วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 06:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 288 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 20  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 06:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
ต้องแยกให้ออกว่าอะไรสังขาร อะไรวิญญาณ วิปัสสนาภาวนาคือการทีวิญญาณไปตั้งที่ใดที่หนึ่งแล้วเกิดตัวรู้ว่า ร้อนหนาวอ่อนแข็งต้องแยกแยะเป็น อะไรโสต อะไรจักษุ จำแนกออกมาแล้วจะรู้ว่าขั้นญาณนั้นเป็นอย่างไร เช่นได้ยินเพราะวิญญาณไปรู้การกระทบ ไม่ใช่สังขารไปคิดว่าเสียงอะไร น่าฟังไม่น่าฟัง



ไหนๆก็ไหนแล้วนะครับ คิกๆๆ วิธีการลงมือทำ หรือวิธีปฏิบัติหรือวิธีภาวนา ของเช่นนั้น กับวิธีของ student ช่วยแก้ปัญหาภาคปฏิบัติอย่างตัวอย่างหัวข้อนี้ไม่ได้หรอกครับ ไม่ทันกิน :b32: เอาหัวเป็นประกันเลยเอ้าา :b1:

แก้ได้ครับ แต่มันต้องไปแก้ความเห็นและความศรัทธาของสตรีผู้ปฎิบัติคนนี้ก่อน เพราะยังยึดสิ่งที่ปรากฎยินดียินร้ายกับมัน

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 07:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
ต้องแยกให้ออกว่าอะไรสังขาร อะไรวิญญาณ วิปัสสนาภาวนาคือการทีวิญญาณไปตั้งที่ใดที่หนึ่งแล้วเกิดตัวรู้ว่า ร้อนหนาวอ่อนแข็งต้องแยกแยะเป็น อะไรโสต อะไรจักษุ จำแนกออกมาแล้วจะรู้ว่าขั้นญาณนั้นเป็นอย่างไร เช่นได้ยินเพราะวิญญาณไปรู้การกระทบ ไม่ใช่สังขารไปคิดว่าเสียงอะไร น่าฟังไม่น่าฟัง



ไหนๆก็ไหนแล้วนะครับ คิกๆๆ วิธีการลงมือทำ หรือวิธีปฏิบัติหรือวิธีภาวนา ของเช่นนั้น กับวิธีของ student ช่วยแก้ปัญหาภาคปฏิบัติอย่างตัวอย่างหัวข้อนี้ไม่ได้หรอกครับ ไม่ทันกิน :b32: เอาหัวเป็นประกันเลยเอ้าา :b1:


แก้ได้ครับ แต่มันต้องไปแก้ความเห็นและความศรัทธาของสตรีผู้ปฎิบัติคนนี้ก่อน เพราะยังยึดสิ่งที่ปรากฎยินดียินร้ายกับมัน



ขณะนั้นเขาก็กำลังตามรู้ดูทันลมเข้าออก (อานาปานสติ) อยู่

แล้วปรากฏสภาวะเช่นนี้

อ้างคำพูด:
เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลย


student ลองบอกวิธีแก้สิครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 07:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
แก้ได้ครับ แต่มันต้องไปแก้ความเห็นและความศรัทธาของสตรีผู้ปฎิบัติคนนี้ก่อน เพราะยังยึดสิ่งที่ปรากฎยินดียินร้ายกับมัน

:b17: :b17:
เยี่ยม....


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 11:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หากจะ นำเอา เรื่องแม่นาง เป็นบทสนทนา จึงต้องสมมติเอาว่า กรัชกายเป็นผู้จะไปแนะนำ

แม่นางคนนี้ ได้เลือกที่จะหากัลยาณมิตรมาช่วยแก้ปัญหา แก้ข้อสงสัย
แม่นางคนนี้ ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ
แต่... นางได้กัลยาณมิตร ถูกคนหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง

ครานี้ มาพิจารณาผู้ที่จะไปอาสาแก้ข้อสงสัย คือ กรัชกาย

ปัญหากลับมาอยู่ที่ กรัชกายเองที่จะต้องแก้ไขปรับปรุง ก่อนที่จะไปแก้ปัญหาให้แม่นางคนนั้น
กรัชกายไม่เข้าใจว่า นางฟุ้งอยู่กับนามรูป กลับนึกว่า แม่นางนั้นทำสมาธิอยู่
จึงให้ความเห็นไป

การให้ความเห็น กรัชกายต้องรู้ที่มาที่ไปของสติปัญญา สติสัมปชัญญะ สมาธิ ให้ถูกต้อง กล่าวคือ
ปัญหานี้ ในความจริงแล้ว สะท้อนให้เห็นปัญหาของ กัลยาณมิตร ผู้นี้มากกว่า ปัญหาของแม่นางคนนี้

ซึ่งคือ กรัชกายเอง ที่เป็นผู้มีปัญหา

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 12:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
ต้องแยกให้ออกว่าอะไรสังขาร อะไรวิญญาณ วิปัสสนาภาวนาคือการทีวิญญาณไปตั้งที่ใดที่หนึ่งแล้วเกิดตัวรู้ว่า ร้อนหนาวอ่อนแข็งต้องแยกแยะเป็น อะไรโสต อะไรจักษุ จำแนกออกมาแล้วจะรู้ว่าขั้นญาณนั้นเป็นอย่างไร เช่นได้ยินเพราะวิญญาณไปรู้การกระทบ ไม่ใช่สังขารไปคิดว่าเสียงอะไร น่าฟังไม่น่าฟัง



ไหนๆก็ไหนแล้วนะครับ คิกๆๆ วิธีการลงมือทำ หรือวิธีปฏิบัติหรือวิธีภาวนา ของเช่นนั้น กับวิธีของ student ช่วยแก้ปัญหาภาคปฏิบัติอย่างตัวอย่างหัวข้อนี้ไม่ได้หรอกครับ ไม่ทันกิน :b32: เอาหัวเป็นประกันเลยเอ้าา :b1:


แก้ได้ครับ แต่มันต้องไปแก้ความเห็นและความศรัทธาของสตรีผู้ปฎิบัติคนนี้ก่อน เพราะยังยึดสิ่งที่ปรากฎยินดียินร้ายกับมัน



ขณะนั้นเขาก็กำลังตามรู้ดูทันลมเข้าออก (อานาปานสติ) อยู่

แล้วปรากฏสภาวะเช่นนี้

อ้างคำพูด:
เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลย


student ลองบอกวิธีแก้สิครับ :b1:


เธอคนนี้ก็บอกอาการกลัวออกมา. นั่นคือปัญหาที่จะต้องแก้ก่อนครับ. เพราะว่าจริตในการนั่งสมาธิไปfocusในเรื่องภาพแสงสีที่ปรากฎ.

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
ต้องแยกให้ออกว่าอะไรสังขาร อะไรวิญญาณ วิปัสสนาภาวนาคือการทีวิญญาณไปตั้งที่ใดที่หนึ่งแล้วเกิดตัวรู้ว่า ร้อนหนาวอ่อนแข็งต้องแยกแยะเป็น อะไรโสต อะไรจักษุ จำแนกออกมาแล้วจะรู้ว่าขั้นญาณนั้นเป็นอย่างไร เช่นได้ยินเพราะวิญญาณไปรู้การกระทบ ไม่ใช่สังขารไปคิดว่าเสียงอะไร น่าฟังไม่น่าฟัง



ไหนๆก็ไหนแล้วนะครับ คิกๆๆ วิธีการลงมือทำ หรือวิธีปฏิบัติหรือวิธีภาวนา ของเช่นนั้น กับวิธีของ student ช่วยแก้ปัญหาภาคปฏิบัติอย่างตัวอย่างหัวข้อนี้ไม่ได้หรอกครับ ไม่ทันกิน :b32: เอาหัวเป็นประกันเลยเอ้าา :b1:


แก้ได้ครับ แต่มันต้องไปแก้ความเห็นและความศรัทธาของสตรีผู้ปฎิบัติคนนี้ก่อน เพราะยังยึดสิ่งที่ปรากฎยินดียินร้ายกับมัน



ขณะนั้นเขาก็กำลังตามรู้ดูทันลมเข้าออก (อานาปานสติ) อยู่

แล้วปรากฏสภาวะเช่นนี้

อ้างคำพูด:
เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลย


student ลองบอกวิธีแก้สิครับ :b1:


เธอคนนี้ก็บอกอาการกลัวออกมา. นั่นคือปัญหาที่จะต้องแก้ก่อนครับ. เพราะว่าจริตในการนั่งสมาธิไปfocusในเรื่องภาพแสงสีที่ปรากฎ.



รู้ล่ะ ภาคปฏิบัติต้องแก้ ถามว่า แก้ยังไง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 13:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
หากจะ นำเอา เรื่องแม่นาง เป็นบทสนทนา จึงต้องสมมติเอาว่า กรัชกายเป็นผู้จะไปแนะนำ

แม่นางคนนี้ ได้เลือกที่จะหากัลยาณมิตรมาช่วยแก้ปัญหา แก้ข้อสงสัย
แม่นางคนนี้ ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ
แต่... นางได้กัลยาณมิตร ถูกคนหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง

ครานี้ มาพิจารณาผู้ที่จะไปอาสาแก้ข้อสงสัย คือ กรัชกาย

ปัญหากลับมาอยู่ที่ กรัชกายเองที่จะต้องแก้ไขปรับปรุง ก่อนที่จะไปแก้ปัญหาให้แม่นางคนนั้น
กรัชกายไม่เข้าใจว่า นางฟุ้งอยู่กับนามรูป กลับนึกว่า แม่นางนั้นทำสมาธิอยู่
จึงให้ความเห็นไป

การให้ความเห็น กรัชกายต้องรู้ที่มาที่ไปของสติปัญญา สติสัมปชัญญะ สมาธิ ให้ถูกต้อง กล่าวคือ
ปัญหานี้ ในความจริงแล้ว สะท้อนให้เห็นปัญหาของ กัลยาณมิตร ผู้นี้มากกว่า ปัญหาของแม่นางคนนี้

ซึ่งคือ กรัชกายเอง ที่เป็นผู้มีปัญหา


อ้างคำพูด:
การให้ความเห็น กรัชกายต้องรู้ที่มาที่ไปของสติปัญญา สติสัมปชัญญะ สมาธิ ให้ถูกต้อง


ท่านเช่นนั้นว่า สติปัญญา เป็นต้น มันมาทางไหน :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 14:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

ท่านเช่นนั้นว่า สติปัญญา เป็นต้น มันมาทางไหน :b1:

สติปัญญา ไม่ได้มาจากทางไหน กรัชกาย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 14:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การบอกถึงที่มาที่ไป ของสติปัญญา
ด้วยเหตุที่ สติปัญญา เกิดขึ้นเองลอยๆ ไม่ได้ โดยไม่มีเหตุไม่มีปัจจัย

สติปัญญา ไม่ได้มาจากทิศตะวันออก ตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ หรือ
ไม่ได้มาจากการยัดตัวสติตัวปัญญา ลงไปให้แก่ผู้ใด

ดังนั้น สติปัญญาจึงไม่ได้มาจากทางไหนๆ แต่ต้องปรากฏแก่จิตเอง ด้วยเหตุปัจจัย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 14:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
การบอกถึงที่มาที่ไป ของสติปัญญา
ด้วยเหตุที่ สติปัญญา เกิดขึ้นเองลอยๆ ไม่ได้ โดยไม่มีเหตุไม่มีปัจจัย

สติปัญญา ไม่ได้มาจากทิศตะวันออก ตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ หรือ
ไม่ได้มาจากการยัดตัวสติตัวปัญญา ลงไปให้แก่ผู้ใด

ดังนั้น สติปัญญาจึงไม่ได้มาจากทางไหนๆ แต่ต้องปรากฏแก่จิตเอง ด้วยเหตุปัจจัย



ว่าไปเลยเถอะงั้น เหตุปัจจัยให้สติปัญญาเกิด ว่าไปให้ครบกระบวนของมันเลย เอาให้หายสงสัยเลยเอ้า :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 14:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อแม่นางนั้น ฟุ้งไปกับรูปนาม
แม่นางนั้น ไม่มีสติไม่มีสมาธิ
แม่นางจึงเกิดความกลัว และข้อกังขา จึงหยุด และเลือกวิธีการอื่นแต่ก็ด้วยความสำคัญผิดไปอีกว่าเป็นการเจริญสมาธิ
เพราะนางขาดปัญญาขาดสติ ขาดสมาธินั่นเอง

เพราะกรัชกายไม่เข้าใจซึ่งธรรมเหล่านี้ จึงแนะนำให้นางตามดูตามรู้นามรูป ต่อไปให้ฟุ้งมากขึ้นๆ

เหตุปัจจัยให้เกิดปัญญาอย่างไร เหตุปัจจัยนั้นเองก็เป็นเหตุปัจจัยแก่สติ ให้ปรากฏแก่จิต

การแนะนำแม่นาง โดยการไม่ยังเหตุปัจจัยเพียงพอให้แม่นางมีสติมีปัญญา จึงไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา

และเพระ กรัชกายเองขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องเหตุปัจจัย จึงเป็นปัญหาของกัลยาณมิตรที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ทุกข์

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 14:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
เมื่อแม่นางนั้น ฟุ้งไปกับรูปนาม
แม่นางนั้น ไม่มีสติไม่มีสมาธิ
แม่นางจึงเกิดความกลัว และข้อกังขา จึงหยุด และเลือกวิธีการอื่นแต่ก็ด้วยความสำคัญผิดไปอีกว่าเป็นการเจริญสมาธิ
เพราะนางขาดปัญญาขาดสติ ขาดสมาธินั่นเอง

เพราะกรัชกายไม่เข้าใจซึ่งธรรมเหล่านี้ จึงแนะนำให้นางตามดูตามรู้นามรูป ต่อไปให้ฟุ้งมากขึ้นๆ

เหตุปัจจัยให้เกิดปัญญาอย่างไร เหตุปัจจัยนั้นเองก็เป็นเหตุปัจจัยแก่สติ ให้ปรากฏแก่จิต

การแนะนำแม่นาง โดยการไม่ยังเหตุปัจจัยเพียงพอให้แม่นางมีสติมีปัญญา จึงไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา

และเพระ กรัชกายเองขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องเหตุปัจจัย จึงเป็นปัญหาของกัลยาณมิตรที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ทุกข์


เช่นนั้น แนะนำหน่อยสิขอรับ ทำยังไงให้สติปัญญาเกิดว่าไป เอาเนื้อๆ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 14:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพราะกรัชกาย ไม่แตกฉานในหลักพระธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จึงเป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้คำแนะนำแก่แม่นางคนนั้นไม่ได้

สิ่งนี้ เรียกว่า ขาดสุตตมยปัญญา

เมื่อสุตตมยปัญญาขาดไปบางอย่าง ถึงแม้ว่ากรัชกายจะเข้าถึงธรรมใดได้ก็ตาม แต่ก็ได้เพียงเฉพาะตน
ไม่อาจแนะนำบุคคลอื่นได้ทั้งหมด

หากจะให้มีสติปัญญาความรู้ที่เพียงพอ
จึงต้องศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้มีปฏิภาณไหวพริบยักเยื้องปรับคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่กรัชกายต้องศึกษาไว้ดีแล้ว

นี่จึงเป็นการเพิ่มพูนสติปัญญาของกรัชกาย

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน
คือการเห็นว่า มนสิการ คือการทำสมาธิเป็นต้น เช่นนี้ เรียกว่า ขาดสุตตมยปัญญา

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 14:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อความรู้ไม่พอ
จึงแนะนำผิด เลื่อนลอย

แม่นางคนนั้น ก็ได้สุตตผิดๆไปจากความจริง
ย่อมไม่เกิดสติปัญญาแก่แม่นางนั้น

การแนะนำผิดๆ จึงก่อให้เกิดความฟุ้งต่อนามรูปมากขึ้น

ไม่ได้เป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่สติปัญญาของแม่นางนั้น

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2014, 14:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น ก็ยกศัพท์สวยๆมา เช่น สติปัญญา สติสัมปชัญญะ ฯลฯ แล้วพร่ำเพ้อไปเรื่อย คิกๆ

กรัชกายก็บอกแล้วว่า ให้เช่นนั้นแนะนำมา เหตุปัจจัยอะไรที่ว่าทำให้สติปัญญาเกิดน่ะ ว่าไป เอ้า :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 288 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 20  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร