะกิดเขาให้มาสู่ทาง...นี้ครับ..ว่าอาการที่ว่าไม่ใช่อริยะที่เขาว่านั้นมันไม่ถูกตรงกับที่เขายกธรรมมา...นะซิ

ใยอโสกะ..จึงมุ่งไปแต่ทางสายกลางที่เป็นบัญญัติ....ไม่มาดูสายกลางของผู้กำลังหลง..ละคับ

นอกเสียจากว่า..อโสกะเห็นว่า..นั้นถูกต้องแล้ว..อโสกะจึงไม่พูดจาอะไร

มีหลายกรณี..ที่ Bigtoo ทำแปลก ๆ .แต่อโสกะก็เงียบ..ไม่ตักไม่เตือน...เหมือนมองไม่เห็น..อิอิ

รึว่า....ชอบจนลำเอียง...ละคับ..อโสกะ

:b9: :b9: :b9:

:b12:
ผมสังเกตดูแล้วและเห็นว่า bigto ยังมีอะไรเด็ดๆดีๆซ่อนอยู่ในคำพูดโดยที่ คุณกบและน้องRossarin ยังมองไม่เห็นความปารถนาดีที่ซ่อนอยู่ในนั้น ผมจึงลองดูต่อไปอีกสักนิด แต่เมื่อเห็นว่าเรื่องมันจะไปไกลเกินกว่าชื่อกระทู้มากแล้ว จึงสะกิดท้วงติงมาให้เกิด สัมปชัญญะครับ
:b11:

:b6:
ตามทัศนะที่เป็นความเห็นตรงทางสายกลางที่อริยชนใช้เดินทางเดียวคืออริยสัจจ์สี่+อริยมรรค์แปด
เป็นการใช้หลักธัมมะที่เข้าถึงความละเอียดจากจิตตภาวนาทั้งด้านจิตที่สงบและจิตที่ไตร่ตรองธัมมะ
ทรงความรู้ที่สามารถแยกความแตกต่างของจิตฝ่ายดีที่เป็นกุศลจิตและจิตฝ่ายไม่ดีที่เป็นอกุศลจิตได้
ซึ่งเป็นจิตที่รู้ความจริง โดยแยกแยะจิตฝ่ายดีและจิตฝ่ายไม่ดี แล้วพยายามผลักดันจิตให้ยกระดับจิตดี
ให้มีอำนาจเหนือจิตฝ่ายไม่ดี จนเป็นกำลังฝ่ายดีฟาดฟันกิเลส เพราะกิเลสขี้เยี่ยวราดรดบนหัวใจมานาน
เมื่ออริยชนที่สามารถยกระดับจิตให้พ้นทางเลี่ยงเมืองเข้าสู่ช่องทางที่เป็นทางตรงของทางสายกลางแล้ว
ก็เหมือนเดินถูกทางแน่นอน แม้จะหยุดพักระหว่างทางบ้างหรือเดินเร็วเดินช้าหรือวิ่งก็อยู่ในเส้นทางแล้ว
เพราะเป็นทางสายเอกสายเดียวที่ไม่มีทางแยกให้เลี้ยวออกนอกเส้นทางได้เมื่อถึงจุดหมายจึงรู้ได้นั่นเอง
อย่างน้อยๆนะ ข้าพเจ้าก็คิดว่าได้อยู่บนเส้นทางนั้นแล้ว และกำลังหันซ้าย หันขวา หันหน้า หันหลังอยู่นะ

:b32: :b16: :b20: :b12:
onion onion onion

ยังปลอบใจตนเองเหรอว่าได้เดินบนทางสายกลางแล้ว. ท่านเพียงศึกษาเส้นทางเท่านั้นยังไม่ได้ก้าวเดินบนทางสายกลางเลย เพราะท่านยังงงๆกับเส้นทางตรงหน้า. ทางสายกลางไม่ใช่นึกจะเดินก็เดินได้เลย มันต้องเริ่มจากความเห็นที่ถูกก่อน จะต้องถูกจริงๆตามคำสอนไม่ใช่ถูกตามความคิดของตนเอง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 23:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


viewtopic.php?t=43153

Hanako เขียน

รูปภาพ

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างคนพาลและบัณฑิต
ดังพระองค์ได้ทรงแยกให้เห็นลักษณะของคนพาล เครื่องหมายของคนพาล
และความประพฤติที่ไม่ขาดสายของคนพาล

คนพาลนั้นจะมีปกตินิสัยอยู่ ๓ ประการ คือ
๑. คิดแต่เรื่องไม่ดี
๒. พูดถึงแต่เรื่องไม่ดี
๓. ทำแต่สิ่งไม่ดี

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นที่สังเกตของบัณฑิตว่า
ผู้นั้นผู้นี้เป็นคนพาล

ในทางตรงกันข้าม พระพุทธองค์ก็ได้ตรัสสอนถึงลักษณะของบัณฑิต
เครื่องหมายของบัณฑิตและความประพฤติที่ไม่ขาดสายของบัณฑิต
โดยทรงแยกให้เห็นว่า

บัณฑิตนั้นจะมีปกตินิสัยอยู่ ๓ ประการ คือ
๑. คิดแต่เรื่องดี
๒. พูดถึงแต่เรื่องดี
๓. ทำแต่สิ่งที่ดี

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นที่สังเกตของบัณฑิตได้ว่า
ผู้นั้น ผู้นี้เป็นบัณฑิต

พระผุ้มีพระภาคได้ตรัสถึงสิ่งที่บอกลักษณะของคนพาลหรือบัณฑิต
ตามนัยของอัจจยสูตร โดยตรัสว่า

คนพาลนั้นประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ คือ
๑. ไม่เห็นโดยความเป็นโทษ (ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด)
๒. เห็นโทษโดยความเป็นโทษแล้ว (แต่ยังรั้นจะรับโทษ)
๓. เมื่อถูกอบรมสั่งสอนชี้โทษ ไม่ยอมรับรู้ (ยังแก้ตัวอยู่ร่ำไป)

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถึงสิ่งที่บอกลักษณะของบัณฑิตนั้นว่า
ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ คือ
๑. เห็นโทษโดยความเป็นโทษ (ทำผิดแล้วยอมรับผิด)
๒. เห็นโทษโดยความเป็นโทษแล้ว (ยอมรับโทษนั้นโดยดี)
๓. เมื่อถูกอบรมสั่งสอนชี้โทษ (ก็ยอมรับรู้และแก้ไขในส่วนที่ผิด
และเห็นผู้ชี้โทษให้เป็นเหมือนผู้บอกขุมทรัพย์ให้)

:b53: :b53:

(จินดาสูตร ติกนิบาตและอัจจยสูตร ติกนิบาต เล่ม ๒๐ ข้อ ๔๔๒-๔๔๓)

คัดลอกจากหนังสือเรื่อง เตือนตนด้วยพุทธโอวาท
เรียบเรียงโดย แก้ว สุพรรโณ
กรุงเทพ : ไพลิน, ๒๕๔๒ หน้า ๒๒-๒๓

:b55: ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต :b55:

.....................................................................................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 00:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


wink
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
tongue
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
ก็กระทู้ว่า "ทางสายกลาง" แต่ถกเถียงกันไปถึงเรื่องคุณสมบัติของพระโสดาบัน ผมก็เลยสะกิดสัมปชัญญะของผู้สนทนาให้กลับมาสู่เรื่องทางสายกลางจริงๆด้วยวิธีนี้ ไม่ได้มุ่งมาชี้ผิดชี้ถูกใครหรอกครับคุณกบ
:b13:


ก็ผู้สนทนา...เขาว่า..อย่างนี้ไม่ใช่คุณสมบัติอริยะ..แล้วก็ยกคุณสมบัติอริยะมา

กระผมก็สะกิดเขาให้มาสู่ทาง...นี้ครับ..ว่าอาการที่ว่าไม่ใช่อริยะที่เขาว่านั้นมันไม่ถูกตรงกับที่เขายกธรรมมา...นะซิ

ใยอโสกะ..จึงมุ่งไปแต่ทางสายกลางที่เป็นบัญญัติ....ไม่มาดูสายกลางของผู้กำลังหลง..ละคับ

นอกเสียจากว่า..อโสกะเห็นว่า..นั้นถูกต้องแล้ว..อโสกะจึงไม่พูดจาอะไร

มีหลายกรณี..ที่ Bigtoo ทำแปลก ๆ .แต่อโสกะก็เงียบ..ไม่ตักไม่เตือน...เหมือนมองไม่เห็น..อิอิ

รึว่า....ชอบจนลำเอียง...ละคับ..อโสกะ

:b9: :b9: :b9:

:b12:
ผมสังเกตดูแล้วและเห็นว่า bigto ยังมีอะไรเด็ดๆดีๆซ่อนอยู่ในคำพูดโดยที่ คุณกบและน้องRossarin ยังมองไม่เห็นความปารถนาดีที่ซ่อนอยู่ในนั้น ผมจึงลองดูต่อไปอีกสักนิด แต่เมื่อเห็นว่าเรื่องมันจะไปไกลเกินกว่าชื่อกระทู้มากแล้ว จึงสะกิดท้วงติงมาให้เกิด สัมปชัญญะครับ
:b11:

:b6:
ตามทัศนะที่เป็นความเห็นตรงทางสายกลางที่อริยชนใช้เดินทางเดียวคืออริยสัจจ์สี่+อริยมรรค์แปด
เป็นการใช้หลักธัมมะที่เข้าถึงความละเอียดจากจิตตภาวนาทั้งด้านจิตที่สงบและจิตที่ไตร่ตรองธัมมะ
ทรงความรู้ที่สามารถแยกความแตกต่างของจิตฝ่ายดีที่เป็นกุศลจิตและจิตฝ่ายไม่ดีที่เป็นอกุศลจิตได้
ซึ่งเป็นจิตที่รู้ความจริง โดยแยกแยะจิตฝ่ายดีและจิตฝ่ายไม่ดี แล้วพยายามผลักดันจิตให้ยกระดับจิตดี
ให้มีอำนาจเหนือจิตฝ่ายไม่ดี จนเป็นกำลังฝ่ายดีฟาดฟันกิเลส เพราะกิเลสขี้เยี่ยวราดรดบนหัวใจมานาน
เมื่ออริยชนที่สามารถยกระดับจิตให้พ้นทางเลี่ยงเมืองเข้าสู่ช่องทางที่เป็นทางตรงของทางสายกลางแล้ว
ก็เหมือนเดินถูกทางแน่นอน แม้จะหยุดพักระหว่างทางบ้างหรือเดินเร็วเดินช้าหรือวิ่งก็อยู่ในเส้นทางแล้ว
เพราะเป็นทางสายเอกสายเดียวที่ไม่มีทางแยกให้เลี้ยวออกนอกเส้นทางได้เมื่อถึงจุดหมายจึงรู้ได้นั่นเอง
อย่างน้อยๆนะ ข้าพเจ้าก็คิดว่าได้อยู่บนเส้นทางนั้นแล้ว และกำลังหันซ้าย หันขวา หันหน้า หันหลังอยู่นะ

:b32: :b16: :b20: :b12:
onion onion onion

ยังปลอบใจตนเองเหรอว่าได้เดินบนทางสายกลางแล้ว. ท่านเพียงศึกษาเส้นทางเท่านั้นยังไม่ได้ก้าวเดินบนทางสายกลางเลย เพราะท่านยังงงๆกับเส้นทางตรงหน้า. ทางสายกลางไม่ใช่นึกจะเดินก็เดินได้เลย มันต้องเริ่มจากความเห็นที่ถูกก่อน จะต้องถูกจริงๆตามคำสอนไม่ใช่ถูกตามความคิดของตนเอง

onion onion onion
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ

:b12:
ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต
สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ
ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค
เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ
:b16: :b4:
:b20: :b20:
คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพาน

ปัญญาไตร่ตรองที่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าไง
ก็อริยสัจจ์กับอริยมรรคเป็นทางเดินของจิตทางตรง
ทางสายกลางไงที่ต้องนำจิตเข้าสู่ความเป็นอริยชน
พระอภิธรรมยังทรงตรัสรายละเอียดแยกไว้ชัดเจน
อ่านด้วยตาเปล่าก็มองเห็นแต่ตาปัญญาจะเข้าใจไหม
ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน คนละอันกัน นิพพานว่างนะ
ไต่บันไดขึ้นชั้นบนถึงชั้นบนแล้วบันไดก็ไม่ต้องใช้จ้ะ
:b32: :b32:
ท่องจำมาก็ประมาณนี้ แต่เอาเถอะผมเองก็ยังไม่ใช่อรหันต์ เพียงแค่สัมผัสรสของกระแสนิพพานมาก็ยังไปไม่ถึงจุดหมาย แต่ก็พอรู้รสชาติที่เขาว่า. มันว่าง

ทู่ท่องหรา หึหึ หุหุ 55555 ตรงทางหน่อยทางสายกลางทางเดียว
เข้าใจถูกเป็นปัญญาที่เกิดจากสัมมาทิฐิข้อแรกในอริยมรรคนะ
:b16: :b39:

หุหุ หึหึ 55555 ผิดเต็มๆเดินสะดุดขาตัวเองหัวทิ่มเลยเน๊าะ ตกตั้งแต่ท่องเลยนะ ท่องได้ก็ยังตอบผิด
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50649
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 06:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
tongue
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
ก็กระทู้ว่า "ทางสายกลาง" แต่ถกเถียงกันไปถึงเรื่องคุณสมบัติของพระโสดาบัน ผมก็เลยสะกิดสัมปชัญญะของผู้สนทนาให้กลับมาสู่เรื่องทางสายกลางจริงๆด้วยวิธีนี้ ไม่ได้มุ่งมาชี้ผิดชี้ถูกใครหรอกครับคุณกบ
:b13:


ก็ผู้สนทนา...เขาว่า..อย่างนี้ไม่ใช่คุณสมบัติอริยะ..แล้วก็ยกคุณสมบัติอริยะมา

กระผมก็สะกิดเขาให้มาสู่ทาง...นี้ครับ..ว่าอาการที่ว่าไม่ใช่อริยะที่เขาว่านั้นมันไม่ถูกตรงกับที่เขายกธรรมมา...นะซิ

ใยอโสกะ..จึงมุ่งไปแต่ทางสายกลางที่เป็นบัญญัติ....ไม่มาดูสายกลางของผู้กำลังหลง..ละคับ

นอกเสียจากว่า..อโสกะเห็นว่า..นั้นถูกต้องแล้ว..อโสกะจึงไม่พูดจาอะไร

มีหลายกรณี..ที่ Bigtoo ทำแปลก ๆ .แต่อโสกะก็เงียบ..ไม่ตักไม่เตือน...เหมือนมองไม่เห็น..อิอิ

รึว่า....ชอบจนลำเอียง...ละคับ..อโสกะ

:b9: :b9: :b9:

:b12:
ผมสังเกตดูแล้วและเห็นว่า bigto ยังมีอะไรเด็ดๆดีๆซ่อนอยู่ในคำพูดโดยที่ คุณกบและน้องRossarin ยังมองไม่เห็นความปารถนาดีที่ซ่อนอยู่ในนั้น ผมจึงลองดูต่อไปอีกสักนิด แต่เมื่อเห็นว่าเรื่องมันจะไปไกลเกินกว่าชื่อกระทู้มากแล้ว จึงสะกิดท้วงติงมาให้เกิด สัมปชัญญะครับ
:b11:

:b6:
ตามทัศนะที่เป็นความเห็นตรงทางสายกลางที่อริยชนใช้เดินทางเดียวคืออริยสัจจ์สี่+อริยมรรค์แปด
เป็นการใช้หลักธัมมะที่เข้าถึงความละเอียดจากจิตตภาวนาทั้งด้านจิตที่สงบและจิตที่ไตร่ตรองธัมมะ
ทรงความรู้ที่สามารถแยกความแตกต่างของจิตฝ่ายดีที่เป็นกุศลจิตและจิตฝ่ายไม่ดีที่เป็นอกุศลจิตได้
ซึ่งเป็นจิตที่รู้ความจริง โดยแยกแยะจิตฝ่ายดีและจิตฝ่ายไม่ดี แล้วพยายามผลักดันจิตให้ยกระดับจิตดี
ให้มีอำนาจเหนือจิตฝ่ายไม่ดี จนเป็นกำลังฝ่ายดีฟาดฟันกิเลส เพราะกิเลสขี้เยี่ยวราดรดบนหัวใจมานาน
เมื่ออริยชนที่สามารถยกระดับจิตให้พ้นทางเลี่ยงเมืองเข้าสู่ช่องทางที่เป็นทางตรงของทางสายกลางแล้ว
ก็เหมือนเดินถูกทางแน่นอน แม้จะหยุดพักระหว่างทางบ้างหรือเดินเร็วเดินช้าหรือวิ่งก็อยู่ในเส้นทางแล้ว
เพราะเป็นทางสายเอกสายเดียวที่ไม่มีทางแยกให้เลี้ยวออกนอกเส้นทางได้เมื่อถึงจุดหมายจึงรู้ได้นั่นเอง
อย่างน้อยๆนะ ข้าพเจ้าก็คิดว่าได้อยู่บนเส้นทางนั้นแล้ว และกำลังหันซ้าย หันขวา หันหน้า หันหลังอยู่นะ

:b32: :b16: :b20: :b12:
onion onion onion

ยังปลอบใจตนเองเหรอว่าได้เดินบนทางสายกลางแล้ว. ท่านเพียงศึกษาเส้นทางเท่านั้นยังไม่ได้ก้าวเดินบนทางสายกลางเลย เพราะท่านยังงงๆกับเส้นทางตรงหน้า. ทางสายกลางไม่ใช่นึกจะเดินก็เดินได้เลย มันต้องเริ่มจากความเห็นที่ถูกก่อน จะต้องถูกจริงๆตามคำสอนไม่ใช่ถูกตามความคิดของตนเอง

onion onion onion
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ

:b12:
ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต
สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ
ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค
เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ
:b16: :b4:
:b20: :b20:
คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพาน

ปัญญาไตร่ตรองที่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าไง
ก็อริยสัจจ์กับอริยมรรคเป็นทางเดินของจิตทางตรง
ทางสายกลางไงที่ต้องนำจิตเข้าสู่ความเป็นอริยชน
พระอภิธรรมยังทรงตรัสรายละเอียดแยกไว้ชัดเจน
อ่านด้วยตาเปล่าก็มองเห็นแต่ตาปัญญาจะเข้าใจไหม
ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน คนละอันกัน นิพพานว่างนะ
ไต่บันไดขึ้นชั้นบนถึงชั้นบนแล้วบันไดก็ไม่ต้องใช้จ้ะ
:b32: :b32:
ท่องจำมาก็ประมาณนี้ แต่เอาเถอะผมเองก็ยังไม่ใช่อรหันต์ เพียงแค่สัมผัสรสของกระแสนิพพานมาก็ยังไปไม่ถึงจุดหมาย แต่ก็พอรู้รสชาติที่เขาว่า. มันว่าง

ทู่ท่องหรา หึหึ หุหุ 55555 ตรงทางหน่อยทางสายกลางทางเดียว
เข้าใจถูกเป็นปัญญาที่เกิดจากสัมมาทิฐิข้อแรกในอริยมรรคนะ
:b16: :b39:

หุหุ หึหึ 55555 ผิดเต็มๆเดินสะดุดขาตัวเองหัวทิ่มเลยเน๊าะ ตกตั้งแต่ท่องเลยนะ ท่องได้ก็ยังตอบผิด
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=50649
:b32:

ตรงไหนมิทราบที่ว่าผิด

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 95 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร