วันเวลาปัจจุบัน 01 พ.ย. 2024, 07:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2012, 15:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
แจ่มแจ้งดีแท้ กับเมตตาและกรุณาของท่านพุทธฎีกา ที่คัดสรรธรรมมาแสดงได้ตรงประเด็น
สาธู้.... ๆ...... ๆ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2012, 19:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธฏีกา เขียน:

หากดูแคลนศีล ปล่อยศีล แล้วมีจิตใจชั่วหยาบ พุทธบัญญัติที่สมมติให้รักษา
ให้ศึกษา เพื่อพ้นไปจากกิเลส ถึงเป็นของสมมติที่ผู้รู้ วิญญูชนคนประเสริฐ
ทั้งหลายเขาต่างก็ สมมติกันว่าดีงาม ยังประพฤติผิด ทำผิด ไม่เข้าใจโดยแท้

ป่วยการกล่าวไปถึง คุณธรรมขั้นอื่นๆ ที่อาศัย ศีล เป็นบาทฐานยิ่งๆ ขึ้นไป
บุคคลเหล่านั้นย่อมห่างไกลจากพระสัทธรรม เป็นคนพาลแต่สำคัญตน-
ว่าเป็นบัณฑิต
มาทำความเอื้อเฟื้อใส่ใจ ศีล กันนะครับ เจริญพร ^^


:b8: :b8: :b8:

:b16: :b16: :b16:
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 04:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อ้างคำพูด:

หากดูแคลนศีล ปล่อยศีล แล้วมีจิตใจชั่วหยาบ พุทธบัญญัติที่สมมติให้รักษา
ให้ศึกษา เพื่อพ้นไปจากกิเลส ถึงเป็นของสมมติที่ผู้รู้ วิญญูชนคนประเสริฐ
ทั้งหลายเขาต่างก็ สมมติกันว่าดีงาม ยังประพฤติผิด ทำผิด ไม่เข้าใจโดยแท้

ป่วยการกล่าวไปถึง คุณธรรมขั้นอื่นๆ ที่อาศัย ศีล เป็นบาทฐานยิ่งๆ ขึ้นไป
บุคคลเหล่านั้นย่อมห่างไกลจากพระสัทธรรม เป็นคนพาลแต่สำคัญตน-
ว่าเป็นบัณฑิต
มาทำความเอื้อเฟื้อใส่ใจ ศีล กันนะครับ เจริญพร ^^


:b8: :b8: :b8:

:b16: :b16: :b16:
:b32:

คำสอนของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล "คิดเท่าไรก็ไม่รู้ ต่อเมื่อหยุดคิดจึงรู้"

เชื่อได้ส่วนใหญ่ เข้ามาในนี้เพื่อหาวิธีไปสู่นิพพาน นั้นเป็นจุดหมายหลัก
ดังนั้นผู้ที่จะเป็นครู จะต้องเข้าใจจุดมุ่งหมายที่แท้ของผู้ฟังด้วย จึงจะเป็นครูผู้สอนที่ดี
ศีลเป็นธรรมเบื้องต้นของชาวพุทธ ที่ทุกคนรู้ดีและปฏิบัติกันมาเป็นปกติ
แต่ธรรมของพระพุทธเจ้ามีจุดหมายปลายทางที่ไกลกว่านั้น
ดังนั้นการสอนให้อยู่กับศีลดีครับ แต่การสอนให้ยึดมั่นถือมั่นกับศีลเป็นทุกข์
ต้องเข้าใจว่าศีลคืออะไร
ศีลคือการอยู่อย่างปกติหรือการเข้าไปยึดมั่นถือมั่นกันแน่ ต้องแยกให้ถูก

สอนคนถ้าสอนตามจุดมุ่งหมายของพระพุทธเจ้า
ต้องมีความเข้าใจและมั่นเอาหลักนั้นมาเป็นเหตุเป็นประธาน
ไม่เช่นนั้น มันจะเป็นการสอนให้บุคคลย่ำอยู่กับที่ เดินวนอยู่กับวัฏฏสงสาร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 07:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
:b8: :b8: :b8:


ทางปฏิบัตติอันถูกชอบ

ฉะนั้น สีลัพพตุปาทานดังกล่าวมานี้ ก็มิใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนจะพากันละพากันทิ้งได้ หรือเป็นสิ่งที่เป็นของไม่ดี จำเป็นที่จะต้องแบ่งตามภูมิตามชั้น กล่าวคือถ้าเป็นศีลและวัตรในภายนอกพุทธศาสนา อันเป็นศีลและวัตรที่ผิดต่างๆ นั่นก็เป็นอันว่าผู้นับถือพุทธศาสนา ก็ต้องละต้องเว้นไปโดยลำดับ และมาถึงศีลและวัตรในพุทธศาสนาเอง ก็จะต้องละต้องเว้นเหมือนกัน แต่ว่าก่อนที่จะละจะเว้นก็ต้องสมาทาน คือต้องรับถือปฏิบัติก่อน และจะต้องอาศัยตัณหาเพื่อละตัณหาดังกล่าวมานั้น คือยังจะต้องมีสีลัพพตปรามาส สีลัพพตุปาทาน อยู่ในการปฏิบัติมาโดยลำดับ แต่ว่าก็ยึดและปล่อยไปเป็นขั้นๆ เหมือนอย่างคนเดินขึ้นบันไดซึ่งมีหลายขั้น ก็ต้องขึ้นไปทีละขั้น และขั้นที่กำลังขึ้นอยู่นั้น ก็จะต้องเหยียบอยู่บนบันไดทั้งสองเท้าในขั้นนั้น ดั่งนี้เรียกว่ายังมีสีลัพพตปรามาสสีลัพพตุปาทานอยู่ในขั้นนั้น แต่ว่าที่จะก้าวขึ้นขั้นต่อไปนั้น ก็จะต้องละขั้นที่กำลังยืนอยู่นั้น ก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง คือว่าปล่อยขั้นที่กำลังยืนอยู่ทีแรกนั้น ถ้าหากว่าไม่ปล่อยขั้นที่กำลังยืนอยู่ทีแรกนั้น ยังคงยืนอยู่ในขั้นเดิมนั่นแหละ ก็แปลว่าก้าวขึ้นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องปล่อยขั้นที่ ๑ ก้าวขึ้นไปสู่ขั้นที่ ๒ ก็จะต้องยึดขั้นที่ ๒ ทรงตัวอยู่ในขั้นที่ ๒ แล้วก็ปล่อย เดินขึ้นไปเป็นขั้นๆ ดั่งนี้ จึงจะขึ้นสูงขึ้นไปได้โดยลำดับ จนถึงขั้นสุดท้ายแล้วก็เป็นอันว่าปล่อยได้หมด ดั่งนี้

เพราะฉะนั้น ในทางพุทธศาสนาที่แสดงธรรมะอันละเอียดนี้ จึงไม่ใช่หมายความว่า ข้อที่แสดงนั้นเป็นสิ่งที่มีโทษ ต้องละเสียหมดตั้งแต่เบื้องต้น ถ้าละเสียหมดตั้งแต่เบื้องต้นแล้ว ก็เป็นอันว่าปฏิบัติอะไรไม่ได้ เหมือนอย่างว่ามีบันได ก็เป็นอันว่าขึ้นบันไดกันไม่ได้ เพราะขึ้นบันไดแล้วก็จะต้องเหยียบขึ้นไปทีละขั้น ถ้าสอนว่าอย่าให้เหยียบ เหยียบแล้วไปยึด อย่างนี้ก็เป็นอันว่าไม่ต้องขึ้นบันไดกัน แล้วเป็นอันว่าก้าวขึ้นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น ก็จะต้องยึด จะต้องปล่อย ไปโดยลำดับดั่งนี้ ให้เป็นขั้นๆ ไป นี้กล่าวในข้อที่เป็นข้อที่พึงปฏิบัติ คือเป็นทางปฏิบัติอันถูกชอบ แต่ว่าถ้าเป็นทางปฏิบัติอันไม่ถูกไม่ชอบแล้วก็ต้องปล่อยเสียทีเดียว ไม่ต้องไปทดลองก่อน เช่นว่าเว้นจากการฆ่า มีเมตตากรุณา ก็ไม่ต้องไปทดลองฆ่าเสียก่อนแล้วจึงเว้น ละเสียทีเดียว แต่ในข้อที่พึงปฏิบัตินั้น ก็ให้ปฏิบัติไป แล้วก็ต้องก้าวขึ้นไปเป็นขั้นๆ ดังกล่าวมานี้ ดั่งนี้เป็นอธิบายในสีลัพพตุปาทาน ความยึดถือศีลและวัตร

:b8: สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน ที่ชาวพุทธควรรู้
พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=42529

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 09:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 20:58
โพสต์: 36

แนวปฏิบัติ: ยุบหนอ-พองหนอ
งานอดิเรก: ฟังเพลง
ชื่อเล่น: เด่น
อายุ: 32

 ข้อมูลส่วนตัว


สรุปว่า อาบัติสังฆาทิเสส ถ้าลาสิกขาเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ต้องกังวล เพราะไม่มีผลปิดกั้นสวรรค์หรือมรรคผลแต่อย่างใด สร้างกุศลตามฐานะของตน ก็บรรลุคุณธรรมชั้นสูงได้ แต่ถ้าหวนคืนสู่เพศบรรพชิต ก็จำเป็นที่จะต้องกระทำคืนหรือแก้ไขให้ถูกต้องตามพุทธบัญญัติ :b8: :b8: :b35:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 11:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


denchai เขียน:
สรุปว่า อาบัติสังฆาทิเสส ถ้าลาสิกขาเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ต้องกังวล เพราะไม่มีผลปิดกั้นสวรรค์หรือมรรคผลแต่อย่างใด สร้างกุศลตามฐานะของตน ก็บรรลุคุณธรรมชั้นสูงได้ แต่ถ้าหวนคืนสู่เพศบรรพชิต ก็จำเป็นที่จะต้องกระทำคืนหรือแก้ไขให้ถูกต้องตามพุทธบัญญัติ :b8: :b8: :b35:

อนุโมทนาสาธุ^^

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2015, 13:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 05:25
โพสต์: 621


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss :b8:
ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
กระทู้นี้ประโยชน์มากสำหรับพระบวชใหม่ และผู้ที่คิดจะบวชพระ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 17 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร