วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 15:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 925 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 43, 44, 45, 46, 47, 48, 49 ... 62  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2014, 07:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
เป็นเพียง 1 ตัวอย่างเท่านั้น
อารมณ์โยคีแต่ละคนไม่เหมือนกัน พื้นฐานที่สร้างสมมาก็แตกต่างกัน ต้องแก้ไปตามอาการที่สอบรู้ แต่หลักกลางๆเป็นแนวเดียวกัน
เพราะผู้ปฏิบัติใหม้่ 3-5 วันแรกมักจะติดอยู่ในนิวรณ์ 5 และผลของสมาธิ คือ ปีติ ปัสสัทธิและนิมิต คล้ายกันหมด ประเด็นเหตุสำคัญก็
สติไม่ทันปัจจุบัน สติหลุดจากองค์กรรมฐาน ฟุ้งไปในอดีตและอนาคต
สัมปชัญญะขาด ลืมตัว ลืมหน้าที่
โมหะครอบหลงปรุงไปตามอารมณ์แทรก ปีติ ปัสสัทธิ นิมิต หรือ วิปัสสนูกิเลส(สำหรับผู้ที่เคยกำหราบนิวรณ์และผลสมาธิได้)
อุปาทานผูกจิตครอบงำจิต
นิวรณ์แรงเพราะสร้างวิบากไว้เยอะ
ต้องแก้ไปตามเหตุปัจจัยของแต่ละคน ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว
:b37:


รวมมิตร....เรยนะ... :b13: ....ไม่โดนดอกนี้..ก็โดนดอกนั้น..ว่างั้นเถอะ..อิอิ
อ้างคำพูด:
อุปาทานผูกจิตครอบงำจิต
นิวรณ์แรงเพราะสร้างวิบากไว้เยอะ

มีใครไม่เคยสร้างวิบาก....
มีใคร..อุปาทานไม่ครอบจิต...
ไม่มีหรอก...แล้วจะพูดไปทำไม..
อ้างคำพูด:
อารมณ์โยคีแต่ละคนไม่เหมือนกัน พื้นฐานที่สร้างสมมาก็แตกต่างกัน ต้องแก้ไปตามอาการที่สอบรู้ แต่หลักกลางๆเป็นแนวเดียวกัน

ยังจับไต๋กรัชกายไม่ได้อีกหรือ...หลงตอบนั้นตอบนี้ให้เปรอะไป...ทำไม
ตอบ..อย่างที่กรัชกายชอบ..ซิ
เกือบทั้งหมดที่กรัชกายยกมาให้อโศกะ..แก้...แก่ชอบกำหนดรู้มันไป...อย่าไปใส่ใจ...เพราะมันเป้นปกติของมันอย่างนั้น....
เดียวมันก็ดับ...
กรัชกายไม่มีอะไรมากหรอก..แก้แค่นี้แหละ....
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2014, 12:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2014, 14:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
เป็นเพียง 1 ตัวอย่างเท่านั้น
อารมณ์โยคีแต่ละคนไม่เหมือนกัน พื้นฐานที่สร้างสมมาก็แตกต่างกัน ต้องแก้ไปตามอาการที่สอบรู้ แต่หลักกลางๆเป็นแนวเดียวกัน
เพราะผู้ปฏิบัติใหม้่ 3-5 วันแรกมักจะติดอยู่ในนิวรณ์ 5 และผลของสมาธิ คือ ปีติ ปัสสัทธิและนิมิต คล้ายกันหมด ประเด็นเหตุสำคัญก็
สติไม่ทันปัจจุบัน สติหลุดจากองค์กรรมฐาน ฟุ้งไปในอดีตและอนาคต
สัมปชัญญะขาด ลืมตัว ลืมหน้าที่
โมหะครอบหลงปรุงไปตามอารมณ์แทรก ปีติ ปัสสัทธิ นิมิต หรือ วิปัสสนูกิเลส(สำหรับผู้ที่เคยกำหราบนิวรณ์และผลสมาธิได้)
อุปาทานผูกจิตครอบงำจิต
นิวรณ์แรงเพราะสร้างวิบากไว้เยอะ
ต้องแก้ไปตามเหตุปัจจัยของแต่ละคน ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว
:b37:


รวมมิตร....เรยนะ... :b13: ....ไม่โดนดอกนี้..ก็โดนดอกนั้น..ว่างั้นเถอะ..อิอิ
อ้างคำพูด:
อุปาทานผูกจิตครอบงำจิต
นิวรณ์แรงเพราะสร้างวิบากไว้เยอะ

มีใครไม่เคยสร้างวิบาก....
มีใคร..อุปาทานไม่ครอบจิต...
ไม่มีหรอก...แล้วจะพูดไปทำไม..
อ้างคำพูด:
อารมณ์โยคีแต่ละคนไม่เหมือนกัน พื้นฐานที่สร้างสมมาก็แตกต่างกัน ต้องแก้ไปตามอาการที่สอบรู้ แต่หลักกลางๆเป็นแนวเดียวกัน

ยังจับไต๋กรัชกายไม่ได้อีกหรือ...หลงตอบนั้นตอบนี้ให้เปรอะไป...ทำไม
ตอบ..อย่างที่กรัชกายชอบ..ซิ
เกือบทั้งหมดที่กรัชกายยกมาให้อโศกะ..แก้...แก่ชอบกำหนดรู้มันไป...อย่าไปใส่ใจ...เพราะมันเป้นปกติของมันอย่างนั้น....
เดียวมันก็ดับ...
กรัชกายไม่มีอะไรมากหรอก..แก้แค่นี้แหละ....


อ้างคำพูด:
ตอบ..อย่างที่กรัชกายชอบ..ซิ


เออ กบ ยังพอสังเกตได้บ้าง ส่วนอโศก กับ เช่นนั้น ไม่เอาอ่าวคุ้งกะเบนเลย :b32: เหมือนคนตาบอด

ผิดอยู่หน่อยหนึ่งที่ว่าตอบตามที่กรัชกายชอบ ... ไม่ได้ชอบนะ แต่หลักมีว่า ทุกข์พึงกำหนดรู้ ไม่ใช่เลี่ยงหนี

เช่นตัวอย่างนี้

อ้างคำพูด:
มีปัญหาทำให้การนั่งสมาธิ กลัวมาก รบกวนขอคำแนะนำจากผู้รู้ด้วยค่ะ


มีปัญหาในการนั่งสมาธิค่ะ เพิ่งจะเกิดอาการตอนปีนี้ เป็นทุกครั้งที่นั่งสมาธิเลย รู้สึกกลัวที่จะนั่งไปเลย
คือว่าพอนั่งไปสักพัก พอจิตเริ่มจะนิ่งๆ แขนซ้ายเราก็จะขยับได้เอง แรกๆเราก็ตกใจสงสัยว่าจะขยับไปไหน
เราเลยปล่อยให้มันขยับแล้วส่งจิตตามดูค่ะ ปรากฏว่ามือขยับไปปิดหู เลื่อนมาปิดปาก จมูก ตา แล้ววนมาปิดหู
วนไปวนมาอย่างนั้น ไม่ยอมหยุด เราเมื่อยมากค่ะ บางทีครึ่งชั่วโมงผ่านไป แขนเราก็ยังไม่ยอมหยุดหมุน
เราเคยใช้มืออีกข้างดึงมือซ้ายเราลงมาทำท่านั่งสมาธิใหม่ แต่พอเราปล่อยมือ มือเรามันก็เหมือนโดนปัดกลับไปทำแบบเดิมๆอีก
บางทีเราเริ่มโมโหดึงแขนเรากลับมา แต่มันก็ปัดกลับไปปิดหูตาจมูกปากเราเหมือนเดิม ซึ่งตัวเราเองก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร

ถ้ามองแบบวิทยาศาสตร์ เราว่าเราก็คงมีปัญหาตรงที่จิตไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนย้ายของร่างกายได้ สรุปว่า เราเป็นผู้ป่วยโรคจิต??

ถ้ามองแบบศาสนาการฝึกปฏิบัติธรรม: อุปสรรคระหว่างนั่ง จิตปรุง เกิดได้กับทุกคน?? เราอยากทราบว่าอาการแบบนี้หมายถึงอะไร
เราควรหยุดชั่วคราวก่อน หรือฝึกต่อไป ทำอย่างไรดี?

ตอนนั่งเราก็พิจารณาคิดถึงลมหายใจเข้าออกๆ พอมันเป็นแบบนี้เราก็กลัว เพราะเรามั่นใจว่า กายเรามันไม่ได้ไปด้วยกันกับจิต
เราสวดมนต์นั่งสมาธิเดินจงกรมตลอด อาจไม่ได้ทำทุกวันแต่ก็ฝึกตลอดสม่ำเสมอมาสิบกว่าปี
ยิ่งตอนนี้เราปฏิบัติเองอยู่ที่บ้านเรายิ่งกลัว ไม่ทราบว่าเราควรแก้ไขอย่างไรดีคะ
ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ ดูว่าจะทำไปได้แค่ไหน หรือว่าถ้าเป็นแบบนี้อีกให้ลืมตารีบออกจากสมาธิเลย



มีใครชอบบ้าง ไม่มีเลย ตัวเองก็ไม่ชอบ แต่ถ้าต้องการพ้นทุกข์ก็พึงกำหนดรู้จักมันตามที่มันเป็น

ที่ปฏิบัติธรรมกันไม่ได้ผลเพราะเลี่ยงหนีความจริง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2014, 19:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
เป็นเพียง 1 ตัวอย่างเท่านั้น
อารมณ์โยคีแต่ละคนไม่เหมือนกัน พื้นฐานที่สร้างสมมาก็แตกต่างกัน ต้องแก้ไปตามอาการที่สอบรู้ แต่หลักกลางๆเป็นแนวเดียวกัน
เพราะผู้ปฏิบัติใหม้่ 3-5 วันแรกมักจะติดอยู่ในนิวรณ์ 5 และผลของสมาธิ คือ ปีติ ปัสสัทธิและนิมิต คล้ายกันหมด ประเด็นเหตุสำคัญก็
สติไม่ทันปัจจุบัน สติหลุดจากองค์กรรมฐาน ฟุ้งไปในอดีตและอนาคต
สัมปชัญญะขาด ลืมตัว ลืมหน้าที่
โมหะครอบหลงปรุงไปตามอารมณ์แทรก ปีติ ปัสสัทธิ นิมิต หรือ วิปัสสนูกิเลส(สำหรับผู้ที่เคยกำหราบนิวรณ์และผลสมาธิได้)
อุปาทานผูกจิตครอบงำจิต
นิวรณ์แรงเพราะสร้างวิบากไว้เยอะ
ต้องแก้ไปตามเหตุปัจจัยของแต่ละคน ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว
:b37:


รวมมิตร....เรยนะ... :b13: ....ไม่โดนดอกนี้..ก็โดนดอกนั้น..ว่างั้นเถอะ..อิอิ
อ้างคำพูด:
อุปาทานผูกจิตครอบงำจิต
นิวรณ์แรงเพราะสร้างวิบากไว้เยอะ

มีใครไม่เคยสร้างวิบาก....
มีใคร..อุปาทานไม่ครอบจิต...
ไม่มีหรอก...แล้วจะพูดไปทำไม..
อ้างคำพูด:
อารมณ์โยคีแต่ละคนไม่เหมือนกัน พื้นฐานที่สร้างสมมาก็แตกต่างกัน ต้องแก้ไปตามอาการที่สอบรู้ แต่หลักกลางๆเป็นแนวเดียวกัน

ยังจับไต๋กรัชกายไม่ได้อีกหรือ...หลงตอบนั้นตอบนี้ให้เปรอะไป...ทำไม
ตอบ..อย่างที่กรัชกายชอบ..ซิ
เกือบทั้งหมดที่กรัชกายยกมาให้อโศกะ..แก้...แก่ชอบกำหนดรู้มันไป...อย่าไปใส่ใจ...เพราะมันเป้นปกติของมันอย่างนั้น....
เดียวมันก็ดับ...
กรัชกายไม่มีอะไรมากหรอก..แก้แค่นี้แหละ....
:b32: :b32:


เมื่อวานอุตสาห์ละเว้น ไม่ทักแล้วนะ
...
ก็เจออ๊บซ์เสียจนได้

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2014, 19:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
มีใครชอบบ้าง ไม่มีเลย ตัวเองก็ไม่ชอบ แต่ถ้าต้องการพ้นทุกข์ก็พึงกำหนดรู้จักมันตามที่มันเป็น

ที่ปฏิบัติธรรมกันไม่ได้ผลเพราะเลี่ยงหนีความจริง :b1:

ไม่มีใครเลี่ยงหนีความจริงหรอกกรัชกาย
แต่ไม่อยากร่วมบ้า ไปกับกรัชกาย
จะบ้า ก็บ้าไปคนเดียว ^ ^

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2014, 05:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
มีใครชอบบ้าง ไม่มีเลย ตัวเองก็ไม่ชอบ แต่ถ้าต้องการพ้นทุกข์ก็พึงกำหนดรู้จักมันตามที่มันเป็น

ที่ปฏิบัติธรรมกันไม่ได้ผลเพราะเลี่ยงหนีความจริง :b1:

ไม่มีใครเลี่ยงหนีความจริงหรอกกรัชกาย
แต่ไม่อยากร่วมบ้า ไปกับกรัชกาย
จะบ้า ก็บ้าไปคนเดียว ^ ^



คิกๆๆ เช่นนั้น กำลังจะบอกว่า สัจธรรมบ้า แหมๆ จะแยกตัวออกจากปัญหา :b32: :b9: เช่นนั้นขอรับ สัจธรรมทนต่อการพิสูจน์น้า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2014, 06:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คิกๆๆ เช่นนั้น กำลังจะบอกว่า สัจธรรมบ้า แหมๆ จะแยกตัวออกจากปัญหา :b32: :b9: เช่นนั้นขอรับ สัจธรรมทนต่อการพิสูจน์น้า

สัจธรรมทนต่อการพิสูจน์ เป็นความจริง

เพราะอสัทธรรม ที่กรัชกายแสดง พิสูจน์แล้วว่าไม่ทน
เช่น มนสิการ คือสมาธิ
ขันธ์ใหม่ ก็คือสติครึ่งสัญญาครึ่ง
คนมีนิวรณ์ไม่มีสมาธิ
คนฟุ้งซ่านไปกับนามรูป ก็แนะนำมั่วๆ ให้บ้าไปกับนามรูป

อย่าแนะนำอะไรมั่วๆ ต่อไปเลยครับ
ไปทำความศึกษาพระสูตรให้ดี กรัชกาย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2014, 08:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คิกๆๆ เช่นนั้น กำลังจะบอกว่า สัจธรรมบ้า แหมๆ จะแยกตัวออกจากปัญหา :b32: :b9: เช่นนั้นขอรับ สัจธรรมทนต่อการพิสูจน์น้า

สัจธรรมทนต่อการพิสูจน์ เป็นความจริง

เพราะอสัทธรรม ที่กรัชกายแสดง พิสูจน์แล้วว่าไม่ทน
เช่น มนสิการ คือสมาธิ
ขันธ์ใหม่ ก็คือสติครึ่งสัญญาครึ่ง
คนมีนิวรณ์ไม่มีสมาธิ
คนฟุ้งซ่านไปกับนามรูป ก็แนะนำมั่วๆ ให้บ้าไปกับนามรูป

อย่าแนะนำอะไรมั่วๆ ต่อไปเลยครับ
ไปทำความศึกษาพระสูตรให้ดี กรัชกาย



อ้างคำพูด:
มีปัญหาทำให้การนั่งสมาธิ กลัวมาก รบกวนขอคำแนะนำจากผู้รู้ด้วยค่ะ


มีปัญหาในการนั่งสมาธิค่ะ เพิ่งจะเกิดอาการตอนปีนี้ เป็นทุกครั้งที่นั่งสมาธิเลย รู้สึกกลัวที่จะนั่งไปเลย
คือว่าพอนั่งไปสักพัก พอจิตเริ่มจะนิ่งๆ แขนซ้ายเราก็จะขยับได้เอง แรกๆเราก็ตกใจสงสัยว่าจะขยับไปไหน
เราเลยปล่อยให้มันขยับแล้วส่งจิตตามดูค่ะ ปรากฏว่ามือขยับไปปิดหู เลื่อนมาปิดปาก จมูก ตา แล้ววนมาปิดหู
วนไปวนมาอย่างนั้น ไม่ยอมหยุด เราเมื่อยมากค่ะ บางทีครึ่งชั่วโมงผ่านไป แขนเราก็ยังไม่ยอมหยุดหมุน
เราเคยใช้มืออีกข้างดึงมือซ้ายเราลงมาทำท่านั่งสมาธิใหม่ แต่พอเราปล่อยมือ มือเรามันก็เหมือนโดนปัดกลับไปทำแบบเดิมๆอีก
บางทีเราเริ่มโมโหดึงแขนเรากลับมา แต่มันก็ปัดกลับไปปิดหูตาจมูกปากเราเหมือนเดิม ซึ่งตัวเราเองก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร

ถ้ามองแบบวิทยาศาสตร์ เราว่าเราก็คงมีปัญหาตรงที่จิตไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนย้ายของร่างกายได้ สรุปว่า เราเป็นผู้ป่วยโรคจิต??

ถ้ามองแบบศาสนาการฝึกปฏิบัติธรรม: อุปสรรคระหว่างนั่ง จิตปรุง เกิดได้กับทุกคน?? เราอยากทราบว่าอาการแบบนี้หมายถึงอะไร
เราควรหยุดชั่วคราวก่อน หรือฝึกต่อไป ทำอย่างไรดี?

ตอนนั่งเราก็พิจารณาคิดถึงลมหายใจเข้าออกๆ พอมันเป็นแบบนี้เราก็กลัว เพราะเรามั่นใจว่า กายเรามันไม่ได้ไปด้วยกันกับจิต
เราสวดมนต์นั่งสมาธิเดินจงกรมตลอด อาจไม่ได้ทำทุกวันแต่ก็ฝึกตลอดสม่ำเสมอมาสิบกว่าปี
ยิ่งตอนนี้เราปฏิบัติเองอยู่ที่บ้านเรายิ่งกลัว ไม่ทราบว่าเราควรแก้ไขอย่างไรดีคะ
ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ ดูว่าจะทำไปได้แค่ไหน หรือว่าถ้าเป็นแบบนี้อีกให้ลืมตารีบออกจากสมาธิเลย



ในพระสูตรมีไหม เช่นนั้น ยกมาดูกันหน่อย :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2014, 13:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
เรื่องแบบที่กรัชกายถามนี้ไม่มีในพระสูตร แต่อาการของผู้ภาวนาที่วิปริตแปรปรวนไปด้วยอำนาจของนิวรณ์และผลของสมาธิ นั้นมีอยู่ แก้ไขอย่างไรพระบรมศาสดาก็ทรงแสดงสอนไว้ในสูตรต่างๆซึ่งสามารถนำมาประยุกต์เทียบเคียงได้กับอารมณ์ที่เกิดกับผู้คนในยุคปัจจุบัน เพราะความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ดีใจ เสียใจ สุข ทุกข์ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เมื่อครั้งพุทธกาล กับ สมัยปัจจุบัน ก็ไม่แตกต่างกัน แต่อาจใช้ศัพท์บัญญัติ บอกกล่าวต่างกันไปบ้างเท่านั้นเอง

การตอบแก้ปัญหาคงต้องตอบตามตัณหาของกรัชกายมันจึงจะจบ ตัณหาความชอบให้ตอบอย่างไรของกรัชกายเป็นอย่างไรคุณกบก็เฉลยให้ดูตอนต้นแล้ว

อ้างคำพูด:
ยังจับไต๋กรัชกายไม่ได้อีกหรือ...หลงตอบนั้นตอบนี้ให้เปรอะไป...ทำไม
ตอบ..อย่างที่กรัชกายชอบ..ซิ
เกือบทั้งหมดที่กรัชกายยกมาให้อโศกะ..แก้...แก่ชอบกำหนดรู้มันไป...อย่าไปใส่ใจ...เพราะมันเป้นปกติของมันอย่างนั้น....
เดียวมันก็ดับ...
กรัชกายไม่มีอะไรมากหรอก..แก้แค่นี้แหละ....



นั่นแหละคือคำตอบสำหรับปัญหาที่กรัชกายถามคุณเช่นนั้น

อย่างนี้คงยุติคำถามซอกแซกของกรัชกายได้แล้วนะครับ
:b11:
:b32: :b32: :b32:
:b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2014, 13:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2014, 14:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
s004
เรื่องแบบที่กรัชกายถามนี้ไม่มีในพระสูตร แต่อาการของผู้ภาวนาที่วิปริตแปรปรวนไปด้วยอำนาจของนิวรณ์และผลของสมาธิ นั้นมีอยู่ แก้ไขอย่างไรพระบรมศาสดาก็ทรงแสดงสอนไว้ในสูตรต่างๆซึ่งสามารถนำมาประยุกต์เทียบเคียงได้กับอารมณ์ที่เกิดกับผู้คนในยุคปัจจุบัน เพราะความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ดีใจ เสียใจ สุข ทุกข์ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เมื่อครั้งพุทธกาล กับ สมัยปัจจุบัน ก็ไม่แตกต่างกัน แต่อาจใช้ศัพท์บัญญัติ บอกกล่าวต่างกันไปบ้างเท่านั้นเอง

การตอบแก้ปัญหาคงต้องตอบตามตัณหาของกรัชกายมันจึงจะจบ ตัณหาความชอบให้ตอบอย่างไรของกรัชกายเป็นอย่างไรคุณกบก็เฉลยให้ดูตอนต้นแล้ว

อ้างคำพูด:
ยังจับไต๋กรัชกายไม่ได้อีกหรือ...หลงตอบนั้นตอบนี้ให้เปรอะไป...ทำไม
ตอบ..อย่างที่กรัชกายชอบ..ซิ
เกือบทั้งหมดที่กรัชกายยกมาให้อโศกะ..แก้...แก่ชอบกำหนดรู้มันไป...อย่าไปใส่ใจ...เพราะมันเป้นปกติของมันอย่างนั้น....
เดียวมันก็ดับ...
กรัชกายไม่มีอะไรมากหรอก..แก้แค่นี้แหละ....



นั่นแหละคือคำตอบสำหรับปัญหาที่กรัชกายถามคุณเช่นนั้น

อย่างนี้คงยุติคำถามซอกแซกของกรัชกายได้แล้วนะครับ


ที่ถามเนี่ยะ ถามเผื่อศิษย์สำนักอโศก ถ้าศิษย์ในสำนักที่อโศกดูแลอยู่ เป็นอย่าง่นั้น อโศกจะแนะนำอย่างไร เพื่อที่จะหลุดพ้น (เข้าใจสภาวะนั้นๆ) นี่ประเด็นอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่นำมาถามเล่นสนุกสนานสำราญใจ เข้าใจอะไรยากจริงๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2014, 15:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
s004
เรื่องแบบที่กรัชกายถามนี้ไม่มีในพระสูตร แต่อาการของผู้ภาวนาที่วิปริตแปรปรวนไปด้วยอำนาจของนิวรณ์และผลของสมาธิ นั้นมีอยู่ แก้ไขอย่างไรพระบรมศาสดาก็ทรงแสดงสอนไว้ในสูตรต่างๆซึ่งสามารถนำมาประยุกต์เทียบเคียงได้กับอารมณ์ที่เกิดกับผู้คนในยุคปัจจุบัน เพราะความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ดีใจ เสียใจ สุข ทุกข์ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เมื่อครั้งพุทธกาล กับ สมัยปัจจุบัน ก็ไม่แตกต่างกัน แต่อาจใช้ศัพท์บัญญัติ บอกกล่าวต่างกันไปบ้างเท่านั้นเอง

การตอบแก้ปัญหาคงต้องตอบตามตัณหาของกรัชกายมันจึงจะจบ ตัณหาความชอบให้ตอบอย่างไรของกรัชกายเป็นอย่างไรคุณกบก็เฉลยให้ดูตอนต้นแล้ว

อ้างคำพูด:
ยังจับไต๋กรัชกายไม่ได้อีกหรือ...หลงตอบนั้นตอบนี้ให้เปรอะไป...ทำไม
ตอบ..อย่างที่กรัชกายชอบ..ซิ
เกือบทั้งหมดที่กรัชกายยกมาให้อโศกะ..แก้...แก่ชอบกำหนดรู้มันไป...อย่าไปใส่ใจ...เพราะมันเป้นปกติของมันอย่างนั้น....
เดียวมันก็ดับ...
กรัชกายไม่มีอะไรมากหรอก..แก้แค่นี้แหละ....



นั่นแหละคือคำตอบสำหรับปัญหาที่กรัชกายถามคุณเช่นนั้น

อย่างนี้คงยุติคำถามซอกแซกของกรัชกายได้แล้วนะครับ


ที่ถามเนี่ยะ ถามเผื่อศิษย์สำนักอโศก ถ้าศิษย์ในสำนักที่อโศกดูแลอยู่ เป็นอย่าง่นั้น อโศกจะแนะนำอย่างไร เพื่อที่จะหลุดพ้น (เข้าใจสภาวะนั้นๆ) นี่ประเด็นอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่นำมาถามเล่นสนุกสนานสำราญใจ เข้าใจอะไรยากจริงๆ

Onion_L Onion_L Onion_L
นี่ ๆ ๆ ๆ กรัชกาย เกิดภาวะลืมตัวลืมตนไปด้วยความเมาวิชาการแล้วนะนี่

ธุระอะไรต้องไปก้าวก่ายถามเผื่อลูกศิษย์ของอโศกะ ๆ แก้ปัญหามาได้ดีตลอดแล้ว ศิษย์ก็ได้ดีไปตั้งเยอะตั้งแยะแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก

ทำของตัวเองให้ดี แก้ปัญหารศิษย์ตัวเองให้ได้เสียก่อนเถิด ไม่ใช่เอาปัญหาไปเที่ยวถามผู้คนทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ไม่อายผู้คนเขาบ้างหรือ พูดธรรมะเป็นไฟ รู้ไปหมดศัพท์แสงธรรมะใหญ่น้อย แต่แก้ปัญหาให้ศิษย์ตัวเองก็ไม่ได้ ทั้งๆที่เป็นปัญหาพื้นๆ ธรรมดา ๆ แล้วนี่ยังจะ ...ส... ไปช่วยแก้ปัญหาให้คนอื่น
grin
:b7:
:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2014, 16:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
s004
เรื่องแบบที่กรัชกายถามนี้ไม่มีในพระสูตร แต่อาการของผู้ภาวนาที่วิปริตแปรปรวนไปด้วยอำนาจของนิวรณ์และผลของสมาธิ นั้นมีอยู่ แก้ไขอย่างไรพระบรมศาสดาก็ทรงแสดงสอนไว้ในสูตรต่างๆซึ่งสามารถนำมาประยุกต์เทียบเคียงได้กับอารมณ์ที่เกิดกับผู้คนในยุคปัจจุบัน เพราะความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ดีใจ เสียใจ สุข ทุกข์ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เมื่อครั้งพุทธกาล กับ สมัยปัจจุบัน ก็ไม่แตกต่างกัน แต่อาจใช้ศัพท์บัญญัติ บอกกล่าวต่างกันไปบ้างเท่านั้นเอง

การตอบแก้ปัญหาคงต้องตอบตามตัณหาของกรัชกายมันจึงจะจบ ตัณหาความชอบให้ตอบอย่างไรของกรัชกายเป็นอย่างไรคุณกบก็เฉลยให้ดูตอนต้นแล้ว

อ้างคำพูด:
ยังจับไต๋กรัชกายไม่ได้อีกหรือ...หลงตอบนั้นตอบนี้ให้เปรอะไป...ทำไม
ตอบ..อย่างที่กรัชกายชอบ..ซิ
เกือบทั้งหมดที่กรัชกายยกมาให้อโศกะ..แก้...แก่ชอบกำหนดรู้มันไป...อย่าไปใส่ใจ...เพราะมันเป้นปกติของมันอย่างนั้น....
เดียวมันก็ดับ...
กรัชกายไม่มีอะไรมากหรอก..แก้แค่นี้แหละ....



นั่นแหละคือคำตอบสำหรับปัญหาที่กรัชกายถามคุณเช่นนั้น

อย่างนี้คงยุติคำถามซอกแซกของกรัชกายได้แล้วนะครับ


ที่ถามเนี่ยะ ถามเผื่อศิษย์สำนักอโศก ถ้าศิษย์ในสำนักที่อโศกดูแลอยู่ เป็นอย่าง่นั้น อโศกจะแนะนำอย่างไร เพื่อที่จะหลุดพ้น (เข้าใจสภาวะนั้นๆ) นี่ประเด็นอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่นำมาถามเล่นสนุกสนานสำราญใจ เข้าใจอะไรยากจริงๆ


นี่ ๆ ๆ ๆ กรัชกาย เกิดภาวะลืมตัวลืมตนไปด้วยความเมาวิชาการแล้วนะนี่

ธุระอะไรต้องไปก้าวก่ายถามเผื่อลูกศิษย์ของอโศกะ ๆ แก้ปัญหามาได้ดีตลอดแล้ว ศิษย์ก็ได้ดีไปตั้งเยอะตั้งแยะแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก

ทำของตัวเองให้ดี แก้ปัญหารศิษย์ตัวเองให้ได้เสียก่อนเถิด ไม่ใช่เอาปัญหาไปเที่ยวถามผู้คนทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ไม่อายผู้คนเขาบ้างหรือ พูดธรรมะเป็นไฟ รู้ไปหมดศัพท์แสงธรรมะใหญ่น้อย แต่แก้ปัญหาให้ศิษย์ตัวเองก็ไม่ได้ ทั้งๆที่เป็นปัญหาพื้นๆ ธรรมดา ๆ แล้วนี่ยังจะ ...ส... ไปช่วยแก้ปัญหาให้คนอื่น


อ๋อ รู้แล้วๆ คิกๆๆ ที่อโศกแนะนำเค้าน่ะไม่สู้กระไรนักหรอก คือยังเป็นเหมือนเทศน์ เหมือนพูดสนทนาปรับทุกข์กันไปตามประสา :b13: ยังไม่ใช่การบริกรรมภาวนา โดยใช้ลมเข้า-ออกทางจมูกบ้าง ใช้อาการท้องพอง-ท้องยุบ เป็นต้น บ้างเป็นกรรมฐาน คือเป็นฐานฝึกจิต ฐานภาวนา ไม่ใช่ ๆๆ อโศกยังไม่ใช่ ก็ได้ครับ ไม่ได้ว่าอะไรนะ เดี๋ยวเข้าใจผิดอีก :b1:


แต่ถ้าถึงขั้นบริกรรมในใจ พุทโธๆ พองหนอ ยุบหนอเป็นต้นละก็ กรัชกายเป็นห่วงศิษย์ในสำนักนั้นครับ

อ้างคำพูด:
การนั่งสมาธิของผมไม่มีอะไรมากครับ แค่กำหนดลมหายใจ เข้า-ออก พุทธ โธ ๆๆ คือไม่ได้ไปศึกษาที่ใหนครับเรียนมาตั้งแต่เด็ก ครูสอนแบบนี้


ในขณะนั้น นั่งไป 2 ชม. พอออกจากสมาธิแล้ว รู้สึกกระปี้กระเปร่า สดชื่น ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย ไม่ปวดเมื่อยเลยครับ

...เข้าเรื่องเลยครับ พอย่างเข้าเดือนที่ 3 มันจะมีอาการตกค้างหลังจากการนั่งสมาธิ คือว่า มันมีอาการเต้นตุ๊บๆ อยู่จุดๆ หนึ่งตรง กึ่งกลางหน้าผากระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง และมีเหมือน กลุ่มก้อนพลังงานบางอย่าง คือเรียกไม่ถูก ที่เคลื่อนใหวไปมา เคลื่อนที่ได้เอง บริเวณส่วนหัวของผมทั้งหมด คือมันจะวิ่งไป-มา ตรงหน้าผาก สันจมูก โหนกแก้ม ท้ายทอย ตรงปลายคาง บางครั้งก็วิ่งขึ้นกลางหัวแล้วไปจุกๆ อัดแน่นกัน เหมือนหัวผมจะระเบิดเลยครับ

เลยอยากรู้ว่า มันคืออะไร หรือ เป็นโรคอะไรหรือเปล่า ผมจะได้ไปหาหมอทัน หรือท่านใดพอจะเมตตาแนะวิธี



อโศกพอเข้าใจมั้ยครับ :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2014, 12:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
อ้างคำพูด:
อ้างคำพูด:
อ๋อ รู้แล้วๆ คิกๆๆ ที่อโศกแนะนำเค้าน่ะไม่สู้กระไรนักหรอก คือยังเป็นเหมือนเทศน์ เหมือนพูดสนทนาปรับทุกข์กันไปตามประสา :b13: ยังไม่ใช่การบริกรรมภาวนา โดยใช้ลมเข้า-ออกทางจมูกบ้าง ใช้อาการท้องพอง-ท้องยุบ เป็นต้น บ้างเป็นกรรมฐาน คือเป็นฐานฝึกจิต ฐานภาวนา ไม่ใช่ ๆๆ อโศกยังไม่ใช่ ก็ได้ครับ ไม่ได้ว่าอะไรนะ เดี๋ยวเข้าใจผิดอีก :b1:


แต่ถ้าถึงขั้นบริกรรมในใจ พุทโธๆ พองหนอ ยุบหนอเป็นต้นละก็ กรัชกายเป็นห่วงศิษย์ในสำนักนั้นครับ

อ้างคำพูด:

การนั่งสมาธิของผมไม่มีอะไรมากครับ แค่กำหนดลมหายใจ เข้า-ออก พุทธ โธ ๆๆ คือไม่ได้ไปศึกษาที่ใหนครับเรียนมาตั้งแต่เด็ก ครูสอนแบบนี้


ในขณะนั้น นั่งไป 2 ชม. พอออกจากสมาธิแล้ว รู้สึกกระปี้กระเปร่า สดชื่น ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย ไม่ปวดเมื่อยเลยครับ

...เข้าเรื่องเลยครับ พอย่างเข้าเดือนที่ 3 มันจะมีอาการตกค้างหลังจากการนั่งสมาธิ คือว่า มันมีอาการเต้นตุ๊บๆ อยู่จุดๆ หนึ่งตรง กึ่งกลางหน้าผากระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง และมีเหมือน กลุ่มก้อนพลังงานบางอย่าง คือเรียกไม่ถูก ที่เคลื่อนใหวไปมา เคลื่อนที่ได้เอง บริเวณส่วนหัวของผมทั้งหมด คือมันจะวิ่งไป-มา ตรงหน้าผาก สันจมูก โหนกแก้ม ท้ายทอย ตรงปลายคาง บางครั้งก็วิ่งขึ้นกลางหัวแล้วไปจุกๆ อัดแน่นกัน เหมือนหัวผมจะระเบิดเลยครับ

เลยอยากรู้ว่า มันคืออะไร หรือ เป็นโรคอะไรหรือเปล่า ผมจะได้ไปหาหมอทัน หรือท่านใดพอจะเมตตาแนะวิธี




อโศกพอเข้าใจมั้ยครับ


:b10:
s004
กรัชกายเดาสุ่มอีกแล้ว.......

อโศกะ ไม่ได้สอนพุทโธหรือหนอ กรัชกายน่าจะรู้ชัดตั้งนานแล้ว แต่ยังกลับมาเดาสุ่มว่าอโศกะสอนศิษย์ให้บริกรรม พุทโธ หรือหนอ

ที่แนะนำไปนั้นเพราะน้องที่มีปัญหาเขาเจริญพุทโธ มา ก็เลยโยงว่าจะเชื่อมต่อกับกรรมฐานที่เขาเคยทำอย่างไร

แล้วปัญหาของน้องคนถัดมาที่ท่องพุทโธมาจนเกิดจิตละเอียด รู้สึกอาการเต้นตอดที่หน้าผาก แล้วเกิดปรากฏการณ์อื่นตามมา นี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ใหม่

สรุปว่าเขาเกิดสมาธิเบื้องต้น จนจิตละเอียด รู้ชัดอาการในกาย ที่ระหว่างคิ้ว ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีๆ มันก็คือปฏิกิริยาของการเต้นของชีพจรที่ไปชัดเป็นช่วงๆบริเวณนั้น เป็นของแปลกสำหรับเขาเขาก็เลยเพ่งมากไป
เพ่งมากก็เกิดความตึง เครียด และปรากฏการณ์อื่นๆอย่างที่เขาเป็น ตามมา

วิธีแก้ ก็ต้องอธิบายให้เขาทราบเหตุผล แล้วให้เขาหยุดเพ่ง ให้แตะหรือสัมผัสรู้เพียงเบาๆ จะเอาการนิ่งรู้นิ่งสังเกตจนอาการต่างๆเหล่านั้นดับไป เงียบไปเสียก่อนก็ได้ แล้วค่อยกลับมาเจริญพุทโธตามลมเข้าออกต่อ

หรือจะอาศัยสมาธิที่ได้ต่อยอดเจริญวิปัสสนาภาวนาต่อไปเลยก็ได้ ซึ่งก็ต้องสอนวิธีวางพุทโธ ไปเจริญปัญญาต่อไป
:b37:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2014, 12:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b38:
อ้างคำพูด:
อ้างคำพูด:
อ๋อ รู้แล้วๆ คิกๆๆ ที่อโศกแนะนำเค้าน่ะไม่สู้กระไรนักหรอก คือยังเป็นเหมือนเทศน์ เหมือนพูดสนทนาปรับทุกข์กันไปตามประสา :b13: ยังไม่ใช่การบริกรรมภาวนา โดยใช้ลมเข้า-ออกทางจมูกบ้าง ใช้อาการท้องพอง-ท้องยุบ เป็นต้น บ้างเป็นกรรมฐาน คือเป็นฐานฝึกจิต ฐานภาวนา ไม่ใช่ ๆๆ อโศกยังไม่ใช่ ก็ได้ครับ ไม่ได้ว่าอะไรนะ เดี๋ยวเข้าใจผิดอีก :b1:


แต่ถ้าถึงขั้นบริกรรมในใจ พุทโธๆ พองหนอ ยุบหนอเป็นต้นละก็ กรัชกายเป็นห่วงศิษย์ในสำนักนั้นครับ

อ้างคำพูด:

การนั่งสมาธิของผมไม่มีอะไรมากครับ แค่กำหนดลมหายใจ เข้า-ออก พุทธ โธ ๆๆ คือไม่ได้ไปศึกษาที่ใหนครับเรียนมาตั้งแต่เด็ก ครูสอนแบบนี้


ในขณะนั้น นั่งไป 2 ชม. พอออกจากสมาธิแล้ว รู้สึกกระปี้กระเปร่า สดชื่น ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย ไม่ปวดเมื่อยเลยครับ

...เข้าเรื่องเลยครับ พอย่างเข้าเดือนที่ 3 มันจะมีอาการตกค้างหลังจากการนั่งสมาธิ คือว่า มันมีอาการเต้นตุ๊บๆ อยู่จุดๆ หนึ่งตรง กึ่งกลางหน้าผากระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง และมีเหมือน กลุ่มก้อนพลังงานบางอย่าง คือเรียกไม่ถูก ที่เคลื่อนใหวไปมา เคลื่อนที่ได้เอง บริเวณส่วนหัวของผมทั้งหมด คือมันจะวิ่งไป-มา ตรงหน้าผาก สันจมูก โหนกแก้ม ท้ายทอย ตรงปลายคาง บางครั้งก็วิ่งขึ้นกลางหัวแล้วไปจุกๆ อัดแน่นกัน เหมือนหัวผมจะระเบิดเลยครับ

เลยอยากรู้ว่า มันคืออะไร หรือ เป็นโรคอะไรหรือเปล่า ผมจะได้ไปหาหมอทัน หรือท่านใดพอจะเมตตาแนะวิธี




อโศกพอเข้าใจมั้ยครับ


:b10:
s004
กรัชกายเดาสุ่มอีกแล้ว.......

อโศกะ ไม่ได้สอนพุทโธหรือหนอ กรัชกายน่าจะรู้ชัดตั้งนานแล้ว แต่ยังกลับมาเดาสุ่มว่าอโศกะสอนศิษย์ให้บริกรรม พุทโธ หรือหนอ

ที่แนะนำไปนั้นเพราะน้องที่มีปัญหาเขาเจริญพุทโธ มา ก็เลยโยงว่าจะเชื่อมต่อกับกรรมฐานที่เขาเคยทำอย่างไร

แล้วปัญหาของน้องคนถัดมาที่ท่องพุทโธมาจนเกิดจิตละเอียด รู้สึกอาการเต้นตอดที่หน้าผาก แล้วเกิดปรากฏการณ์อื่นตามมา นี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ใหม่

สรุปว่าเขาเกิดสมาธิเบื้องต้น จนจิตละเอียด รู้ชัดอาการในกาย ที่ระหว่างคิ้ว ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีๆ มันก็คือปฏิกิริยาของการเต้นของชีพจรที่ไปชัดเป็นช่วงๆบริเวณนั้น เป็นของแปลกสำหรับเขาเขาก็เลยเพ่งมากไป
เพ่งมากก็เกิดความตึง เครียด และปรากฏการณ์อื่นๆอย่างที่เขาเป็น ตามมา

วิธีแก้ ก็ต้องอธิบายให้เขาทราบเหตุผล แล้วให้เขาหยุดเพ่ง ให้แตะหรือสัมผัสรู้เพียงเบาๆ จะเอาการนิ่งรู้นิ่งสังเกตจนอาการต่างๆเหล่านั้นดับไป เงียบไปเสียก่อนก็ได้ แล้วค่อยกลับมาเจริญพุทโธตามลมเข้าออกต่อ

หรือจะอาศัยสมาธิที่ได้ต่อยอดเจริญวิปัสสนาภาวนาต่อไปเลยก็ได้ ซึ่งก็ต้องสอนวิธีวางพุทโธ ไปเจริญปัญญาต่อไป
:b37:



นี่ก็เหมือนกัน วางพุทโธ ไปเจริญปัญญา นี่มันพูดนะ เขาก็ถามอีกว่า วางยังไง เจริญปัญญายังไง เห็นมั้ยไม่พ้นคำถาม เพราะมันไม่่ใช่วิธีที่นำไปใช้ไปทำได้ เป็นเพียงคำพูด

เออ ถ้าบอกว่า วางแปรงสีฟันลงนะ แล้วหยิบขันขึ้นมาตักน้ำแล้วล้างหน้า ยังงี้ได้เลย

แต่นี่บอกให้วางพุทโธ เจริญปัญญา ต่อยอดนั่นนี่ ที่พูดนั่นเป็นนามธรรมอโศก มองไม่เห็นหยิบฉวยไม่ได้ ไม่เหมือนแปรงกับขันน้ำพานรอง คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 925 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 43, 44, 45, 46, 47, 48, 49 ... 62  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร